เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ลงหลายสื่อ เพราะมันเจอข้อเท็จจริงที่น่ากลัวหลายเรื่อง

สรุปเปเปอร์ กรณีศึกษา ต้นทาง ของหมอ
- เด็กกินแต่ มันฝรั่งทอด ขนมปัง แฮม ไส้กรอก (เรียกว่าสารพัด process food, fast food) และกินอย่างอื่นไม่ได้เลยเพราะไม่ชอบ
- เด็กเริ่มป่วย และมาหาหมอด้วยอาการ "อ่อนล้าผิดปกติ" ตั้งแต่อายุ 14
- หมอตรวจไม่พบการขาดสารอาหาร หรือ ความผิดปกติใดๆเลย นอกจากเลือดจาง และ ขาดวิตามิน B12 จึงเริ่มรักษาด้วย "การแนะนำอาหาร" และ ให้วิตามินเสริม
- อายุ 15 เริ่มไม่ได้ยิน หมอหาสาเหตุไม่ได้
- รักษามาอีก 2 ปี ตาบอดถาวร และมวลกระดูกลดลงเรื่อยๆ และก็ค้นพบว่าการขาดวิตามินอย่าง B12 ไม่ใช่สาเหตุ และการให้วิตามินที่ผ่านมา ไม่ช่วยอะไรเลย

คือนี่ไม่ใช่การขาดสารอาหารเลย แต่ข่าวนี้ลงหลายสื่อ และสื่อในเครือของ ประธานธิปดีเหยียดผิว กับ ลุงเล่นหุ้น (ต้นทางที่สื่อไทยแปลมา) ก็เสนอข่าวไปในแนวว่าเด็กขาดสารอาหาร

แต่สิ่งที่หมอสรุปออกมา มันไม่ใช่การขาดสารอาหาร แต่สารอาหารบางอย่างใน process food สามารถส่งผลเสียกับระบบประสาท และความเสื่อมในระดับเซลล์ได้อย่างร้ายแรงถ้าบริโภคเป็นประจำ โดยยังไม่ต้องตรวจพบเบาหวาน หรือความผิดปกติอื่นๆก่อนด้วยซ้ำ

สิ่งที่เป็นพิษใน funk food ตัวสำคัญ ไม่ใช่แค่โซเดียมหรือสารเคมี แต่คือพวกแป้งขัดขาว น้ำตาลคอร์นไซรัพ ไขมันดัดแปลง พวกนี้เป็นส่วนประกอบหลักในอาหารพวกนี้ และมีผลโดยตรงกับการเสื่อมของระบบเมตาบอลึซึมของคนเรา และเป็นสาเหตุไปสู่โรคร้ายแรงทั้งหลาย ที่หมอมักจะบอกว่า "หาสาเหตุไม่ได้" และมันยังไม่มียารักษาโรคพวกนี้โดยตรง

ที่น่าเป็นห่วงคือในเด็กคนนี้เกิดขึ้นได้เร็วมาก ทุกวันนี้มีการเกิดเบาหวานในคนอายุไม่ถึง 30 และการตายด้วยโรคเรื้อรังในคนไม่ถึง 40 เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหมอไปแล้ว แต่ตาบอดตอนอายุ 18 ด้วยสาเหตุนี้ถือว่าเป็นเรื่องช็อค และเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักกันทั้งโลก (คห. ของหมอและนักวิชาการหลายๆคนในข่าว)

ทุกวันนี้เห็นเด็กหลายๆคนเลย กินแต่ process food โดยไม่รู้ตัว กินอย่างอื่นจะปวดท้อง มวนท้อง แล้วพาลบอกว่าอาหารอย่างอื่นสกปรกกินไม่ได้ ท้องเสีย รู้ไว้เหอะครับนั่นไม่ใช่เพราะอาหารสกปรก แต่ระบบย่อยอาหารของคุณไม่ชินกับอาหาร "จริงๆ" ที่มี "กากใยย่อยช้า" และมีสารอาหารจริงๆ ถ้ายังมีวิถีชีวิตแบบนี้ต่อไป ชะตากรรมเหมือนเด็กในข่าวบวกลบกันไม่กี่ปีหรอก