เพิ่งเห็นข่าวที่ Trump ออกมาประกาศหาคนที่สามารถพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้หาตัวอาชญากรก่อนที่จะก่อเหตุ อย่างที่รู้ว่าอเมริกามักมีการกราดยิงอยู่บ่อยครั้งซึ่งการป้องกันก็เป็นไปได้ยากมาก ก็แอบสงสัยว่าจะทำได้จริงมั้ยนะ
ทำให้นึกถึงซีรี่ย์ "โลกโซเชี่ย ล" ตอน "Honesty Day" ขึ้นมา ในซีรี่ย์เล่าถึงการพัฒนา application เพื่อประเมินโอกาสที่คนๆนึงจะเป็นฆาตกร โดยใช้ข้อมูลจาก social media มาวิเคราะห์ ตอนดูก็คิดในใจว่า เอ้อ เจ๋งแหะ แต่ตอนจบทำเอาเราแอบคิดว่าถ้าสมมติเราใช้ app นี้วิเคราะห์คนใกล้ตัว ง่ายๆแบบเห็นภาพเลยก็แม่เราเป็นต้น สมมติมันบอกแม่เรามีโอกาสเป็นฆาตกร 99% ตอนเห็นแม่หยิบมีดเราไม่วิ่งไปแจ้งความแล้วหรอ ตำรวจมาถึงบ้านเจอแม่ยืนหั่นกะหล่ำงี้ มันจะทำให้เราหวาดระแวงไปหมดรึเปล่า กลายเป็นอารมณ์เหมือนคนเมายา คิดไปเองว่าทุกคนจะเข้ามาทำร้ายจนสุดท้ายกลายเป็นคนก่อเหตุซะเอง
ไอเดียเหมือนจะดีแต่เราว่าการใช้ social media เป็นตัวตัดสินมันอาจจะยากไปรึเปล่า เพราะสิ่งที่เราโพสมันอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆทั้งหมดก็ได้ สมมติว่าเกิดหมั่นไส้ใครขึ้นมาแล้วไปบ่นลง Facebook ว่า "เดี๋ยวจะเอาระเบิดไปปาบ้านมัน" เอาแล้ว เห็น FBI โรยตัวมาทางหน้าต่างละ คนจริงเขาไปบ่นเด้อ เอาเวลาบ่นไปบอมบ์ละจ้า เหมือนประโยคที่ว่า "Never mistake my silence for weakness. No one plans a murder out loud." 😏 (ไม่นับบางคนที่บ้องตื้น โพสทุกอย่างจนตำรวจตามไปจับนะจ๊ะ) ยังมีปัญหาเรื่องภาษาอีกนะ ที่บางทีมันทีเล่นทีจริง กำกวม ใช้คำนี้แต่สื่อถึงอย่างอื่น การประชดอะไรแบบนี้ก็ยากที่จะประเมิน
มันมีโอกาสที่คนชอบดูหนังหรือคลิปที่ violent แล้วจะเป็นคนแบบนั้น หรืออาจจะ trigger ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เราก็ชอบดูหนังแนวนี้ไงแต่เดี๋ยววววว ดูเฉยๆ ไม่ได้อยากจะทำ ใจเย็น ไม่ใช่นั่งดู Chucky แล้วเกิดอยากจะจับมีดมาปาดคอใครนี่นา (Snuff film นั่นอีกเรื่องนะ เราว่าอันนี้ใครชอบดูควรระแวง 😦) อย่างที่บอกว่ามันมีเปอร์เซนต์แต่ว่าจำนวนคนที่ชอบแต่ไม่ได้เป็นมันก็เยอะไง ถ้าโดนตัดสินไปแล้วว่าสุ่มเสี่ยงสงสัยเสี่ยงทั้งประเทศอะ
อย่างประเทศจีนที่ตอนนี้เต็มไปด้วย CCTV "Big Brother is watching you" อ๊ะๆ ตาวิเศษเห็นนะ จะทำอะไรก็ระแวงไปหมดแล้วจ้ะแม่ เหมือนตำรวจพร้อมวิ่งเข้าชาร์จตลอดเวลา ล่าสุดเค้าเตรียมจะใช้ระบบเพื่อตรวจจับพฤติกรรมแปลกๆ เช่น คนที่เดินวนไปวนมาอยู่ในที่เดิมๆ อาจจะเตรียมล้วงกระเป๋าหรือกำลังวางแผนอาชญากรรมอยู่ แต่เดี๋ยวก่อน เค้าอาจจะทำของหายแล้ววนหาหรือเดินไปเดินมารอคนอยู่ก็ได้มั้ยอะ 🤔
สุดท้ายเราไม่สามารถเอาผิดใครจากสิ่งที่โพสได้ ถ้าเกิด detect ได้จริงๆว่าใครเข้าข่ายแล้วยังไงต่ออะ เฝ้าระวังหรอ ไม่ไหวมั้ง จำนวนน่าจะเยอะเกินไป ที่สำคัญคือโอกาสที่จะเป็น false positive ก็สูงด้วย บางทีอาจจะพูดประชดหรือโพสขำๆก็ได้ แต่มันออกมาในเชิงประสงค์ร้ายไง ชั้นเปล่านะ!
คิดว่ายังไงกันบ้างคะ มีโอกาสที่เทคโนโลยีนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกัน เราแค่สงสัยว่าถ้าใช้ในเชิง preventive มันจะเฝ้าระวังยากเกินไปไหมเพราะจำนวนที่เข้าข่ายจะต้องเยอะมากๆแน่ 🤔
จะเป็นไปได้มั้ยที่จะใช้ AI ประเมินว่าใครมีโอกาสเป็นอาชญากร
เพิ่งเห็นข่าวที่ Trump ออกมาประกาศหาคนที่สามารถพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้หาตัวอาชญากรก่อนที่จะก่อเหตุ อย่างที่รู้ว่าอเมริกามักมีการกราดยิงอยู่บ่อยครั้งซึ่งการป้องกันก็เป็นไปได้ยากมาก ก็แอบสงสัยว่าจะทำได้จริงมั้ยนะ
ทำให้นึกถึงซีรี่ย์ "โลกโซเชี่ย ล" ตอน "Honesty Day" ขึ้นมา ในซีรี่ย์เล่าถึงการพัฒนา application เพื่อประเมินโอกาสที่คนๆนึงจะเป็นฆาตกร โดยใช้ข้อมูลจาก social media มาวิเคราะห์ ตอนดูก็คิดในใจว่า เอ้อ เจ๋งแหะ แต่ตอนจบทำเอาเราแอบคิดว่าถ้าสมมติเราใช้ app นี้วิเคราะห์คนใกล้ตัว ง่ายๆแบบเห็นภาพเลยก็แม่เราเป็นต้น สมมติมันบอกแม่เรามีโอกาสเป็นฆาตกร 99% ตอนเห็นแม่หยิบมีดเราไม่วิ่งไปแจ้งความแล้วหรอ ตำรวจมาถึงบ้านเจอแม่ยืนหั่นกะหล่ำงี้ มันจะทำให้เราหวาดระแวงไปหมดรึเปล่า กลายเป็นอารมณ์เหมือนคนเมายา คิดไปเองว่าทุกคนจะเข้ามาทำร้ายจนสุดท้ายกลายเป็นคนก่อเหตุซะเอง
ไอเดียเหมือนจะดีแต่เราว่าการใช้ social media เป็นตัวตัดสินมันอาจจะยากไปรึเปล่า เพราะสิ่งที่เราโพสมันอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆทั้งหมดก็ได้ สมมติว่าเกิดหมั่นไส้ใครขึ้นมาแล้วไปบ่นลง Facebook ว่า "เดี๋ยวจะเอาระเบิดไปปาบ้านมัน" เอาแล้ว เห็น FBI โรยตัวมาทางหน้าต่างละ คนจริงเขาไปบ่นเด้อ เอาเวลาบ่นไปบอมบ์ละจ้า เหมือนประโยคที่ว่า "Never mistake my silence for weakness. No one plans a murder out loud." 😏 (ไม่นับบางคนที่บ้องตื้น โพสทุกอย่างจนตำรวจตามไปจับนะจ๊ะ) ยังมีปัญหาเรื่องภาษาอีกนะ ที่บางทีมันทีเล่นทีจริง กำกวม ใช้คำนี้แต่สื่อถึงอย่างอื่น การประชดอะไรแบบนี้ก็ยากที่จะประเมิน
มันมีโอกาสที่คนชอบดูหนังหรือคลิปที่ violent แล้วจะเป็นคนแบบนั้น หรืออาจจะ trigger ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เราก็ชอบดูหนังแนวนี้ไงแต่เดี๋ยววววว ดูเฉยๆ ไม่ได้อยากจะทำ ใจเย็น ไม่ใช่นั่งดู Chucky แล้วเกิดอยากจะจับมีดมาปาดคอใครนี่นา (Snuff film นั่นอีกเรื่องนะ เราว่าอันนี้ใครชอบดูควรระแวง 😦) อย่างที่บอกว่ามันมีเปอร์เซนต์แต่ว่าจำนวนคนที่ชอบแต่ไม่ได้เป็นมันก็เยอะไง ถ้าโดนตัดสินไปแล้วว่าสุ่มเสี่ยงสงสัยเสี่ยงทั้งประเทศอะ
อย่างประเทศจีนที่ตอนนี้เต็มไปด้วย CCTV "Big Brother is watching you" อ๊ะๆ ตาวิเศษเห็นนะ จะทำอะไรก็ระแวงไปหมดแล้วจ้ะแม่ เหมือนตำรวจพร้อมวิ่งเข้าชาร์จตลอดเวลา ล่าสุดเค้าเตรียมจะใช้ระบบเพื่อตรวจจับพฤติกรรมแปลกๆ เช่น คนที่เดินวนไปวนมาอยู่ในที่เดิมๆ อาจจะเตรียมล้วงกระเป๋าหรือกำลังวางแผนอาชญากรรมอยู่ แต่เดี๋ยวก่อน เค้าอาจจะทำของหายแล้ววนหาหรือเดินไปเดินมารอคนอยู่ก็ได้มั้ยอะ 🤔
สุดท้ายเราไม่สามารถเอาผิดใครจากสิ่งที่โพสได้ ถ้าเกิด detect ได้จริงๆว่าใครเข้าข่ายแล้วยังไงต่ออะ เฝ้าระวังหรอ ไม่ไหวมั้ง จำนวนน่าจะเยอะเกินไป ที่สำคัญคือโอกาสที่จะเป็น false positive ก็สูงด้วย บางทีอาจจะพูดประชดหรือโพสขำๆก็ได้ แต่มันออกมาในเชิงประสงค์ร้ายไง ชั้นเปล่านะ!
คิดว่ายังไงกันบ้างคะ มีโอกาสที่เทคโนโลยีนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกัน เราแค่สงสัยว่าถ้าใช้ในเชิง preventive มันจะเฝ้าระวังยากเกินไปไหมเพราะจำนวนที่เข้าข่ายจะต้องเยอะมากๆแน่ 🤔