คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
อยากจะแนะนำจขกทว่าอย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะครับไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดและไม่มีใครทำงานได้โดยไม่ผ่านการเรียนรู้ ท่องไว้ๆ สู้ๆ
สำหรับคำถามที่เราไม่รู้ก็คือไม่รู้ ก็ต้องยอมรับครับแต่ไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะพูดยังไง เราไม่รู้ก็ต้องไปศึกษาหาความรู้ คนที่สอนงานคุณเขากำลังสบประมาทและปรามาสคุณอยู่ ทางที่ดีคุณเก็บเอาคำพูดพวกนั้นเป็นแรงผลักดันตัวเองดีกว่านะถ้าคุณรักที่จะทำงานนี้จริงๆ ยังไงคุณก็ต้องมีความรู้ถึงจะทำงานได้
ผมขอออกความเห็นส่วนตัวถึงคนที่สอนงานคุณว่า เขาอาจจะเก่งจริงๆและเขาคาดหวังว่าคุณต้องเก่งด้วย เพราะที่เขาตั้งคำถามว่าหัวหน้ารับคุณมาได้อย่างไรนั่นหมายความว่าหัวหน้ามองเขาในระดับความสามารถที่เท่ากับคุณอยู่ ซึ่งเขาไม่คิดเช่นนั้นเพราะเขากำลังมองว่าคุณไม่เหมาะกับงาน พยายามพูดให้คุณท้อและคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถที่จะทำงานจนต้องเดินออกไปเอง อย่าลืมว่าคุณทำงานกันเป็นทีมถ้าคนใดคนนึงไร้ความสามารถมันก็จะกระทบกับภาพรวมของทีมด้วย
จริงอยู่คุณเป็นเด็กจบใหม่แต่ใช่ว่าคุณจะรอรับความรู้จากเขาอยู่ฝ่ายเดียว ตัวคุณเองก็ต้องหมั่นศึกษางานด้วยตนเองก่อน โดยลองสังเกตดูว่างานที่จะต้องทำมีอะไรบ้าง หมั่นสังเกตคนที่ทำงานมาก่อนบ่อยๆ หรือดูจาก JD ตำแหน่งคุณและ Career path ในสายงานคุณก็ได้ ที่นี้ถ้าคุณอยากรู้อันงานอันไหนก็ค่อยโฟกัสไปตรงนั้น ถ้าเกิดไม่รู้จริงๆก็ให้ถามคนที่สอนงานคุณ พอเขาบอกเขาสอนแล้วก็ต้องเรียนรู้ให้ได้ให้จดจำให้ไว ยังไงผมก็เชื่อว่าถ้าคุณพอมีพื้นฐานในสายงานคุณอยู่บ้าง คุณก็น่าจะพัฒนาตัวเองได้ในเร็ววันไม่ยาก
ในอนาคตเมื่อคุณมีความรู้ คุณมีประสบการณ์ คุณเก่งขึ้นและถึงเวลาที่ต้องสอนงานเด็กจบใหม่บ้าง ก็อย่าทำเหมือนคนที่กำลังสอนงานคุณอยู่ตอนนี้ การตั้งคำถามควรตั้งเพื่อให้เด็กหาคำตอบไม่ใช่ตั้งเพื่อกลั่นแกล้ง ถ้าตอบไม่ถูกคุณต้องคอยสอนคอยแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้เขา ดุได้เล็กๆในสิ่งที่ควรจะต้องรู้ แต่อย่าด่าจนทำให้เด็กมันหมดกำลังใจ พูดง่ายๆก็คือ "อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าไปทำกับคนอื่น"
หวังว่าคำแนะนำของผมจะพอมีประโยชน์กับคุณบ้าง
มีคนเคยพูดกับผมว่า "ไม่มีใครสามารถลดคุณค่าของเราได้ เว้นแต่ตัวเราจะลดคุณค่าของตัวเราเอง"
อยากจะแนะนำจขกทว่าอย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะครับไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดและไม่มีใครทำงานได้โดยไม่ผ่านการเรียนรู้ ท่องไว้ๆ สู้ๆ
สำหรับคำถามที่เราไม่รู้ก็คือไม่รู้ ก็ต้องยอมรับครับแต่ไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะพูดยังไง เราไม่รู้ก็ต้องไปศึกษาหาความรู้ คนที่สอนงานคุณเขากำลังสบประมาทและปรามาสคุณอยู่ ทางที่ดีคุณเก็บเอาคำพูดพวกนั้นเป็นแรงผลักดันตัวเองดีกว่านะถ้าคุณรักที่จะทำงานนี้จริงๆ ยังไงคุณก็ต้องมีความรู้ถึงจะทำงานได้
ผมขอออกความเห็นส่วนตัวถึงคนที่สอนงานคุณว่า เขาอาจจะเก่งจริงๆและเขาคาดหวังว่าคุณต้องเก่งด้วย เพราะที่เขาตั้งคำถามว่าหัวหน้ารับคุณมาได้อย่างไรนั่นหมายความว่าหัวหน้ามองเขาในระดับความสามารถที่เท่ากับคุณอยู่ ซึ่งเขาไม่คิดเช่นนั้นเพราะเขากำลังมองว่าคุณไม่เหมาะกับงาน พยายามพูดให้คุณท้อและคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถที่จะทำงานจนต้องเดินออกไปเอง อย่าลืมว่าคุณทำงานกันเป็นทีมถ้าคนใดคนนึงไร้ความสามารถมันก็จะกระทบกับภาพรวมของทีมด้วย
จริงอยู่คุณเป็นเด็กจบใหม่แต่ใช่ว่าคุณจะรอรับความรู้จากเขาอยู่ฝ่ายเดียว ตัวคุณเองก็ต้องหมั่นศึกษางานด้วยตนเองก่อน โดยลองสังเกตดูว่างานที่จะต้องทำมีอะไรบ้าง หมั่นสังเกตคนที่ทำงานมาก่อนบ่อยๆ หรือดูจาก JD ตำแหน่งคุณและ Career path ในสายงานคุณก็ได้ ที่นี้ถ้าคุณอยากรู้อันงานอันไหนก็ค่อยโฟกัสไปตรงนั้น ถ้าเกิดไม่รู้จริงๆก็ให้ถามคนที่สอนงานคุณ พอเขาบอกเขาสอนแล้วก็ต้องเรียนรู้ให้ได้ให้จดจำให้ไว ยังไงผมก็เชื่อว่าถ้าคุณพอมีพื้นฐานในสายงานคุณอยู่บ้าง คุณก็น่าจะพัฒนาตัวเองได้ในเร็ววันไม่ยาก
ในอนาคตเมื่อคุณมีความรู้ คุณมีประสบการณ์ คุณเก่งขึ้นและถึงเวลาที่ต้องสอนงานเด็กจบใหม่บ้าง ก็อย่าทำเหมือนคนที่กำลังสอนงานคุณอยู่ตอนนี้ การตั้งคำถามควรตั้งเพื่อให้เด็กหาคำตอบไม่ใช่ตั้งเพื่อกลั่นแกล้ง ถ้าตอบไม่ถูกคุณต้องคอยสอนคอยแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้เขา ดุได้เล็กๆในสิ่งที่ควรจะต้องรู้ แต่อย่าด่าจนทำให้เด็กมันหมดกำลังใจ พูดง่ายๆก็คือ "อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าไปทำกับคนอื่น"
หวังว่าคำแนะนำของผมจะพอมีประโยชน์กับคุณบ้าง
แสดงความคิดเห็น
เป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่มีความสุขกับการทำงานเลย