สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ตอนเริ่มสงครามในปี 1946 นั้น ก๊กมินตั๋งมีกำลังพลมากกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนราวๆ 4 ต่อ 1 ครับ มีอาวุธที่เหนือกว่า ดินแดนในการควบคึมกว้างขวางกว่า และเงินทองสนับสนุนมากกว่า ซ้ำยังมีสหรุฐเป็นกระเป๋าเงินใหญ่และพี่เลี้ยงด้านการทหาร (ก่อนสหรัฐจะหยุดช่วยเหลือในช่วง 2 ปี ก่อนจบสงคราม)
ในด้านกองทหารก๊กมินตั๋งในจีนเหนือมีกำลังพลประมาณ 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เคยเป็นทหารหุ่นให้กองทัพญี่ปุ่นมาก่อน ไม่ก็เป็นขุมกำลังของพวกขุนศึกภูธรเก่าที่กลับมามีอำนาจเมื่อสงครามสิ้นสุด
ส่วนกองทหารที่ดีที่สุดของก๊กมินตั๋งคือ กองทหารจากโรงเรียนหวงผู่ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านการฝึกและอาวุธจากสหรัฐครับ มีไพร่พล 6 แสนคน รวมกับกองทหารตามหัวเมืองต่างๆในภาคใต้ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน
กองทัพที่เป็นหัวหอกในการบุกภาคเหนือ โดยเฉพาะการเข้าตีเยี่ยนอัน เมืองหลวงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ กองทัพของหูจงหนาน ที่ว่ากันว่าเป็นกองทหารที่ดีที่สุดในจีนเหนือ มีไพร่พลราว 2 แสนคน รุกจากเหอหนานเข้าตีส่านซี และสานเป่ยในปี 1946
ทางฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสายเป่ยนั้น วางแผนว่าจะไม่รบกับหูจงหนานตรงๆ แต่จะเดินทัพลากกองทัพของหูจงหนานให้ติดตามไปเรื่อย จนกระจัดกระจายและเหนื่อยล้า จึงเข้าโจมตี
กองทัพของหูจงหนานตีเยี่ยนอันแตกในปี 1947 แต่กองทัพแดงทิ้งเมืองถอยข้ามหวงเหอไปซานซีแล้ว และไปตั้งฐานใหม่ที่ซานซี ผนวกกำลังกับกองทัพทหารบ้านในซานซีแทนครับ
ในปี 1947 นั้น กองทัพก๊กมินตั๋งวางยุทธศาสตร์สำคัญเอาไว้ 4 จุดในจีนเหนือครับ
1. กองทัพของหูจงหนาน บุกรุกไล่กองทัพของประธานเหมาในสานเป่ย เป้าหมายคือยึดเยี่ยนอัน และทำลายแนวป้องกัน ส่าน-กาน-หนิง เพื่อเปิดทางให้กองทัพของเหล่าขุนศึกแซ่หม่าแห่งกานสูรุกเข้ารวมกำลังกันบดขยี้กองทัพแดงใน ส่าน-กาน-หนิง ให้สิ้นซาก
2. ในซานตง มีกองทัพของหวางเหยาอู่ พร้อมไพร่พลราวๆ 2 แสนคน เพื่อคอยควบคุมและสนับสนุนการปราบกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่กระจัดกระจายใน เหอหนานและจื่อลิ ครับ อีกทั้งหากทางจื่อลิ-เหลียวเสิ่น เกิดวิกฤติ ก็อาจจะส่งกองทัพไปช่วยได้
3. ในซานซีเหนือ ซึ่งเป็นเขตที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนหยั่งรากลึกมาตั้งแต่สมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ขุนศึกก๊กมินตั๋งหลายคนพร้อมกองทหารหลายแสน คอยไล่ปราบทหารบ้านของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีหัวหอกหลักคือ กองกำลัง หลิว-เติ้ง (คือหลิวป๋อเฉิง และ เติ้งเสี่ยวผิง)
4. เหลียวเสิ่น เหล่าขุนศึกก๊กมินตั๋งหลายคนนำโดย เว่ยลี่หวง แม่ทัพใหญ่แห่งภาคอีสาน คอยดูแลรักษาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเอาไว้ ด้วยกำลังพล 5 แสนกว่าคน ศัตรูหลักของเว่ยลี่หวงและเหล่าทหารก๊กมินตั๋งคือ กองทัพของหลิวเปียว ที่หยั่งรากลึกในแถบนี้มาแต่สมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น
ในบรรดาจุดยุทธศาสตร์ทั้ง 4 นี้ มีแค่ในซานตงครับที่ก๊กมินตั๋งควบคุมพื้นที่ทั้งในเขตเมืองและชนบท นอกนั้นส่วนใหญ่ก๊กมินตั๋งรักษาได้แต่เขตเมือง ในชนบทนั้นเป็นเขตครอบครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ในด้านกองทหารก๊กมินตั๋งในจีนเหนือมีกำลังพลประมาณ 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เคยเป็นทหารหุ่นให้กองทัพญี่ปุ่นมาก่อน ไม่ก็เป็นขุมกำลังของพวกขุนศึกภูธรเก่าที่กลับมามีอำนาจเมื่อสงครามสิ้นสุด
ส่วนกองทหารที่ดีที่สุดของก๊กมินตั๋งคือ กองทหารจากโรงเรียนหวงผู่ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านการฝึกและอาวุธจากสหรัฐครับ มีไพร่พล 6 แสนคน รวมกับกองทหารตามหัวเมืองต่างๆในภาคใต้ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน
กองทัพที่เป็นหัวหอกในการบุกภาคเหนือ โดยเฉพาะการเข้าตีเยี่ยนอัน เมืองหลวงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ กองทัพของหูจงหนาน ที่ว่ากันว่าเป็นกองทหารที่ดีที่สุดในจีนเหนือ มีไพร่พลราว 2 แสนคน รุกจากเหอหนานเข้าตีส่านซี และสานเป่ยในปี 1946
ทางฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสายเป่ยนั้น วางแผนว่าจะไม่รบกับหูจงหนานตรงๆ แต่จะเดินทัพลากกองทัพของหูจงหนานให้ติดตามไปเรื่อย จนกระจัดกระจายและเหนื่อยล้า จึงเข้าโจมตี
กองทัพของหูจงหนานตีเยี่ยนอันแตกในปี 1947 แต่กองทัพแดงทิ้งเมืองถอยข้ามหวงเหอไปซานซีแล้ว และไปตั้งฐานใหม่ที่ซานซี ผนวกกำลังกับกองทัพทหารบ้านในซานซีแทนครับ
ในปี 1947 นั้น กองทัพก๊กมินตั๋งวางยุทธศาสตร์สำคัญเอาไว้ 4 จุดในจีนเหนือครับ
1. กองทัพของหูจงหนาน บุกรุกไล่กองทัพของประธานเหมาในสานเป่ย เป้าหมายคือยึดเยี่ยนอัน และทำลายแนวป้องกัน ส่าน-กาน-หนิง เพื่อเปิดทางให้กองทัพของเหล่าขุนศึกแซ่หม่าแห่งกานสูรุกเข้ารวมกำลังกันบดขยี้กองทัพแดงใน ส่าน-กาน-หนิง ให้สิ้นซาก
2. ในซานตง มีกองทัพของหวางเหยาอู่ พร้อมไพร่พลราวๆ 2 แสนคน เพื่อคอยควบคุมและสนับสนุนการปราบกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่กระจัดกระจายใน เหอหนานและจื่อลิ ครับ อีกทั้งหากทางจื่อลิ-เหลียวเสิ่น เกิดวิกฤติ ก็อาจจะส่งกองทัพไปช่วยได้
3. ในซานซีเหนือ ซึ่งเป็นเขตที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนหยั่งรากลึกมาตั้งแต่สมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ขุนศึกก๊กมินตั๋งหลายคนพร้อมกองทหารหลายแสน คอยไล่ปราบทหารบ้านของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีหัวหอกหลักคือ กองกำลัง หลิว-เติ้ง (คือหลิวป๋อเฉิง และ เติ้งเสี่ยวผิง)
4. เหลียวเสิ่น เหล่าขุนศึกก๊กมินตั๋งหลายคนนำโดย เว่ยลี่หวง แม่ทัพใหญ่แห่งภาคอีสาน คอยดูแลรักษาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเอาไว้ ด้วยกำลังพล 5 แสนกว่าคน ศัตรูหลักของเว่ยลี่หวงและเหล่าทหารก๊กมินตั๋งคือ กองทัพของหลิวเปียว ที่หยั่งรากลึกในแถบนี้มาแต่สมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น
ในบรรดาจุดยุทธศาสตร์ทั้ง 4 นี้ มีแค่ในซานตงครับที่ก๊กมินตั๋งควบคุมพื้นที่ทั้งในเขตเมืองและชนบท นอกนั้นส่วนใหญ่ก๊กมินตั๋งรักษาได้แต่เขตเมือง ในชนบทนั้นเป็นเขตครอบครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ความคิดเห็นที่ 4
การรบในซานซี
ในซานซี กองทัพหลิว-เติ้ง หยั่งรากมาตั้งแต่สมัยต่อต้านญี่ปุ่นครับ พวกเขามีทหารบ้านและชาวบ้านเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ชำนาญภูมิประเทศและลู่ทางเหนือกว่ากองทัพก๊กมินตั๋งที่ทำได้เพียงยึดครองหัวเมืองสำคัญๆอย่าง ไท่หยวน, ต้าถง ซ่างตั๋ง และชิเจี้ยจวง
กองทัพ หลิว-เติ้ง นั้นใช้วิธีการล้อมปราบเป็นจุดๆ กล่าวคือนำทัพเข้าล้อมตีเมืองสำคัญทีละเมือง พอพวกเยี่ยนสี่ซานยกทัพออกมาปราบก็หลบฉากไป พอเยี่ยนสี่ซานไป กองทัพ หลิว-เติ้ง ก็บุกตีเมืองอีก ด้วยกลยุทธ์นี้ทำให้ หลิว-เติ้ง ตีซ่างตั๋งและทำลายกองทหารก๊กมินตั๋งไปได้ 4 หมื่นคนในสมรภูมิที่ซ่างตั๋งในปี 1945
การยึดซ่างตั๋งได้เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมดินแดนที่เป็นรอยต่อระหว่าง 3 มณฑลคือ เหอหนาน ซานซี และ ส่านซีครับ ทำให้กองทัพหลิว-เติ้ง สามารถบุกไปได้ทั้ง 3 ทิศ เพื่อฉีกแนวรับของก๊กมินตั๋งให้ขาดวิ่นออกจากกัน
พอเสียซ่างตั๋ง เยี่ยนสี่ซานก็เสียการควบคุมซานซีใต้ครับ เขตควบคุมของเขาเลยมีแต่ทางเหนือ และในปี 1947-1948 เมื่อกองทัพแดงจากสานเป่ยรุกข้ามหวงเหอมา เยี่ยนสี่ซานก็ล้มเหลวในการสกัดกั้น และไม่อาจจะช่วยเหลือหูจงหนานในการช่วยกันล้อมปราบกองทัพแดงได้เลย
พอปี 1948 เมื่อเผิงเต๋อไหวตีหูจงหนานและขุนศึกกานสูย่อยยับไปหมดแล้ว กองทัพแดงในซีเป่ยก็ระดมพลกันรุกสู่ซานซีครับ เยี่ยนสี่ซานต่อต้านอย่างไร้ทิศทางได้ไม่กี่เดือน กองทัพแดงก็ยึดไท่หยวนและต้าถงได้ เป็นอันปิดฉากอำนาจของก๊กมินตั๋งในซานซี
ทางด้านกองทัพหลิว-เติ้งนั้น ในปี 1945-46 ก็ได้ส่งกองทหารกองหนึ่งเข้ายึดเขาต้าเป่ยซาน ในหูเป่ย์ ครับ และใช้ที่นี่เป็นฐานในแนวหน้าเพื่อเดินหน้าสู่ยุทธการไหวไห่ในปี 1948
ในซานซี กองทัพหลิว-เติ้ง หยั่งรากมาตั้งแต่สมัยต่อต้านญี่ปุ่นครับ พวกเขามีทหารบ้านและชาวบ้านเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ชำนาญภูมิประเทศและลู่ทางเหนือกว่ากองทัพก๊กมินตั๋งที่ทำได้เพียงยึดครองหัวเมืองสำคัญๆอย่าง ไท่หยวน, ต้าถง ซ่างตั๋ง และชิเจี้ยจวง
กองทัพ หลิว-เติ้ง นั้นใช้วิธีการล้อมปราบเป็นจุดๆ กล่าวคือนำทัพเข้าล้อมตีเมืองสำคัญทีละเมือง พอพวกเยี่ยนสี่ซานยกทัพออกมาปราบก็หลบฉากไป พอเยี่ยนสี่ซานไป กองทัพ หลิว-เติ้ง ก็บุกตีเมืองอีก ด้วยกลยุทธ์นี้ทำให้ หลิว-เติ้ง ตีซ่างตั๋งและทำลายกองทหารก๊กมินตั๋งไปได้ 4 หมื่นคนในสมรภูมิที่ซ่างตั๋งในปี 1945
การยึดซ่างตั๋งได้เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมดินแดนที่เป็นรอยต่อระหว่าง 3 มณฑลคือ เหอหนาน ซานซี และ ส่านซีครับ ทำให้กองทัพหลิว-เติ้ง สามารถบุกไปได้ทั้ง 3 ทิศ เพื่อฉีกแนวรับของก๊กมินตั๋งให้ขาดวิ่นออกจากกัน
พอเสียซ่างตั๋ง เยี่ยนสี่ซานก็เสียการควบคุมซานซีใต้ครับ เขตควบคุมของเขาเลยมีแต่ทางเหนือ และในปี 1947-1948 เมื่อกองทัพแดงจากสานเป่ยรุกข้ามหวงเหอมา เยี่ยนสี่ซานก็ล้มเหลวในการสกัดกั้น และไม่อาจจะช่วยเหลือหูจงหนานในการช่วยกันล้อมปราบกองทัพแดงได้เลย
พอปี 1948 เมื่อเผิงเต๋อไหวตีหูจงหนานและขุนศึกกานสูย่อยยับไปหมดแล้ว กองทัพแดงในซีเป่ยก็ระดมพลกันรุกสู่ซานซีครับ เยี่ยนสี่ซานต่อต้านอย่างไร้ทิศทางได้ไม่กี่เดือน กองทัพแดงก็ยึดไท่หยวนและต้าถงได้ เป็นอันปิดฉากอำนาจของก๊กมินตั๋งในซานซี
ทางด้านกองทัพหลิว-เติ้งนั้น ในปี 1945-46 ก็ได้ส่งกองทหารกองหนึ่งเข้ายึดเขาต้าเป่ยซาน ในหูเป่ย์ ครับ และใช้ที่นี่เป็นฐานในแนวหน้าเพื่อเดินหน้าสู่ยุทธการไหวไห่ในปี 1948
ความคิดเห็นที่ 3
การรบในสานเป่ย
ดังที่เกริ่นไว้ตอนแรกครับ หูจงหนานวางแผนจะบดขยี้เยี่ยนอัน ไล่ต้อนกองทัพแดงไปทางเหนือเพื่อรวมกำลังกับพวกขุนศึกกานสูทำลายทหารแดงให้สิ้นซาก แต่สถานการณ์ไม่เป็นดังคาด เพราะกองทัพแดงทิ้งเยี่ยนอันแบบไม่ได้ต่อต้านอะไรมากนัก และข้ามหวงเหอไปสมทบกับกองกำลังในซานซีเกือบหมด
ด้านหูจงหนานก็ยกทัพข้ามหวงเหอตามไปตี แต่เจอกองทัพของเผิงเต๋อไหวโจมตีตอบโต้ถอยกลับไปสานเป่ย ต่อมาเผิงเต๋อไหวก็ยกทหาร 2 หมื่นคนข้ามหวงเหอกลับมาสานเป่ย และสามารถเข้าทำลาย-ตัดทางลำเลียงเสบียงของทัพหูจงหนานในสานเป่ยได้ ทำให้หูจงหนานเสียหายหนักมากครับ
ปลายปี 1947 หูจงหนานระดมพลผลักดันกองทัพของเผิงเต๋อไหวขึ้นเหนือไปทางมองโกลเลียใน และพยายามเดินทัพติดตามไปเพื่อบดขยี้กองทัพแดงให้สิ้นซาก และทว่ากลับไปติดกับดักของกองทัพแดงที่ซาเจียเตี้ยน ครับ กองทัพของหู 1.5 แสนคน โดนล้อมอยู่ในหุบเขานี้ ด้วยกองทัพแดง 3 หมื่นคน แถมเสบียงโดยตัดขาด สุดท้ายเลยละลายทั้งกองทัพ หูจงหนานหนีกลับลงใต้ไปอย่างสะบักสะบอม แต่กองทัพตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดโดนทำลาย เหตุการณ์นี้เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ 1948 และเริ่มเป็นลางหายนะของก๊กมินตั๋ง
หลังจากทัพซีเป่ยของหูจงหนานพินาศไป เผิงเต๋อไหวก็ควบคุมสานเป่ยและส่านซีได้เกือบหมดครับ เขานำกองทหารแดงไปไล่ปราบพวกขุนศึกแซ่หม่า ในกานสูและหนิงเซี่ยจนราบคาบ ทำลายรากฐานของพวกขุนศึกก๊กมินตั๋งในซีเป่ยจนหมด
ดังที่เกริ่นไว้ตอนแรกครับ หูจงหนานวางแผนจะบดขยี้เยี่ยนอัน ไล่ต้อนกองทัพแดงไปทางเหนือเพื่อรวมกำลังกับพวกขุนศึกกานสูทำลายทหารแดงให้สิ้นซาก แต่สถานการณ์ไม่เป็นดังคาด เพราะกองทัพแดงทิ้งเยี่ยนอันแบบไม่ได้ต่อต้านอะไรมากนัก และข้ามหวงเหอไปสมทบกับกองกำลังในซานซีเกือบหมด
ด้านหูจงหนานก็ยกทัพข้ามหวงเหอตามไปตี แต่เจอกองทัพของเผิงเต๋อไหวโจมตีตอบโต้ถอยกลับไปสานเป่ย ต่อมาเผิงเต๋อไหวก็ยกทหาร 2 หมื่นคนข้ามหวงเหอกลับมาสานเป่ย และสามารถเข้าทำลาย-ตัดทางลำเลียงเสบียงของทัพหูจงหนานในสานเป่ยได้ ทำให้หูจงหนานเสียหายหนักมากครับ
ปลายปี 1947 หูจงหนานระดมพลผลักดันกองทัพของเผิงเต๋อไหวขึ้นเหนือไปทางมองโกลเลียใน และพยายามเดินทัพติดตามไปเพื่อบดขยี้กองทัพแดงให้สิ้นซาก และทว่ากลับไปติดกับดักของกองทัพแดงที่ซาเจียเตี้ยน ครับ กองทัพของหู 1.5 แสนคน โดนล้อมอยู่ในหุบเขานี้ ด้วยกองทัพแดง 3 หมื่นคน แถมเสบียงโดยตัดขาด สุดท้ายเลยละลายทั้งกองทัพ หูจงหนานหนีกลับลงใต้ไปอย่างสะบักสะบอม แต่กองทัพตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดโดนทำลาย เหตุการณ์นี้เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ 1948 และเริ่มเป็นลางหายนะของก๊กมินตั๋ง
หลังจากทัพซีเป่ยของหูจงหนานพินาศไป เผิงเต๋อไหวก็ควบคุมสานเป่ยและส่านซีได้เกือบหมดครับ เขานำกองทหารแดงไปไล่ปราบพวกขุนศึกแซ่หม่า ในกานสูและหนิงเซี่ยจนราบคาบ ทำลายรากฐานของพวกขุนศึกก๊กมินตั๋งในซีเป่ยจนหมด
แสดงความคิดเห็น
ทำไมจีนไต้หวันถึงแพ้จีนคอมมิวนิสต์ครับ / แล้วทำไมจีนคอมฯ ถึงไม่บุกต่อเนื่องไปที่เกาะไต้หวัน
แล้วตอนที่จีน (พรรคก๊กมินตั๋ง) ถอยร่นจนต้องข้ามไปเกาะไต้หวัน ทำไมจีนคอมฯ ถึงไม่บุกต่อเนื่องไปที่เกาะไต้หวันให้ชนะเบ็ดเสร็จไปเลยครับ
ไม่มีประเทศพันธมิตรช่วยจีน (พรรคก๊กมินตั๋ง) รบเลยเหรอครับ (แบบกรณีเกาหลีใต้)
มีคนเคยเล่าให้ผมฟังว่ากองกำลังส่วนหนึ่งของจีน (พรรคก๊กมินตั๋ง) หนีมาไทย (เชียงราย เช่น ดอยแม่เสลียง - ผาตั้ง ภูชี้ฟ้า) อันนี้ข้อมูลถูกต้องใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ