ไม่น่าเชื่อว่าบนโลกของเราใบนี้ ยังมีสิ่งแปลกๆ อีกเยอะแยะมากมาย ที่เรายังไม่เคยเห็น และไม่เคยสัมผัสมาก่อน รวมทั้งความสวยงามแปลกๆ ของธรรมชาติ และเหล่านี้คือทะเลสาปน้ำเค็มที่ดูแปลกตา และสวยงามจากสถานที่ต่างๆ
Panggong Lake ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก
ทะเลสาบแปงกอง Panggong Lake เป็นทะเลสาปน้ำเค็มที่อยู่ในระดับความสูงที่สูงที่สุดในโลก มีระดับความสูงถึง 4500 เมตร จากระดับน้ำทะเล และถูกครอบครองโดย 2 ประเทศ โดยร้อยละ 25 เป็นของประเทศอินเดีย และร้อยละ 75 เป็นดินแดนของประเทศจีน เป็นทะเลสาบ endorheic ที่สวยงามตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยและยาว 134 กิโลเมตรขยายจากอินเดียไปยังประเทศจีน ทะเลสาบ Pangong ตั้งอยู่ที่ความสูง 4350 เมตรและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ความงามและเสน่ห์ของทะเลสาบแห่งนี้ดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและไกลออกไป
แปงกอง ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบหลากสี โดยมีอิทธิพลมาจากลำแสงของดวงอาทิตย์ที่ตกสะท้อนสู่ยอดเขาสูง-ต่ำด้านหลังที่เปรียบเสมือนปราการที่โอบล้อมทะเลสาบไว้ ส่งผลให้สีของน้ำในทะเลสาบล้อเล่นไปกับแสงของดวงตะวัน จากยามเช้าที่บางเบาใสในแบบคริสตัล สู่เขียวเทอร์ควอยซ์ ฟ้า และน้ำเงินเข้มในเวลาเย็นย่ำ ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นทะเลสาบแห่งความสงบ ใสสะอาด และไม่มีที่สิ้นสุด
Cr.
http://www.gotogethertravel.com
Mono Lake ดินแดนแห่งความลับที่ไม่เคยเปิดเผย
Mono Lake คือชื่อเรียกของทะเลสาบน้ำเค็ม ตั้งอยู่ในรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความพิเศษ คือ มีความเข้มข้นของเกลือสูง ความเข้มข้นของเกลือนี้ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวมาอย่างยาวนานอย่างน้อย 760,000 ปี ด้วยระยะเวลาอันยาวนานขนาดนี้ มันจึงสะสมความเค็มมาก จนกลายเป็นแหล่งเจริญพันธ์ของกุ้งน้ำเค็ม และมันจึงส่งผลให้มีนอพยพเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ทางธรณีวิทยาพบว่า เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปในยุคโบราณ เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และเกิดตะกอนเถ้าจำนวนมหาศาล หล่นลงมาทับถมลงไปใต้ทะเลสาบ จึงทำให้ความตื้นเขินขึ้น โดยแต่เติมนั้นอาจมีความลึกถึง 270 เมตร เมื่อย้อนกลับไปที่การระเบิดของ Long Valley ตะกอนซึ่งอยู่ใต้ชั้นขี้เถ้า บอกเป็นนัยว่า Mono Lake อาจเป็นซากของทะเลสาบอันมีขนาดใหญ่กว่าและเก่ากว่า ครั้งหนึ่งเคยปกคลุมส่วนใหญ่ของ Nevada และ Utah เป็นทะเลสาบเก่าแก่สุดในอเมริกาเหนือ โดยแนวชายฝั่งเก่าเรียกว่า Strandlines ซึ่งนักธรณีวิทยาสามารถเห็นได้ทางตะวันตกของทะเลสาบ
Mono Lake เป็นทะเลสาบมีความสวยงาม มีอายุยาวนานกว่า 1 ล้านปี ความสวยงามของมันจัดว่าเป็นเอกลักษณ์มาก โดยประกอบไปด้วยหินหน้ารูปร่างแปลกตามากมาย อันเกิดจากการตกตะกอนทางเคมี จนทำให้ Mono Lake เป็นอีกหนึ่งทะเลสาบ ซึ่งช่างภาพระดับแนวหน้ามากมายนิยมเดินทางมาใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายภาพ
Mono Lake หรือ An Alien Landscape เป็นทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของ รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทะเลสาบแห่งนี้มีความน่ากลัวแฝงอยู่ อันเป็นทะเลสาบที่มีการปนเปื้อนของสารหนูในปริมาณมหาศาล ภายในทะเลสาบมีส่วนเป็นผืนน้ำ สลับกับโขดหินแหลมอันมีรูปร่างแปลกตา ทำให้นักเดินทางหลายคนที่เดินมาพบเห็นต่างตะลึง
Mono Lake เป็นทะเลสาบที่ไม่มีทางออกสู่มหาสมุทร จึงทำให้น้ำในทะเลสาบสะสมความเค็มอยู่มาก ด้วยปริมาณเกลือในทะเลสาบแห่งนี้ จึงก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเหล่ากุ้งจำนวนมากมาย เพราะฉะนั้นในทุกฤดู จึงมีฝูงนกนับพันตัวเดินทางมาหากุ้งเพื่อกินเป็นอาหาร นอกจากนี้ด้วยความสวยงามของธรรมชาติอันผสมผสานกับระบบนิเวศขนาดเล็กๆ นี้เอง จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกจัดให้อยู่ในสถานที่สุดแปลกของโลก
หอคอย Tufa
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Mono Lake คือ เสาหินปูนอันตั้งตระหง่านอยู่เหนือผิวน้ำ หอคอยหินปูนเหล่านี้ประกอบด้วยแร่แคลเซียมคาร์บอเนต เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต เป็นหลัก หินปูนชนิดนี้เรียกว่า Tufa โดยเป็นคำที่ใช้สำหรับหินปูนซึ่งก่อตัวในอุณหภูมิต่ำถึงปานกลาง
Cr.
http://www.nanotechnologyinstitute.org
Salar de Uyuni โบลิเวีย ทะเลเกลือที่ใหญ่ และสวยที่สุดในโลก
ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ห่างจากกรุงลาปาซเมืองหลวงของโบลิเวียประมาณ 185 ไมล์ ประเทศโบลิเวีย (Bolivia) นั้นนับว่าเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ซึ่งแต่เดิมโบลิเวียเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอินคา ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มาก่อน ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ที่ราบเกลือ หรือทะเลเกลือลักษณะแบบนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ด้วยความที่ทะเลเกลือซาลาร์ เดอ อูยูนีนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้เราสามารถมองที่ราบสีขาวโพลนนี้ไปไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมถึงมีทะเลเกลือพื้นที่มหาศาลแบบนี้มาตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเลย จึงมีคนสันนิษฐานไว้ว่าทะเลเกลือแห่งนี้แท้จริงแล้วเป็น ทะเลสาบที่มีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ค่ะ จนเวลาผ่านพ้นไปหลายๆ ปี หลังจากที่สภาพอากาศเริ่มแห้งแล้ง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล สุดท้ายทะเลสาบเลยค่อยๆ เหือดแห้ง จนกลายเป็นทะเลสาบที่มีเกลืออัดแน่นอยู่ประมาณ 10 พันล้านตันเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหลือเค้าของทะเลสาบอยู่เลยเสียทีเดียว เพราะพื้นที่บางส่วนก็ยังมีน้ำเค็มหลงเหลือให้ชมอยู่บ้าง
นอกจากทะเลเกลือที่ดูมหัศจรรย์แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่บรรดานกฟลามิงโก ออกมาโชวต์ตัวอวดขนสวยกันให้เห็นได้อยู่เป็นประจำอีกด้วย
Cr.
https://travel.trueid.net
Don Juan Pond ทะเลสาบน้ำเค็ม ที่เค็มกว่าทะเลเดดซี
เป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กและตื้นมาก ตั้งอยู่ที่ ทิศตะวันออกของ แอนตาร์กติกา ถูกค้นพบเมื่อปี 1961 โดยบังเอิญของ สองนักบินที่มีชื่อว่า ...
Lt Don Roe และ Lt John Hi บินผ่านมาเห็นมันโดยบังเอิญ
ที่แห่งนี้มันมีความแปลก และชวนพิศวง เพราะน้ำที่นี่ มีระดับความเค็มในน้ำสูงที่สุด ถึง 42% เมื่อเทียบกับแหล่งน้ำใดๆ ในโลก มันมีความเค็ม มากกว่า .... ทะเลเดดซี หรือแม้ กระทั่ง ทะเลสาบ Assal (จิบูตี)
เนื่องจากความประหลาด ทางสารเคมี หลากหลายชนิด ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้... ว่ามันคือสารเคมีอะไรกันแน่และที่แปลกกว่านั้น คือ บริเวณนี้
มันแทบจะไม่เคยแข็งตัว ทั้งๆที่บริเวณรอบๆนั้นมีอุณภูมิ ติดลบ เกือบ 30 - 40 ° C กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ของนักวิทยาศาสตร์ ที่หวังว่าจะใช้ Don Juan เป็นแหล่งวิจัยสภาพน้ำเค็มบนดาวอังคาร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความคล้ายคลึงกัน. และแน่นอนว่าไม่น่าจะมีสิ่งมีชิวิตใดอาศัยอยู่ได้
Cr.
http://www.soccersuck.com
Namtso Lake “ทะเลสาบแห่งสวรรค์”
นามูโช่ ในภาษาทิเบตนั้นหมายถึง
“ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์” ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 30 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ ระหว่างมณฑล Damxung และ Bange ห่างจากเมืองลาซาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 200 กม. บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยเกลือ ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,900 ตารางกิโลเมตร
จึงถูกเรียกในอีกชื่อว่า “ทะเลสาบเกลือ”
เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน มีระดับความสูงถึง 4,718 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมี่ความลึกถึง 33 เมตรขึ้นไป น้ำของทะเลสาบที่นี่สะอาดและมีความใสมาก ด้วยความที่อยู่สูง ทำให้น้ำแข็งที่เกิดจากการตกของหิมะ แตกตัวกระจัดกระจาย เกิดเป็นความงามตามธรรมชาติขึ้นมา และยังได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งสวรรค์”
พื้นที่ตรงนี้จะเต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น วัวป่าขนยาว แพะภูเขา กระต่ายป่า และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมไปถึงนกชนิดต่างๆ อีกมากมาย บางวันก็จะมีปลากระโดดขึ้นมาเหนือน้ำให้เห็น หรือได้ยินเสียงเพลงจากคนในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง ทะเลสาบนามูโช่ ถือเป็น 1 ใน 3 ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของทิเบต
Cr.
http://ustibet.org/
Hillier Lake ทะเลสาบน้ำเค็มสีชมพูแสนหวาน
ทะเลสาบสีชมพูนี้มีชื่อเรียกแสนไพเราะว่า
‘ทะเลสาบฮิลเลียร์’ ที่ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะ
Recherche Archipelago ทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย
เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความยาวประมาณ 600 เมตรและกว้างประมาณ 250 เมตร ที่มีเกลือสีขาวๆ ล้อมรอบจนดูเหมือนกับชายหาด อีกทั้งยังมีความป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำที่นี่เป็นสีชมพู เป็นเพราะจุลินทรีย์ที่มีชื่อว่า
Dunaliella Salina ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สามารถกระตุ้นให้เกลือในทะเลสาบสร้างสีย้อมแดงได้เพราะมันจะสร้าง
เบต้าเคโรทีน (สารชนิดเดียวกับที่ทำให้แครอทมีสีส้ม) ขึ้นมา
นอกจากจากนี้ยังมี
Halobacterium ที่มีความสามารถในการทนเกลือได้สูง และผลิตวัตถุสีแดงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับในเรื่องการความปลอดภัยในการสัมผัสกับน้ำ เราอาจจะกังวลว่าสีที่ผิดเพี้ยนของมันจะทำให้ผิวพรรณอันเต่งตึงของเราเป็นอะไรรึเปล่า แต่แม้ว่าจะมีระดับของเกลืออยู่ในระดับที่สูง ทว่าก็ยังเป็นทะเลสาบที่ปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำเล่น
Cr.
https://travel.catdumb.com
Laguna Colorada ทะเลสาบน้ำเค็มสีแดง
“ลากูน่า โคโลราด้า” ทะเลสาบสีแดง เป็นทะเลสาบน้ำเค็มและตื้น ตั้งอยู่ที่ความสูง 14,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ภายในอุทยานแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ใกล้กับพรมแดนของประเทศชิลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Wetlands of International Importance) ภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ หรือ อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (Ramsar Convention) ลงนามในปี 1971
ทะเลสาบแห่งนี้ประกอบด้วยสันดอนบอแรกซ์สีขาวสว่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตัดกับสีแดงของน้ำในทะเลสาบที่เกิดจากตะกอนและสีของสาหร่าย อันเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโกหลายสายพันธุ์ แต่ที่พบมากก็คงจะเป็นสายพันธุ์เจมส์ ฟลามิงโก (James’s Flamingo) รองลงมาก็เป็น แอนเดียน ฟลามิงโก (Andean Flamingo) และ ชิลีน ฟลามิงโก (Chilean Flamingo) ซึ่งพบได้น้อยมากในปัจจุบัน
Cr.
https://kanokwan075.wordpress.com
Spotted Lake ทะเลสาบลายจุด
สปอท เลค (Spotted Lake) ทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโอโซยูซ
(Osoyoos) รัฐบริติชโคลัมเบีย ของประเทศแคนาดา
ชาวเมืองเรียกกันว่าคลีลุก
(Khiluk) ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเมืองท้องถิ่น ที่น่าสนใจ คือ น้ำในทะเลสาบนั้นเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สะสมอยู่อย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น แมกนีเซียมซัลเฟต โซเดียมซัลเฟต แคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ปัจจุบันทะเลสาบอยู่ในความครอบครองของเอกชนรายหนึ่ง
ทะเลสาบสปอท นั้นถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมืองในหุบเขาโอคานาแกน และยังมีความเชื่อว่าโคลนแและน้ำจากทะเลสาบสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ และในทุกๆช่วงฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบจะระเหยไปจนหมด พร้อมกับเผยให้เห็นสีสันที่สวยงามของทะเลสาบเป็นอย่างมาก
Cr.
https://www.all-sara.com
ทะเลสาปน้ำเค็มที่สวยงามและแปลกตา
Panggong Lake ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก
ทะเลสาบแปงกอง Panggong Lake เป็นทะเลสาปน้ำเค็มที่อยู่ในระดับความสูงที่สูงที่สุดในโลก มีระดับความสูงถึง 4500 เมตร จากระดับน้ำทะเล และถูกครอบครองโดย 2 ประเทศ โดยร้อยละ 25 เป็นของประเทศอินเดีย และร้อยละ 75 เป็นดินแดนของประเทศจีน เป็นทะเลสาบ endorheic ที่สวยงามตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยและยาว 134 กิโลเมตรขยายจากอินเดียไปยังประเทศจีน ทะเลสาบ Pangong ตั้งอยู่ที่ความสูง 4350 เมตรและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ความงามและเสน่ห์ของทะเลสาบแห่งนี้ดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและไกลออกไป
แปงกอง ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบหลากสี โดยมีอิทธิพลมาจากลำแสงของดวงอาทิตย์ที่ตกสะท้อนสู่ยอดเขาสูง-ต่ำด้านหลังที่เปรียบเสมือนปราการที่โอบล้อมทะเลสาบไว้ ส่งผลให้สีของน้ำในทะเลสาบล้อเล่นไปกับแสงของดวงตะวัน จากยามเช้าที่บางเบาใสในแบบคริสตัล สู่เขียวเทอร์ควอยซ์ ฟ้า และน้ำเงินเข้มในเวลาเย็นย่ำ ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นทะเลสาบแห่งความสงบ ใสสะอาด และไม่มีที่สิ้นสุด
Cr.http://www.gotogethertravel.com
Mono Lake ดินแดนแห่งความลับที่ไม่เคยเปิดเผย
Mono Lake คือชื่อเรียกของทะเลสาบน้ำเค็ม ตั้งอยู่ในรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความพิเศษ คือ มีความเข้มข้นของเกลือสูง ความเข้มข้นของเกลือนี้ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวมาอย่างยาวนานอย่างน้อย 760,000 ปี ด้วยระยะเวลาอันยาวนานขนาดนี้ มันจึงสะสมความเค็มมาก จนกลายเป็นแหล่งเจริญพันธ์ของกุ้งน้ำเค็ม และมันจึงส่งผลให้มีนอพยพเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ทางธรณีวิทยาพบว่า เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปในยุคโบราณ เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และเกิดตะกอนเถ้าจำนวนมหาศาล หล่นลงมาทับถมลงไปใต้ทะเลสาบ จึงทำให้ความตื้นเขินขึ้น โดยแต่เติมนั้นอาจมีความลึกถึง 270 เมตร เมื่อย้อนกลับไปที่การระเบิดของ Long Valley ตะกอนซึ่งอยู่ใต้ชั้นขี้เถ้า บอกเป็นนัยว่า Mono Lake อาจเป็นซากของทะเลสาบอันมีขนาดใหญ่กว่าและเก่ากว่า ครั้งหนึ่งเคยปกคลุมส่วนใหญ่ของ Nevada และ Utah เป็นทะเลสาบเก่าแก่สุดในอเมริกาเหนือ โดยแนวชายฝั่งเก่าเรียกว่า Strandlines ซึ่งนักธรณีวิทยาสามารถเห็นได้ทางตะวันตกของทะเลสาบ
Mono Lake เป็นทะเลสาบมีความสวยงาม มีอายุยาวนานกว่า 1 ล้านปี ความสวยงามของมันจัดว่าเป็นเอกลักษณ์มาก โดยประกอบไปด้วยหินหน้ารูปร่างแปลกตามากมาย อันเกิดจากการตกตะกอนทางเคมี จนทำให้ Mono Lake เป็นอีกหนึ่งทะเลสาบ ซึ่งช่างภาพระดับแนวหน้ามากมายนิยมเดินทางมาใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายภาพ
Mono Lake หรือ An Alien Landscape เป็นทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของ รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทะเลสาบแห่งนี้มีความน่ากลัวแฝงอยู่ อันเป็นทะเลสาบที่มีการปนเปื้อนของสารหนูในปริมาณมหาศาล ภายในทะเลสาบมีส่วนเป็นผืนน้ำ สลับกับโขดหินแหลมอันมีรูปร่างแปลกตา ทำให้นักเดินทางหลายคนที่เดินมาพบเห็นต่างตะลึง
Mono Lake เป็นทะเลสาบที่ไม่มีทางออกสู่มหาสมุทร จึงทำให้น้ำในทะเลสาบสะสมความเค็มอยู่มาก ด้วยปริมาณเกลือในทะเลสาบแห่งนี้ จึงก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเหล่ากุ้งจำนวนมากมาย เพราะฉะนั้นในทุกฤดู จึงมีฝูงนกนับพันตัวเดินทางมาหากุ้งเพื่อกินเป็นอาหาร นอกจากนี้ด้วยความสวยงามของธรรมชาติอันผสมผสานกับระบบนิเวศขนาดเล็กๆ นี้เอง จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกจัดให้อยู่ในสถานที่สุดแปลกของโลก
หอคอย Tufa
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Mono Lake คือ เสาหินปูนอันตั้งตระหง่านอยู่เหนือผิวน้ำ หอคอยหินปูนเหล่านี้ประกอบด้วยแร่แคลเซียมคาร์บอเนต เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต เป็นหลัก หินปูนชนิดนี้เรียกว่า Tufa โดยเป็นคำที่ใช้สำหรับหินปูนซึ่งก่อตัวในอุณหภูมิต่ำถึงปานกลาง
Cr.http://www.nanotechnologyinstitute.org
Salar de Uyuni โบลิเวีย ทะเลเกลือที่ใหญ่ และสวยที่สุดในโลก
ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ห่างจากกรุงลาปาซเมืองหลวงของโบลิเวียประมาณ 185 ไมล์ ประเทศโบลิเวีย (Bolivia) นั้นนับว่าเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ซึ่งแต่เดิมโบลิเวียเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอินคา ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มาก่อน ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ที่ราบเกลือ หรือทะเลเกลือลักษณะแบบนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ด้วยความที่ทะเลเกลือซาลาร์ เดอ อูยูนีนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้เราสามารถมองที่ราบสีขาวโพลนนี้ไปไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมถึงมีทะเลเกลือพื้นที่มหาศาลแบบนี้มาตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเลย จึงมีคนสันนิษฐานไว้ว่าทะเลเกลือแห่งนี้แท้จริงแล้วเป็น ทะเลสาบที่มีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ค่ะ จนเวลาผ่านพ้นไปหลายๆ ปี หลังจากที่สภาพอากาศเริ่มแห้งแล้ง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล สุดท้ายทะเลสาบเลยค่อยๆ เหือดแห้ง จนกลายเป็นทะเลสาบที่มีเกลืออัดแน่นอยู่ประมาณ 10 พันล้านตันเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหลือเค้าของทะเลสาบอยู่เลยเสียทีเดียว เพราะพื้นที่บางส่วนก็ยังมีน้ำเค็มหลงเหลือให้ชมอยู่บ้าง
นอกจากทะเลเกลือที่ดูมหัศจรรย์แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่บรรดานกฟลามิงโก ออกมาโชวต์ตัวอวดขนสวยกันให้เห็นได้อยู่เป็นประจำอีกด้วย
Cr.https://travel.trueid.net
Don Juan Pond ทะเลสาบน้ำเค็ม ที่เค็มกว่าทะเลเดดซี
เป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กและตื้นมาก ตั้งอยู่ที่ ทิศตะวันออกของ แอนตาร์กติกา ถูกค้นพบเมื่อปี 1961 โดยบังเอิญของ สองนักบินที่มีชื่อว่า ...
Lt Don Roe และ Lt John Hi บินผ่านมาเห็นมันโดยบังเอิญ
ที่แห่งนี้มันมีความแปลก และชวนพิศวง เพราะน้ำที่นี่ มีระดับความเค็มในน้ำสูงที่สุด ถึง 42% เมื่อเทียบกับแหล่งน้ำใดๆ ในโลก มันมีความเค็ม มากกว่า .... ทะเลเดดซี หรือแม้ กระทั่ง ทะเลสาบ Assal (จิบูตี)
เนื่องจากความประหลาด ทางสารเคมี หลากหลายชนิด ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้... ว่ามันคือสารเคมีอะไรกันแน่และที่แปลกกว่านั้น คือ บริเวณนี้
มันแทบจะไม่เคยแข็งตัว ทั้งๆที่บริเวณรอบๆนั้นมีอุณภูมิ ติดลบ เกือบ 30 - 40 ° C กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ของนักวิทยาศาสตร์ ที่หวังว่าจะใช้ Don Juan เป็นแหล่งวิจัยสภาพน้ำเค็มบนดาวอังคาร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความคล้ายคลึงกัน. และแน่นอนว่าไม่น่าจะมีสิ่งมีชิวิตใดอาศัยอยู่ได้
Cr.http://www.soccersuck.com
Namtso Lake “ทะเลสาบแห่งสวรรค์”
นามูโช่ ในภาษาทิเบตนั้นหมายถึง “ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์” ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 30 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ ระหว่างมณฑล Damxung และ Bange ห่างจากเมืองลาซาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 200 กม. บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยเกลือ ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,900 ตารางกิโลเมตร
จึงถูกเรียกในอีกชื่อว่า “ทะเลสาบเกลือ”
เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน มีระดับความสูงถึง 4,718 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมี่ความลึกถึง 33 เมตรขึ้นไป น้ำของทะเลสาบที่นี่สะอาดและมีความใสมาก ด้วยความที่อยู่สูง ทำให้น้ำแข็งที่เกิดจากการตกของหิมะ แตกตัวกระจัดกระจาย เกิดเป็นความงามตามธรรมชาติขึ้นมา และยังได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งสวรรค์”
พื้นที่ตรงนี้จะเต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น วัวป่าขนยาว แพะภูเขา กระต่ายป่า และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมไปถึงนกชนิดต่างๆ อีกมากมาย บางวันก็จะมีปลากระโดดขึ้นมาเหนือน้ำให้เห็น หรือได้ยินเสียงเพลงจากคนในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง ทะเลสาบนามูโช่ ถือเป็น 1 ใน 3 ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของทิเบต
Cr.http://ustibet.org/
Hillier Lake ทะเลสาบน้ำเค็มสีชมพูแสนหวาน
ทะเลสาบสีชมพูนี้มีชื่อเรียกแสนไพเราะว่า ‘ทะเลสาบฮิลเลียร์’ ที่ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะ Recherche Archipelago ทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย
เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความยาวประมาณ 600 เมตรและกว้างประมาณ 250 เมตร ที่มีเกลือสีขาวๆ ล้อมรอบจนดูเหมือนกับชายหาด อีกทั้งยังมีความป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำที่นี่เป็นสีชมพู เป็นเพราะจุลินทรีย์ที่มีชื่อว่า Dunaliella Salina ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สามารถกระตุ้นให้เกลือในทะเลสาบสร้างสีย้อมแดงได้เพราะมันจะสร้างเบต้าเคโรทีน (สารชนิดเดียวกับที่ทำให้แครอทมีสีส้ม) ขึ้นมา
นอกจากจากนี้ยังมี Halobacterium ที่มีความสามารถในการทนเกลือได้สูง และผลิตวัตถุสีแดงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับในเรื่องการความปลอดภัยในการสัมผัสกับน้ำ เราอาจจะกังวลว่าสีที่ผิดเพี้ยนของมันจะทำให้ผิวพรรณอันเต่งตึงของเราเป็นอะไรรึเปล่า แต่แม้ว่าจะมีระดับของเกลืออยู่ในระดับที่สูง ทว่าก็ยังเป็นทะเลสาบที่ปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำเล่น
Cr.https://travel.catdumb.com
Laguna Colorada ทะเลสาบน้ำเค็มสีแดง
“ลากูน่า โคโลราด้า” ทะเลสาบสีแดง เป็นทะเลสาบน้ำเค็มและตื้น ตั้งอยู่ที่ความสูง 14,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ภายในอุทยานแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ใกล้กับพรมแดนของประเทศชิลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Wetlands of International Importance) ภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ หรือ อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (Ramsar Convention) ลงนามในปี 1971
ทะเลสาบแห่งนี้ประกอบด้วยสันดอนบอแรกซ์สีขาวสว่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตัดกับสีแดงของน้ำในทะเลสาบที่เกิดจากตะกอนและสีของสาหร่าย อันเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโกหลายสายพันธุ์ แต่ที่พบมากก็คงจะเป็นสายพันธุ์เจมส์ ฟลามิงโก (James’s Flamingo) รองลงมาก็เป็น แอนเดียน ฟลามิงโก (Andean Flamingo) และ ชิลีน ฟลามิงโก (Chilean Flamingo) ซึ่งพบได้น้อยมากในปัจจุบัน
Cr.https://kanokwan075.wordpress.com
Spotted Lake ทะเลสาบลายจุด
สปอท เลค (Spotted Lake) ทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโอโซยูซ (Osoyoos) รัฐบริติชโคลัมเบีย ของประเทศแคนาดา
ชาวเมืองเรียกกันว่าคลีลุก (Khiluk) ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเมืองท้องถิ่น ที่น่าสนใจ คือ น้ำในทะเลสาบนั้นเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สะสมอยู่อย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น แมกนีเซียมซัลเฟต โซเดียมซัลเฟต แคลเซียม และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ปัจจุบันทะเลสาบอยู่ในความครอบครองของเอกชนรายหนึ่ง
ทะเลสาบสปอท นั้นถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมืองในหุบเขาโอคานาแกน และยังมีความเชื่อว่าโคลนแและน้ำจากทะเลสาบสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ และในทุกๆช่วงฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบจะระเหยไปจนหมด พร้อมกับเผยให้เห็นสีสันที่สวยงามของทะเลสาบเป็นอย่างมาก
Cr.https://www.all-sara.com