หลังจากตอนที่แล้วเป็นการแบ่งปันข้อดีของ Note 10 Plus ไปแล้ว ในตอนนี้จะเป็นการแชร์ข้อเสีย สำหรับคนที่กำลังสนใจจะซื้อมือถือเรือธงค่ายเกาหลีใต้ว่า ด้วยราคาค่าตัวขนาดนี้ พอใช้งานไปสักพักแล้ว ยังคุ้มค่า คุ้มราคา ค่าตัวอยู่มั้ย เครื่องที่นำมารีวิว เป็นเครื่องที่ซื้อเอง เพื่อเอามาใช้งานเอง ไม่ใช่เครื่องรีวิวนะครับ ข้อเสียนี้เป็นการสะท้อนความรู้สึกของผมในการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ
ดูเป็นวิดิโอตรงนี้ครับ
โดยผมมองว่า 12 ข้อเสียของ Note 10 + มีดังนี้ครับ (ผมรีวิว 13 ข้อดีไว้ที่นี่นะครับ ลองอ่านดูได้ครับ จะได้ครบทุกมิติ เดี๋ยวหาว่าเป็นชาวแซะ ฮ่า
https://ppantip.com/topic/39186971)
1. S-Pen น่าจะมาพร้อมการปรับให้ใช้ได้กับทุก App โดยเราเป็นคนกำหนดได้ว่า ให้แต่ละปุ่มทำงานในฟังชั่นอะไร หรือการเคลื่อนไหวในแต่ละแบบสามารถ เข้าไปเปิด ปิด ฟังชั่นอะไรได้บ้าง เพราะว่าอันที่จริงแล้ว S-Pen นี่เป็นฟีเจอร์ที่มีศักยภาพมากครับ แต่เหมือนซัมซุงยังไม่ยอมให้ใช่มันอย่างเต็มที่ ไม่แน่ว่าอาจจะเพราะว่ากั๊กไว้สำหรับรุ่นต่อไป หรือเราอาจจะโชคดีได้ความสามารถในการ Customization ในการอับเดทในอนาคตก็ได้ครับ
2. ตำแหน่งของกล้องหน้าไม่สัมพันธ์กับการแคสเกมในแนวนอน ทำให้นิ้วไปบังกล้องหน้าบ่อย ๆ เช่นเดียวกับในบางครั้ง หน้าเราก็หายออกไปจากจอ เพราะว่าถ้าจะให้หน้าเราไปโผล่ในกล้องหน้าเพื่อทำการแคสเกมเหมือนมีคนนั่งมองเราในระดับสายตา เราต้องถือมือถือเล่นเกมในลักษณะที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก ผมจึงมองว่า การแคสเกมด้วย Note 10+ ในโหมดแนวนอนแบบเห็นหน้าอาจจะไม่ได้คุณภาพที่ดีเท่าไหร่
3. ตำแหน่งไมโครโฟนไม่สัมพันธ์กับการเล่นและแคสเกม เช่นเดียวกับตำแหน่งกล่อง เมื่อเราถือมือ ไว้ในมือเพื่อเล่นเกม เวลาส่วนใหญ่ เราจะเอานิ้วของเราไปปิดไมโครโฟน ทำให้หากคุณอัดวิดิโอ หรือคุยกับเพื่อน เสียงที่ได้มันจะมีความเดี๋ยวดังเดี๋ยวค่อยไม่สม่ำเสมอ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริง ถ้าคุณเป็นอยากเป็น Youtuber สามเกมมือถือแล้วคิดว่าจะ Note 10 เพื่อมาแคสเกม เป็นอุปกรณ์เริ่มต้น อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีนัก
4. 3D Scanner เป็นเพียงลูกเล่น สำหรับถ่ายสนุกๆ และส่งให้เพื่อนดู แต่ไม่สามารถใช้สำหรับการทำงาน 3D Visualization ได้ ไฟล์ที่สามารถเซฟได้ มาในรูปแบบของไฟล์ GIF และคุณภาพของการสแกนที่ได้ ไม่ได้เที่ยงตรงนัก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการทำงานแบบมืออาชีพได้ ซึ่งน่าเสียดาย ที่อุตส่าห์มีฟีเจอร์นี้มาให้ และใช้การโปรโมทตอนเปิดตัว
5. AR Doodle ใช้งานจริงจังไม่ได้ เส้นในการวาดภาพลงไปในพื้นที่เสมือนสามมิติในกล้องถ่ายภาพมีความ Delay สูง และสามารถเขียนได้เพียงลายเส้นง่ายๆ เนื่องมาจากข้อจำกัดในเชิงฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่อง ทำให้คนที่ทำงานในสายงานออกแบบที่คิดจะใช้ Note 10 + เป็นเครื่องมือในการช่วย Sketch แบบ Interior Design เร็วๆ เช่น ถ่ายภาพห้องแล้วเขียนไอเดียแบบเร็วๆ ลงในไปวิดิโอ หรือ ออกแบบบ้าน โดยการถ่ายวิดิโอที่ดินแล้วเขียนเส้นซ้อนลงไปเพื่อให้พอนึกออกว่าตึกจะหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไม่ได้ (แต่ชื่อมันก็บอกว่า Doodle อะนะ) เช่นเดียวกันเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก และถ้าทำได้จริงจังกว่านี้จะเพิ่มมูลค่าให้ Smartphone เครื่องนี้อีกมาก
6. ถ้าปรับกราฟฟิคเกมสุด เครื่องร้อนเร็วมาก
7. ถ้าแคสเกมไปด้วย เปิดกล้อง อัดเสียง และเล่นเกมไปพร้อมกัน เครื่องยิ่งร้อน !
8. ถ้าเครื่องร้อนมาก ๆ จะมีเสียงกรอบแกรบในวิดิโอที่ทำการบันทึก ทำให้ลดคุณภาพของงานที่ทำ อาการเสียงกรอบแกรบนี่ไม่ได้มีเฉพาะตอนเล่นเกม ตอนถ่าย Screen Recording กับ Powerpoint หรือดูวิดิโอก็เป็นบ้าง ซึ่งน่าคิดว่า มือถือค่าตัวเพียงพอที่จะถอย Gaming Notebook เริ่มต้นได้ ทำไมถึงมีปัญหาเรื่อง Performance
9. กล้องหลังที่นูนออกมาเป็นตัวเก็บฝุ่นชั้นดี ถ้าใครไม่ใส่เคส จุดที่ทุกรอยเปื้อนและฝุ่นจะไปรวมตัวกันมากที่สุดคือรอบ ๆ กล้องหลัง ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตง่ายเพราะมันนูนออกมาจากฝาหลังที่เรียบ ๆ
10. Built-In App ตัดต่อวิดิโอที่ให้มา ขาดฟีเจอร์ที่ครบครันเพียงพอในการทำวิดิโอแบบจริงจัง จริง ๆ App ตัดต่อของ Note 10 ครอบคลุมการใช้งานประมาณหนึ่งสำหรับถ่ายวิดิโอแล้วส่งให้เพื่อน หรือส่งดูในสำนักงาน แต่หากเป็นคอนเทนครีเอเตอร์อาจจะต้องการฟีเจอร์ที่มากกว่านี้อีกนิด ซึ่งน่าเสียดาย เพราะว่าที่พัฒนามาก็มีความดีประมาณหนึ่งอยู่แล้ว (อยากใช้ และไม่อยากเสียเงินไปซื้อ App อื่น)
11. ไมค์กล้องหลังดูดเสียงได้ไม่ดีมากเมื่อเทียบกับกล้องหน้า ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาให้คนที่อยากซื้อ Note 10 เพื่อไปถ่ายการสัมภาษณ์ หรือถ่ายพิธีกร เพราะว่าต้องหาไมค์นอกมาติด ซึ่งก็จะผูกไปว่าต้องหา Adaptor ที่แปลงจาก USB-C ไปเป็น 3.5 mm หรือหาไมค์นอกที่เป็น USB-C แต่ก็จะใช้กับมือถือเครื่องอื่นไม่ได้ ทำให้เสียดายว่าไม่สามารถจบในเครื่องเดียวโดยที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมได้
12. แพง ! นี่เป็นมือถือแพงที่สุดเท่าที่ผมเคยซื้อมา ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันต้องแพงขนาดนี้ (ฮ่า) ราคามันก้าวกระโดดจากรุ่นเก่ามาอย่างมาก ก็ทำให้ตอนซื้อก็ต้องคิดนานหน่อยว่า ซื้อมาใช้แล้วจะคุ้มมั้ย เพราะด้วยราคาเดียวกันสามารถซื้อของได้หลายอย่างที่อาจจะเฉพาะทางมากกว่าเช่น ซื้อ Tablet พร้อมมือถือ หรือซื้อ Notebook พร้อมมือถือได้เลย หรือแม้แต่การพิจารณาซื้อรุ่นเก่า ทั้ง 8 และ 9 ที่ยังใช้งานได้ดีมากในปัจจุบันก็สามารถประหยัดเงินไปได้โข
อาจจะดูว่าเป็นข้อเสียที่มีหลายข้อ แต่หลังจากใช้งานมา ทำความคุ้นเคย เปลี่ยนจาก Note 8 มาเป็นรุ่นนี้ ผมยังมองว่า ข้อดีในแง่ที่ว่า เป็นสมุดบันทึกดิจิตอลที่รวมฟีเจอร์ที่หลายแง่มุมของชีวิตในแนวเครื่องเดียวจบไม่ต้องพกเยอะ เบาสบาย ก็ยังเหนือกว่าข้อเสียเล็กน้อยเหล่านี้ แล้วคุณๆ ละครับ คิดยังไงเกี่ยวกับ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้บ้าง ?
ติดตามผมที่ Playinone
https://www.playinone.com/members/maewnoon/
ติดตามผมที่เพจครับ
https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
12 ข้อเสีย Galaxy Note 10 Plus
ดูเป็นวิดิโอตรงนี้ครับ
โดยผมมองว่า 12 ข้อเสียของ Note 10 + มีดังนี้ครับ (ผมรีวิว 13 ข้อดีไว้ที่นี่นะครับ ลองอ่านดูได้ครับ จะได้ครบทุกมิติ เดี๋ยวหาว่าเป็นชาวแซะ ฮ่า https://ppantip.com/topic/39186971)
1. S-Pen น่าจะมาพร้อมการปรับให้ใช้ได้กับทุก App โดยเราเป็นคนกำหนดได้ว่า ให้แต่ละปุ่มทำงานในฟังชั่นอะไร หรือการเคลื่อนไหวในแต่ละแบบสามารถ เข้าไปเปิด ปิด ฟังชั่นอะไรได้บ้าง เพราะว่าอันที่จริงแล้ว S-Pen นี่เป็นฟีเจอร์ที่มีศักยภาพมากครับ แต่เหมือนซัมซุงยังไม่ยอมให้ใช่มันอย่างเต็มที่ ไม่แน่ว่าอาจจะเพราะว่ากั๊กไว้สำหรับรุ่นต่อไป หรือเราอาจจะโชคดีได้ความสามารถในการ Customization ในการอับเดทในอนาคตก็ได้ครับ
2. ตำแหน่งของกล้องหน้าไม่สัมพันธ์กับการแคสเกมในแนวนอน ทำให้นิ้วไปบังกล้องหน้าบ่อย ๆ เช่นเดียวกับในบางครั้ง หน้าเราก็หายออกไปจากจอ เพราะว่าถ้าจะให้หน้าเราไปโผล่ในกล้องหน้าเพื่อทำการแคสเกมเหมือนมีคนนั่งมองเราในระดับสายตา เราต้องถือมือถือเล่นเกมในลักษณะที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก ผมจึงมองว่า การแคสเกมด้วย Note 10+ ในโหมดแนวนอนแบบเห็นหน้าอาจจะไม่ได้คุณภาพที่ดีเท่าไหร่
3. ตำแหน่งไมโครโฟนไม่สัมพันธ์กับการเล่นและแคสเกม เช่นเดียวกับตำแหน่งกล่อง เมื่อเราถือมือ ไว้ในมือเพื่อเล่นเกม เวลาส่วนใหญ่ เราจะเอานิ้วของเราไปปิดไมโครโฟน ทำให้หากคุณอัดวิดิโอ หรือคุยกับเพื่อน เสียงที่ได้มันจะมีความเดี๋ยวดังเดี๋ยวค่อยไม่สม่ำเสมอ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริง ถ้าคุณเป็นอยากเป็น Youtuber สามเกมมือถือแล้วคิดว่าจะ Note 10 เพื่อมาแคสเกม เป็นอุปกรณ์เริ่มต้น อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีนัก
4. 3D Scanner เป็นเพียงลูกเล่น สำหรับถ่ายสนุกๆ และส่งให้เพื่อนดู แต่ไม่สามารถใช้สำหรับการทำงาน 3D Visualization ได้ ไฟล์ที่สามารถเซฟได้ มาในรูปแบบของไฟล์ GIF และคุณภาพของการสแกนที่ได้ ไม่ได้เที่ยงตรงนัก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการทำงานแบบมืออาชีพได้ ซึ่งน่าเสียดาย ที่อุตส่าห์มีฟีเจอร์นี้มาให้ และใช้การโปรโมทตอนเปิดตัว
5. AR Doodle ใช้งานจริงจังไม่ได้ เส้นในการวาดภาพลงไปในพื้นที่เสมือนสามมิติในกล้องถ่ายภาพมีความ Delay สูง และสามารถเขียนได้เพียงลายเส้นง่ายๆ เนื่องมาจากข้อจำกัดในเชิงฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่อง ทำให้คนที่ทำงานในสายงานออกแบบที่คิดจะใช้ Note 10 + เป็นเครื่องมือในการช่วย Sketch แบบ Interior Design เร็วๆ เช่น ถ่ายภาพห้องแล้วเขียนไอเดียแบบเร็วๆ ลงในไปวิดิโอ หรือ ออกแบบบ้าน โดยการถ่ายวิดิโอที่ดินแล้วเขียนเส้นซ้อนลงไปเพื่อให้พอนึกออกว่าตึกจะหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไม่ได้ (แต่ชื่อมันก็บอกว่า Doodle อะนะ) เช่นเดียวกันเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก และถ้าทำได้จริงจังกว่านี้จะเพิ่มมูลค่าให้ Smartphone เครื่องนี้อีกมาก
6. ถ้าปรับกราฟฟิคเกมสุด เครื่องร้อนเร็วมาก
7. ถ้าแคสเกมไปด้วย เปิดกล้อง อัดเสียง และเล่นเกมไปพร้อมกัน เครื่องยิ่งร้อน !
8. ถ้าเครื่องร้อนมาก ๆ จะมีเสียงกรอบแกรบในวิดิโอที่ทำการบันทึก ทำให้ลดคุณภาพของงานที่ทำ อาการเสียงกรอบแกรบนี่ไม่ได้มีเฉพาะตอนเล่นเกม ตอนถ่าย Screen Recording กับ Powerpoint หรือดูวิดิโอก็เป็นบ้าง ซึ่งน่าคิดว่า มือถือค่าตัวเพียงพอที่จะถอย Gaming Notebook เริ่มต้นได้ ทำไมถึงมีปัญหาเรื่อง Performance
9. กล้องหลังที่นูนออกมาเป็นตัวเก็บฝุ่นชั้นดี ถ้าใครไม่ใส่เคส จุดที่ทุกรอยเปื้อนและฝุ่นจะไปรวมตัวกันมากที่สุดคือรอบ ๆ กล้องหลัง ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตง่ายเพราะมันนูนออกมาจากฝาหลังที่เรียบ ๆ
10. Built-In App ตัดต่อวิดิโอที่ให้มา ขาดฟีเจอร์ที่ครบครันเพียงพอในการทำวิดิโอแบบจริงจัง จริง ๆ App ตัดต่อของ Note 10 ครอบคลุมการใช้งานประมาณหนึ่งสำหรับถ่ายวิดิโอแล้วส่งให้เพื่อน หรือส่งดูในสำนักงาน แต่หากเป็นคอนเทนครีเอเตอร์อาจจะต้องการฟีเจอร์ที่มากกว่านี้อีกนิด ซึ่งน่าเสียดาย เพราะว่าที่พัฒนามาก็มีความดีประมาณหนึ่งอยู่แล้ว (อยากใช้ และไม่อยากเสียเงินไปซื้อ App อื่น)
11. ไมค์กล้องหลังดูดเสียงได้ไม่ดีมากเมื่อเทียบกับกล้องหน้า ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาให้คนที่อยากซื้อ Note 10 เพื่อไปถ่ายการสัมภาษณ์ หรือถ่ายพิธีกร เพราะว่าต้องหาไมค์นอกมาติด ซึ่งก็จะผูกไปว่าต้องหา Adaptor ที่แปลงจาก USB-C ไปเป็น 3.5 mm หรือหาไมค์นอกที่เป็น USB-C แต่ก็จะใช้กับมือถือเครื่องอื่นไม่ได้ ทำให้เสียดายว่าไม่สามารถจบในเครื่องเดียวโดยที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมได้
12. แพง ! นี่เป็นมือถือแพงที่สุดเท่าที่ผมเคยซื้อมา ก็ไม่รู้ว่าทำไมมันต้องแพงขนาดนี้ (ฮ่า) ราคามันก้าวกระโดดจากรุ่นเก่ามาอย่างมาก ก็ทำให้ตอนซื้อก็ต้องคิดนานหน่อยว่า ซื้อมาใช้แล้วจะคุ้มมั้ย เพราะด้วยราคาเดียวกันสามารถซื้อของได้หลายอย่างที่อาจจะเฉพาะทางมากกว่าเช่น ซื้อ Tablet พร้อมมือถือ หรือซื้อ Notebook พร้อมมือถือได้เลย หรือแม้แต่การพิจารณาซื้อรุ่นเก่า ทั้ง 8 และ 9 ที่ยังใช้งานได้ดีมากในปัจจุบันก็สามารถประหยัดเงินไปได้โข
อาจจะดูว่าเป็นข้อเสียที่มีหลายข้อ แต่หลังจากใช้งานมา ทำความคุ้นเคย เปลี่ยนจาก Note 8 มาเป็นรุ่นนี้ ผมยังมองว่า ข้อดีในแง่ที่ว่า เป็นสมุดบันทึกดิจิตอลที่รวมฟีเจอร์ที่หลายแง่มุมของชีวิตในแนวเครื่องเดียวจบไม่ต้องพกเยอะ เบาสบาย ก็ยังเหนือกว่าข้อเสียเล็กน้อยเหล่านี้ แล้วคุณๆ ละครับ คิดยังไงเกี่ยวกับ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้บ้าง ?
ติดตามผมที่ Playinone https://www.playinone.com/members/maewnoon/
ติดตามผมที่เพจครับ https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/