คำว่า “ร่วง” การใช้งานมันน่าจะหมายถึง การกระทำของแรงดึงดูดโลก กระทำต่อวัตถุ ให้ตกลงพื้น เช่น ผลไม้ร่วงจากต้น สากกระเบือหลุดมือภรรยาโดนสามี ลูกบอลร่วงลงหัว มันน่าจะหมายถึงการกระทำที่แรงดึงดูดโลก กระทำต่อวัตุให้ลงมาที่พื้น ถึงแม้จะมีบางคำ เช่นวัยร่วงโรย มันก็ยังอ้างอิงการตกของใบไม้ดอกไม้ที่ กำลังหลุดร่วงลงพื้น อยู่ดี
คำว่า “ล่วง” คำนี้ใช้กับการอ้างอิง เช่น ดวงอาทิตย์กำลังล่วงลับขอบฟ้า คนรู้จักได้ล่วงลับไปแล้ว มันหมายถึงการอ้างอิง จากสิ่งที่มีอยู่ ที่ไม่ใช่เป็นการกระทำของแรงดึงดูดโลก เพราะดวงอาทิตย์และ คนที่ล่วงลับ ไม่ได้ถูกกระทำจากแรงดึงดูดโลก
มาถึงตลาดหุ้น การ “ล่วง” ของดัชนีตลาดหุ้น เกิดจากการอ้างอิง ไม่ได้เกิดจากแรงดึงดูดโลกต่อวัตถุ เหมือนกับดวงอาทิตย์กำลังล่วงลับ เป็นการล่วงที่มีจำกัดไม่ถึงพื้น เหมือนกับดวงอาทิตย์ถ้าเราเดินตาม ทันเราก็จะเห็นดวงอาทิตย์ไม่ล่วงถึงพื้นแน่นอน ฉะนั้นคำว่า “ล่วง” คำนี้เหมาะสมกับการใช้ กับตลาด กับหุ้น มากกว่า คำว่า “ร่วง” เพราะคำนี้มันหมายถึงการ่วงถึงพื้น หรือทะลุพื้น
แต่อย่าไปใส่ใจมาก เพราะ ภาษาไทย มันอยู่ที่คนบัญญัติ คำ ถึงแม้มันไร้เหตุผล เพียงใดถ้าเขามีอำนาจอยู่ ถึงแม้มันจะผิด เขาก็ดันใช้จนมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่งั้น เราคงได้ใช้ ต.ตน ในการเขียนคำว่า “ตน” ไม่ใช่ ค.ควาย แบบทุกวันนี้
//// ทำไมคำว่า “ล่วง” มันน่าจะถูกต้องที่สุดถ้าใช้กับตลาดหุ้น....////
คำว่า “ล่วง” คำนี้ใช้กับการอ้างอิง เช่น ดวงอาทิตย์กำลังล่วงลับขอบฟ้า คนรู้จักได้ล่วงลับไปแล้ว มันหมายถึงการอ้างอิง จากสิ่งที่มีอยู่ ที่ไม่ใช่เป็นการกระทำของแรงดึงดูดโลก เพราะดวงอาทิตย์และ คนที่ล่วงลับ ไม่ได้ถูกกระทำจากแรงดึงดูดโลก
มาถึงตลาดหุ้น การ “ล่วง” ของดัชนีตลาดหุ้น เกิดจากการอ้างอิง ไม่ได้เกิดจากแรงดึงดูดโลกต่อวัตถุ เหมือนกับดวงอาทิตย์กำลังล่วงลับ เป็นการล่วงที่มีจำกัดไม่ถึงพื้น เหมือนกับดวงอาทิตย์ถ้าเราเดินตาม ทันเราก็จะเห็นดวงอาทิตย์ไม่ล่วงถึงพื้นแน่นอน ฉะนั้นคำว่า “ล่วง” คำนี้เหมาะสมกับการใช้ กับตลาด กับหุ้น มากกว่า คำว่า “ร่วง” เพราะคำนี้มันหมายถึงการ่วงถึงพื้น หรือทะลุพื้น
แต่อย่าไปใส่ใจมาก เพราะ ภาษาไทย มันอยู่ที่คนบัญญัติ คำ ถึงแม้มันไร้เหตุผล เพียงใดถ้าเขามีอำนาจอยู่ ถึงแม้มันจะผิด เขาก็ดันใช้จนมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่งั้น เราคงได้ใช้ ต.ตน ในการเขียนคำว่า “ตน” ไม่ใช่ ค.ควาย แบบทุกวันนี้