THE MOST ORIGINAL HOUSES IN PARIS - เดินดูอาคารในปารีสพร้อมเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ

กระทู้สนทนา

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ปารีส เที่ยวยุโรป ประเทศฝรั่งเศส คนไทยในฝรั่งเศส

ถ้ามองไปรอบๆกรุงปารีส หลายๆคนก็คงจะได้เห็นอาคารบ้านเรือนที่มีรูปทรง การจัดวางของอาคารที่ค่อนข้างเป็นระเบียบและมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน โดยสไตล์การออกแบบอาคารของปารีสทั่วๆไปก็จะเรียกว่า Haussmann นั่นเอง
นอกจากบ้านในสไตล์ Haussmann แล้ว อาคารหลายๆหลังในปารีสก็มีรูปแบบอื่นๆที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างออกไป ดังนั้นวันนี้เราจึงถือโอกาสนำเสนออาคารสวยๆในปารีส ซึ่งมีเรื่องราวและที่มาที่น่าสนใจไม่แพ้ความโดดเด่นของอาคารเลย

1. House of Nicolas Flamel - หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของนิโคลัส แฟลมเมลจากภาพยนตร์ดังอย่างแฮร์รี่พอตเตอร์ นิโคลัสเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงใรศตวรรษที่ 14 อาศัยอยู่ในปารีส ตามประวัติชายผู้นี้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และมีความมั่งคั่งร่ำรวยมาจากการครอบครองศิลาอาถรรพ์ (Philosopher's Stone) เรื่องศิลานี้อาจจะเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่ความร่ำรวยของนิโคลัสนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเขาสร้างบ้านหลายหลัง เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับคนไร้บ้าน โดยบ้านเเต่ละหลังที่สร้างขึ้นล้วนเเต่นำเสนอสถาปัตยกรรมที่งดงามทั้งสิ้น

ที่ตั้ง : 51 Rue de Montmorency, 75003 Paris

การเดินทาง : เมโทรสาย 4 สถานี Etienne Marcel, เมโทรสาย 3 หรือ 11 สถานี Arts et Métiers

2. RUE CREMIEUX - สถานที่ต่อไปเป็นถนนสายเล็กๆ ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีมากขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยว จุดเด่นของถนนสายนี้คืออาคารที่ทาด้วยสีสันสดใส ซึ่งมีที่มาจากความร่วมมือกันของผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารเหล่านี้ซึ่งตกลงกันมาสีอาคารให้ออกมาสวยงามตามที่จะได้เห็นในภาพด้านล่าง อีกทั้งในปี 1990 ก็เริ่มมีกฎห้ามรนถยนต์วิ่งบนถนนสายนี้

อย่างไรก็ตามด้วยสีสันที่สวยงามของอาคาร ทำให้มีนักเที่ยวเเวะเวียนมาถ่ายภาพที่บริเวณนี้มากขึ้นเรื่อยๆจนผู้ที่อาศัยในอาคารเริ่มแสดงความไม่พึงพอใจ ดังนั้นเราขอความร่วมมือว่าหากใครสนใจจะไปเก็บภาพสวยๆก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขาด้วยนะ

ที่ตั้ง : Rue Crémieux, 75012 Paris

การเดินทาง : เมโทรสาย 1 หรือ 14 สถานี Gare de Lyon, เมโทรสาย 5 สถานี Quai de la Rapée

3. THE HOUSE OF DRAGONS - อาคารที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมแบบ Haussmann มีลักษณะชายคาส่วนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ เห็นได้จากภาพด้านล่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร ภาพที่เห็นเป็นภาพของมังกรสองตัวที่ประตูทางเข้าหลัก นอกจากนี้ประตูอื่นๆของบ้านยังมีรูปปั้นที่จะทำให้คุณต้องตะลึง เช่น พรพุทธรูป เเละครุฑ เป็นต้น สาเหตุที่รูปปั้นมีความหลากหลาย คาดว่าน่าจะมาจากจุดริเริ่มการสร้างอาคารนั้นก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจการของธนาคารที่มีการลงทุนในทวีปเอเชียนั่นเอง

ที่ตั้ง : 53 Rue des Mathurins, 75008 Paris

การเดินทาง: เมโทรสาย 9 สถานี Saint Augustin

4. IMMEULBLE LAVIROTTE - อาคาร Lavirotte อยู่ห่างจากหอไอเฟลเพียง 10 นาทีโดยการเดินเท้า อาคารเเห่งนี้นับเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมแบบ Art Nouveau ซึ่งเป็นเเนวคิดที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ลักษณะเด่นคือเส้นลายคลื่น และการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย เต็มไปด้วยรูปปั้นดอกไม้ สัตว์และเสาต่างๆ ซึ่งเน้นไปที่ความโออ่าอลังการนั่นเอง

อาคาร Lavirotte สร้างขึ้นในช่วงปี 1900 โดยสถาปนิกชื่อว่า Lavirotte ซึ่งตกแต่งอาคารด้วยรูปปั้นของผู้หญิง พืชพันธุ์ต่างๆและสัตว์เลื้อยคลาน อุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ เช่น กระเบื้องเซรามิค หรือกระเบื้องเคลือบเงา เป็นต้น

ที่ตั้ง : 29 Avenue Rapp, 75007 Paris

การเดินทาง : เมโทรสาย 8 สถานี Ecole Militaire, RER C สถานี Pont d'Alma

5. MAISON LOO - หากเดินทางเข้าไปในเขต 8 ของปารีสก็จะได้พบกับอาคารที่ทำให้คุณตั้งคำถามว่านี่หลุดเข้ามาในเมืองจีนเเล้วหรืออย่างไร อาคารหลังนี้ออกแบบตามความต้องการของเศรษฐีชาวจีนที่ต้องการเข้ามาตั้งรกรากในฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เศรษฐีชาวจีนผู้นี้มีชื่อว่า Ching Tsai Loo เขามีความต้องการให้ชาวปารีสได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมแบบจีน อาคารหลังนี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชม แต่ว่าเเค่เดินชมด้านนอกก็น่าจะได้มองเห็นความงามของสถาปัคยกรรมจีนที่สวยงามแล้ว

ที่ตั้ง : 48 Rue de Courcelles, 75008 Paris

การเดินทาง : เมโทรสาย 2 สถานี Courcelles

6. THE ANGEL OF RUE DE TURBIGO - อาคารแห่งนี้มีจุดเด่น คือ รูปปั้นนางฟ้าหรือเทพธิดาขนาดใหญ่ดังที่จะได้เห็นในภาพด้านล่าง รูปปั้นี้เป็นผลงานของ Auguste Emile Delange ซึ่งได้รับอิทธิมาจากศิลปะ Grec-Roman (มีลักษณะคล้ายกับ Greek Caryatid ซึ่งเป็นการใช้รูปปั้นของผู้หญิงเพื่อเป็นโครงสร้างของเสา) รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี 1858 หากจะพูดถึงความหมายของตัวอาคารก็ไม่ได้มีเรื่องเล่ามายเท่าไหร่ แต่ว่ากันว่าความหมายของรูปปั้นนางฟ้าที่ใช้เป็นเสานี้ต้องการสื่อถึงการเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ หรือการกุศล เนื่องจากเทพธิดาผู้นี้ถือกระเป๋าอยู่ในมือขวาของเธอนั่นเอง

ที่ตั้ง : 57 RUe Turbigo, 75003 Paris

การเดินทาง : เมโทรสาย 3 หรือ 11 สถานี Arts et Métiers

7. VILLA LEANDRE - ย่านมงมาร์ตถือว่าเป็นย่านที่มีขุมทรัพย์ความงามซ่อนอยู่มากมาย โดยปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพุ่งตรงไปลงที่เมโทรสถานี Anvers หรือ Abesses เพื่อมุ่งตรงไปยังมหาวิหารซาเคร่เกอร์ แต่เราขอเสนออีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่จะทำให้คุณได้ท่องเที่ยวอย่างน่าประทับใจมากขึ้น นั่นคือ การเลือกลงเมโทรที่สถานี Lamarck-Caulaincour เพื่ออเดินชมถนนสวยๆก่อนจะไปยังซาเคร่เกอร์ หนึ่งในเส้นทางเดินที่ไม่ควรพลาด คือ Villa Léandre ทางเดินเส้นนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของเมืองแบบชนบท ปราศจากรถยนต์สัญจร Villa Léandre สร้างขึ้นในปี 1926 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของผู้มั่งคั่งชาวปารีส

ถนนสายนี้ว่ากันว่าเป็นอีกหนึ่งย่านที่มีราคาแพงที่สุดในปารีส (ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 ยูโรต่อตารางเมตร)

ที่ตั้ง: ปลายถนน Avenue Junot (ปารีสเขต 18)

การเดินทาง: เมโทรสาย 12 สถานี Lamarck-Caulaincourt

8. INSTITUT D'ART ET D'ARCHEOLOGIE - "สถาบันศิลปะและโบราณคดี" อาคารที่สร้างด้วยอิฐสีแดงได้รับอิทธิพลจากแนวคิดต่างๆมากมาย ยากที่จะอธิบาย อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปี 1920 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Arconati-Visconti ภริยาของขุนนางผู้ร่ำรวย ผู้จัดการประกวดออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อนำมาสร้างเป็นห้องสมุดโบราณคดีของมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ โดยการแข่งขันในครั้งนั้น ผู้ชน คือ Paul Bigot ซึ่งมีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมอิตาเลียนและแอฟริกันเหนือ

รอบๆอาคารคุณจะได้พบกับรูปปั้นดินเผาทรงนูนต่ำ ซึ่งเป็นรูปปั้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าของกรีกและตวันออกกลางโบราณ

ที่ตั้ง : 3 Rue Michelet, 7506 Paris

การเดินทาง : RER B เลือกลงที่สถานี Luxembourg

9. CITE DU FIGUIER - ทางเดินเส้นนี้เป็นทางเดินปลอดรถยนต์ จึงเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่สงบสุดบนถนน Oberkampf ตรอกเเห่งนี้เต็มไปด้วยโต๊ะนั่งเล็กๆ น่ารักๆ สวนต่างๆ บ้านสีพาสเทล สีน้ำเงินอมเขียวแบบเทอร์ควอยซ์ การตกแต่งๆคล้ายๆกับเเถบทะเลเมดิเตอเรเนียน