ดาวเคราะห์น้อย 2000 QW7

ดาวเคราะห์น้อย 2000 QW7 ซึ่งเพิ่งถูกค้นพบในเดือนสิงหาคมได้พุ่งเฉียดโลกไปเล็กน้อย โดยคลาดไปเพียง 4.5 ล้านกิโลเมตรเท่านั้น และในปี 2562, 2608, และ 2627 ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเข้าเฉียดโลกใกล้กว่าในครั้งนี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะชนโลกในอนาคตแต่อย่างใด
ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ระบบค้นหาดาวเคราะห์น้อย นีต (NEAT--Near-Earth Asteroid Tracking system)
มีขนาดประมาณ 0.5 กิโลเมตร จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายอีกดวงหนึ่งที่ต้องจับตามอง และชื่อของมันได้ถูกบรรจุไว้ในรายชื่อ ดาวเคราะห์น้อยอันตราย (Potentially Hazardous Asteroids-PHAs) แล้ว ปัจจุบันมีวัตถุที่อยู่ในรายชื่อนี้กว่า 266 ดวง ดาวเคราะห์น้อยที่จะถือว่าเป็น ดาวเคราะห์น้อยอันตราย จะต้องสามารถเข้าวงโคจรของโลกได้มากกว่า 0.05 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 7.5 ล้านกิโลเมตร และมีขนาดเป็นร้อยเมตรขึ้นไป
นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามีดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกทั้งสิ้นถึงประมาณ 2,000 ดวง หรืออาจมี 1,000 ดวงตามแบบจำลองล่าสุด แต่มีเพียง 424 ดวงเท่านั้นที่ถูกค้นพบแล้ว พวกเขาตั้งเป้าว่าจะต้องค้นหาดาวเคราะห์พวกนี้ให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดภายใน 1 ทศวรรษข้างหน้านี้
Cr.
http://thaiastro.nectec.or.th
ดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23
(Cr.ภาพ workpointnews)

ดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 ได้เคลื่อนตัวผ่านและเฉียดโลกไปในระยะห่าง 7.3 ล้านกิโลเมตร จากพื้นผิวโลก ด้วยความเร็วประมาณ 16,800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเจ้าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านไปในวันที่ 10 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา 03.23 น. ตามโซนเขตเวลาตะวันออก (EDT) หรือ 14.23 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ทั้งนี้จากเคลื่อนตัวผ่านโลกไปในครั้งนี้ของดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 ไม่ได้ทำการเกิดสะเก็ดดาวตกใส่โลกแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโลกอย่างที่สังคมเกิดความวิตกกังวล แม้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเคลื่อนตัวผ่านโลกในระยะที่จัดว่าอยู่ในโซนที่อาจเป็นอันตราย
สำหรับดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 180-570 เมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่าตึกใบหยก 2 เท่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวิถีโคจรตามดวงอาทิตย์เช่นเดียวกันโลก โดยในอนาคตดาวดวงนี้ก็จะมีโอกาศโคจรเข้าใกล้โลกอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโลกอีกเช่นเคย
องค์การนาซา ยังระบุด้วยว่า ในทุกๆ ปีมักจะมีวัตถุจากอวกาศ หรือ ดาวเคราะห์น้อย ขนาดลักษณะใกล้เคียงกับ 2006 QQ23 เฉลี่ยประมาณ 5-6 วัตถุ ที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้กับโลก แต่ยังไม่เคยมีดาวเคราะห์น้อยหรือวัตถุใดๆ ที่ส่งผลกระทบกับโลกโดยตรง ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ก็ยังเฝ้าจับตามองวัตถุอวกาศอยู่เสมอ เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อโลก
Cr.
https://www.sanook.com/news/7861847/
ดาวเคราะห์น้อย 2006 QV89

2006 QV89 ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากถึง 40 เมตรกำลังจะเคลื่อนเข้ามาใกล้วงโคจรของโลกมากในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยขนาดของอุกกาบาตดังกล่าวนั้นหากมันตกลงยังพื้นโลก สามารถทำลายหรือสร้างความเสียหายให้เมืองเล็กๆได้เลย องค์การอวกาศของยุโรปได้ออกมาประเมินว่ามีโอกาสมากถึง 1 ใน 7000 ที่จะเกิดการพุ่งชนโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดการพุ่งชนหรือไม่ แต่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้สูงมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์
Cr.
https://www.blogsdit.com
ดาวเคราะห์น้อย 2019 PDC

2019 PDC ได้ถูกค้นพบในวันที่ 26 มีนาคม ระหว่างอยู่ห่างจากโลกไปประมาณ 57 ล้านกิโลเมตร และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 14 กิโลเมตร/วินาที นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่ามันมีขนาดระหว่าง 100-300 เมตร และในช่วงที่ถูกค้นพบนั้น โอกาสที่มันจะกลับมาเฉียดใกล้โลกอีกหนคือวันที่ 29 เมษายน 2027 พร้อมโอกาสพุ่งชนโลกอยู่ที่ 1 ใน 50,000
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักดาราศาสตร์เฝ้าติดตามสังเกตมาร่วมเดือน ก็ทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ 2019 PDC เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะสามารถร่างลักษณะวงโคจรของมันอย่างคร่าว ๆ ได้แล้วนั้น โอกาสที่มันจะพุ่งชนโลกก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 1 ใน 100 เลยทีเดียว
Cr.
https://spaceth.co/2019-pdc/
ดาวเคราะห์น้อย 2019 OK

เช้าวันที่ 25 กรกฏาคม ขณะที่เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ก็ได้มีดาวเคราะห์น้อย 2019 OK เฉียดผ่านโลกไปในระยะห่างเพียง 73,000 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จริงที่มีดาวเคราะห์น้อยเฉียดใกล้กว่านั้นมาก หรือไม่ก็พุ่งเข้าใส่ชั้นบรรยากาศโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ดวงนี้แตกต่างไปจากเดิมก็คือมันมีขนาดถึง 57-130 เมตรเลยทีเดียว
เทียบให้เห็นภาพก็คืออุกกาบาตตกที่ Chelyabinsk ในปี 2013 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายพันคนนั้น มีขนาดเพียงแค่ 20 เมตรเท่านั้น
และที่สำคัญก็คือ 2019 OK ถูกค้นพบไม่กี่วันก่อนเฉียดใกล้โลกเพียงเท่านั้น แถมยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถึง 24 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น ๆ
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะวงโคจรของมันที่มีความรีสูงมาก โดยปลายวงโคจรของมันอยู่ไกลกว่าดาวอังคาร และจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดอยู่ใกล้กว่าดาวศุกร์ นั่นทำให้โอกาสที่มันจะถูกตรวจพบใกล้โลกนั้นมีค่อนข้างน้อย นอกจากต้องรอให้มันสว่างมากพอที่จะมองเห็นได้แล้ว ก็ต้องมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งตรวจจับพบมันพอดีด้วย
แต่ก็สบายใจได้ว่าดาวเคราะห์น้อยขนาดของ 2019 OK จะไม่ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์หากพุ่งชนโลก แต่ความรุนแรงของมันอาจเทียบเท่ากับเหตุการณ์ The Tunguska Impact เมื่อ 111 ปีที่แล้ว ซึ่งรุนแรงเป็น 1,000 เท่าของระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า
Cr.
https://www.facebook.com/spaceth.co
ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (99942 Apophis)
(Cr.ภาพ stem.in.th)

ซึ่งขณะนั้นถูกเรียกว่า 2004 เอ็มเอ็น 4 (2004 MN4) ถูกพบครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2547 แต่ไม่สามารถติดตามสังเกตการณ์ต่อได้ มาพบอีกครั้งในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ข้อมูลวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ชี้ว่าวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572 (ค.ศ. 2029) ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะผ่านใกล้โลกและมีโอกาสชนโลกด้วยอัตราส่วน 1 ใน 38 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับบรรดาดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรใกล้โลกดวงอื่น ๆ ที่ได้ค้นพบไปก่อนหน้านั้น
ไม่กี่วันถัดมาหลังจากได้ข้อมูลวงโคจรเบื้องต้นของอะโพฟิส นักดาราศาสตร์ได้ไปค้นหาภาพถ่ายในคลังภาพของท้องฟ้าบริเวณที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้น่าจะเคลื่อนผ่าน เจฟฟ์ ลาร์เซน และ แอนน์ เดสเคอร์ พบอะโพฟิสในภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 0.9 เมตรของหอดูดาวคิตต์พีก แอริโซนา สามารถบอกได้ว่าดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะไม่ชนโลกและดวงจันทร์อย่างแน่นอน แต่เฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างประมาณ 64,400 กิโลเมตร
ข้อมูลจากเรดาร์สรุปได้ในที่สุดว่าวันที่ 13 เมษายน 2572 อะโพฟิสจะเฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่าง 36,350 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 5.7 เท่าของรัศมีโลก ใกล้กว่าดวงจันทร์เกือบ 11 เท่า และใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า
แม้ว่าอะโพฟิสจะไม่ชนโลกในปี 2572 ผลการคำนวณล่าสุดระบุว่าวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2579 อะโพฟิสจะเข้าใกล้โลกอีกครั้งและมีโอกาสชนโลก 1 ใน 45,000 หรือ 0.002%
Cr.
http://thaiastro.nectec.or.th
ดาวเคราะห์น้อย 2015 TB145

2015 TB145
เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ราว 600 เมตร ที่มีวงโคจรแบบ อพอลโล Apollo ค้นพบด้วยกล้องดูดาว แพนสตาร์ในเดือนตุลาคม 2015 โคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 3.04 ปี (นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงพบมันอีกหลังผ่านไป 3 ปี นิดๆ)
ระยะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้คือ 0.29345 AU ระยะห่างสุดคือ 3.9076 AU ความสว่างแมกนิจูด 19 มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เกือบทั้งวงโคจรอยู่ต่ำกว่าเส้นสุริยวิถึ (
Ecliptic) ทำให้เราสังเกตดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ยากจนกว่าจะเข้ามาใกล้โลก
เคยเข้าเฉียดโลกช่วงใกล้วันฮาโลวีน ปี 2015 ด้วยความที่ภาพถ่ายไม่ชัดเจน แต่มีรอยอุกาบาตขนาดใหญ่ 2 รอยดูคล้ายหัวกระโหลก ตั้งแต่นั้นมา 2015 TB145
ก็อยู่ในความสนใจของสื่อ
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2018 2015 TB145 โคจรเฉียดโลกไปในระยะ 0.26 AU (39,000,000 กิโลเมตร)โดยไม่มีอันตรายใดๆ
Cr.
https://stem.in.th
ดาวเคราะห์น้อย 2012 TC4

ดาวเคราะห์น้อย 2012 TC4 ขนาดราว 13-16 เมตร (ประมาณบ้านหลังหนึ่ง) จะพุ่งเฉียดโลกที่ระยะห่าง 50,180 กิโลเมตร ณ ตำแหน่งเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2560นี้ 12:42 ช่วงหลงเที่ยงวัน ตามเวลาไทย ด้วยความเร็ว 7.6 กิโลเมตรต่อวินาที มีขนาดเล็กกว่าดาวเคราะห์น้อยลูกที่ตกที่เขตเชลยาบินสก์ ประเทศรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เล็กน้อย
ดาวเคราะห์น้อยนี้จะไม่ตกเข้ามาในบรรยากาศโลก มันจะโคจรเฉียดผ่านไปและวนกลับมาใหม่อีกครั้งทุกๆ 5 ปี โดยในแต่ละครั้งที่กลับมาจะมีระยะห่างจากโลกไม่เท่ากัน
เมื่อ 5 ปีก่อน ในวันที่ 4 ตุลาคม 2555 คือครั้งแรกที่มันเข้าใกล้โลกแล้วกล้องโทรทรรศน์ Pan-STARRS F51 ที่เกาะฮาวายจับภาพไว้ได้ ครั้งนั้นมันโคจรผ่านโลกที่ระยะห่างกว่านี้คือ 94,800 กิโลเมตร ช่วงที่มีการค้นพบใหม่ๆมีความตื่นเต้นกันมากเนื่องจากคำนวนวงโคจรในระยะแรกมันจะเฉียดโลกมากว่านี้จนน่ากล้ว แต่หลังจากนั้นเมื่อตัวแปรในการคำนวนมีความพร้อมมากขึ้น ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ก็ถูกระบุว่าปลอดภัย
Cr.
http://jimmysoftwareblog.com
ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ 3 ดวง 2015 HM10, 2019 OD และ 2019 OE

วันที่ 24 กรกฎาคม2562 ดาวเคราะห์น้อยดวงแรก
"2015 HM10" ที่มีขนาดความกว้างประมาณ 100 เมตร ได้เคลื่อนตัวผ่านโลกเป็นดวงแรก
ขณะที่ดาวเคราะห์น้อยดวงต่อมาคือ
"2019 OD" จะเคลื่อนตัวผ่านโลกไปด้วยระยะห่าง 357,000 กิโลเมตรจากพื้นผิวโลก ซึ่งเป็นระยะที่อยู่ใกล้กว่าวงจรโคจรของดวงจันทร์
ส่วนดาวเคราะห์น้อยอีกดวงคือ
"2019 OE" มีวิถีโคจรที่ใกล้เคียงกับดวงเคราะห์น้อยก่อนหน้า แต่มันมีขนาดที่เล็กกว่า ทำให้เคลื่อนตัวได้เร็วกว่า 2019 OD โดยที่ดาวเคราะห์น้อยทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อโลก
องค์การนาซา ยังระบุว่า ที่ผ่านมาทุกๆ สัปดาห์มักจะมีสะเก็ดดาวหรือดาวเคราะห์น้อยไม่ต่ำกว่า 30 วัตถุโคจรในเส้นทางที่เฉียดใกล้โลก แต่ก็มีโอกาสที่จะพุ่งชนโลกได้น้อยมากเช่นกัน เนื่องจากมักจะถูกแรงเสียดสีในชั้นบรรยากาศของโลก ทำปฏิกิริยาและมอดไหม้สลายไปเสียก่อนจะถึงพื้นผิวโลก
Cr.
https://www.sanook.com
ดาวเคราะห์น้อย 2016 NF23

ดาวเคราะห์น้อย 2016 NF23 ขนาดใหญ่ยักษ์เท่าพีระมิด พุ่งเฉียดโลกในระยะ 4.8 ล้านกิโลเมตรในวันที่ 29 ส.ค.2018 โดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งมีขนาดกว้างราว 70 เมตร ยาว 160 เมตร และสูง 139 เมตร
เดินทางพุ่งมายังโลกด้วยความเร็ว 32,400 กิโลกเมตรต่อชั่วโมง หรือราว 9 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเทียบแล้วจะเท่ากับระยะห่างประมาณ 13.4 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกและดวงจันทร์ แม้จะมีขนาดเล็กมากหากเทียบกับอุกกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนจนเป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์
แต่หากมันพุ่งชนโลกจริงจะสร้างความเสียหายให้กับโลกเทียบเท่ากับประเทศเยอรมนีทั้งประเทศ
Cr.
https://www.tnews.co.th/foreign/476256
ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลก
ดาวเคราะห์น้อย 2000 QW7 ซึ่งเพิ่งถูกค้นพบในเดือนสิงหาคมได้พุ่งเฉียดโลกไปเล็กน้อย โดยคลาดไปเพียง 4.5 ล้านกิโลเมตรเท่านั้น และในปี 2562, 2608, และ 2627 ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเข้าเฉียดโลกใกล้กว่าในครั้งนี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะชนโลกในอนาคตแต่อย่างใด
ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ระบบค้นหาดาวเคราะห์น้อย นีต (NEAT--Near-Earth Asteroid Tracking system)
มีขนาดประมาณ 0.5 กิโลเมตร จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายอีกดวงหนึ่งที่ต้องจับตามอง และชื่อของมันได้ถูกบรรจุไว้ในรายชื่อ ดาวเคราะห์น้อยอันตราย (Potentially Hazardous Asteroids-PHAs) แล้ว ปัจจุบันมีวัตถุที่อยู่ในรายชื่อนี้กว่า 266 ดวง ดาวเคราะห์น้อยที่จะถือว่าเป็น ดาวเคราะห์น้อยอันตราย จะต้องสามารถเข้าวงโคจรของโลกได้มากกว่า 0.05 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 7.5 ล้านกิโลเมตร และมีขนาดเป็นร้อยเมตรขึ้นไป
นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามีดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกทั้งสิ้นถึงประมาณ 2,000 ดวง หรืออาจมี 1,000 ดวงตามแบบจำลองล่าสุด แต่มีเพียง 424 ดวงเท่านั้นที่ถูกค้นพบแล้ว พวกเขาตั้งเป้าว่าจะต้องค้นหาดาวเคราะห์พวกนี้ให้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดภายใน 1 ทศวรรษข้างหน้านี้
Cr.http://thaiastro.nectec.or.th
ดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23
(Cr.ภาพ workpointnews)
ดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 ได้เคลื่อนตัวผ่านและเฉียดโลกไปในระยะห่าง 7.3 ล้านกิโลเมตร จากพื้นผิวโลก ด้วยความเร็วประมาณ 16,800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเจ้าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านไปในวันที่ 10 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา 03.23 น. ตามโซนเขตเวลาตะวันออก (EDT) หรือ 14.23 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ทั้งนี้จากเคลื่อนตัวผ่านโลกไปในครั้งนี้ของดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 ไม่ได้ทำการเกิดสะเก็ดดาวตกใส่โลกแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโลกอย่างที่สังคมเกิดความวิตกกังวล แม้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะเคลื่อนตัวผ่านโลกในระยะที่จัดว่าอยู่ในโซนที่อาจเป็นอันตราย
สำหรับดาวเคราะห์น้อย 2006 QQ23 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 180-570 เมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่าตึกใบหยก 2 เท่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวิถีโคจรตามดวงอาทิตย์เช่นเดียวกันโลก โดยในอนาคตดาวดวงนี้ก็จะมีโอกาศโคจรเข้าใกล้โลกอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโลกอีกเช่นเคย
องค์การนาซา ยังระบุด้วยว่า ในทุกๆ ปีมักจะมีวัตถุจากอวกาศ หรือ ดาวเคราะห์น้อย ขนาดลักษณะใกล้เคียงกับ 2006 QQ23 เฉลี่ยประมาณ 5-6 วัตถุ ที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้กับโลก แต่ยังไม่เคยมีดาวเคราะห์น้อยหรือวัตถุใดๆ ที่ส่งผลกระทบกับโลกโดยตรง ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ก็ยังเฝ้าจับตามองวัตถุอวกาศอยู่เสมอ เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อโลก
Cr.https://www.sanook.com/news/7861847/
ดาวเคราะห์น้อย 2006 QV89
2006 QV89 ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากถึง 40 เมตรกำลังจะเคลื่อนเข้ามาใกล้วงโคจรของโลกมากในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยขนาดของอุกกาบาตดังกล่าวนั้นหากมันตกลงยังพื้นโลก สามารถทำลายหรือสร้างความเสียหายให้เมืองเล็กๆได้เลย องค์การอวกาศของยุโรปได้ออกมาประเมินว่ามีโอกาสมากถึง 1 ใน 7000 ที่จะเกิดการพุ่งชนโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดการพุ่งชนหรือไม่ แต่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้สูงมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์
Cr.https://www.blogsdit.com
ดาวเคราะห์น้อย 2019 PDC
2019 PDC ได้ถูกค้นพบในวันที่ 26 มีนาคม ระหว่างอยู่ห่างจากโลกไปประมาณ 57 ล้านกิโลเมตร และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 14 กิโลเมตร/วินาที นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่ามันมีขนาดระหว่าง 100-300 เมตร และในช่วงที่ถูกค้นพบนั้น โอกาสที่มันจะกลับมาเฉียดใกล้โลกอีกหนคือวันที่ 29 เมษายน 2027 พร้อมโอกาสพุ่งชนโลกอยู่ที่ 1 ใน 50,000
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักดาราศาสตร์เฝ้าติดตามสังเกตมาร่วมเดือน ก็ทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ 2019 PDC เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะสามารถร่างลักษณะวงโคจรของมันอย่างคร่าว ๆ ได้แล้วนั้น โอกาสที่มันจะพุ่งชนโลกก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 1 ใน 100 เลยทีเดียว
Cr.https://spaceth.co/2019-pdc/
ดาวเคราะห์น้อย 2019 OK
เช้าวันที่ 25 กรกฏาคม ขณะที่เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ก็ได้มีดาวเคราะห์น้อย 2019 OK เฉียดผ่านโลกไปในระยะห่างเพียง 73,000 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จริงที่มีดาวเคราะห์น้อยเฉียดใกล้กว่านั้นมาก หรือไม่ก็พุ่งเข้าใส่ชั้นบรรยากาศโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ดวงนี้แตกต่างไปจากเดิมก็คือมันมีขนาดถึง 57-130 เมตรเลยทีเดียว
เทียบให้เห็นภาพก็คืออุกกาบาตตกที่ Chelyabinsk ในปี 2013 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายพันคนนั้น มีขนาดเพียงแค่ 20 เมตรเท่านั้น
และที่สำคัญก็คือ 2019 OK ถูกค้นพบไม่กี่วันก่อนเฉียดใกล้โลกเพียงเท่านั้น แถมยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถึง 24 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น ๆ
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะวงโคจรของมันที่มีความรีสูงมาก โดยปลายวงโคจรของมันอยู่ไกลกว่าดาวอังคาร และจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดอยู่ใกล้กว่าดาวศุกร์ นั่นทำให้โอกาสที่มันจะถูกตรวจพบใกล้โลกนั้นมีค่อนข้างน้อย นอกจากต้องรอให้มันสว่างมากพอที่จะมองเห็นได้แล้ว ก็ต้องมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งตรวจจับพบมันพอดีด้วย
แต่ก็สบายใจได้ว่าดาวเคราะห์น้อยขนาดของ 2019 OK จะไม่ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์หากพุ่งชนโลก แต่ความรุนแรงของมันอาจเทียบเท่ากับเหตุการณ์ The Tunguska Impact เมื่อ 111 ปีที่แล้ว ซึ่งรุนแรงเป็น 1,000 เท่าของระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า
Cr.https://www.facebook.com/spaceth.co
ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (99942 Apophis)
(Cr.ภาพ stem.in.th)
ซึ่งขณะนั้นถูกเรียกว่า 2004 เอ็มเอ็น 4 (2004 MN4) ถูกพบครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2547 แต่ไม่สามารถติดตามสังเกตการณ์ต่อได้ มาพบอีกครั้งในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ข้อมูลวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ชี้ว่าวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572 (ค.ศ. 2029) ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะผ่านใกล้โลกและมีโอกาสชนโลกด้วยอัตราส่วน 1 ใน 38 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับบรรดาดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรใกล้โลกดวงอื่น ๆ ที่ได้ค้นพบไปก่อนหน้านั้น
ไม่กี่วันถัดมาหลังจากได้ข้อมูลวงโคจรเบื้องต้นของอะโพฟิส นักดาราศาสตร์ได้ไปค้นหาภาพถ่ายในคลังภาพของท้องฟ้าบริเวณที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้น่าจะเคลื่อนผ่าน เจฟฟ์ ลาร์เซน และ แอนน์ เดสเคอร์ พบอะโพฟิสในภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 0.9 เมตรของหอดูดาวคิตต์พีก แอริโซนา สามารถบอกได้ว่าดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะไม่ชนโลกและดวงจันทร์อย่างแน่นอน แต่เฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างประมาณ 64,400 กิโลเมตร
ข้อมูลจากเรดาร์สรุปได้ในที่สุดว่าวันที่ 13 เมษายน 2572 อะโพฟิสจะเฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่าง 36,350 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 5.7 เท่าของรัศมีโลก ใกล้กว่าดวงจันทร์เกือบ 11 เท่า และใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า
แม้ว่าอะโพฟิสจะไม่ชนโลกในปี 2572 ผลการคำนวณล่าสุดระบุว่าวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2579 อะโพฟิสจะเข้าใกล้โลกอีกครั้งและมีโอกาสชนโลก 1 ใน 45,000 หรือ 0.002%
Cr.http://thaiastro.nectec.or.th
ดาวเคราะห์น้อย 2015 TB145
2015 TB145 เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ราว 600 เมตร ที่มีวงโคจรแบบ อพอลโล Apollo ค้นพบด้วยกล้องดูดาว แพนสตาร์ในเดือนตุลาคม 2015 โคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 3.04 ปี (นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงพบมันอีกหลังผ่านไป 3 ปี นิดๆ)
ระยะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้คือ 0.29345 AU ระยะห่างสุดคือ 3.9076 AU ความสว่างแมกนิจูด 19 มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เกือบทั้งวงโคจรอยู่ต่ำกว่าเส้นสุริยวิถึ (Ecliptic) ทำให้เราสังเกตดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ยากจนกว่าจะเข้ามาใกล้โลก
เคยเข้าเฉียดโลกช่วงใกล้วันฮาโลวีน ปี 2015 ด้วยความที่ภาพถ่ายไม่ชัดเจน แต่มีรอยอุกาบาตขนาดใหญ่ 2 รอยดูคล้ายหัวกระโหลก ตั้งแต่นั้นมา 2015 TB145 ก็อยู่ในความสนใจของสื่อ
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2018 2015 TB145 โคจรเฉียดโลกไปในระยะ 0.26 AU (39,000,000 กิโลเมตร)โดยไม่มีอันตรายใดๆ
Cr.https://stem.in.th
ดาวเคราะห์น้อย 2012 TC4
ดาวเคราะห์น้อย 2012 TC4 ขนาดราว 13-16 เมตร (ประมาณบ้านหลังหนึ่ง) จะพุ่งเฉียดโลกที่ระยะห่าง 50,180 กิโลเมตร ณ ตำแหน่งเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2560นี้ 12:42 ช่วงหลงเที่ยงวัน ตามเวลาไทย ด้วยความเร็ว 7.6 กิโลเมตรต่อวินาที มีขนาดเล็กกว่าดาวเคราะห์น้อยลูกที่ตกที่เขตเชลยาบินสก์ ประเทศรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เล็กน้อย
ดาวเคราะห์น้อยนี้จะไม่ตกเข้ามาในบรรยากาศโลก มันจะโคจรเฉียดผ่านไปและวนกลับมาใหม่อีกครั้งทุกๆ 5 ปี โดยในแต่ละครั้งที่กลับมาจะมีระยะห่างจากโลกไม่เท่ากัน
เมื่อ 5 ปีก่อน ในวันที่ 4 ตุลาคม 2555 คือครั้งแรกที่มันเข้าใกล้โลกแล้วกล้องโทรทรรศน์ Pan-STARRS F51 ที่เกาะฮาวายจับภาพไว้ได้ ครั้งนั้นมันโคจรผ่านโลกที่ระยะห่างกว่านี้คือ 94,800 กิโลเมตร ช่วงที่มีการค้นพบใหม่ๆมีความตื่นเต้นกันมากเนื่องจากคำนวนวงโคจรในระยะแรกมันจะเฉียดโลกมากว่านี้จนน่ากล้ว แต่หลังจากนั้นเมื่อตัวแปรในการคำนวนมีความพร้อมมากขึ้น ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ก็ถูกระบุว่าปลอดภัย
Cr.http://jimmysoftwareblog.com
ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ 3 ดวง 2015 HM10, 2019 OD และ 2019 OE
วันที่ 24 กรกฎาคม2562 ดาวเคราะห์น้อยดวงแรก"2015 HM10" ที่มีขนาดความกว้างประมาณ 100 เมตร ได้เคลื่อนตัวผ่านโลกเป็นดวงแรก
ขณะที่ดาวเคราะห์น้อยดวงต่อมาคือ "2019 OD" จะเคลื่อนตัวผ่านโลกไปด้วยระยะห่าง 357,000 กิโลเมตรจากพื้นผิวโลก ซึ่งเป็นระยะที่อยู่ใกล้กว่าวงจรโคจรของดวงจันทร์
ส่วนดาวเคราะห์น้อยอีกดวงคือ "2019 OE" มีวิถีโคจรที่ใกล้เคียงกับดวงเคราะห์น้อยก่อนหน้า แต่มันมีขนาดที่เล็กกว่า ทำให้เคลื่อนตัวได้เร็วกว่า 2019 OD โดยที่ดาวเคราะห์น้อยทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อโลก
องค์การนาซา ยังระบุว่า ที่ผ่านมาทุกๆ สัปดาห์มักจะมีสะเก็ดดาวหรือดาวเคราะห์น้อยไม่ต่ำกว่า 30 วัตถุโคจรในเส้นทางที่เฉียดใกล้โลก แต่ก็มีโอกาสที่จะพุ่งชนโลกได้น้อยมากเช่นกัน เนื่องจากมักจะถูกแรงเสียดสีในชั้นบรรยากาศของโลก ทำปฏิกิริยาและมอดไหม้สลายไปเสียก่อนจะถึงพื้นผิวโลก
Cr.https://www.sanook.com
ดาวเคราะห์น้อย 2016 NF23
ดาวเคราะห์น้อย 2016 NF23 ขนาดใหญ่ยักษ์เท่าพีระมิด พุ่งเฉียดโลกในระยะ 4.8 ล้านกิโลเมตรในวันที่ 29 ส.ค.2018 โดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งมีขนาดกว้างราว 70 เมตร ยาว 160 เมตร และสูง 139 เมตร
เดินทางพุ่งมายังโลกด้วยความเร็ว 32,400 กิโลกเมตรต่อชั่วโมง หรือราว 9 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเทียบแล้วจะเท่ากับระยะห่างประมาณ 13.4 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกและดวงจันทร์ แม้จะมีขนาดเล็กมากหากเทียบกับอุกกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อนจนเป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์
แต่หากมันพุ่งชนโลกจริงจะสร้างความเสียหายให้กับโลกเทียบเท่ากับประเทศเยอรมนีทั้งประเทศ
Cr.https://www.tnews.co.th/foreign/476256