ปกติแล้วส่วนตัวผมใช้รถใช้ถนนมาประมาณ 20ปี โดนเค้าชนมาก็เยอะ ขับไปชนเค้าเองก็มี
เป็นธรรมดาของอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด ก็ชน-แลก(ใบเครม)-แยกย้าย กันไป ขอโทษขอโพยกันไป
บางทีคู่กรณีไม่มีจริงๆ ซ่อมเองก็เยอะ ไม่กี่ตัง ไม่กี่พัน ช่างมัน
แต่ทุกวันนี้ การขับรถบนท้องถนนมันยากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อย่างเห็นได้ชัด
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการ "จงใจ" ที่จะประมาท เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้มากที่สุด
ล่าสุดผมจึงได้ "ลอง" ดำเนินการให้ครบถ้วนกระบวนการที่ควรจะเป็น
เมื่อเราเป็นเหยื่อของขยะบนท้องถนนพวกนี้ ที่ทำให้เกิด "รถชน" และ "เราไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท"
ซึ่งสมควรที่จะได้รับการชดเชยในสื่งที่เสียหายไปตามกฎหมาย
การเรียกร้องนี้เป็นครั้งแรกของผม ประกอบกับได้เห็นกระทู้สอบถามผ่านๆตาหลายครั้ง จึงขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟัง
ถึงการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ หากตกหล่น ผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
(ปล.ขอบคุณบริษัทประกันภัยฝ่ายจำเลย ที่ช่วยจ่ายแทนจำเลยอย่างเต็มที่ครับ) ฮา
ภาพความเสียหาย
1.หลังจากเกิดเหตุแจ้งประกันฝ่ายเราแล้ว ก็แจ้งตำรวจในพื้นที่ทันที
หลังจากประกันมา หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ก็แจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายที่ประมาท แม้เราจะไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีจราจร
แต่ตามกฎหมายจราจร ผู้ขับขี่ที่ประมาทหวาดเสียวฯ มีโทษทางอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีจราจร เปรียบเทียบปรับผู้ประมาท
แล้วเราก็ขอสำเนา ปจว. ไว้เป็นหลักฐาน
2. "ซ่อมห้างฯเท่านั้น" รถเราควรจะได้รับการซ่อมแซมตามมาตราฐานของสินค้าที่เราซื้อ ไม่ใช่เอาไปตีราคาอู่ข้างทางแล้วเอาราคาอะไหล่เซียงกงมาโมเม
สำหรับผมประกันของผมจ่าย โดยที่ไม่ต้องสำรอง เค้าว่าจะไปเรียกเก็บกับประกันฝ่านโน้น แต่ค่าขาดประโยชน์พี่ต้องเรียกเอง ผมก็โอเค
3.ซ่อมเสร็จก็ติดต่อไปที่ประกันคู่กรณี เค้าบอกว่า "เอาไป 300 พอ" ตีให้ 10วัน เบ็ดเสร็จสามพัน เอาก็เอาไม่เอาก็ไปฟ้องเอง!!
4.โอเค คดีทุนทรัพย์ไม่เกิน3แสน ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่ ไม่มีข้อยุ่งยากชาวบ้านฟ้องเองได้ ฟ้องก็ฟ้อง ส่งหมายไป!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5.ฟ้องแค่คนขับกับเจ้าของรถ ส่วนประกันเป็นนิติกรรมระหว่างเค้า เดี๋ยวเค้าก็เรียกกันเข้ามาเองไม่ต้องลำบากพิมพ์ส่วนนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6.ขอบคุณมาตรา 420
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7.ศาลจะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย จำเลยมีหน้าที่ต้องมาให้การแก้คดีหรือไกล่เกลี่ย อย่างช้าที่สุดในวันนัด
8.สุดท้ายบริษัทประกันของคู่กรณี ติดต่อมาขอเข้าชดใช้แทนจำเลย (ต้องยอมใจเจ้าหน้าที่จริงๆ)
9.ตกลงทำยอม กันที่ 25,000 เจ้าหน้าที่ถือเงินมาชำระ ผมก็โอเคขี้เกียจไปศาล
สุดท้าย ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 8เดือน(เสียเวลาหาข้อมูลไปซะ4เดือน ถถถ) ได้เอาเงิน 25,000 ไปซื้อแอร์เพิ่มอีกตัวแก้อาการหัวร้อนครับ
ขอบคุณครับ
รีวิว เรียกค่าขาดประโยชน์ กรณีรถชน
เป็นธรรมดาของอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด ก็ชน-แลก(ใบเครม)-แยกย้าย กันไป ขอโทษขอโพยกันไป
บางทีคู่กรณีไม่มีจริงๆ ซ่อมเองก็เยอะ ไม่กี่ตัง ไม่กี่พัน ช่างมัน
แต่ทุกวันนี้ การขับรถบนท้องถนนมันยากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อย่างเห็นได้ชัด
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการ "จงใจ" ที่จะประมาท เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้มากที่สุด
ล่าสุดผมจึงได้ "ลอง" ดำเนินการให้ครบถ้วนกระบวนการที่ควรจะเป็น
เมื่อเราเป็นเหยื่อของขยะบนท้องถนนพวกนี้ ที่ทำให้เกิด "รถชน" และ "เราไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท"
ซึ่งสมควรที่จะได้รับการชดเชยในสื่งที่เสียหายไปตามกฎหมาย
การเรียกร้องนี้เป็นครั้งแรกของผม ประกอบกับได้เห็นกระทู้สอบถามผ่านๆตาหลายครั้ง จึงขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟัง
ถึงการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ หากตกหล่น ผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
(ปล.ขอบคุณบริษัทประกันภัยฝ่ายจำเลย ที่ช่วยจ่ายแทนจำเลยอย่างเต็มที่ครับ) ฮา
ภาพความเสียหาย
1.หลังจากเกิดเหตุแจ้งประกันฝ่ายเราแล้ว ก็แจ้งตำรวจในพื้นที่ทันที
หลังจากประกันมา หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ก็แจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายที่ประมาท แม้เราจะไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีจราจร
แต่ตามกฎหมายจราจร ผู้ขับขี่ที่ประมาทหวาดเสียวฯ มีโทษทางอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีจราจร เปรียบเทียบปรับผู้ประมาท
แล้วเราก็ขอสำเนา ปจว. ไว้เป็นหลักฐาน
2. "ซ่อมห้างฯเท่านั้น" รถเราควรจะได้รับการซ่อมแซมตามมาตราฐานของสินค้าที่เราซื้อ ไม่ใช่เอาไปตีราคาอู่ข้างทางแล้วเอาราคาอะไหล่เซียงกงมาโมเม
สำหรับผมประกันของผมจ่าย โดยที่ไม่ต้องสำรอง เค้าว่าจะไปเรียกเก็บกับประกันฝ่านโน้น แต่ค่าขาดประโยชน์พี่ต้องเรียกเอง ผมก็โอเค
3.ซ่อมเสร็จก็ติดต่อไปที่ประกันคู่กรณี เค้าบอกว่า "เอาไป 300 พอ" ตีให้ 10วัน เบ็ดเสร็จสามพัน เอาก็เอาไม่เอาก็ไปฟ้องเอง!!
4.โอเค คดีทุนทรัพย์ไม่เกิน3แสน ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่ ไม่มีข้อยุ่งยากชาวบ้านฟ้องเองได้ ฟ้องก็ฟ้อง ส่งหมายไป!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5.ฟ้องแค่คนขับกับเจ้าของรถ ส่วนประกันเป็นนิติกรรมระหว่างเค้า เดี๋ยวเค้าก็เรียกกันเข้ามาเองไม่ต้องลำบากพิมพ์ส่วนนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6.ขอบคุณมาตรา 420
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7.ศาลจะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย จำเลยมีหน้าที่ต้องมาให้การแก้คดีหรือไกล่เกลี่ย อย่างช้าที่สุดในวันนัด
8.สุดท้ายบริษัทประกันของคู่กรณี ติดต่อมาขอเข้าชดใช้แทนจำเลย (ต้องยอมใจเจ้าหน้าที่จริงๆ)
9.ตกลงทำยอม กันที่ 25,000 เจ้าหน้าที่ถือเงินมาชำระ ผมก็โอเคขี้เกียจไปศาล
สุดท้าย ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 8เดือน(เสียเวลาหาข้อมูลไปซะ4เดือน ถถถ) ได้เอาเงิน 25,000 ไปซื้อแอร์เพิ่มอีกตัวแก้อาการหัวร้อนครับ
ขอบคุณครับ