แม้เกษียณ 60 ปีแล้ว แต่ยังได้ทำงานมีรายได้ต่อ ก็ด้วยรู้จักประมาณ และมองการณ์ไกล

การรักษารายได้ หรืองานไปได้ยาวๆ กับงานเอกชน เป็นเวลามากกว่า 20 ปี ก็ต้องอยู่ในที่เหมาะสม กับค่าจ้างที่เหมาะสม ตามตลาดทั่วไป และพอมองการณ์ไกลออก 

   ผมพึ่งขอเกษียณจากประกันสังคม เมื่ออายุครบ 60 ปีเต็ม วันที่ 1 พ.ค ปีนี้ ก็ได้บำนาญประกันสังคม 4,125 บาทต่อเดือน. แล้วรับเงินก้อนเกษียณจากบริษัท ตามกฏหมายแรงงานเก่า รับเงินเกษียณ 10 เท่าของเงินเดือน ก่อนการประกาศกฏหมายใหม่ รับ 13 เท่าของเงินเดือน เพียง 1 เดือน ทั้งที่ผมรู้อยู่แล้วกฏหมายใหม่จะออก  และรู้ว่าบริษัทเจตนาจะจ้างผมต่อไปเรื่อยๆ  ซึ่งก็เป็นการเสี่ยงการลงทุนอย่างหนึ่งของผม พร้อมกับการได้เพิ่มทุนในหุ้น ที่ผมได้เรียนรู้กับหุ้นถึง 7 ปีมาแล้ว 

   ผมมีเจตนาดังนี้
      เจตนาส่วนหนึ่งเป็นการประหยัดให้กับบริษัท เพราะบริษัทลงทุนเป็นหนี้สร้างโรงงานและออ๊ฟฟิส ในที่ดินตนเอง หลายสิบล้าน
      เจตนาส่วนที่ 2 คือไปใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลจากสิทธิ์ภรรยาข้าราชการบำนาญ เพื่อตรวจโรคระดับลึกระเอียดได้เพิ่มขึ้น จากโรคที่ต้องไปพบแพทย์ทุก 2 เดือน
      เจตนาส่วนที่ 3 คือ เพื่อได้เงินมาชดเชยที่ผมต้องจ่ายให้แม่ที่นอนติดเตียงมา 7 ปีกว่า รวมแล้ว 1 ล้านบาทขึ้น เพื่อผมพอหายใจหายคอได้
      เจตนาส่วนที่ 4 คือถ้าบริษัทเลิกจ้างผมไปเลยจริงๆ  ผมก็จะได้รับแม่มาจากศูนย์ดูแล มาดูแลเองที่บ้าน  เพราะผมมีรายได้โดยแทบไม่ต้องทำงานอยู่นั้นเอง

   ผมจึงบอกเจตนานั้นให้ทราบ ผมจึงขอบริษัทเกษียณจากประกันสังคมและรับเงินก้อน ก่อนกฏหมายแรงงานใหม่จะออก (เพราะถ้าผมขอหลังจากกฏหมายใหม่ออก คงแตกร้าวลึกมาก จนอยู่ร่วมกันไม่ได้ ก็เป็นการมองการณ์ไกลของผมส่วนหนี่ง)

      ระยะแรกทางบริษัทอาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะทางบริษัทมีเจตนาจ้างผมต่อไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ต้องมาเสียเงินก้อนให้ผมก่อนเสียอีก จึงอึดอัดอยู่พักหนึ่ง แต่เพราะงานผมต้องใช้ทักษะโดยเพาะ(ทั้งอาร์ดแวร์ ซอพแวร์ และเน็ตเวิกส์ ของระบบคอมพิวเตอร์) และคงหาคนที่มีความสามารถเท่านี้ ที่สร้างระบบให้กับบริษัทจนสมบูรณ์จากเวลาที่ผ่านมา แต่ผมยอมรับอัดตราเงินเดือนในช่วงกลางๆ และกลายลงมารับต่ำสุดในเวลาที่ผ่านไป ของระดับงานอย่างนี้ได้  ผมและบริษัทจึงต้องทนกับความอิดอัดนั้นไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ 

       แล้วทางบริษัทก็เริ่มเข้าใจผมเพิ่มขึ้น ทำให้กำแพงแห่งความอึดอัดนั้นได้หายไป เมื่อกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ออกมา

ซึ่งผมยังทำงานต่อให้กับทางบริษัท ได้เงินเดือนเท่าเดิมโดยใช้วิธี สัญญาจ้างครั้งละ 4 เดือน ต่อสัญญาใหม่ และทิศทางก็คงจะต่อให้ไปเรื่อยได้อีก เมื่อทางบริษัทยังหาบุคลากร หรือวิธี ที่ค่าจ้างถูกกว่าหรือเท่าเดิม แต่มีประสิทธิ์ภาพเท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิมแต่สามารถดำเนินกิจการไปได้แบบไม่มีปัญหามากได้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่