สวัสดีค่าสาวๆหรือหนุ่มๆที่อยากลองไปแบ็คแพ็คยุโรปทุกคน
วันนี้เราจะมาแบ่งปันข้อมูลการแบ็คแพ็คลุยเดี่ยวของเราสมัยเพิ่งเอ๊าะๆ แต่เปนแบบทยอยลงนะคะ จะพยายามอัพเดททุกวัน
ถ้าเรานึกรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ออก เราจะแทรกให้น้า ^_^
หลังจากที่ไปแบ็คแพ็คและคิดจะทำรีวิวมาตั้งแต่ปี 2016 ก็ไม่ได้เร่งตัวเองว่าจะต้องทำนะ จนเลยมา3ปีเนี้ยยยยย55555
จนช่วงนี้รู้สึกว่า เห้ย ตอนนี้มีคนสนใจแบ็คแพ็คคนเดียวเยอะขึ้นนะ ข้อมูลเราอาจจะเป็นประโยชน์รึเปล่า เผื่อมีคนที่ยังลังเล
มาเจอกระทู้นี้อาจจะกล้าตัดสินใจมากขึ้นรึเปล่า
เส้นทางการแบ็คแพ็คของเราตามนี้เลย
โรม >> ฟลอเรนซ์ >> ซีน่า >> ลา สปีเซีย(หมู่บ้านลูกกวาดริมทะเล) >> มิลาน >> เวนิซ >> มาคเซย์ >> นีซ >> ปอร์โต >> ลิสบอน >> เซียร์ร่า
(Rome > Florence >> Siena >> La Spezia >> Milan >> Venice >> Marseille >> Nice >> Porto >> Lisbon >> Sierra)
(ภาพประกอบแบบคร่าวๆว่าติสแตกแค่ไหน กล้าบินข้ามประเทศสวยๆแบบสเปนไปเลยเนี่ย5555)
หลักๆเราจะนั่งรถไฟนะ ยกเว้นแค่บินจาก เมืองมาคเซย์ ประเทศฝรั่งเศส ไปยัง เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และบินกลับจากลิสบอน ไปยังโรม
++อันนี้สรุปค่าใช้จ่ายๆคร่าวๆให้ก่อนนะ++
ยอมรับเลยตรงๆว่าไปแบบสบายๆ ปลอดภัยแน่นอน ทั้งหมดใช้ไปประมาณ 1xx,xxxบาท และบอกกันตรงๆว่าที่บ้านช่วยออกบางส่วน
- ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-โรม บินตรง ไป-กลับ 31,000 บาท (ชอบบินตรงจ้า ไม่ชอบเปลี่ยนเครื่อง ใครโอกับการเปลี่ยนเครื่องก็ประหยัดได้อีกเป็นหมื่น)
- ค่าเดินทางระหว่างประเทศ 12,000 บาท (รถไฟและเครื่องบิน โลว์คอส)
- ค่าที่พักโรงแรม 1-3ดาว 20คืน 33,000 บาท (ไม่นอนโฮสเทลนะ กลัวของหาย)
- ค่าอาหาร ขนม ซึ่งนับไม่ถ้วน กินเยอะมาก + ค่ารถบัส + ค่าทัวร์ชมเมือง ของเรานับไม่ถ้วนมากๆ เพราะซื้อกินขนมตลอดเวลา (สำหรับคนที่กินปกติ
ซื้อของนิดๆหน่อยๆ คิดว่า 35,000บาทน่าจะพอ แต่เราเกินไปเยอะมากจ้า)
-----------------------------------------------
**พาร์ทนี้ ใครเคยไปคนเดียวเองแล้วข้ามได้เลยจ้า**
อันนี้ขอเกริ่นแนะนำสำหรับคนที่ยังไมเคยไปเองเลยสักครั้ง การที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราจะไปเที่ยวคนเดียว
ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ
ข้อแรกสุดเลย
เราต้องมีความคิดที่ว่าเราอยากไปลองเที่ยวคนเดียวเองดูสักครั้ง
และค่อยค้นหาข้อมูลต่อไปก็ได้ว่าอยากไปประเทศอะไร ไปยังไง อะไรแบบนี้
//ขอแอบบอกนิดนึง เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่สวีเดนตอน 2008-2009 และ ฝึกงานที่ฝรั่งเศสในปี 2014 (เลยได้เที่ยวต่อยุโรปอีก1เดือนกับเพื่อนคนไทย รอติดตามรีวิวได้นะ เป็นทริปเบลเยี่ยม-เนเธอแลนด์-สาธารณรัฐเช็ก-สวิส-สวีเดน)
เพราะฉะนั้นเราจะค่อยข้างคุ้นเคยกับยุโรปและทัศนคติที่ดีต่อประเทศในแถบนี้ //
จำไว้เลย "ไม่มีอะไรน่ากลัวถ้าเราระวังตัว ไม่ไปในที่สุ่มเสี่ยง และมีสติอยู่เสมอ"
++ขั้นตอนการจัดทริปคร่าวๆ++
1)เลือกประเทศ และให้เช็คตั๋วเครื่องบินไปกลับจากไทยในช่งวที่เราจะไปด้วยนะว่าราคานี้ เราโอเคมั้ย
คำถาม: เราควรไปประเทศอะไรบ้างดี?
คำตอบ: ประเทศที่เราอยากไปนั่นแหละ ไปลองหาข้อมูล อ่านรีวิวของคนอื่นดูก่อน ว่าเราอยากไปแนวๆไหน
การเดินทางระหว่างประเทศในยุโรปคือง่ายมาก มีทั้งรถไฟและสายการบินโลว์คอสเยอะแยะมากมาย
มีสองแบบ
A)เลือกประเทศที่ติดๆกันจะได้เก็บทีเดียว
B)เลือกประเทศที่อยากไป แม้จะอยู่ไม่ติดกัน ก็นั่งเครื่องบิน นั่งรถไฟไปได้ (เราทำแบบนี้)
รอบนี้เราเลือกประเทศอิตาลี กับ โปรตุเกส ไว้เป็นหลัก
แต่พอมาดูการเดินทาง เลยติดฝรั่งเศสตอนใต้มานิดหน่อย
2)ดูๆการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศไว้เลย
3)ประมาณจำนวนวันที่จะไป
ตอนนั้นเราว่างงาน และก็พอรู้ว่าประเทศที่จะไปค่าครองชีพไม่สูงมาก เลยอยู่ยาวๆ ไม่อยากรีบ จัดไปเลย21วัน
4)วางแพลนที่แน่นอนว่าจะไปที่ไหนบ้าง อยู่กี่วัน
5)จองที่พัก
เราเป็นคนเปลี่ยนใจบ่อย บางทีก็จะจองที่พักที่ยกเลิกได้ เผื่อว่าวันไหนเปิดเว็บแล้วเจออันที่ดีกว่า ก็จะเปลี่ยน
เราจะจองทั้งแบบยกเลิกไม่ได้ กับยกเลิกได้ปนๆกัน เพื่อที่ว่าตอนขอวีซ่า ทางสถานทูตเค้าจะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้โดดแน่นอน
6)จองตั๋วเครื่องบินไปกลับจากประเทศไทย รวมถึงรถไฟ เครื่องบิน ในการเดินทางระหว่างทริป
บางคนอาจจะไปจองหรือซื้อตั๋วที่นู่นเลยก็ได้นะ แค่บางทีจองล่วงหน้าจะถูกกว่า
7)เตรียมเอกสารขอวีซ่า เราก็เตรียมเอกสารตามที่สถานทูตเค้าขอแหละ
ถ้าไม่มีงานทำ ไปได้มั้ย?
ตอนนั้นเราก็ไม่มีงานทำจ้า แต่กำลังรอผลการขอทุนปริญญาโทในยุโรป (แต่สรุปคือไม่ได้ทุนนะ555)
เราเลยเขียนจดหมายแนบไปว่าเราเป็นใคร ทำอะไรอยู่ โดยเราเขียนว่าเพิ่งออกจากงาน กำลังรอผลทุนอยู่ ตอนนี้อยากเที่ยวเพื่อเก็บประสบการณ์โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง ประมาณนี้ พร้อมแนบสเตตเม้นจากธนาคารที่มียอด90,000บาท อยู่ในนั้น
**สิ่งที่เราคิดว่าค่อนข้างสำคัญในการยื่นวีซ่า**
แผนการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษที่บอกว่าเราจะไปไหนบ้าง แต่เราเป็นคนค่อนข้างวิตกจริต
เราเลยทำในใส่excelไปเลย เขียนว่าแต่ละวันไปไหน นอนที่ไหน แล้วถ้าจะต้องเดินทางไปเมืองอื่น ไปโดยอะไร แถมใส่Booking no.เข้าไปอีก 555
และการมีเงินในจำนวนที่สามารถซัพพอร์ทตัวเองได้ในระหว่างทริป หรืออะไรก็ได้ที่บอกว่าไปเที่ยวบ้านยูแป๊บเดียวนะ ไอไม่ได้จะหนีเข้าเมือง ไอมีหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่ที่ไทย ยังไงไอก็ต้องกลับประเทศไอ อะไรแบบเนี้ย
ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยวตามนี้เลย VVV
โรงแรมที่เราพักส่วนมากคือโอเคเลยนะ ยกเว้นแค่Hotel Gordonที่โรม เพราะแถวนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว
ก็ส่งไปแบบเนี้ย แค่วันครึ่งเท่านั้น มีsmsเข้ามาบอกว่าวีซ่าออกแล้วจ้า อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงที่ค่อยไม่ค่อยเที่ยวด้วยแหละ เลยได้เร็วมากๆ
--------------------------------------------------
**มาเริ่มกันเลยสำหรับคนที่เคยไปเองมาบ้างแล้ว**
++การจัดกระเป๋า++
เนื่องจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศหนาว เลยต้องมีเสื้อโค้ท เสื้อหนาวเยอะแยะมากมาย แต่ด้วยความไม่ชอบเอาของไปเยอะ
เลยยัดของทั้งหมดลงไปใน
1) กระเป๋าเดินทางใบกลาง
2) เป้แบ็คแพ็คยาวๆ
3) กระเป๋ากล้อง (ใส่พวกกระเป๋าสตางค์ด้วย)
ส่วนเสื้อโค้ทใช้ถือขึ้นเครื่องเอา เพราะมันเปลืองที่กระเป๋ามากกก55555
++Tips++
-เรื่องการซักผ้า ถ้าไปนานๆ เราจะไปหยอดตู้ซักผ้าและตู้ปั่นแห้งที่นู่นทุกอาทิตย์ (เอาผงซักฟอกถุงเล็กไป)
-ส่วนพวกเสื้อในกางเกงชั้นใน ถ้าฝนไม่ตก ก็ซักตากในห้องพักได้ไม่มีปัญหา
-กรรไกรตัดเล็บสำคัญมาก ตัดได้ทุกอย่างจ้า
-กระเป๋าถือที่นำไปด้วยควรเปิดหรือถูกกรีดได้"ยากๆ" ส่วนตัวใช้กระเป๋ากล้องแบบเหลี่ยมที่ทำด้วยหนังเลยจ้า มันเปิดยากจริงๆแม้จะเป็นคนใช้เองก็ยังรู้สึกเปิดยาก
-ควรมีสำเนาพาสปอร์ตพกไว้หลายๆที่นะ เผื่อจะได้เอาสำเนายื่นเรื่องในกรณีฉุกเฉิน
-วันที่ต้องเดินทางพร้อมกระเป๋าเดินทางหรือของเยอะๆ พยายามอย่าแต่งตัวสวยเว่อมาก ถ้าจะแต่งตัวสวยแต่งหน้าเต็ม ต้องเอาของไปไว้ที่โรงแรมก่อนนะ ของจะได้ไม่พะรุพะรัง และทำให้พวกมิจฉาชีพไม่เล็งมาที่เราเยอะ
-ห้ามลืมยาดม จำเป็นมากกกก
------------------------------------
โอเค ถ้าพร้อมแล้วเราจะมาอวดรูปคร่าวๆ คือเราตั้งใจถ่ายวิวมาก
มากจนลืมถ่ายรูปตัวเองไปเลย เผื่อใครอยากตามไปเจอวิวแบบนี้
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
:: DAY 1 :: วันแรกที่โรม เจ็ทแล็คจ้า เดินเล่นถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ ก่อนเดินคอพับกลับไปนอนเหี่ยวที่โรงแรม
เราขึ้นไฟล์ท TG944 BKK-FCO ตอนนั้นไฟล์ทนี้ออกจากกรุงเทพ 00.01 ถึง โรมเวลา 05.55 น. เวลาท้องถิ่นอิตาลี ซึ่งช้ากว่าไทยประมาณ5ชม.
คือยังมืดมากและหนาวมาก จากนั้นนั่งรถบัสของสนามบินเข้าเมืองประมาณ1ชม.ครึ่งเพราะรถติดอะไรก็ไม่รู้ งง 5555
(ตอนนั้นเราจองรถบัสจากเว็บแล้วปริ๊นท์จากไทยไปเลยนะ ถึงแล้วก็ยื่นให้เค้าก่อนขึ้นรถ จองขาไปและกลับขากลับจะถูกกว่า)
นั่งรถอยู่นานมาก นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย แดดเริ่มร้อน อบ และแอบเหม็นเต่าตลบอบอวลไปทั้งรถ ยาดมเท่านั้นที่ช่วยคุณได้ อย่าลืมเอาไปปปปป***
โอเค เราลงรถบัสที่สถานีรถไฟหลักแล้วเดินไปโรงแรมแรก
โรงแรมตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ แต่คืออยู่บนเนิน!! ต้องกระชากลากถูกระเป๋าเดินขึ้นไปประมาณ600เมตร พื้นฟุตบาทก็เป็นปุ่มๆอ่ะพวกเธออ
ลำบากโฮกกกก ฉันในวัย24ขอสิราราบบบบแต่ตอนนี้ล้อกระเป๋าเดินทางยังใช้ได้อยู่เลยนะ
ไม่บ่นละดีกว่า เอารูปดูเลยเหอะ เดี๋ยวบ่นมากจะไม่อยากไป
**กล้องที่ใช้ X-M1 (เลนส์แถมมากับกล้อง เพราะไม่มีตังซื้อเลนส์555) และ Xiao Mi Yi(นี่ก็แฟนซื้อให้อีกกก)**
แต่ก็นะ กล้องที่ดี หรือจะสู้แอปแต่งรูปที่ดี555555 แอปโปรดของเรา VSCO นั่งอยู่บนเครื่อง10ชม.ว่างๆก็นั่งฝึกเล่นไปนะ รูปเธอจะดูดี ดูแพง รับรอง!!!!
รูปแถวโรงแรม ก่อนสลบ5555
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
:: DAY 2 :: วันที่สองที่โรม นั่งรถบัสไปวาติกันเลยจ้า ถามข้อมูลฟร้อนที่โรงแรมไว้ แล้วรีบตื่นไปถ่ายรูปแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ
จุดประสงค์ของดิฉันในการไปวาติกัน คือ การไปตามรอยป๋าทอม แฮงค์ จากเรื่อง Angels and Demonsจ้าาา โอ้ยยยย ฟินมากกก
ปล่าวหรอก รสบัสมันจอดแถวๆนี้แล้วบังเอิญเจอพอดี เลยมาถ่ายซะเลย555555
แต่ก่อนอื่น ขอแวะถ่ายรูปกับปราสาท Castel San't Angelo (คาสเทล ซัน ตันเจโล)ก่อนนน นี่ก็เป็นฉากหนึ่งในหนังเหมือนกัน โอ้ย คือเท่ เป็นลมมมม
ที่เห็นโค้งๆนี่คือ ถ่ายด้วยXiao Mi นะ ราคา3,000กว่าบาท คุณภาพโอเคเลย
คราวนี้เปลี่ยนมุมละ ด้วยความติ่ง อยากรู้ว่าด้านในปราสาทจะเหมือนฉากในหนังรึเปล่า ยอมควักเงินประมาณ400กว่าบาทเข้ามาดูข้างใน
เอาตรงๆเลยนะ เฉยๆมาก สำหรับคนไม่ชอบประวัติศาสตร์บ้านเมือง เราไม่อินเลยยยยย 5555555555555
แต่ได้มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ ก็ยังพอไหว แต่สรุปคือไม่เหมือนจ้า เสียใจหนักมากกก T^T
โปรดอย่าถามความเป็นมาของปราสาท จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้!!! เรามันสายเดินถ่ายรูป55555
อ่ะ ไปดูรูปปปปป
มาแต่เช้า แต่ยังไม่ถึงวิหารเซ็นต์ปีเตอร์อันโด่งดังแห่งวาติกันซักที สายๆหน่อยเราก็เดินมาที่วิหาร คือแม่เจ้าาาา คนเยอะมากกกกก
ไม่รู้เค้ามาทำอะไรกันนะ แต่เหมือนเห็นคนใส่ชุดคล้ายๆโป๊บหรือตำแหน่งสูงๆ ขี่จักรยานไฟฟ้าออกมาทักทายประชาชน
[CR] ผู้หญิงอายุ24(เมื่อสามปีที่แล้ว)แบ็คแพ็คยุโรปคนเดียว 21วัน 11เมือง อิตาลี-ฝรั่งเศสตอนใต้-โปรตุเกส //ทยอยลงนานหน่อยนะ//
วันนี้เราจะมาแบ่งปันข้อมูลการแบ็คแพ็คลุยเดี่ยวของเราสมัยเพิ่งเอ๊าะๆ แต่เปนแบบทยอยลงนะคะ จะพยายามอัพเดททุกวัน
ถ้าเรานึกรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ออก เราจะแทรกให้น้า ^_^
หลังจากที่ไปแบ็คแพ็คและคิดจะทำรีวิวมาตั้งแต่ปี 2016 ก็ไม่ได้เร่งตัวเองว่าจะต้องทำนะ จนเลยมา3ปีเนี้ยยยยย55555
จนช่วงนี้รู้สึกว่า เห้ย ตอนนี้มีคนสนใจแบ็คแพ็คคนเดียวเยอะขึ้นนะ ข้อมูลเราอาจจะเป็นประโยชน์รึเปล่า เผื่อมีคนที่ยังลังเล
มาเจอกระทู้นี้อาจจะกล้าตัดสินใจมากขึ้นรึเปล่า
เส้นทางการแบ็คแพ็คของเราตามนี้เลย
โรม >> ฟลอเรนซ์ >> ซีน่า >> ลา สปีเซีย(หมู่บ้านลูกกวาดริมทะเล) >> มิลาน >> เวนิซ >> มาคเซย์ >> นีซ >> ปอร์โต >> ลิสบอน >> เซียร์ร่า
(Rome > Florence >> Siena >> La Spezia >> Milan >> Venice >> Marseille >> Nice >> Porto >> Lisbon >> Sierra)
(ภาพประกอบแบบคร่าวๆว่าติสแตกแค่ไหน กล้าบินข้ามประเทศสวยๆแบบสเปนไปเลยเนี่ย5555)
หลักๆเราจะนั่งรถไฟนะ ยกเว้นแค่บินจาก เมืองมาคเซย์ ประเทศฝรั่งเศส ไปยัง เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และบินกลับจากลิสบอน ไปยังโรม
++อันนี้สรุปค่าใช้จ่ายๆคร่าวๆให้ก่อนนะ++
ยอมรับเลยตรงๆว่าไปแบบสบายๆ ปลอดภัยแน่นอน ทั้งหมดใช้ไปประมาณ 1xx,xxxบาท และบอกกันตรงๆว่าที่บ้านช่วยออกบางส่วน
- ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-โรม บินตรง ไป-กลับ 31,000 บาท (ชอบบินตรงจ้า ไม่ชอบเปลี่ยนเครื่อง ใครโอกับการเปลี่ยนเครื่องก็ประหยัดได้อีกเป็นหมื่น)
- ค่าเดินทางระหว่างประเทศ 12,000 บาท (รถไฟและเครื่องบิน โลว์คอส)
- ค่าที่พักโรงแรม 1-3ดาว 20คืน 33,000 บาท (ไม่นอนโฮสเทลนะ กลัวของหาย)
- ค่าอาหาร ขนม ซึ่งนับไม่ถ้วน กินเยอะมาก + ค่ารถบัส + ค่าทัวร์ชมเมือง ของเรานับไม่ถ้วนมากๆ เพราะซื้อกินขนมตลอดเวลา (สำหรับคนที่กินปกติ
ซื้อของนิดๆหน่อยๆ คิดว่า 35,000บาทน่าจะพอ แต่เราเกินไปเยอะมากจ้า)
-----------------------------------------------
**พาร์ทนี้ ใครเคยไปคนเดียวเองแล้วข้ามได้เลยจ้า**
อันนี้ขอเกริ่นแนะนำสำหรับคนที่ยังไมเคยไปเองเลยสักครั้ง การที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราจะไปเที่ยวคนเดียว
ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ
ข้อแรกสุดเลย เราต้องมีความคิดที่ว่าเราอยากไปลองเที่ยวคนเดียวเองดูสักครั้ง
และค่อยค้นหาข้อมูลต่อไปก็ได้ว่าอยากไปประเทศอะไร ไปยังไง อะไรแบบนี้
//ขอแอบบอกนิดนึง เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่สวีเดนตอน 2008-2009 และ ฝึกงานที่ฝรั่งเศสในปี 2014 (เลยได้เที่ยวต่อยุโรปอีก1เดือนกับเพื่อนคนไทย รอติดตามรีวิวได้นะ เป็นทริปเบลเยี่ยม-เนเธอแลนด์-สาธารณรัฐเช็ก-สวิส-สวีเดน)
เพราะฉะนั้นเราจะค่อยข้างคุ้นเคยกับยุโรปและทัศนคติที่ดีต่อประเทศในแถบนี้ //
จำไว้เลย "ไม่มีอะไรน่ากลัวถ้าเราระวังตัว ไม่ไปในที่สุ่มเสี่ยง และมีสติอยู่เสมอ"
++ขั้นตอนการจัดทริปคร่าวๆ++
1)เลือกประเทศ และให้เช็คตั๋วเครื่องบินไปกลับจากไทยในช่งวที่เราจะไปด้วยนะว่าราคานี้ เราโอเคมั้ย
คำถาม: เราควรไปประเทศอะไรบ้างดี?
คำตอบ: ประเทศที่เราอยากไปนั่นแหละ ไปลองหาข้อมูล อ่านรีวิวของคนอื่นดูก่อน ว่าเราอยากไปแนวๆไหน
การเดินทางระหว่างประเทศในยุโรปคือง่ายมาก มีทั้งรถไฟและสายการบินโลว์คอสเยอะแยะมากมาย
มีสองแบบ
A)เลือกประเทศที่ติดๆกันจะได้เก็บทีเดียว
B)เลือกประเทศที่อยากไป แม้จะอยู่ไม่ติดกัน ก็นั่งเครื่องบิน นั่งรถไฟไปได้ (เราทำแบบนี้)
รอบนี้เราเลือกประเทศอิตาลี กับ โปรตุเกส ไว้เป็นหลัก
แต่พอมาดูการเดินทาง เลยติดฝรั่งเศสตอนใต้มานิดหน่อย
2)ดูๆการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศไว้เลย
3)ประมาณจำนวนวันที่จะไป
ตอนนั้นเราว่างงาน และก็พอรู้ว่าประเทศที่จะไปค่าครองชีพไม่สูงมาก เลยอยู่ยาวๆ ไม่อยากรีบ จัดไปเลย21วัน
4)วางแพลนที่แน่นอนว่าจะไปที่ไหนบ้าง อยู่กี่วัน
5)จองที่พัก
เราเป็นคนเปลี่ยนใจบ่อย บางทีก็จะจองที่พักที่ยกเลิกได้ เผื่อว่าวันไหนเปิดเว็บแล้วเจออันที่ดีกว่า ก็จะเปลี่ยน
เราจะจองทั้งแบบยกเลิกไม่ได้ กับยกเลิกได้ปนๆกัน เพื่อที่ว่าตอนขอวีซ่า ทางสถานทูตเค้าจะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้โดดแน่นอน
6)จองตั๋วเครื่องบินไปกลับจากประเทศไทย รวมถึงรถไฟ เครื่องบิน ในการเดินทางระหว่างทริป
บางคนอาจจะไปจองหรือซื้อตั๋วที่นู่นเลยก็ได้นะ แค่บางทีจองล่วงหน้าจะถูกกว่า
7)เตรียมเอกสารขอวีซ่า เราก็เตรียมเอกสารตามที่สถานทูตเค้าขอแหละ
ถ้าไม่มีงานทำ ไปได้มั้ย?
ตอนนั้นเราก็ไม่มีงานทำจ้า แต่กำลังรอผลการขอทุนปริญญาโทในยุโรป (แต่สรุปคือไม่ได้ทุนนะ555)
เราเลยเขียนจดหมายแนบไปว่าเราเป็นใคร ทำอะไรอยู่ โดยเราเขียนว่าเพิ่งออกจากงาน กำลังรอผลทุนอยู่ ตอนนี้อยากเที่ยวเพื่อเก็บประสบการณ์โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง ประมาณนี้ พร้อมแนบสเตตเม้นจากธนาคารที่มียอด90,000บาท อยู่ในนั้น
**สิ่งที่เราคิดว่าค่อนข้างสำคัญในการยื่นวีซ่า**
แผนการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษที่บอกว่าเราจะไปไหนบ้าง แต่เราเป็นคนค่อนข้างวิตกจริต
เราเลยทำในใส่excelไปเลย เขียนว่าแต่ละวันไปไหน นอนที่ไหน แล้วถ้าจะต้องเดินทางไปเมืองอื่น ไปโดยอะไร แถมใส่Booking no.เข้าไปอีก 555
และการมีเงินในจำนวนที่สามารถซัพพอร์ทตัวเองได้ในระหว่างทริป หรืออะไรก็ได้ที่บอกว่าไปเที่ยวบ้านยูแป๊บเดียวนะ ไอไม่ได้จะหนีเข้าเมือง ไอมีหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่ที่ไทย ยังไงไอก็ต้องกลับประเทศไอ อะไรแบบเนี้ย
ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยวตามนี้เลย VVV
โรงแรมที่เราพักส่วนมากคือโอเคเลยนะ ยกเว้นแค่Hotel Gordonที่โรม เพราะแถวนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว
ก็ส่งไปแบบเนี้ย แค่วันครึ่งเท่านั้น มีsmsเข้ามาบอกว่าวีซ่าออกแล้วจ้า อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงที่ค่อยไม่ค่อยเที่ยวด้วยแหละ เลยได้เร็วมากๆ
--------------------------------------------------
**มาเริ่มกันเลยสำหรับคนที่เคยไปเองมาบ้างแล้ว**
++การจัดกระเป๋า++
เนื่องจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศหนาว เลยต้องมีเสื้อโค้ท เสื้อหนาวเยอะแยะมากมาย แต่ด้วยความไม่ชอบเอาของไปเยอะ
เลยยัดของทั้งหมดลงไปใน
1) กระเป๋าเดินทางใบกลาง
2) เป้แบ็คแพ็คยาวๆ
3) กระเป๋ากล้อง (ใส่พวกกระเป๋าสตางค์ด้วย)
ส่วนเสื้อโค้ทใช้ถือขึ้นเครื่องเอา เพราะมันเปลืองที่กระเป๋ามากกก55555
++Tips++
-เรื่องการซักผ้า ถ้าไปนานๆ เราจะไปหยอดตู้ซักผ้าและตู้ปั่นแห้งที่นู่นทุกอาทิตย์ (เอาผงซักฟอกถุงเล็กไป)
-ส่วนพวกเสื้อในกางเกงชั้นใน ถ้าฝนไม่ตก ก็ซักตากในห้องพักได้ไม่มีปัญหา
-กรรไกรตัดเล็บสำคัญมาก ตัดได้ทุกอย่างจ้า
-กระเป๋าถือที่นำไปด้วยควรเปิดหรือถูกกรีดได้"ยากๆ" ส่วนตัวใช้กระเป๋ากล้องแบบเหลี่ยมที่ทำด้วยหนังเลยจ้า มันเปิดยากจริงๆแม้จะเป็นคนใช้เองก็ยังรู้สึกเปิดยาก
-ควรมีสำเนาพาสปอร์ตพกไว้หลายๆที่นะ เผื่อจะได้เอาสำเนายื่นเรื่องในกรณีฉุกเฉิน
-วันที่ต้องเดินทางพร้อมกระเป๋าเดินทางหรือของเยอะๆ พยายามอย่าแต่งตัวสวยเว่อมาก ถ้าจะแต่งตัวสวยแต่งหน้าเต็ม ต้องเอาของไปไว้ที่โรงแรมก่อนนะ ของจะได้ไม่พะรุพะรัง และทำให้พวกมิจฉาชีพไม่เล็งมาที่เราเยอะ
-ห้ามลืมยาดม จำเป็นมากกกก
------------------------------------
โอเค ถ้าพร้อมแล้วเราจะมาอวดรูปคร่าวๆ คือเราตั้งใจถ่ายวิวมาก
มากจนลืมถ่ายรูปตัวเองไปเลย เผื่อใครอยากตามไปเจอวิวแบบนี้
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
:: DAY 1 :: วันแรกที่โรม เจ็ทแล็คจ้า เดินเล่นถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ ก่อนเดินคอพับกลับไปนอนเหี่ยวที่โรงแรม
เราขึ้นไฟล์ท TG944 BKK-FCO ตอนนั้นไฟล์ทนี้ออกจากกรุงเทพ 00.01 ถึง โรมเวลา 05.55 น. เวลาท้องถิ่นอิตาลี ซึ่งช้ากว่าไทยประมาณ5ชม.
คือยังมืดมากและหนาวมาก จากนั้นนั่งรถบัสของสนามบินเข้าเมืองประมาณ1ชม.ครึ่งเพราะรถติดอะไรก็ไม่รู้ งง 5555
(ตอนนั้นเราจองรถบัสจากเว็บแล้วปริ๊นท์จากไทยไปเลยนะ ถึงแล้วก็ยื่นให้เค้าก่อนขึ้นรถ จองขาไปและกลับขากลับจะถูกกว่า)
นั่งรถอยู่นานมาก นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย แดดเริ่มร้อน อบ และแอบเหม็นเต่าตลบอบอวลไปทั้งรถ ยาดมเท่านั้นที่ช่วยคุณได้ อย่าลืมเอาไปปปปป***
โอเค เราลงรถบัสที่สถานีรถไฟหลักแล้วเดินไปโรงแรมแรก
โรงแรมตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ แต่คืออยู่บนเนิน!! ต้องกระชากลากถูกระเป๋าเดินขึ้นไปประมาณ600เมตร พื้นฟุตบาทก็เป็นปุ่มๆอ่ะพวกเธออ
ลำบากโฮกกกก ฉันในวัย24ขอสิราราบบบบแต่ตอนนี้ล้อกระเป๋าเดินทางยังใช้ได้อยู่เลยนะ
ไม่บ่นละดีกว่า เอารูปดูเลยเหอะ เดี๋ยวบ่นมากจะไม่อยากไป
**กล้องที่ใช้ X-M1 (เลนส์แถมมากับกล้อง เพราะไม่มีตังซื้อเลนส์555) และ Xiao Mi Yi(นี่ก็แฟนซื้อให้อีกกก)**
แต่ก็นะ กล้องที่ดี หรือจะสู้แอปแต่งรูปที่ดี555555 แอปโปรดของเรา VSCO นั่งอยู่บนเครื่อง10ชม.ว่างๆก็นั่งฝึกเล่นไปนะ รูปเธอจะดูดี ดูแพง รับรอง!!!!
รูปแถวโรงแรม ก่อนสลบ5555
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
:: DAY 2 :: วันที่สองที่โรม นั่งรถบัสไปวาติกันเลยจ้า ถามข้อมูลฟร้อนที่โรงแรมไว้ แล้วรีบตื่นไปถ่ายรูปแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ
จุดประสงค์ของดิฉันในการไปวาติกัน คือ การไปตามรอยป๋าทอม แฮงค์ จากเรื่อง Angels and Demonsจ้าาา โอ้ยยยย ฟินมากกก
ปล่าวหรอก รสบัสมันจอดแถวๆนี้แล้วบังเอิญเจอพอดี เลยมาถ่ายซะเลย555555
แต่ก่อนอื่น ขอแวะถ่ายรูปกับปราสาท Castel San't Angelo (คาสเทล ซัน ตันเจโล)ก่อนนน นี่ก็เป็นฉากหนึ่งในหนังเหมือนกัน โอ้ย คือเท่ เป็นลมมมม
ที่เห็นโค้งๆนี่คือ ถ่ายด้วยXiao Mi นะ ราคา3,000กว่าบาท คุณภาพโอเคเลย
คราวนี้เปลี่ยนมุมละ ด้วยความติ่ง อยากรู้ว่าด้านในปราสาทจะเหมือนฉากในหนังรึเปล่า ยอมควักเงินประมาณ400กว่าบาทเข้ามาดูข้างใน
เอาตรงๆเลยนะ เฉยๆมาก สำหรับคนไม่ชอบประวัติศาสตร์บ้านเมือง เราไม่อินเลยยยยย 5555555555555
แต่ได้มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ ก็ยังพอไหว แต่สรุปคือไม่เหมือนจ้า เสียใจหนักมากกก T^T
โปรดอย่าถามความเป็นมาของปราสาท จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้!!! เรามันสายเดินถ่ายรูป55555
อ่ะ ไปดูรูปปปปป
มาแต่เช้า แต่ยังไม่ถึงวิหารเซ็นต์ปีเตอร์อันโด่งดังแห่งวาติกันซักที สายๆหน่อยเราก็เดินมาที่วิหาร คือแม่เจ้าาาา คนเยอะมากกกกก
ไม่รู้เค้ามาทำอะไรกันนะ แต่เหมือนเห็นคนใส่ชุดคล้ายๆโป๊บหรือตำแหน่งสูงๆ ขี่จักรยานไฟฟ้าออกมาทักทายประชาชน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้