สวัสดีค่า วันนี้เราอยากมาเล่าประสบการณ์การไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 6 เดือน เผื่อมีใครสนใจอยากไปเรียนแบบเราจะได้มีไกด์ไลน์นำทางได้ค่ะ
เราตัดสินใจไปเรียนภาษาตอนอายุ 27 ปี ลาออกจากที่ทำงานประจำตอนทำได้ครบสามปีพอดี อยากจะไปเปิดโลกลองพัฒนาทักษะทางด้านภาษาดูบ้าง โดยเราติดต่อเอเจนซี่ชื่อ พี่หยก แต่ตอนนี้บริษัทเขาปิดทำการไป แล้วโดยพี่หยกจะจัดการเรื่องขอวีซ่าทั้งหลายแหล่ให้กับเรา
ขั้นตอนก็คล้ายกับตอนไปW&Tเลย คือเตรียมเอกสารการเงินของสปอนเซอร์ ใบเกรด ใบรับรองการทำงานแล้วก็ไปตรวจร่างกายที่รพ.กรุงเทพ รายละเอียดตรงนี้พี่หยกจะเเจ้งให้เราทราบอย่างละเอียดค่ะ
ใบนี้คือค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าและค่าเล่าเรียนทั้งหมดกับทางเอเจนซี่ค่ะ(ไม่รวมค่าที่พักเด้ออ)
การไปเรียนที่ออสเตรเลียนั้นไม่ต้องสัมภาษณ์วีซ่าแบบอเมริกา คือเราแค่ส่งเอกสารไปและทางสถานทูตเขาจะโทรมาแจ้งเองว่าผ่านหรือไม่ผ่านค่ะ โดยเราเลือกเรียนที่รร.Langports เมืองBrisbane ค่ะ โดยเมืองนี้ก็จะเงียบๆหน่อยเหมาะกับการเรียนโดยแท้จริง ไม่มีผับ บาร์เยอะเท่ากับซิดนีย์และเมลเบิร์นแต่บางทีก็แอบรู้สึกว่าเมืองนี้น่าเบื่ออยู่เหมือนกัน5555
ที่นี่จะมีระบบขนส่งสาธารณะคือ รถไฟกับรถบัส (อูเบอร์กับไลม์ไม่นับรวมนะเพราะค่อนข้างแพง) ทุกคนต้องมีบัตร Go Card ถึงจะสามารถขึ้นรถไฟและรถบัสได้ค่ะ อีกอย่างรถบัสที่นี่ไม่เหมือนรถเมล์ที่ไทยคือ ระหว่างทางจะจอดเเค่บางป้ายตามเวลาเท่านั้น จึงต้องตรวจดูตารางรถให้ดีก่อนจะขึ้นรถค่ะ ธรรมเนียมของที่นี่คือเวลาจะขึ้นรถต้องเซย์ฮัลโหลกับคนขับ และพอตอนลงรถต้องบอกว่า Thank you ถือเป็นมารยาทพื้นฐานของที่นี่เลยค่ะ(แอบบอกนิดนึงรถไฟฟ้าที่นี่ราคาถูกกว่ารถบัสอีกอ่ะ)
นี่คือหน้าตาของบัตร Go Card ค่ะ ใช้ได้ทั้งกับรถไฟและรถบัส
มาถึงเรื่องโรงเรียนเราไม่ผิดหวังเลยที่เลือกเรียนที่ Langports เพราะครูสอนดีและเอาใจใส่เด็กมากๆ เข้าไปตอนแรกเขาจะให้ใบประกันสุขภาพมา และให้บัตรนักเรียนเรามา โดยจะมีแอปพลิเคชั่นของโรงเรียนให้เราคอยเช็กตารางเรียน ว่าเราเรียนห้องไหนกับครูคนใด
ตรงนี้จะเป็นส่วนของการเช็กเวลาเข้าเรียนและจำนวนครอสเรียนที่เหลือของแอปนี้ โดย Attendance อันกลางสำคัญมาก ถ้าต่ำกว่า 80% ทางรร.จะแจ้งไปยังimmigration ว่าเราโดดเรียนประมาณนี้ เขาก็จะส่งตัวเรากลับบ้านค่ะ
อันนี้คือเปิดมาในแอปและกรอกรหัสนักเรียนของเราลงไป มันจะมีตารางอัพเดตแต่ละวันว่าวันนี้เรียนห้องไหน เวลาใด กับครูชื่ออะไร
นี่คือหน้าตาของบัตรประกันสุขภาพที่ทางโรงเรียนออกให้ค่ะ
นี่คือหน้าตาของบัตรนักเรียนค่ะ
[SR] รีวิวการเรียนภาษาปี2019 ที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย 6 เดือนค่ะ
เราตัดสินใจไปเรียนภาษาตอนอายุ 27 ปี ลาออกจากที่ทำงานประจำตอนทำได้ครบสามปีพอดี อยากจะไปเปิดโลกลองพัฒนาทักษะทางด้านภาษาดูบ้าง โดยเราติดต่อเอเจนซี่ชื่อ พี่หยก แต่ตอนนี้บริษัทเขาปิดทำการไป แล้วโดยพี่หยกจะจัดการเรื่องขอวีซ่าทั้งหลายแหล่ให้กับเรา
ขั้นตอนก็คล้ายกับตอนไปW&Tเลย คือเตรียมเอกสารการเงินของสปอนเซอร์ ใบเกรด ใบรับรองการทำงานแล้วก็ไปตรวจร่างกายที่รพ.กรุงเทพ รายละเอียดตรงนี้พี่หยกจะเเจ้งให้เราทราบอย่างละเอียดค่ะ
ใบนี้คือค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าและค่าเล่าเรียนทั้งหมดกับทางเอเจนซี่ค่ะ(ไม่รวมค่าที่พักเด้ออ)
การไปเรียนที่ออสเตรเลียนั้นไม่ต้องสัมภาษณ์วีซ่าแบบอเมริกา คือเราแค่ส่งเอกสารไปและทางสถานทูตเขาจะโทรมาแจ้งเองว่าผ่านหรือไม่ผ่านค่ะ โดยเราเลือกเรียนที่รร.Langports เมืองBrisbane ค่ะ โดยเมืองนี้ก็จะเงียบๆหน่อยเหมาะกับการเรียนโดยแท้จริง ไม่มีผับ บาร์เยอะเท่ากับซิดนีย์และเมลเบิร์นแต่บางทีก็แอบรู้สึกว่าเมืองนี้น่าเบื่ออยู่เหมือนกัน5555
ที่นี่จะมีระบบขนส่งสาธารณะคือ รถไฟกับรถบัส (อูเบอร์กับไลม์ไม่นับรวมนะเพราะค่อนข้างแพง) ทุกคนต้องมีบัตร Go Card ถึงจะสามารถขึ้นรถไฟและรถบัสได้ค่ะ อีกอย่างรถบัสที่นี่ไม่เหมือนรถเมล์ที่ไทยคือ ระหว่างทางจะจอดเเค่บางป้ายตามเวลาเท่านั้น จึงต้องตรวจดูตารางรถให้ดีก่อนจะขึ้นรถค่ะ ธรรมเนียมของที่นี่คือเวลาจะขึ้นรถต้องเซย์ฮัลโหลกับคนขับ และพอตอนลงรถต้องบอกว่า Thank you ถือเป็นมารยาทพื้นฐานของที่นี่เลยค่ะ(แอบบอกนิดนึงรถไฟฟ้าที่นี่ราคาถูกกว่ารถบัสอีกอ่ะ)
นี่คือหน้าตาของบัตร Go Card ค่ะ ใช้ได้ทั้งกับรถไฟและรถบัส
มาถึงเรื่องโรงเรียนเราไม่ผิดหวังเลยที่เลือกเรียนที่ Langports เพราะครูสอนดีและเอาใจใส่เด็กมากๆ เข้าไปตอนแรกเขาจะให้ใบประกันสุขภาพมา และให้บัตรนักเรียนเรามา โดยจะมีแอปพลิเคชั่นของโรงเรียนให้เราคอยเช็กตารางเรียน ว่าเราเรียนห้องไหนกับครูคนใด
ตรงนี้จะเป็นส่วนของการเช็กเวลาเข้าเรียนและจำนวนครอสเรียนที่เหลือของแอปนี้ โดย Attendance อันกลางสำคัญมาก ถ้าต่ำกว่า 80% ทางรร.จะแจ้งไปยังimmigration ว่าเราโดดเรียนประมาณนี้ เขาก็จะส่งตัวเรากลับบ้านค่ะ
อันนี้คือเปิดมาในแอปและกรอกรหัสนักเรียนของเราลงไป มันจะมีตารางอัพเดตแต่ละวันว่าวันนี้เรียนห้องไหน เวลาใด กับครูชื่ออะไร
นี่คือหน้าตาของบัตรประกันสุขภาพที่ทางโรงเรียนออกให้ค่ะ
นี่คือหน้าตาของบัตรนักเรียนค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้