จขกท กำลังถูกข่มขู่ทางอารมณ์ค่ะ  หรือที่เรียก emotional blackmail ทั้งนี้การจัดการ ต้องไม่มองแค่อีกฝ่ายต้องปรับ เพื่อให้เราสบายใจขึ้น

แต่ต้องเริ่มที่ตัวเราเอง  ย้อนกลับมามองคิดว่า อะไรทำให้เราเป็นผู้ถูกข่มขู่ เช่น ความรู้สึกว่า

-  เราควร.... (ตย. เราเป็นแฟนควรดูแลเขามากกว่านี้.... , เป็นแฟนกันควรอยู่ใกล้กัน....ฯลฯ)
-  เพราะเรา (ตย. ถ้าไม่ใช่เพราะรักเรา เขาคง.... , เพราะฉันอยู่ไกล เขาจึง ...)

ความรู้สึกที่ไม่มั่นคงทางใจ รู้สึกผิดเป็นนิสัย ไม่เห็นคุณค่าตัวเอง แคร์ความคิดคนอื่น ใส่ใจมาก หรือ ต้องการเป็นคนดี คือ การดื้อ/ต่อต้าน ทำให้รู้สึกผิด และถูกว่าดื้อรั้น หรือ ไม่รู้คุณกตัญญู ไม่สำนึกถึงสิ่งดีๆที่อีกฝ่ายทำให้  เมื่อไม่ต้องการเกิดภาพลักษณ์แบบนั้นกับตน จึงวางท่าทีเป็นคนดีที่เชื่อฟัง

ก็จะนำไปสู่ความรู้สึก การยินยอมเป็นผู้ถูกข่มขู่ และสร้างรูปแบบความสัมพันธ์นี้ขึ้นมา โดยคนที่ขู่ และถูกขู่ ก็ไม่รู้ตัวว่า กำลังเข้าวนลูปอุบาทว์ คือ

เรียกร้อง - เขาต้องการบางอย่างจากคุณ

ต่อต้าน - เขาไม่ยอมรับความคิดที่ไม่ถูกใจเขา

กดดัน - เขาจะยกเรื่องมาให้คุณรู้สึกผิด ด้อยค่า สั่นคลอนในการตัดสินใจ

ข่มขู่ - ตั้งแต่เพิกเฉย ด่าทอ ทำร้ายตัวเขาเอง จนถึงจะฆ่าตัวตาย ถ้าคุณไม่ยอม

ยอมจำนน - คุณเกิดความรู้สึกบางอย่างว่า ฉันคงต้องทำอย่างเขาว่า มันไม่มีทางเลือกแล้ว เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น

และวนลูปเกิดซ้ำซาก  

สุดท้ายความเสถียรสมดุลก็จะหายไป และความชินชา ไม่เห็นคุณค่าต่อกันจะเข้ามาแทนที่

ทางจัดการนะ พยายามคืนความเสถียรทางอารมณ์และความสัมพันธให้กลับมาค่ะ สร้างขอบเขตการรับผิดชอบต่ออารมณ์ให้ชัดเจน ความรับผิดชอบอารมณ์ของเราเป็นของตัวเรา ความรับผิดชอบอารมณ์ของเขาเป็นของตัวเขา  อย่ากลัวการถูกมองไม่ดีในความสัมพันธ์ และอย่าคาดโทษต่อตนเองจนเป็นนิสัยค่ะ

ควรพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อให้ช่วยนำพาคุณออกจากความรู้สึกผิดจากการถูก emotional blackmail นะคะ ที่ต่างประเทศน่าจะเข้าถึงได้ไม่ยากน่ะ

แม่เค้ายังไม่สนใจเลย แล้วเราจะไปสนใจทำไม
เรามีอนาคตที่ดี ไม่ควรทำมันพังนะ
พ่อแม่เราก็มี ถ้าเราจะไม่เรียน ไม่ทำงาน กลับเมืองไทย เพราะผู้ชายไม่รู้จักโต  พ่อแม่เราจะรู้สึกยังไง
มัวแต่ห่วงผู้ชายประสาทอยู่นั่นแหละ
เค้าฆ่าตัวตายก็บาปของเค้า ไม่ใช่บาปของเรา
ทำบุญกรวดน้ำไปให้ทุกวันพระ ก็พอนะ

คนเป็นโรคซึมเศร้านี่เขาจะเอาการตายไปข่มขู่คนอื่นเหรอ
เท่าที่ฟังไม่เคยได้ยินนะ ส่วนใหญ่จะไม่ใช่มาข่มขู่ว่าจะตายแล้ว

เราว่าถ้ายังเป็นแค่แฟน แต่ดันมามีสิทธิ์มาสั่งให้เรียนจบแล้วรีบ ๆ กลับ เป็นคนออกเงินให้จขกท.มาเรียนเหรอ?
ส่วนตัวเราว่า แบบนี้ขาดการติดต่อไปค่ะ เพราะเขาคุยกับจขกท.ได้ เขาถึงได้กล้าบอกว่าเขาจะทำแบบโน้นแบบนี้
ปัญหาคือ ถ้าเขาไม่ได้บอกจขกท.ว่า ฉันจะตายให้ดู จขกท.ไม่ได้รับรู้ เราว่าเขาก็ไม่น่าจะกล้าฆ่าตัวตายนะคะ
แล้วอีกอย่างบอกตามตรง จขกท.รักตัวเองให้มาก ๆ ดีกว่าค่ะ
เราว่า ถ้าเจอแบบที่เล่ามา มาก ๆ เข้า จขกท.นั่นแหล่ะที่จะกลายเป็นซึมเศร้าไปแทน