เพลงใหม่สุดหวานตามฉบับคนมีความรักจากสาว Taylor Swift "Lover"
ว่าที่เพลงงานแต่งงาน 2019 หวานจนน้ำตาลเรียกพี่
Single ใหม่จาก Studio Album ที่7 ของสาวสวยมากความสามารถ Taylor Swift โดยเพลงสุดโรแมนติกนี้ นับเป็น single ที่3 ที่สามจากอัลบั้มนี้ และยังใช้ชื่อ Lover ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มอีกด้วย (ไม่นับ Archer เพราะจะไม่ถูกตัดเป็น singleนะคะ)
เริ่มเข้าสู่ท่อนแรกของเพลงสาวเทย์จะพาคุณย้อนอดีตไปกับดนตรีสไตล์ย้อนยุค บวกกับแนวการร้องที่มีกลิ่นอายของบัลลาสต์ อาจจะทำให้ใครหลายคน หวนคิดถึงอัลบั้มยุคคันทรี่ของเธอ
แน่นอนว่าทำให้แฟนๆยุคเก่าของเธอ หายคิดถึงแนวดนตรีนี้ได้เช่นกัน
หลังจากจบดนตรีนำเทย์เลอร์ก็สาดความหวานใส่คนฟังไม่ยั้ง จนหูฟังอาจกลายเป็นน้ำตาลได้
ทุกๆประโยคที่กลั่นกรองออกมาเป็นเนื้อร้อง
มันมีแต่ความรักเจอปนอยู่เต็มไปหมด
ท่องที่ตอกย้ำว่านี่คือเพลงของคนที่ตกหลุมรักคนๆหนึ่งจนหมดหัวใจ คงหนีไม่พ้น ท่อนที่ร้องว่า
"Can I go where you go? Can we always be this close forever and ever?
And ah, take me out, and take me home.
You're my lover.
ยอมแล้วววววว ขนาดคนที่ไม่มีความรักมาฟัง ยังรู้สึกเขินไปด้วยเลย เจอแบบนี้
ยังนะคะ เทย์เลอร์ยังพาคุณดำดิ่งสู่ห้วงของคนมีความรักได้อีก เธอบอกว่าความรักของเธอครั้งนี้มัน Overdramatic กันเลยทีเดียว
นี่ไม่ได้ว่าเทย์เลอร์นะ เพราะเธอบอกเอง
กับที่ร้องว่า "Swear to be overdramatic and true to my lover" อ่ะเชื่อหรือยัง
ฟังเพลงนี้จบใครไม่ยิ้ม ไม่เขินก็บ้าแล้ว สำหรับเพลงนี้ ให้ไปเลย 10/10 ชอบดนตรีและการร้องเเบบนี้มากๆ มันทำให้ Taylor ได้งัดเทคนิคการร้องมาใช้มากขึ้น เชื่อว่าหลังจากฟังเพลงนี้จบ หลายคนอาจกำลังนึกภาพตัวเองยืนเต้นรำกับใครสักคนหนึ่งแล้วยิ้มให้กันด้วยความรักแน่นอน
[CR] รีวิว Single "Lover" ว่าที่เพลงงานแต่งแห่งยุค2019จากสาว Taylor Swift (แบบฉบับSwifties)
ว่าที่เพลงงานแต่งงาน 2019 หวานจนน้ำตาลเรียกพี่
Single ใหม่จาก Studio Album ที่7 ของสาวสวยมากความสามารถ Taylor Swift โดยเพลงสุดโรแมนติกนี้ นับเป็น single ที่3 ที่สามจากอัลบั้มนี้ และยังใช้ชื่อ Lover ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มอีกด้วย (ไม่นับ Archer เพราะจะไม่ถูกตัดเป็น singleนะคะ)
เริ่มเข้าสู่ท่อนแรกของเพลงสาวเทย์จะพาคุณย้อนอดีตไปกับดนตรีสไตล์ย้อนยุค บวกกับแนวการร้องที่มีกลิ่นอายของบัลลาสต์ อาจจะทำให้ใครหลายคน หวนคิดถึงอัลบั้มยุคคันทรี่ของเธอ
แน่นอนว่าทำให้แฟนๆยุคเก่าของเธอ หายคิดถึงแนวดนตรีนี้ได้เช่นกัน
หลังจากจบดนตรีนำเทย์เลอร์ก็สาดความหวานใส่คนฟังไม่ยั้ง จนหูฟังอาจกลายเป็นน้ำตาลได้
ทุกๆประโยคที่กลั่นกรองออกมาเป็นเนื้อร้อง
มันมีแต่ความรักเจอปนอยู่เต็มไปหมด
ท่องที่ตอกย้ำว่านี่คือเพลงของคนที่ตกหลุมรักคนๆหนึ่งจนหมดหัวใจ คงหนีไม่พ้น ท่อนที่ร้องว่า
"Can I go where you go? Can we always be this close forever and ever?
And ah, take me out, and take me home.
You're my lover.
ยอมแล้วววววว ขนาดคนที่ไม่มีความรักมาฟัง ยังรู้สึกเขินไปด้วยเลย เจอแบบนี้
ยังนะคะ เทย์เลอร์ยังพาคุณดำดิ่งสู่ห้วงของคนมีความรักได้อีก เธอบอกว่าความรักของเธอครั้งนี้มัน Overdramatic กันเลยทีเดียว
นี่ไม่ได้ว่าเทย์เลอร์นะ เพราะเธอบอกเอง
กับที่ร้องว่า "Swear to be overdramatic and true to my lover" อ่ะเชื่อหรือยัง
ฟังเพลงนี้จบใครไม่ยิ้ม ไม่เขินก็บ้าแล้ว สำหรับเพลงนี้ ให้ไปเลย 10/10 ชอบดนตรีและการร้องเเบบนี้มากๆ มันทำให้ Taylor ได้งัดเทคนิคการร้องมาใช้มากขึ้น เชื่อว่าหลังจากฟังเพลงนี้จบ หลายคนอาจกำลังนึกภาพตัวเองยืนเต้นรำกับใครสักคนหนึ่งแล้วยิ้มให้กันด้วยความรักแน่นอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้