เห็นว่าไม่ค่อยมีใครแชร์ ก็เลยอยากแชร์ประการณ์ของเรา เราใส่ Splint มาเป็นครั้งที่ 2 แล้วนะคะ
ครั้งแรกคือก่อนหน้านี้ประมาน 8-9 ปีที่แล้ว เราอยากจัดฟัน เพราะฟันเหยิน รวมทั้งเป็นคนนอนกัดฟัน เวลาเครียด
และมีปัญหาจะอ้าปากกว้างไม่ได้สุด หากพยายามอ้าปากกว้างๆจะมีเสียงคลิก และปวดที่ขากรรไกร
(จริงๆเสียงจะประมาน "ก็อก !" แล้วตอนที่อ้าปากแล้วมีเสียงนี้ เราทำเล่นบ่อยมาก ทำไปให้คนนู้น คนนี้ฟัง จริงๆไม่ควรทำเล่นบ่อยๆนะคะ)
จากนั้น เราไปหาหมอฟัน ที่รพ.แถวรังสิต (คลีนิคนอกเวลาราชการ) เพื่อจัดฟัน แต่หมอบอกว่าต้องรักษาขากรรไกรก่อน
ไม่งั้นจัดฟันไม่ได้ (ตอนอ้าปากให้หมอฟังเสียงคลิก พยาบาลยังตกใจว่าเสียงคลิกดังมาก)
ต้องพิมพ์ฟัน เพื่อทำSplint หรือเฝือกสบฟัน (จำราคาตอนนั้นไม่ได้นะคะ แต่น่าจะ 2-3,000 บาท)
Splint นี่ทำจากอะครีลิคแข็งๆใสๆ นะคะ ช่วงแรกให้ใส่เกือบตลอดเวลา ก็จะมีน้ำลายยืดบ้าง ตอนหลังก็ใส่แต่ตอนนอน จะมีนัดพบหมอทุกเดือน
เพื่อปรับSplint จำได้ว่าใส่อยู่ประมาน 1 ปี ประมานนี้ค่ะ และก็ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณขากรรไกรบ่อยๆด้วย อย่างเวลาหาวก็ต้องเกร็งปากนะคะ จะอ้าปากกว้างไม่ได้ เดี๋ยวจะมีเสียงคลิก จากนั้นก็ดีขึ้น ไม่มีเสียงคลิกแล้ว
หลังจากเราก็ได้จัดฟันค่ะ ช่วงที่จัดฟันก็ยังนอนกัดฟันอยู่ บางครั้งสะดุ้งตื่น เพราะกัดฟันแรง
พอจัดฟันเสร็จ (จัดฟัน 2 ปี) ช่วงที่ใส่รีเทรนเนอร์แรกๆ เราก็มีนอนกัดฟันบ้าง ก็แจ้งคุณหมอ ว่าอยากใส่ Splint อีก
แต่คุณหมอบอกว่าให้ใส่รีเทรนเนอร์ไปก่อน กลัวฟันมีปัญหา
(ระหว่างช่วงหลังดัดฟันเสร็จนี้ ก็ยังมีปัญหาขากรรไกรอยู่บ้าง แต่ไม่มีเสียงคลิกแล้ว อย่างตอนที่หาหมอฟันทั่วไป
เพื่อขูดหินปูน เราต้องบอกหมอก่อนเลยว่า เราอ้าปากนานไม่ได้ จะปวดกราม และกลัวกรามล็อค ต้องขอพักเป็นช่วงๆ หมอก็เข้าใจค่ะ )
จนครั้งที่สอง คือเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ (ประมาน 5 ปีหลังดัดฟันเสร็จ) ช่วงนั้นเรามีปัญหาสุขภาพ แล้วเครียด นอนกัดฟันแบบไม่รู้ตัว
(บางครั้งรู้สึกตัวนะคะ แบบได้ยินเสียงกัดฟันก็เลยตื่น)
จนตื่นเช้ามาจะรู้สึกเลยว่า ปวดกรามและปวดหัว ซึ่งปกติไม่เคยเป็นถึงขนาดปวดหัวแบบนี้เลย เป็นอยู่ 4-5 วัน
ก็เลยกลับไปหาหมอที่มธ.เหมือนเดิม โทรนัดคุณหมอท่านเดิม ก็ขอให้หมอทำ Splint ให้ บอกหมอว่ามันปวดขึ้นมาก จนปวดหัว
ตอนแรกหมอก็ลังเลเหมือนจะไม่ทำให้ เพราะประวัติเก่าเราก็ไม่มีแล้ว แต่พอหมอเช็คฟันให้ ก็บอกว่า ฟันเริ่มสึกนิดนึงแล้ว (ผลจากการนอนกัดฟัน)
หมอก็เลยให้ทำ จากนั้นก็พิมพ์ฟัน (วันแรกค่าหมอ+พิมพ์ฟัน 650 บาท) รออีกประมาน 10 วัน ก็ไปรับ Splint
( ราคา Splint 4,000 บาท + ค่าหมอ 150 บาท จนท.จะแจ้งราคาเราตั้งแต่วันแรกนะคะ )
ตอนหมอลองให้นี่คือ แน่นมาก น้ำตาจะไหล ถอดยากมากยิ่งกว่ารีเทรนเนอร์
คุณหมอให้ใส่ตอนนอนแทนรีเทรนเนอร์ฟันบนไปเลย ส่วนฟันล่างก็ใส่รีเทรนเนอร์เหมือนเดิม หมอนัดครั้งต่อไปอีก 6 เดือนเลย
ตอนใส่วันแรกๆนี่ ตอนถอดรู้สึกเจ็บ ถอดยากมากเหมือนฟันจะหลุดออกมาด้วยเลย เพราะตอนนอนกัดฟันทำให้ Splint แน่นขึ้นไปอีก
ตอนนี้ก็ใส่มาได้ 4 เดือน ก็ใส่/ถอดง่ายขึ้น แล้วก็ไม่ปวดหัวตอนตื่นอีกเลย แต่อาจจะมีเจ็บฟันบ้าง คล้ายๆตอนดัดฟัน
แต่มีวันนึงที่งานเครียดมาก จนปวดกรามมากก กินได้แต่อาหารอ่อนๆ (คิดว่าอาจจะกัดฟันตอนเครียดโดยไม่รู้ตัว)
พอกลับบ้านก็รีบใส่ Splint แล้วเอาถุงน้ำร้อนประคบนอน ตอนเช้าก็หายค่ะ
อยากรีวิวไว้เผื่อคนที่มีปัญหาเหมือนเราจะได้ไปหาหมอรักษาค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออภัยรูปใหญ่มากค่ะ ลงรูปเทียบกับรีเทรนเนอร์ค่ะ
แชร์ประสบการณ์ใส่ Splint หรือเฝือกสบฟัน สำหรับคนนอนกัดฟัน และมีปัญหาขากรรไกร
ครั้งแรกคือก่อนหน้านี้ประมาน 8-9 ปีที่แล้ว เราอยากจัดฟัน เพราะฟันเหยิน รวมทั้งเป็นคนนอนกัดฟัน เวลาเครียด
และมีปัญหาจะอ้าปากกว้างไม่ได้สุด หากพยายามอ้าปากกว้างๆจะมีเสียงคลิก และปวดที่ขากรรไกร
(จริงๆเสียงจะประมาน "ก็อก !" แล้วตอนที่อ้าปากแล้วมีเสียงนี้ เราทำเล่นบ่อยมาก ทำไปให้คนนู้น คนนี้ฟัง จริงๆไม่ควรทำเล่นบ่อยๆนะคะ)
จากนั้น เราไปหาหมอฟัน ที่รพ.แถวรังสิต (คลีนิคนอกเวลาราชการ) เพื่อจัดฟัน แต่หมอบอกว่าต้องรักษาขากรรไกรก่อน
ไม่งั้นจัดฟันไม่ได้ (ตอนอ้าปากให้หมอฟังเสียงคลิก พยาบาลยังตกใจว่าเสียงคลิกดังมาก)
ต้องพิมพ์ฟัน เพื่อทำSplint หรือเฝือกสบฟัน (จำราคาตอนนั้นไม่ได้นะคะ แต่น่าจะ 2-3,000 บาท)
Splint นี่ทำจากอะครีลิคแข็งๆใสๆ นะคะ ช่วงแรกให้ใส่เกือบตลอดเวลา ก็จะมีน้ำลายยืดบ้าง ตอนหลังก็ใส่แต่ตอนนอน จะมีนัดพบหมอทุกเดือน
เพื่อปรับSplint จำได้ว่าใส่อยู่ประมาน 1 ปี ประมานนี้ค่ะ และก็ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณขากรรไกรบ่อยๆด้วย อย่างเวลาหาวก็ต้องเกร็งปากนะคะ จะอ้าปากกว้างไม่ได้ เดี๋ยวจะมีเสียงคลิก จากนั้นก็ดีขึ้น ไม่มีเสียงคลิกแล้ว
หลังจากเราก็ได้จัดฟันค่ะ ช่วงที่จัดฟันก็ยังนอนกัดฟันอยู่ บางครั้งสะดุ้งตื่น เพราะกัดฟันแรง
พอจัดฟันเสร็จ (จัดฟัน 2 ปี) ช่วงที่ใส่รีเทรนเนอร์แรกๆ เราก็มีนอนกัดฟันบ้าง ก็แจ้งคุณหมอ ว่าอยากใส่ Splint อีก
แต่คุณหมอบอกว่าให้ใส่รีเทรนเนอร์ไปก่อน กลัวฟันมีปัญหา
(ระหว่างช่วงหลังดัดฟันเสร็จนี้ ก็ยังมีปัญหาขากรรไกรอยู่บ้าง แต่ไม่มีเสียงคลิกแล้ว อย่างตอนที่หาหมอฟันทั่วไป
เพื่อขูดหินปูน เราต้องบอกหมอก่อนเลยว่า เราอ้าปากนานไม่ได้ จะปวดกราม และกลัวกรามล็อค ต้องขอพักเป็นช่วงๆ หมอก็เข้าใจค่ะ )
จนครั้งที่สอง คือเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ (ประมาน 5 ปีหลังดัดฟันเสร็จ) ช่วงนั้นเรามีปัญหาสุขภาพ แล้วเครียด นอนกัดฟันแบบไม่รู้ตัว
(บางครั้งรู้สึกตัวนะคะ แบบได้ยินเสียงกัดฟันก็เลยตื่น)
จนตื่นเช้ามาจะรู้สึกเลยว่า ปวดกรามและปวดหัว ซึ่งปกติไม่เคยเป็นถึงขนาดปวดหัวแบบนี้เลย เป็นอยู่ 4-5 วัน
ก็เลยกลับไปหาหมอที่มธ.เหมือนเดิม โทรนัดคุณหมอท่านเดิม ก็ขอให้หมอทำ Splint ให้ บอกหมอว่ามันปวดขึ้นมาก จนปวดหัว
ตอนแรกหมอก็ลังเลเหมือนจะไม่ทำให้ เพราะประวัติเก่าเราก็ไม่มีแล้ว แต่พอหมอเช็คฟันให้ ก็บอกว่า ฟันเริ่มสึกนิดนึงแล้ว (ผลจากการนอนกัดฟัน)
หมอก็เลยให้ทำ จากนั้นก็พิมพ์ฟัน (วันแรกค่าหมอ+พิมพ์ฟัน 650 บาท) รออีกประมาน 10 วัน ก็ไปรับ Splint
( ราคา Splint 4,000 บาท + ค่าหมอ 150 บาท จนท.จะแจ้งราคาเราตั้งแต่วันแรกนะคะ )
ตอนหมอลองให้นี่คือ แน่นมาก น้ำตาจะไหล ถอดยากมากยิ่งกว่ารีเทรนเนอร์
คุณหมอให้ใส่ตอนนอนแทนรีเทรนเนอร์ฟันบนไปเลย ส่วนฟันล่างก็ใส่รีเทรนเนอร์เหมือนเดิม หมอนัดครั้งต่อไปอีก 6 เดือนเลย
ตอนใส่วันแรกๆนี่ ตอนถอดรู้สึกเจ็บ ถอดยากมากเหมือนฟันจะหลุดออกมาด้วยเลย เพราะตอนนอนกัดฟันทำให้ Splint แน่นขึ้นไปอีก
ตอนนี้ก็ใส่มาได้ 4 เดือน ก็ใส่/ถอดง่ายขึ้น แล้วก็ไม่ปวดหัวตอนตื่นอีกเลย แต่อาจจะมีเจ็บฟันบ้าง คล้ายๆตอนดัดฟัน
แต่มีวันนึงที่งานเครียดมาก จนปวดกรามมากก กินได้แต่อาหารอ่อนๆ (คิดว่าอาจจะกัดฟันตอนเครียดโดยไม่รู้ตัว)
พอกลับบ้านก็รีบใส่ Splint แล้วเอาถุงน้ำร้อนประคบนอน ตอนเช้าก็หายค่ะ
อยากรีวิวไว้เผื่อคนที่มีปัญหาเหมือนเราจะได้ไปหาหมอรักษาค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้