ชีวิตคนเป็นออทิสติกที่อีกสองเดือนจะอายุ 35

ผมนับว่าเกิดมาในครอบครัวฐานะดีครอบครัวหนึ่ง เกิดมาปุ๊บก็มีบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว เป็นเด็กมีบุญคนหนึ่ง แต่เป็นโรคออทิสติกโดยกำเนิด

แม่ผมพาไปหาหมอหลายโรงพยาบาลบางที่บอกว่าปัญญาอ่อน จนไปที่รพ.ยุวประสาทฯ หมอบอกว่าจำสีหน้าคุณแม่วันนั้นได้ดี หมอบอกผมเป็นออทิสติกรับเป็นคนไข้ตั้งแต่ 2 ขวบ 7 เดือน สมัยนั้นโรงเรียนอนุบาลที่รับคนพิการเข้าเรียนคือโรงเรียนสาธิตอนุบาลละอออุทิศ เข้าเรียนกับเพื่อนที่หูหนวก มีนิสิตที่หูหนวกสอนภาษามือ

ต่อมาหมอพยายามจะให้เรียนร่วมกับเด็กปกติจึงเข้าที่สาธิตเกษตรเป็นรุ่นแรกๆ จริงๆรุ่นแรกเลยแต่พี่เขาแก่กว่าเลยได้รุ่นแรกไปเสียอย่างนั้น เรียนกันแค่ 4 คนอยู่สองปี ป.1กับป.2ให้เรียนกับเพื่อนแค่วิชาศิลปะและดนตรี พอป.3 ต้องเรียนห้องเดียวกับเพื่อนจริงๆ 30 กว่าคน

ความที่พ่อเป็นนักบินจึงพาลูกติดไฟล์ทไปด้วย เลยได้ไปเห็นมาหลายเมืองอยู่ เรียนจบจากสาธิตเกษตรก็เข้า มหาวิทยาลัยเกษตร ต่อ ได้ขอไปลงวิชาเปียโนที่นั่นเรียนภาคดนตรีตะวันตก และภาคปรัชญา ราวๆ 18 หน่วยกิต

เรียนเปียโนจนจบเกรด 8 trinity guildhall ทฤษฎีดนตรีเกรด 5 ตามมาตรฐานของ ABRSM เผื่ออย่างน้อยสอนเปียโนได้

ช่วงนั้นเล่น pantip มีคนแนะนำให้รู้จักport 7THLTG ของคุณนรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ความที่อ่านหนังสือเขาทุกเล่นเลยลงทุนในหุ้น 7 บริษัท และกองทุนรวม ก็ประสบความสำเร็จดีแม้จะขาดทุน BANPU ตามเขาไปเลยแต่ตอนนี้กำไรในหุ้นเป็นหลักล้าน ต้องขอบคุณเงินคุณยายกับคุณพ่อคุณแม่

ส่วนงานที่บริษัทเข้ามาทำงานเพราะเพื่อนคุณพ่อรับเข้ามาโดยมีเงื่อนไขว่าต้องการให้ผมทำบัตรคนพิการก่อนเข้าทำงาน ก็งานธุรการพิมพ์ดีดทั่วไป กับงานขีดๆเขียนๆไปส่งเอกสารให้บริษัทที่ทำอยู่ หมอนั้นห้ามขับรถจึงเปียกฝนอยู่บ่อย ๆ นั่งวินมอเตอร์ไซด์ เป็นลูกพี่ของหลายวินเลย

ชีวิตจะ 35 แล้ว เข้าออกโรงพยาบาลราวกับบ้านตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนโต ทานยาทุกวัน วันก่อนไปนั่ง BTS เห็นคนเขากอดกันลูบผม เห็นแล้วนึกเสียดายที่เราไม่เคยมีอะไรแบบนั้นเลย ไม่เคยมีคนมาชอบ มีแต่บอกว่าเรียนก็ไม่เก่ง งานก็เส้น ขับรถก็ไม่ได้ กลับบ้านดึกพ่อแม่ก็ห่วงอีกลูกแหง่รึ คุยก็ไม่สนุก ทำงานเสร็จกลับบ้าน หุ้นเปียโนดูซีรี่ย์วนไป เงินพ่อยังต้องให้อยู่ ยาก็กินมันทุกวัน มีดีแต่พ่อแม่รวยไม่งั้นคงไม่มีวันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่