[CR] อเมริกา 30 วัน 4 เมือง คนเดียวก็เที่ยวได้ YOLO

สวัสดีครับ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของผม อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ นะครับ แหะๆ เนื้อหาอาจจะเยอะนิดนึงนะครับ รูปก็พอมี แต่ไม่มาก

จริงๆ ได้วีซ่าอเมริกามาซักพักนึงแล้วครับแต่ มีเหตุจำเป็นจึงไม่ได้ไปในทริปนั้น ก็ปล่อยผ่านมานานมาก จนได้มีโอกาสอีกทีเนื่องจาก ว่างงานพอดี เลย เห้ยย ไปไหนดี?? แบบไปคนเดียว ก็นึกขึ้นมาได้มีวีซ่าอเมริกานี่หว่า ลองแพลนทริปดูดีกว่า ก็ได้คร่าวๆมาที่ 30 วัน ฝั่ง East Coast โดยเริ่มจาก ลงเครื่องที่ JFK Airport , New York และเที่ยวตามลำดับดังนี้ฮะ แยกเป็นกระทู้ละเมืองนะครับ เนื่องจากยาวมาก แต่อันนี้จะเป็นกระทู้หลักครับ

ฝาก Page ด้วยครับ https://www.facebook.com/youonlyliveonce2019

Boston , Massachusetts 8 วัน Part 1 https://ppantip.com/topic/39132837
Philadelphia , Pennsylvania 5 วัน Part 2 https://ppantip.com/topic/39150196
Washington, D.C. 4 วัน Part 3
New York City , New York 13 วัน Part 4

ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวคนเดียวเดินทางคนเดียวด้วยขนส่งสาธารณะ ตลอด ต้องเตรียมตัวอย่างดี
ขั้นตอนการเตรียมตัวจากไทยผมเตรียมประมาณนี้ตามลำดับนะครับ

-จองที่พัก ที่พักที่ผมพักส่วนใหญ่จะเป็น AirBnB มีแค่ที่ Washington, D.C. นอน Hostel แบบ Capsule pod 
-จองรถบัสนั่งระหว่างเมือง อันนี้เห็นแก่ราคาที่มันถูกเลยจองไป มันก็ถุกจริงๆแต่การเดินทางไม่ได้สะดวกสบายซักเท่าไรนะครับก็ถ้าเทียบแล้วรถบัสบ้านเราดีกว่าเยอะมากในราคาเท่าๆกัน
-เสื้อผ้า ผมเตรียมไปไม่เยอะมากเน้นซักเอา หากไม่พอก็ซื้อใหม่ (ของถูกๆเยอะมากครับ) รองเท้าควรเตรียมคู่ที่ใส่สบายที่สุดครับเพราะว่าเดินเยอะมากๆในแต่ละวัน เกินหมื่นก้าวทุกวัน สำหรับผมนะ , หมวกกับแว่นกันแดด
-ยา นี่สำคัญมาก เตรียมเท่าที่เตรียมไปได้เผื่อเกิดอะไรขึ้น เพราะการเข้าถึงหมอนั้นใช้เวลานานเลยครับ และยาบางตัวร้านยาไม่ขายให้หากไม่มีใบสั่งจากหมอ
-เงิน บัตรต่างๆเตรียมไปให้พร้อม ส่วนตัวผมเตรียมเงินสดไปไม่เยอะ เน้นใช้บัตร Travel card ของกรุงไทยครับ อีกอย่าง อย่าลืมแยกเงิน แยกบัตร ด้วยเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้มีเงินใช้
-sim ผมซื้อจากไทยไป เป็น Unlimited โทร,text,net ราคา 2,200 บาท ถือว่าพอใช้ได้แต่ไม่แรงมาก
-Applications ที่ควรมี หมวดแผนที่ google map,Maps.me(offline),Lyft(คล้ายๆUber แต่ถูกกว่ามี share ride),Uber
-ลิ้งติดต่อสถานฑูตไทยในอเมริกา http://www.thaiconsulatechicago.org/pages-contact-thai.html
-ประกันการเดินทาง (สำคัญสุดๆ)
-กล้อง อุปกรณ์ถ่ายภาพ Memory Card ขาตั้ง เตรียมให้พร้อมครับ

สายการบินที่ผมเลือกคือ JAL : Japan Airlines นั่นเอง เนื่องจากอยากแวะญี่ปุ่นขากลับ (รู้ตัวว่าไม่ชอบทานอาหารฝรั่งเท่าไรเลยขอขากลับแวะมากินอะไรฟินๆหน่อย

แนวทางการท่องเที่ยวของทริปนี้คือเน้นเข้าชมพิพิธภัณฑ์ครับ เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ที่อเมริกาก็ร้อนไม่ต่างกับประเทศไทยเลยครับบางวันสูงถึง 35 องศาเลยทีเดียว ควรจะมีหมวก,แว่นกันแดดและเสื้อแขนยาวมาด้วยครับ ไม่งั้นไหม้แน่ๆ

มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่า 

วันที่ 1 เริ่ม จาก
-BKK-HND จาก สนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินฮาเนดะ ใช้เวลาไม่นานมากประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้นครับสบายๆหลับได้นิดนึง
-HND-JFK นี่แหละเหนื่อยของจริง จากสนามบินฮาเนดะไปสนามบินเจเอฟเค นิวยอร์ค ใช้เวลาค่อนข้างนานเลยครับประมาณ 11 ชั่วโมง ก็โอเคนะผมใช้วิธีทานยาแก้เมารถเมาเรือ จะช่วยให้ง่วงได้ ก็หลับๆตื่นๆมาทานอาหาร เสิร์ฟบ่อยนะ อาหารก็ดีครับ
-ถึงแล้ว New York , JFK Airport คนเยอะมากตอนเช็ค หลากหลายเชื้อชาติเหลือเกิน แถวยาวมากจนผมถูกดีดให้ไปทำที่เครื่องอัตโนมัติ คือเครื่องนี้จะให้เรา scan หน้า VISA ของเรา แล้วจะมีกระดาษปริ้นออกมาให้เราไปยื่นให้ ตม. อีกที ตอนแรกผมก็ scan ไปขึ้นซักทีชักหวั่นใจ เลยฉีดพลาสติกที่ห่อปกหนังสือเดินทางไว้ออก ถึง Scan ได้ ฉะนั้นใครที่จะไป โปรดเตรียมตัวถอดปกก่อนนะครับ ไม่งั้นจะ scan ไม่ได้ เหมือนมันยัดเข้าไม่สุด เท่าที่ผมสังเกตนะ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะถูกถามมากกว่าผู้ชายไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ในส่วนของผมนั้น เอกสารการจองทั้งหมดผมปริ้นออกมา 1 ชุด ใส่ไว้ในมือถืออีกด้วย (ทำเป็น PDF file) เผื่อทาง ตม. เรียกถามแล้วเราไม่สามารถตอบได้อย่างฉะฉาน แต่เราก็มีโพยนะ ไม่ได้จะมาเป็นโรบินฮู๊ด !! คิวก็รันไปอย่างช้าๆ พอมาถึงคิวผมก็สูดหายใจลึกๆ คือเคยได้ยินว่าเค้าจะส่งกลับไทยด้วยถ้าดูน่าสงสัย (กลัวเพราะคิดไปเอง) คำถามที่ ตมใ ถามก็ไม่มีอะไรมากอย่างที่คิด ถามว่ามาทำไร ไปไหนบ้าง ทำงานอะไร ก็ตามไปตามความจริง เค้าก็ให้ผ่าน เราก็แบบ เห้ยย แค่นี้เอง อุตส่าเตรียมตัวมาอย่างดี ถามสามประโยคผ่านเลย ก็ชิลๆละไปรอรับกระเป๋าเดินทาง พอถึงเรื่องกระเป๋า ลืมบอกไปนิดนึงตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นรอเปลี่ยนเครื่อง พนง.สายการบินจะมาถามแบบแนวซักประวัติการจัดกระเป๋าว่าเราเอาของแบบนี้มามั้ย เราจัดเองมั้ย บลาๆ ก็ตอบไปตามความจริงเพราะเค้าจดไว้และจดเลขตั๋วเราด้วย อ่ะ กลับมาที่ ตม. ตอนตรวจกระเป๋า ตม.ก็ถามอีกเช่นเคยว่าจัดเองมั้ย นู่นนี่นั่นก่อนจะ scan ตรงนี้ก็ผ่านได้ปกติเพราะเราไม่มีอะไรผิดกฎหมายเลย 

ปัญหาแรกที่เจอเลย คือ Sim card ยิ้มใช้เนตไม่ได้วุ้ย ตอนนั้นกำลังจะเข้าเมืองละ ก็จะเปิดหาทางว่าไปยังไงดี เนตเล่นไม่ได้ โชคยังดีที่สนามบินมี Free wifi แต่ต้องออกมานอกจุดรับกระเป๋าก่อนนะถึงจะสัญญาณถึง ก็เลยลองไลน์ไปถามบริษัทที่ซื้อ Sim มา เค้าก็จัดการให้แปปนึง ลองรีเครื่อง เออใช้ได้ละ
เริ่มตะลุยเข้าเมืองกันก่อนเลยดีกว่า เราก็นั่งรถไฟฟ้าสนามบิน รถไฟฟ้านี้คือ Airtrain ราคา $5.00 USD แต่พอมาถึงที่สถานีเราต้องซื้อบัตร  Metrocard อีก $1.00 USD รวมแล้ว $ุ6.00 USD ในการเดินทางของผมนั้นต้องเข้าไปที่ Penn Station ด้วยความที่เชื่อ Google Map ให้เราไปซื้อบัตร LIRR ราคา$7.75 USD เพื่อนั่งเข้าไปในเมืองด้วยความเงอะงะก็ซื้อไปจ้าาา สุดท้ายพอมาหาข้อมูลระหว่างนั่งรถ เห้ยเราไปสายอื่นก็ได้หนิ เสียน้อยกว่าอีก $2.75 USD เอง แต่ไม่ทันแล้วจ้าา คือวันนี้ New York ยังไม่ใช่จุดหมายของผม ผมแพลนที่จะขึ้นไปเมืองที่เหนือสุดก่อนนั่นคือ Boston ทำให้ผมต้องนั่งรถบัสต่อไปอีก ประมาณ 5 ชั่วโมงด้วยกัน รถบัสก็ไม่ได้สะดวกสบายอะไรนะครับออกแนวเมื่อยด้วยซ้ำเพราะว่าเอนได้น้อย เบาะก็พอดีๆ แต่ก็นะค่าเดินทาง $20.00 USD

ยอมๆไปเถอะ แค่แปปเดียว วันนั้นกว่าจะถึง Boston นี่ผมใช้เวลาไปเยอะเลยทีเดียว ไปเดินหลงที่สถานีปลายทางด้วย 555 ดึกด้วยนะ ยังหลงอีก อ้อ ลืมบอกไปตอนที่ไปนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน พระอาทิตย์จะตกประมาณ สองทุ่มกว่าๆ ทำให้ยังไม่เปลี่ยวมาก แต่เราอะเดินทางมาประมาณ 20 กว่าชั่วโมงได้ ย่อมเหนื่อยมาก ตอนนั้นผมอยากจะกลั้นใจนั่ง Taxi ให้ไปส่งที่ AirBnB เลย แต่ทำไม่ได้ มันเกินงบ เลยต้องทำตามข้อมูลที่หามาคือ ที่ Boston เนี่ย มีบัตรรถไฟแบบ 7 day pass อันนี้ดีมาก ในราคาเพียง $22.50 มีชื่อว่า CharlieTicket https://www.mbta.com/fares มีลิ้งให้ด้วยนะ
นั่งได้หมด รถบัส รถไฟ เรือ รถไฟข้ามเมือง(ผมได้ใช้ข้ามไปด้วยนะ) กว่าจะได้บัตรนี้มาก็ 4 ทุ่มกว่าละครับ ก็หาทางไปที่พัก แบบตอนนั้นคิดเลยนะว่า เห้ย เราลำบากไปป่ะวะ ทำไมไม่นั่งเครื่องมาเลยจบๆ ไม่เสียเวลา โอเครอบหน้านั่งเครื่องละกันเนอะ 55 มาคนเดียวก็คุยกับตัวเองเนี่ยแหละ อ่ะ มาถึงบ้าน สิ่งที่ตกใจคือ เห้ยย กลิ่นนี้มันกลิ่นปุ๊น(กัญชา)นี่หว่า พวกเล่นดูดกันหน้าบ้านเลย ก็หันไปยิ้มๆกับพวกเค้า เค้าก็ยิ้มๆให้เราแบบเป็นมิตร อ่ามาถึงที่พักซักที โอโห แจ่มมาก บ้านฝรั่งนี่เยี่ยมไปเลย สะอาด เล็กๆแบบ มีเครื่องใช้ครบครัน ชอบการจัดบ้านของเค้ามากเลย แต่เราไม่มีแรงมาเชยชมซักเท่าไรในวันนี้ขออาบน้ำนอนก่อนดีกว่า 

สถานที่เที่ยวใน Boston ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้หมดทุกที่นะครับ เพราะ ไปหลายที่ 555 เลยขอกล่าวแบบกระชับแล้วกันว่าไปไหนบ้างเดี๋ยวจะไม่จบ
-Boston Public Garden เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่มาก สร้างตั้งแต่ปี 1837 มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางของ Boston เรียกว่าเป็นปอดของเมืองเลย มีทั้งบ่อน้ำ มีคนเล่นดนตรี ขายไส้กรอก ผมได้ใช้เวลาเดินในสวนนี้นานมาก เนื่องจากเจอกระรอกเยอะมาก 55 น้องๆกระรอกตัวใหญ่ด้วย คือไม่เคยเห็นกระรอกฝรั่งไง นั่งดูกระรอกหาไรกินก็ฟินมากๆเลยครับ สวนค่อนข้างใหญ่ผมก็เดินวนไปมาจนข้ามไป อีก part นึงของสวนคือ Boston Commons เป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา  
-Freedom Trail เป็นทางเดินอิฐสีแดงไปยังสถานที่สำคัญๆต่างๆในเมืองครับ เป็น free walking ประมาณ 4 กิโลเมตร จะเป็นประวัติศาสตร์ American Revolution
-แวะทานอาหารที่ Quincy Market เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยๆของเมืองเลยก็ว่าได้ ที่นี่เป็นอาคารประวัติศาสตร์ สร้างในปี 1824-1826 บริเวณโดยรอบจะมีคนมาแสดงความสามารถต่างๆมากมาย 
-New England Holocaust Memorial เป็นอนุสรณ์สถานที่แสดงถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สูงถึง 6 ล้านชีวิต หดหู่มากเลยครับ แต่ควรไปนะ
-Old North Church เป็นโบสถ์เก่าแก่ของเมือง Boston เลยภายในโบสถ์มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองนี้มากมาย
-Beacon Hill ย่านสุดหรูของเมือง ตึกมีความสวยงาม สีอิฐครับ เหมาะแก่การเดินถ่ายรูปชิคๆ เนื่องจากสถาปัตยกรรมสมัยก่อนมีเอกลักษณ์สุดๆ
-Liberty Hotel โรงแรมที่เคยเป็นคุกมาก่อน สามารถเข้าไปดูข้างในได้ครับ
-Sunflower Castle อยู่ในย่าน Beacon Hill นะครับ เป็นบ้านส่วนตัว เราสามารถถ่ายรูปจากข้างนอกได้
-Downtown Crossing ย่านช๊อปปิ้งของเมืองครับ สายช๊อปคงอยู่ที่นี่นาน แต่ผมอยู่แป๊ปเดียว กลัวตังหมด 55 ในภาพนี้เป็นวัน 4 July 
-Granary Burying Ground เป็นสุสานเก่าของเมืองนะครับ มีประวัติศาสตร์มากมาย มีหลุมศพคนดังๆของเมืองเช่น John Hancock (ผู้ลงนามในประกาศอิสรภาพคนแรก) , พ่อแม่ของ Benjamin Franklin , Paul Revere
ชื่อสินค้า:   ประเทศสหรัฐอเมริกา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่