Update 1: ขอเพิ่มสรุปให้เข้าใจง่ายๆเพราะเหมือนมีคนไม่อ่านให้ละเอียด
สรุป ส่วนต่างจากเรียกยอดเก็บจากเงินคืนที่หายไป ไม่ได้เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เป็นเรื่องของการเรียกเก็บค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินสองทาง ซึ่งการ Refund ควรจะเป็นยอดที่ตรงกับที่เรียกเก็บ การขอคืนส่วนนี้ไม่ได้ทำให้จขกทได้เงินเพิ่มแต่อย่างใด เป็นเพียงการขอปรับยอดให้ถูกต้องเท่ากันในสกุลเงินไทยของยอกเรียกเก็บ กับยอด Refund โดยสาเหตุของการขอ Refund เกิดจากการใช้บัตรเครดิตผิดใบซึ่งทางสายการบินคืนเงินให้เต็มจำนวนในหน่วย USD เหมือนตอนเรียกเก็บ ซึ่งตรงนี้ผมได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่และการ Refund คือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง
สวัสดีครับ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำเรื่องขอคืนค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน ในกรณีที่เราใช้บัตรเครดิตสกุลเงินต่างประเทศและมีการทำเรื่องขอคืนเงิน ของผมเป็น Citi Premier บัตรเครดิตจาก Citibank (ขอบอกก่อนว่าไม่ได้มาแนะนำบัตรเครดิต ส่วนตัวเดี๋ยวก็จะยกเลิก เพราะว่าสิทธิประโยชน์ไม่โดนใจสู้บัตรอื่นไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้เป็น Citi M ชอบที่ได้ที่จอดรถกับ Lounge ในเครือ The Mall แต่หลักจากที่ SCB M แย่งไปก็จบกัน)
เรื่องมีอยู่ว่า จขกทได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเป็นจำนวนเงิน $767.38 แล้วมีการทำเรื่องคืนเงินเต็มจำนวน เนื่องจากใช้บัตรผิดใบ (จขกทมีบัตร Citibank US ที่สิทธิประโยชน์ดีกว่า เลยทำเรื่องคืนเงินแล้วซื้อตั๋วใหม่) แต่เงินที่คืนมาหายไป 1320.66 บาท
หลายๆคนที่มีบัตรเครดิตและเคยใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศคงจะทราบดีว่าธนาคารจะมีการคิดค่าธรรมเนียมที่เราเรียกกันว่า Foreign Transaction Fee ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะคิด 2% บ้าง 2.5% บ้าง ซึ่งทางธนาคารจะใช้คำว่า "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" สามารถเช็คได้จากหน้าเว็บของแต่ละธนาคาร
บัตรที่ผมใช้คือ Citi Premier ของ Citibank ซึ่งมี Fee อยู่ที่ 2.5%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของธนาคารกรุงไทยจะถูกกว่าซึ่งอยู่ที่ 2%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในกรณีของผม $767.38 กดแปลผ่านหน้าเว็บ
https://usa.visa.com/support/consumer/travel-support/exchange-rate-calculator.html ได้ออกมา 24,329.94 บาท ซึ่งก็ไม่ตรงกับที่ Citibank แจ้งยอดมา ตรงนี้อาจจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนวันอื่นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเป็นเช่นนี้ จะยอมเสียเงินฟรีก็ใช่เรื่อง ผมเลยโทรไปตามเบอร์ด้านหลังบัตรแจ้งพนักงานว่ายอดใช้จ่ายกับยอดคืนเงินตรงกันในสกุลเงินดอลล่า แต่ทำไมธนาคารเล่นตุกติกแอบขโมยเงินไปพันกว่าบาทเฉย เจ้าหน้าที่ให้รอสายทำเรื่องตรวจสอบ จากนั้นก็ทำเรื่องปรับยอดให้ตามด้านล่าง
ผมเคยติดต่อ Call Center ของธนาคารต่างๆหลายครั้งซึ่งมักจะไม่ได้การบริการที่ดีนัก มีครั้งนี้ที่ถึงแม้ระบบที่ให้กรอกเลขบัตรเครดิตอัตโนมัติจะพัง แต่ยังดีที่พนักงานคุยรู้เรื่อง ก็ขอให้ Citibank ไปปรับปรุง จริงๆเรื่องนี่ควรจะคืนเงินเท่ายอดไม่ควรจะต้องให้ลูกค้าโทรไปขอปรับยอดด้วยซ้ำ
เพื่อนสมาชิกมีบัตรเครดิตไหนดีๆ ไม่มี Foreign Transaction Fee ก็แนะนำกันได้ พอดีกำลังมองหาบัตรเครดิตอื่นทดแทน อยากได้บัตรที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินหายหรือค่าธรรมเนียมแปลกๆ บริการดี สิทธิประโยนช์เลิศ
อย่าลืมตรวจสอบรายการบัตรเครดิตกันทุกเดือนก่อนจ่ายเงินนะครับ อาจจะเสียเงินที่ไม่ควรจะเสียไปโดยไม่รู้ตัว แบบที่ผมเกือบจะพลาดเสียไปเพราะมักจะอ่านตัวเลขแบบขอไปที
[CR] ***5% ที่หายไป*** การคืนเงินรายการใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ จาก Citibank
สรุป ส่วนต่างจากเรียกยอดเก็บจากเงินคืนที่หายไป ไม่ได้เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เป็นเรื่องของการเรียกเก็บค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินสองทาง ซึ่งการ Refund ควรจะเป็นยอดที่ตรงกับที่เรียกเก็บ การขอคืนส่วนนี้ไม่ได้ทำให้จขกทได้เงินเพิ่มแต่อย่างใด เป็นเพียงการขอปรับยอดให้ถูกต้องเท่ากันในสกุลเงินไทยของยอกเรียกเก็บ กับยอด Refund โดยสาเหตุของการขอ Refund เกิดจากการใช้บัตรเครดิตผิดใบซึ่งทางสายการบินคืนเงินให้เต็มจำนวนในหน่วย USD เหมือนตอนเรียกเก็บ ซึ่งตรงนี้ผมได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่และการ Refund คือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง
สวัสดีครับ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การทำเรื่องขอคืนค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน ในกรณีที่เราใช้บัตรเครดิตสกุลเงินต่างประเทศและมีการทำเรื่องขอคืนเงิน ของผมเป็น Citi Premier บัตรเครดิตจาก Citibank (ขอบอกก่อนว่าไม่ได้มาแนะนำบัตรเครดิต ส่วนตัวเดี๋ยวก็จะยกเลิก เพราะว่าสิทธิประโยชน์ไม่โดนใจสู้บัตรอื่นไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้เป็น Citi M ชอบที่ได้ที่จอดรถกับ Lounge ในเครือ The Mall แต่หลักจากที่ SCB M แย่งไปก็จบกัน)
เรื่องมีอยู่ว่า จขกทได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเป็นจำนวนเงิน $767.38 แล้วมีการทำเรื่องคืนเงินเต็มจำนวน เนื่องจากใช้บัตรผิดใบ (จขกทมีบัตร Citibank US ที่สิทธิประโยชน์ดีกว่า เลยทำเรื่องคืนเงินแล้วซื้อตั๋วใหม่) แต่เงินที่คืนมาหายไป 1320.66 บาท
หลายๆคนที่มีบัตรเครดิตและเคยใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศคงจะทราบดีว่าธนาคารจะมีการคิดค่าธรรมเนียมที่เราเรียกกันว่า Foreign Transaction Fee ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะคิด 2% บ้าง 2.5% บ้าง ซึ่งทางธนาคารจะใช้คำว่า "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" สามารถเช็คได้จากหน้าเว็บของแต่ละธนาคาร
บัตรที่ผมใช้คือ Citi Premier ของ Citibank ซึ่งมี Fee อยู่ที่ 2.5%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของธนาคารกรุงไทยจะถูกกว่าซึ่งอยู่ที่ 2%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในกรณีของผม $767.38 กดแปลผ่านหน้าเว็บ https://usa.visa.com/support/consumer/travel-support/exchange-rate-calculator.html ได้ออกมา 24,329.94 บาท ซึ่งก็ไม่ตรงกับที่ Citibank แจ้งยอดมา ตรงนี้อาจจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนวันอื่นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเป็นเช่นนี้ จะยอมเสียเงินฟรีก็ใช่เรื่อง ผมเลยโทรไปตามเบอร์ด้านหลังบัตรแจ้งพนักงานว่ายอดใช้จ่ายกับยอดคืนเงินตรงกันในสกุลเงินดอลล่า แต่ทำไมธนาคารเล่นตุกติกแอบขโมยเงินไปพันกว่าบาทเฉย เจ้าหน้าที่ให้รอสายทำเรื่องตรวจสอบ จากนั้นก็ทำเรื่องปรับยอดให้ตามด้านล่าง
ผมเคยติดต่อ Call Center ของธนาคารต่างๆหลายครั้งซึ่งมักจะไม่ได้การบริการที่ดีนัก มีครั้งนี้ที่ถึงแม้ระบบที่ให้กรอกเลขบัตรเครดิตอัตโนมัติจะพัง แต่ยังดีที่พนักงานคุยรู้เรื่อง ก็ขอให้ Citibank ไปปรับปรุง จริงๆเรื่องนี่ควรจะคืนเงินเท่ายอดไม่ควรจะต้องให้ลูกค้าโทรไปขอปรับยอดด้วยซ้ำ
เพื่อนสมาชิกมีบัตรเครดิตไหนดีๆ ไม่มี Foreign Transaction Fee ก็แนะนำกันได้ พอดีกำลังมองหาบัตรเครดิตอื่นทดแทน อยากได้บัตรที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินหายหรือค่าธรรมเนียมแปลกๆ บริการดี สิทธิประโยนช์เลิศ
อย่าลืมตรวจสอบรายการบัตรเครดิตกันทุกเดือนก่อนจ่ายเงินนะครับ อาจจะเสียเงินที่ไม่ควรจะเสียไปโดยไม่รู้ตัว แบบที่ผมเกือบจะพลาดเสียไปเพราะมักจะอ่านตัวเลขแบบขอไปที