บริษัทที่ผมทำอยู่ เป็นงานสื่อได้รับผลพวงจากทีวีหลายช่องยุติการออกอากาศ เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา บริษัทผม ก็ จิ้มคนออก จำนวนมาก แต่ก็มีบางส่วนที่สมัครใจลาออกซึ่งส่วนมากก็เป็นเด็กวันรุ่นช่วงอายุ 25-32 ปี ที่คิดว่าตัวเองจะออกไปท้าทายโลกกว้าง
แต่ สถานการณ์ บริษัทไม่ดีขึ้น ล่าสุดประกาศประเมินผลพนักงานครึ่งปี ออกมา ปรากฏว่า ตก กันระนาว ทั้งที่ไม่เคยมีการประเมินครึ่งปีมาก่อน... ส่งสัญญาณให้พนักงานแอบคิดเองว่า คงจะบีบให้ออกกันอีกสักรอบ
จขกท.อายุ45 อยู่ที่นี่มา 10 กว่าปี เงินเดือน50K ประเมินครั้งนี้ไม่ได้ตก แต่เห็นสถานการณ์แล้ว ก็แอบเครียดไปกับเด็กๆ เครียดไปกับลูกน้อง ฝั่งผู้บริหารก็มีแนววทางลดคนไว้แล้วแล้ว พยายามประเมินอนาคต จากสถานการณ์ทั้งหมด ทั้งการพูดคุยกับผู้บริหาร ทั้งสืบความ 555.... บริษัทคงไม่ถึงกับปิดเพราะทุนหนาอยู่ แต่คงลดจำนวนพนักงานประจำลง แล้วจ้างประเภททำสัญญา 1-2 ปีมาทำแทน
ตอนนี้ ตัดสินใจ จะไปเออรี่ ออกจากงาน แล้วไป ขายของกินที่ต่างจังหวัด ซึ่งบ้านที่ต่างจังหวัด เคยขายอยู่เป็น10ปี แต่ก็ปิดไปเมื่อหลายปีก่อน เพราะผมเห็นว่า พ่อ แม่ทำกัน 2คน มันเหนื่อยมาก ถึงจะขายดีก็เถอะ เลยบอกให้เลิก แล้วผมส่งเงินให้ใช้แทน....กะว่าจะไปเปิดร้านนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
เหตุที่ตัดสินใจเออรี่ ก็มีหลายอย่าง เช่น ทิศทางจากจะเอาคนออก ไม่นาน ก็ต้องมาถึงตัวเอง ส่วนเรื่องเบื่อการใช้ชีวิตในกรุงเทพก็ไม่ต้องพูดถึง เบื่อมาหลายปีแล้ว งานที่ทำก็สนุก แต่บรรยากาศเดี๋ยวนี้ มันไม่สนุกไปด้วย ในอุตสาหกรรมสื่อในอนาคต คงไม่กลับมาเฟื้องฟูอีกแล้ว ทีวีคงเหลือไม่กี่ช่อง คิดว่า ออกไปทำธุรกิจส่วนตัวตอนนี้ น่าจะดีกว่า กลัวไปตอนอายุมากกว่านี้ แล้วไม่มีแรงทำ
.....แต่เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใคร ก็มีแต่คนท้วง เพราะเป็นห่วง เศรษฐกิจไม่ดี กล้วไม่รอด เพราะ ต้องเลี้ยงดู ทั้งหมด 4 ชีวิต พ่อ แม่ ผม ภรรยา ส่วนหนี้ มีคอนโดที่ยังเป็หนี้อีก 1.8 ล้านบาท (2 ห้องนอน ติดรถไฟฟ้า) คิดว่าจะขาย หรือให้เช่า .... แต่ถ้าขายไม่ได้ หรือไม่มีคนเช่า ก็จพเอาเงินที่ได้จากการเออรี่ ผ่อน ไปก่อน (ได้เงินมา พอสมควร แต่ก็ไม่ถึงจะปิดหนี้ทั้งหมดได้)
คราวๆ ก็แบบนี้ละครับ พี่ๆ ที่เคยผ่านเรื่องแบบนี้ คิดว่าไงครับ ร้านที่บ้านต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ถ้วยชามมีอยู่แล้ว อาจจะ ทำเป็นฟู๊ดทรัค เพิ่มขึ้นมา ลูกค้าสมัยพ่อ กับแม่ ก็ยังอยู่อีกเยอะ...555
เลือกที่จะ ตกงาน ตอนนี้ ทั้งที่มีแต่คนห้าม
แต่ สถานการณ์ บริษัทไม่ดีขึ้น ล่าสุดประกาศประเมินผลพนักงานครึ่งปี ออกมา ปรากฏว่า ตก กันระนาว ทั้งที่ไม่เคยมีการประเมินครึ่งปีมาก่อน... ส่งสัญญาณให้พนักงานแอบคิดเองว่า คงจะบีบให้ออกกันอีกสักรอบ
จขกท.อายุ45 อยู่ที่นี่มา 10 กว่าปี เงินเดือน50K ประเมินครั้งนี้ไม่ได้ตก แต่เห็นสถานการณ์แล้ว ก็แอบเครียดไปกับเด็กๆ เครียดไปกับลูกน้อง ฝั่งผู้บริหารก็มีแนววทางลดคนไว้แล้วแล้ว พยายามประเมินอนาคต จากสถานการณ์ทั้งหมด ทั้งการพูดคุยกับผู้บริหาร ทั้งสืบความ 555.... บริษัทคงไม่ถึงกับปิดเพราะทุนหนาอยู่ แต่คงลดจำนวนพนักงานประจำลง แล้วจ้างประเภททำสัญญา 1-2 ปีมาทำแทน
ตอนนี้ ตัดสินใจ จะไปเออรี่ ออกจากงาน แล้วไป ขายของกินที่ต่างจังหวัด ซึ่งบ้านที่ต่างจังหวัด เคยขายอยู่เป็น10ปี แต่ก็ปิดไปเมื่อหลายปีก่อน เพราะผมเห็นว่า พ่อ แม่ทำกัน 2คน มันเหนื่อยมาก ถึงจะขายดีก็เถอะ เลยบอกให้เลิก แล้วผมส่งเงินให้ใช้แทน....กะว่าจะไปเปิดร้านนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
เหตุที่ตัดสินใจเออรี่ ก็มีหลายอย่าง เช่น ทิศทางจากจะเอาคนออก ไม่นาน ก็ต้องมาถึงตัวเอง ส่วนเรื่องเบื่อการใช้ชีวิตในกรุงเทพก็ไม่ต้องพูดถึง เบื่อมาหลายปีแล้ว งานที่ทำก็สนุก แต่บรรยากาศเดี๋ยวนี้ มันไม่สนุกไปด้วย ในอุตสาหกรรมสื่อในอนาคต คงไม่กลับมาเฟื้องฟูอีกแล้ว ทีวีคงเหลือไม่กี่ช่อง คิดว่า ออกไปทำธุรกิจส่วนตัวตอนนี้ น่าจะดีกว่า กลัวไปตอนอายุมากกว่านี้ แล้วไม่มีแรงทำ
.....แต่เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใคร ก็มีแต่คนท้วง เพราะเป็นห่วง เศรษฐกิจไม่ดี กล้วไม่รอด เพราะ ต้องเลี้ยงดู ทั้งหมด 4 ชีวิต พ่อ แม่ ผม ภรรยา ส่วนหนี้ มีคอนโดที่ยังเป็หนี้อีก 1.8 ล้านบาท (2 ห้องนอน ติดรถไฟฟ้า) คิดว่าจะขาย หรือให้เช่า .... แต่ถ้าขายไม่ได้ หรือไม่มีคนเช่า ก็จพเอาเงินที่ได้จากการเออรี่ ผ่อน ไปก่อน (ได้เงินมา พอสมควร แต่ก็ไม่ถึงจะปิดหนี้ทั้งหมดได้)
คราวๆ ก็แบบนี้ละครับ พี่ๆ ที่เคยผ่านเรื่องแบบนี้ คิดว่าไงครับ ร้านที่บ้านต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ถ้วยชามมีอยู่แล้ว อาจจะ ทำเป็นฟู๊ดทรัค เพิ่มขึ้นมา ลูกค้าสมัยพ่อ กับแม่ ก็ยังอยู่อีกเยอะ...555