......[๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ภิกษุใดเป็นเสขบุคคล
ยังไม่บรรลุพระอรหัตผล <-------------------------------------------------------- A
เมื่อปรารถนาธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าอยู่
แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว อย่าสำคัญธาตุดิน อย่าสำคัญในธาตุดิน
อย่าสำคัญโดยความเป็นธาตุดิน อย่าสำคัญธาตุดินว่า ของเรา อย่ายินดีธาตุดิน ข้อนั้นเพราะเหตุ
อะไร เรากล่าวว่า เพราะเขาควรกำหนดรู้.
ย่อมรู้ธาตุน้ำ ... ธาตุไฟ ... ธาตุลม ... สัตว์ ... เทวดา ... มาร ... พรหม ... อาภัสสรพรหม ...
สุภกิณพรหม ... เวหัปผลพรหม ... อสัญญีสัตว์ ... อากาสานัญจายตนพรหม ... วิญญาณัญ
จายตนพรหม ... เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม รูปที่ตนเห็น ... เสียงที่ตนฟัง ... อารมณ์ที่ตนทราบ
... วิญญาณ ที่ตนรู้แจ้ง ... ความที่สักกายะเป็นอันเดียวกัน ... ความที่สักกายะต่างกัน ... สักกายะทั้งปวง ...
ย่อมรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน
ครั้นรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพานแล้ว <----------------------------------------- B
- อย่าสำคัญพระนิพพาน
- อย่าสำคัญในพระนิพพาน
- อย่าสำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
- อย่าสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
- อย่ายินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร
เรากล่าวว่าเพราะเขาควรกำหนดรู้. <------------------------------------------------------------------------------- C
[๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ภิกษุใด
เป็นพระอรหันตขีณาสพ <------------------------------------------------------------------------------ A
อยู่จบพรหมจรรย์เสร็จกิจแล้ว ปลงภาระเสียแล้ว บรรลุถึงประโยชน์ตนแล้ว สิ้นกิเลส เครื่องประกอบสัตว์
ไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นด้วยปัญญาอันชอบแล้ว
แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว ย่อมไม่สำคัญธาตุดิน ไม่สำคัญในธาตุดิน
ไม่สำคัญโดยความเป็นธาตุดิน ไม่สำคัญธาตุดินว่าของเรา ไม่ยินดีธาตุดิน ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เรากล่าวว่า
เพราะเธอกำหนดรู้แล้ว.
ย่อมรู้ธาตุน้ำ ... ธาตุไฟ ... ธาตุลม ... สัตว์ ... เทวดา ... มาร ... พรหม ... อาภัสสรพรหม
... สุภกิณพรหม ... เวหัปผลพรหม ... อสัญญีสัตว์ ... อากาสานัญจายตนพรหม ... วิญญาณัญจายตน
พรหม ... อากิญจัญญายตนพรหม ... เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ... รูปที่ตนเห็น ... เสียงที่ตนฟัง ...
อารมณ์ที่ตนทราบ ... วิญญาณที่ตนรู้แจ้ง ... ความที่สักกายะเป็นอันเดียวกัน ... ความที่สักกายะต่างกัน ... สักกายะทั้งปวง ...
ย่อมรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน
ครั้นรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพานแล้ว <---------------------------------------- B
- ย่อมไม่สำคัญพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญในพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
- ย่อมไม่ยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไรเรากล่าวว่า
เพราะเธอกำหนดรู้แล้ว. <------------------------------------------------------------------------------ C
.........
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=12&A=109&w=%E3%B9%BE%C3%D0%B9%D4%BE%BE%D2%B9
ก่อนถึง หรือถึงแล้ว..ก็ไม่ให้สำคัญในนิพพาน------ไม่ให้ยินดีในนิพพาน(เห็นมีกระทู้หาอัตตาอยู่หลายกระทู้)
เมื่อปรารถนาธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าอยู่
แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว อย่าสำคัญธาตุดิน อย่าสำคัญในธาตุดิน
อย่าสำคัญโดยความเป็นธาตุดิน อย่าสำคัญธาตุดินว่า ของเรา อย่ายินดีธาตุดิน ข้อนั้นเพราะเหตุ
อะไร เรากล่าวว่า เพราะเขาควรกำหนดรู้.
ย่อมรู้ธาตุน้ำ ... ธาตุไฟ ... ธาตุลม ... สัตว์ ... เทวดา ... มาร ... พรหม ... อาภัสสรพรหม ...
สุภกิณพรหม ... เวหัปผลพรหม ... อสัญญีสัตว์ ... อากาสานัญจายตนพรหม ... วิญญาณัญ
จายตนพรหม ... เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม รูปที่ตนเห็น ... เสียงที่ตนฟัง ... อารมณ์ที่ตนทราบ
... วิญญาณ ที่ตนรู้แจ้ง ... ความที่สักกายะเป็นอันเดียวกัน ... ความที่สักกายะต่างกัน ... สักกายะทั้งปวง ...
ย่อมรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพานแล้ว <----------------------------------------- B
- อย่าสำคัญพระนิพพาน
- อย่าสำคัญในพระนิพพาน
- อย่าสำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
- อย่าสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
- อย่ายินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เรากล่าวว่าเพราะเขาควรกำหนดรู้. <------------------------------------------------------------------------------- C
[๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ภิกษุใด เป็นพระอรหันตขีณาสพ <------------------------------------------------------------------------------ A
อยู่จบพรหมจรรย์เสร็จกิจแล้ว ปลงภาระเสียแล้ว บรรลุถึงประโยชน์ตนแล้ว สิ้นกิเลส เครื่องประกอบสัตว์
ไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นด้วยปัญญาอันชอบแล้ว
แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว ย่อมไม่สำคัญธาตุดิน ไม่สำคัญในธาตุดิน
ไม่สำคัญโดยความเป็นธาตุดิน ไม่สำคัญธาตุดินว่าของเรา ไม่ยินดีธาตุดิน ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เรากล่าวว่า
เพราะเธอกำหนดรู้แล้ว.
ย่อมรู้ธาตุน้ำ ... ธาตุไฟ ... ธาตุลม ... สัตว์ ... เทวดา ... มาร ... พรหม ... อาภัสสรพรหม
... สุภกิณพรหม ... เวหัปผลพรหม ... อสัญญีสัตว์ ... อากาสานัญจายตนพรหม ... วิญญาณัญจายตน
พรหม ... อากิญจัญญายตนพรหม ... เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ... รูปที่ตนเห็น ... เสียงที่ตนฟัง ...
อารมณ์ที่ตนทราบ ... วิญญาณที่ตนรู้แจ้ง ... ความที่สักกายะเป็นอันเดียวกัน ... ความที่สักกายะต่างกัน ... สักกายะทั้งปวง ...
ย่อมรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพานแล้ว <---------------------------------------- B
- ย่อมไม่สำคัญพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญในพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
- ย่อมไม่สำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
- ย่อมไม่ยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไรเรากล่าวว่า เพราะเธอกำหนดรู้แล้ว. <------------------------------------------------------------------------------ C
.........
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=12&A=109&w=%E3%B9%BE%C3%D0%B9%D4%BE%BE%D2%B9