ก่อนเดินทางมาร่วมงานเปิดตัว Samsung Galaxy Note 10 ถึงนิวยอร์ก อุ้มนั่งย้อนอ่านบทความเก่าๆ ของตัวเอง ไล่ตั้งแต่ Galaxy Note รุ่นแรก จนถึง Galaxy Note 9 ในปีที่แล้ว นอกจากจะได้เห็นวิวัฒนาการในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ ยังได้รู้ตัวว่า นี่คือมือถือที่อุ้มจะเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องหลักในช่วงนี้ของทุกๆปี และปีนี้เองก็ไม่น่าพลาดเช่นเดียวกัน
POWER FLAGSHIP PHONE
อุ้มมักจะบอกอยู่เสมอว่า
“คนที่ใช้ Note แล้ว มักจะใช้ Note ตลอดไป” ยิ่งการทำงานในสังคมของพวกเรา ตอนนี้เข้าสู่ New Work Tribe คือไม่ใช่ Work-Life Balance แล้วนะคะ แต่เป็นการทำงานพร้อมใช้ชีวิตส่วนตัวไปด้วยกัน เช่น เราไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ แต่ก็ขอหยิบมือถือขึ้นมานั่งดูกล้องวงจรปิดร้านเพลินๆ ระหว่างรอเครื่อง Transit หรือเอามือถือขึ้นมาเขียนรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเอง เพื่อเอาไปลงใน Blog หลังจากกลับประเทศไทย
หลังจากได้จับตัวจริง คำจำกัดความของ Galaxy Note 10 Series ของอุ้มคือ ที่สุดแห่งความลงตัวสำหรับการใช้มือถือทำงานในชีวิตปัจจุบัน ซึ่งจริงๆแล้วทุก 2 ปี จะเข้าสู่รอบ Major Change ของตระกูล Note มาเริ่มชมกันเลยนะคะว่ามีอะไรที่อุ้มชอบกันบ้าง
มีสองรุ่นให้เลือกตามการใช้งาน
Galaxy Note 10 จะเป็นตัวที่สานต่อจาก Galaxy Note 9 แต่มีขนาดประมาณเดียวกับ Galaxy S10 เท่านั้น ถือว่าเป็น Note ที่ตัวเล็กมากๆ มากับหน้าจอ 6.3 นิ้ว และหนักเพียงแค่ 168 กรัม
Galaxy Note 10 Plus ออกแบบมาเพื่อแฟนตัวยงของ Note Series ที่อยากได้ Note จอใหญ่ๆ ทำหน้าจอไปได้ถึง 6.8 นิ้ว หนัก 198 กรัม
ถ้าถามอุ้ม อุ้มชอบตัวใหญ่มากกว่า เพราะยิ่งใหญ่ ยิ่งเขียนง่าย และหน้าจอของ Note 10 ขอบข้างจะมีความโค้งน้อยลง วางมือเขียนสะดวกมากยิ่งขึ้น และดึงหน้าจอไปเกือบสุดขอบ (ได้ยินมาว่าเค้าเกือบใช้จอ Waterfall แต่มันจับไม่ถนัด เลยพับโครงการไป ดีละ 555)
และทำความหนาได้ดีมาก ที่ 7.9 mm เท่านั้น จากเดิม Galaxy Note 9 จะหนาอยู่ที่ 8.8 mm ทำให้สะดวกต่อการใช้งานของคนมือเล็กๆ หรือผู้หญิงมากยิ่งขึ้น ถ้ามาเห็นตัวจริง จะตกใจเลยว่า เค้าทำ Note 10 ออกมาได้เล็กกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ
ส่วนหน้าจอ จะใช้เป็นจอ Cinematic Infinity Display มีกล้องหน้าเลื่อนมากลมๆอยู่ตรงกลาง เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่าทำไม 555 และจอ Dynamic Display ตัวนี้ รองรับคอนเทนต์ HDR 10+ มีสีแม่นที่สุดในโลกตามสถิติ ใช้งานกลางแดดสบายๆ และมีการตัดแสงสีฟ้าอัตโนมัติอยู่แล้วที่ 41% โดยในครั้งนี้จะใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อความแข็งแรงที่มากขึ้น
รูเสียบหูฟัง 3.5 mm ไม่มีแล้วนะคะ แลกกับการที่มีแบตเพิ่มมาให้อีกรุ่นละ 100 mAh ใช้ได้เพิ่มมาประมาณ 1 ชม.และทำให้ระบบ Haptic Feedback ดีขึ้น แต่จะแถมเป็น หูฟัง AKG Type C มาให้ และมี Adapter ราคาถูกออกมาขายแทน
S PEN ขยับเข้าใกล้ไม้กายสิทธิ์มากขึ้น
เรารู้อยู่แล้วว่า ปากกา S PEN คือปากกาสำหรับสมาร์ทโฟนที่เขียนดีที่สุดและยังไม่มีใครมาสู้ในเรื่องนี้ได้ การพัฒนาของ Samsung ในปีที่แล้ว คือการใส่ Bluetooth เข้ามาใน S Pen เพื่อให้ใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์ หรือ ใช้ Play / Pause เพลง ซึ่งมันมีประโยชน์มากๆ กับการตั้ง Note 9 ไว้ที่ไหนที่นึง แล้วกดถ่ายจาก S PEN
ในปีนี้ เราจะขยับไปอีกขั้นค่ะ นอกจากจะมี Bluetooth แล้ว พี่แกใส่ Gyroscope มาอี๊กกก โดยใช้ชื่อว่า S PEN Air Actions ลองนึกถึงจอยของ Nintendo Switch หรือ Wii อะไรแบบนี้ หลักการทำงานคล้ายๆกันค่ะ ขอยกตัวอย่างมา 1 แอพ คือแอพกล้องนะคะ เราสามารถสั่งการผ่าน S Pen ได้ดังนี้
1.กดปุ่มที่ S PEN เพื่อถ่ายภาพ (ทำได้อยู่แล้ว)
2.เอา S PEN สะบัดไปทางซ้ายหรือขวา (ไม่ต้องโดนหน้าจอ) เพื่อเลือกโหมดก่อนหน้า หรือถัดไป
3.เอา S PEN สะบัดขึ้นลง หรือลงล่าง เพื่อสลับกล้องหน้าและกล้องหลัง อื้อหือ
4.เอา S PEN สะบัดเป็นวนซ้ายหรือขวา เพื่อ ซูมเข้า หรือซูมออก
ใครงง เดี๋ยวชมในคลิปนะคะ ว่ามันเจ๋งแค่ไหน ตอนนี้นอกจากแอพกล้องที่มีประโยชน์ ก็จะมีพวกแอพฟังเพลง สามารถสะบัด S Pen ขึ้นลงเพื่อเร่งเสียง ลดเสียงได้ และจะมีอีกหลายเกมที่รองรับ Air Actions ต่อจากนี้ (แว่วมาว่าจะใช้ได้ในเกม Harry Potter ด้วยเน้อออ)
S Pen ชาร์จเต็มใน 6 นาที
เหวี่ยงไปมาได้ 30 นาที
Standby ได้ 11 ชม.
การเขียนไม่ใช้แบตที่ปากกา
แปลงการเขียนเป็นตัวหนังสือแบบง่ายที่สุด
ก่อนหน้านี้ เราสามารถแปลงลายมือของเราเป็นตัวหนังสือได้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเขียนเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ แล้วจิ้มที่ตัวเขียนของรา จะมีให้เลือก Convert ทันที แม้ลายมือง่อยๆของอุ้ม มันยังแปลงเป็นตัวหนังสือได้เลย แค่อย่าเขียนไทยคำอังกฤษคำเป็นพอ
พอแปลงเสร็จ ยังสามารถแชร์เป็น Microsoft Word ได้อีก แม่เจ้า จดการประชุมแล้วส่งต่อให้ลูกน้องทำงานต่อได้เลย ดีมากแม่
Samsung Dex ต่อ PC และ MAC ได้แล้ววุ้ยยยย
รอมานานกับสิ่งนี้นะคะ เราสามารถต่อ Note 10 ของเรา เข้า PC หรือ MAC ได้เลยผ่านการเสียบสาย เมื่อต่อแล้ว Dex จะเหมือนเป็นแอพบนคอม เราสามารถทำงานต่อได้เลย เช่น เปิด Samsung Notes ที่พิมพ์ค้างไว้ พิมพ์ต่อในคอม ยังไม่หมด เราสามารถลากไฟล์เข้าออกจาก Note 10 กับคอมเราได้เลย แบบง่ายจริงๆ อันนี้ต้องปรบมือ
กล้องได้คะแนน DxOMark อันดับ 1 ของโลก ที่ 113 คะแนน
(อันนี้ไม่รู้เค้าให้แชร์รึยัง 555 แต่คงแชร์ได้แล้วละมั้ง)
DxOMark Galaxy Note 10 Plus
กล้องหลัง 113 [ Photo 118 | Video 101 ]
ปกติ Galaxy Note ไม่ใช่สายกล้องนะคะ ไม่ได้คาดหวังอะไรเรื่องกล้องเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่ายกเอากล้องของ Galaxy S10 5G มาใส่ไว้ใน Galaxy Note 10 Plus ก็คือจบ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว 555 กล้องมันดีมากๆ เป็นทุนเดิม เพิ่มเติมกับลูกเล่นของวิดีโอ ที่เดี๋ยวอุ้มจะเล่าต่อไป ส่วน Galaxy Note 10 จะใช้กล้องชุดเดียวกับ Galaxy S10 Plus เลยนะคะ
Galaxy Note 10 Plus กล้องหลัง 4 ตัว
เลนส์หลัก : 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm, 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
เลนส์เทเล : 12 MP, f/2.4, 52mm, 1/3.6", 1.0µm, AF, OIS, 2x optical zoom
เลนส์ Ultrawide : 16 MP, f/2.2, 12mm
เลนส์ TOF 3D camera
Galaxy Note 10 กล้องหลัง 3 ตัว
เลนส์หลัก : 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm, 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
เลนส์เทเล : 12 MP, f/2.4, 52mm, 1/3.6", 1.0µm, AF, OIS, 2x optical zoom
เลนส์ Ultrawide : 16 MP, f/2.2, 12mm, 1.0µm
โดยเจ้า Note 10 Plus ชนะใสๆ จากฝั่งวิดีโอ ที่มีทั้ง
1.Zoom-in Mic
ใช้ประโยชน์จากไมค์ 3 ตัว ทำหน้าที่ Audio Zoom คือ เมื่อเราซูมภาพ 2 เท่า เสียงไมค์จะดังขึ้น 2 เท่า และเมื่อเราซูมภาพ 4 เท่า เสียงไมค์จะดังขึ้น 3 เท่า มีประโยชน์เวลาเราอัดวิดีโอ ที่มีคนพูดบรรยายอยู่ด้านหน้า เมื่อเราซูมวิดีโอเข้าไป ตัว Note 10 Plus จะรู้แล้วว่า เราต้องการเสียงของคนที่ไกลขึ้น เลยตัดเสียงรอบๆออก ดึงเสียงของคนพูดให้ดังขึ้น
รวมทั้งช่วยเก็บเสียงการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า ตัดเสียงรบกวน และดึงเสียงเราได้ดีขึ้น จนอาจไม่ต้องติดไมค์กล้องแล้วในอนาคต (เดี๋ยวจะลองให้ดูค่ะ)
2.Advanced Super Steady AI
ตอนที่ใช้ S10 5G แทบจะใช้ถ่าย VLOG ตลอดเวลาเลยค่ะ แล้วกันสั่นก็เทพจริงๆ แต่เจ้าตัวนี้พัฒนาในเรื่องการใช้ Optical Zoom เพื่อทำ Super Steady ตอนที่เราซูม 2X เท่าได้ หลักการก็คือ ใช้เลนส์หลักในการถ่ายวิดีโอ แล้ว Crop เอาเฉพาะช่วงกลางของวิดีโอเหมือนเดิม
3.AR Doodle
เดี๋ยวจะมีคนเล่นอันนี้เยอะที่สุดเมื่อ Note 10 วางขาย เชื่ออุ้ม 555 เพราะ IG ของเราจะเก๋ไก๋มากขึ้น เราสามารถเขียน Doodle บนใบหน้าของใครก็ได้ และเมื่อขยับตัว Doodle ก็จะติดบนใบหน้าเราไปทุกที่ แถมเขียนได้หลายหน้าพร้อมๆกันด้วยนะคะ ยังไม่พอ ในอนาคต จะสามารถเขียนที่ไหนก็ได้ เช่น ถ่ายท้องฟ้า แล้วเขียนคำว่า “คิดถึง” ลงในเฟสเก๋ๆ ก็ทำได้ผ่าน Galaxy Note 10 นี่ละ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้ายึดจากที่เคยใช้กล้องของ Galaxy S10 5G หรือ Galaxy S10 Plus ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ดีมากๆ ชุดหนึ่ง แต่จะมีการปรับกล้องหน้าเล็กน้อยนะคะ ความละเอียดจะเป็น 10MP f/2.2 สาเหตุที่รูรับแสงแคบลง เพราะเค้าพยายามทำให้รูกล้องหน้าเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใส่ Night Mode กล้องหน้ามาให้แทน อันนี้ต้องลองอีกที ว่าเริ่ดมั้ยนะคะ
ชาร์จเร็ว 25W | 45W จุติแล้ว
หลังจากที่มีคนแซว Samsung เรื่องการชาร์จอยู่พักใหญ่ เราก็จะสามารถชาร์จ Galaxy Note 10 Series ได้ที่ความเร็ว 25W แล้วนะคะ ได้ทดสอบกับตัวเอง ต้องใช้คำว่าประทับใจกับการชาร์จเร็วครั้งนี้นะคะ
อย่างแบตของ Note 10 Plus ความจุ 4,300 mAh จะชาร์จแบบ 25W เต็มใน 65 นาที และถ้าซื้ออุปกรณ์เสริมมาชาร์จที่ 45W จะชาร์จเต็มใน 58 นาที แปลว่าเอามาเสียบทิ้งไว้เพียง 30 นาที แบตจะขึ้นมาที่ 66% ใช้งานได้ต่อเป็นวันสบายๆ โดยเทคโนโลยีการจัดการชาร์จเร็วแบบใหม่นี่ จะอยู่ใน Note 10 Plus ในชื่อของ Superfast Charge นะคะ
ส่วนแบตของ Note 10 จะมีขนาด 3,500 mAh และชาร์จเต็มใน 89 นาที ส่วนการชาร์จไร้สาย ตัว Note 10 จะชาร์จที่ 12W และ Note 10 Plus จะชาร์จที่ 15W เท่ากับการชาร์จแบบมีสายของ Note 9 ในครั้งที่แล้ว
EXYNOS 9825 7nm
ขุมพลังตัวใหม่จาก Exynos เจ๋งขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น มาพร้อม UFS 3.0 และเริ่มทั้ง Note 10 และ Note 10 Plus ที่ความจุ 256 GB โดย Galaxy Note 10 ให้แรมมา 8GB รอม 256GB ไม่สามารถเพิ่มเมมได้ ซิมจะเป็นแบบ Dual Sim ส่วน Galaxy Note 10 Plus จะให้แรมมา 12GB รอม 256GB เพิ่มเมมได้ถึง 1TB และเป็นช่องแยกด้วย
คอเกมก็สบายใจได้ เพราะระบบระบายความร้อนจะเป็นแบบ Vapor Chambers เหมือนเดิม และให้ Game Booster ปรับเฟรมเรทให้ดีขึ้น สมูธขึ้น จริงๆ ปีนี้ Note 10 มีพาร์ทเนอร์หลายเจ้ามากๆๆ เช่น Call of Duty Mobile / Harry Potter / Candy Crush / Discord ซึ่งแน่นอนว่าจะมาพร้อมไอเทมหรือวิธีเล่นที่แตกต่างกับชาวบ้านเค้า และยังมี Spotify & NetFlix สำหรับสายบันเทิงอีกด้วย
[มีต่อ]
[SR] พรีวิว Samsung Galaxy Note 10 | First Touch กับความสมบูรณ์แบบของ Note Series
ก่อนเดินทางมาร่วมงานเปิดตัว Samsung Galaxy Note 10 ถึงนิวยอร์ก อุ้มนั่งย้อนอ่านบทความเก่าๆ ของตัวเอง ไล่ตั้งแต่ Galaxy Note รุ่นแรก จนถึง Galaxy Note 9 ในปีที่แล้ว นอกจากจะได้เห็นวิวัฒนาการในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ ยังได้รู้ตัวว่า นี่คือมือถือที่อุ้มจะเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องหลักในช่วงนี้ของทุกๆปี และปีนี้เองก็ไม่น่าพลาดเช่นเดียวกัน
POWER FLAGSHIP PHONE
อุ้มมักจะบอกอยู่เสมอว่า “คนที่ใช้ Note แล้ว มักจะใช้ Note ตลอดไป” ยิ่งการทำงานในสังคมของพวกเรา ตอนนี้เข้าสู่ New Work Tribe คือไม่ใช่ Work-Life Balance แล้วนะคะ แต่เป็นการทำงานพร้อมใช้ชีวิตส่วนตัวไปด้วยกัน เช่น เราไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ แต่ก็ขอหยิบมือถือขึ้นมานั่งดูกล้องวงจรปิดร้านเพลินๆ ระหว่างรอเครื่อง Transit หรือเอามือถือขึ้นมาเขียนรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเอง เพื่อเอาไปลงใน Blog หลังจากกลับประเทศไทย
หลังจากได้จับตัวจริง คำจำกัดความของ Galaxy Note 10 Series ของอุ้มคือ ที่สุดแห่งความลงตัวสำหรับการใช้มือถือทำงานในชีวิตปัจจุบัน ซึ่งจริงๆแล้วทุก 2 ปี จะเข้าสู่รอบ Major Change ของตระกูล Note มาเริ่มชมกันเลยนะคะว่ามีอะไรที่อุ้มชอบกันบ้าง
มีสองรุ่นให้เลือกตามการใช้งาน
Galaxy Note 10 จะเป็นตัวที่สานต่อจาก Galaxy Note 9 แต่มีขนาดประมาณเดียวกับ Galaxy S10 เท่านั้น ถือว่าเป็น Note ที่ตัวเล็กมากๆ มากับหน้าจอ 6.3 นิ้ว และหนักเพียงแค่ 168 กรัม
Galaxy Note 10 Plus ออกแบบมาเพื่อแฟนตัวยงของ Note Series ที่อยากได้ Note จอใหญ่ๆ ทำหน้าจอไปได้ถึง 6.8 นิ้ว หนัก 198 กรัม
ถ้าถามอุ้ม อุ้มชอบตัวใหญ่มากกว่า เพราะยิ่งใหญ่ ยิ่งเขียนง่าย และหน้าจอของ Note 10 ขอบข้างจะมีความโค้งน้อยลง วางมือเขียนสะดวกมากยิ่งขึ้น และดึงหน้าจอไปเกือบสุดขอบ (ได้ยินมาว่าเค้าเกือบใช้จอ Waterfall แต่มันจับไม่ถนัด เลยพับโครงการไป ดีละ 555)
และทำความหนาได้ดีมาก ที่ 7.9 mm เท่านั้น จากเดิม Galaxy Note 9 จะหนาอยู่ที่ 8.8 mm ทำให้สะดวกต่อการใช้งานของคนมือเล็กๆ หรือผู้หญิงมากยิ่งขึ้น ถ้ามาเห็นตัวจริง จะตกใจเลยว่า เค้าทำ Note 10 ออกมาได้เล็กกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ
ส่วนหน้าจอ จะใช้เป็นจอ Cinematic Infinity Display มีกล้องหน้าเลื่อนมากลมๆอยู่ตรงกลาง เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่าทำไม 555 และจอ Dynamic Display ตัวนี้ รองรับคอนเทนต์ HDR 10+ มีสีแม่นที่สุดในโลกตามสถิติ ใช้งานกลางแดดสบายๆ และมีการตัดแสงสีฟ้าอัตโนมัติอยู่แล้วที่ 41% โดยในครั้งนี้จะใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อความแข็งแรงที่มากขึ้น
รูเสียบหูฟัง 3.5 mm ไม่มีแล้วนะคะ แลกกับการที่มีแบตเพิ่มมาให้อีกรุ่นละ 100 mAh ใช้ได้เพิ่มมาประมาณ 1 ชม.และทำให้ระบบ Haptic Feedback ดีขึ้น แต่จะแถมเป็น หูฟัง AKG Type C มาให้ และมี Adapter ราคาถูกออกมาขายแทน
S PEN ขยับเข้าใกล้ไม้กายสิทธิ์มากขึ้น
เรารู้อยู่แล้วว่า ปากกา S PEN คือปากกาสำหรับสมาร์ทโฟนที่เขียนดีที่สุดและยังไม่มีใครมาสู้ในเรื่องนี้ได้ การพัฒนาของ Samsung ในปีที่แล้ว คือการใส่ Bluetooth เข้ามาใน S Pen เพื่อให้ใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์ หรือ ใช้ Play / Pause เพลง ซึ่งมันมีประโยชน์มากๆ กับการตั้ง Note 9 ไว้ที่ไหนที่นึง แล้วกดถ่ายจาก S PEN
ในปีนี้ เราจะขยับไปอีกขั้นค่ะ นอกจากจะมี Bluetooth แล้ว พี่แกใส่ Gyroscope มาอี๊กกก โดยใช้ชื่อว่า S PEN Air Actions ลองนึกถึงจอยของ Nintendo Switch หรือ Wii อะไรแบบนี้ หลักการทำงานคล้ายๆกันค่ะ ขอยกตัวอย่างมา 1 แอพ คือแอพกล้องนะคะ เราสามารถสั่งการผ่าน S Pen ได้ดังนี้
1.กดปุ่มที่ S PEN เพื่อถ่ายภาพ (ทำได้อยู่แล้ว)
2.เอา S PEN สะบัดไปทางซ้ายหรือขวา (ไม่ต้องโดนหน้าจอ) เพื่อเลือกโหมดก่อนหน้า หรือถัดไป
3.เอา S PEN สะบัดขึ้นลง หรือลงล่าง เพื่อสลับกล้องหน้าและกล้องหลัง อื้อหือ
4.เอา S PEN สะบัดเป็นวนซ้ายหรือขวา เพื่อ ซูมเข้า หรือซูมออก
ใครงง เดี๋ยวชมในคลิปนะคะ ว่ามันเจ๋งแค่ไหน ตอนนี้นอกจากแอพกล้องที่มีประโยชน์ ก็จะมีพวกแอพฟังเพลง สามารถสะบัด S Pen ขึ้นลงเพื่อเร่งเสียง ลดเสียงได้ และจะมีอีกหลายเกมที่รองรับ Air Actions ต่อจากนี้ (แว่วมาว่าจะใช้ได้ในเกม Harry Potter ด้วยเน้อออ)
S Pen ชาร์จเต็มใน 6 นาที
เหวี่ยงไปมาได้ 30 นาที
Standby ได้ 11 ชม.
การเขียนไม่ใช้แบตที่ปากกา
แปลงการเขียนเป็นตัวหนังสือแบบง่ายที่สุด
ก่อนหน้านี้ เราสามารถแปลงลายมือของเราเป็นตัวหนังสือได้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเขียนเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ แล้วจิ้มที่ตัวเขียนของรา จะมีให้เลือก Convert ทันที แม้ลายมือง่อยๆของอุ้ม มันยังแปลงเป็นตัวหนังสือได้เลย แค่อย่าเขียนไทยคำอังกฤษคำเป็นพอ
พอแปลงเสร็จ ยังสามารถแชร์เป็น Microsoft Word ได้อีก แม่เจ้า จดการประชุมแล้วส่งต่อให้ลูกน้องทำงานต่อได้เลย ดีมากแม่
Samsung Dex ต่อ PC และ MAC ได้แล้ววุ้ยยยย
รอมานานกับสิ่งนี้นะคะ เราสามารถต่อ Note 10 ของเรา เข้า PC หรือ MAC ได้เลยผ่านการเสียบสาย เมื่อต่อแล้ว Dex จะเหมือนเป็นแอพบนคอม เราสามารถทำงานต่อได้เลย เช่น เปิด Samsung Notes ที่พิมพ์ค้างไว้ พิมพ์ต่อในคอม ยังไม่หมด เราสามารถลากไฟล์เข้าออกจาก Note 10 กับคอมเราได้เลย แบบง่ายจริงๆ อันนี้ต้องปรบมือ
กล้องได้คะแนน DxOMark อันดับ 1 ของโลก ที่ 113 คะแนน
(อันนี้ไม่รู้เค้าให้แชร์รึยัง 555 แต่คงแชร์ได้แล้วละมั้ง)
DxOMark Galaxy Note 10 Plus
กล้องหลัง 113 [ Photo 118 | Video 101 ]
ปกติ Galaxy Note ไม่ใช่สายกล้องนะคะ ไม่ได้คาดหวังอะไรเรื่องกล้องเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่ายกเอากล้องของ Galaxy S10 5G มาใส่ไว้ใน Galaxy Note 10 Plus ก็คือจบ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว 555 กล้องมันดีมากๆ เป็นทุนเดิม เพิ่มเติมกับลูกเล่นของวิดีโอ ที่เดี๋ยวอุ้มจะเล่าต่อไป ส่วน Galaxy Note 10 จะใช้กล้องชุดเดียวกับ Galaxy S10 Plus เลยนะคะ
Galaxy Note 10 Plus กล้องหลัง 4 ตัว
เลนส์หลัก : 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm, 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
เลนส์เทเล : 12 MP, f/2.4, 52mm, 1/3.6", 1.0µm, AF, OIS, 2x optical zoom
เลนส์ Ultrawide : 16 MP, f/2.2, 12mm
เลนส์ TOF 3D camera
Galaxy Note 10 กล้องหลัง 3 ตัว
เลนส์หลัก : 12 MP, f/1.5-2.4, 26mm, 1/2.55", 1.4µm, Dual Pixel PDAF, OIS
เลนส์เทเล : 12 MP, f/2.4, 52mm, 1/3.6", 1.0µm, AF, OIS, 2x optical zoom
เลนส์ Ultrawide : 16 MP, f/2.2, 12mm, 1.0µm
โดยเจ้า Note 10 Plus ชนะใสๆ จากฝั่งวิดีโอ ที่มีทั้ง
1.Zoom-in Mic
ใช้ประโยชน์จากไมค์ 3 ตัว ทำหน้าที่ Audio Zoom คือ เมื่อเราซูมภาพ 2 เท่า เสียงไมค์จะดังขึ้น 2 เท่า และเมื่อเราซูมภาพ 4 เท่า เสียงไมค์จะดังขึ้น 3 เท่า มีประโยชน์เวลาเราอัดวิดีโอ ที่มีคนพูดบรรยายอยู่ด้านหน้า เมื่อเราซูมวิดีโอเข้าไป ตัว Note 10 Plus จะรู้แล้วว่า เราต้องการเสียงของคนที่ไกลขึ้น เลยตัดเสียงรอบๆออก ดึงเสียงของคนพูดให้ดังขึ้น
รวมทั้งช่วยเก็บเสียงการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า ตัดเสียงรบกวน และดึงเสียงเราได้ดีขึ้น จนอาจไม่ต้องติดไมค์กล้องแล้วในอนาคต (เดี๋ยวจะลองให้ดูค่ะ)
2.Advanced Super Steady AI
ตอนที่ใช้ S10 5G แทบจะใช้ถ่าย VLOG ตลอดเวลาเลยค่ะ แล้วกันสั่นก็เทพจริงๆ แต่เจ้าตัวนี้พัฒนาในเรื่องการใช้ Optical Zoom เพื่อทำ Super Steady ตอนที่เราซูม 2X เท่าได้ หลักการก็คือ ใช้เลนส์หลักในการถ่ายวิดีโอ แล้ว Crop เอาเฉพาะช่วงกลางของวิดีโอเหมือนเดิม
3.AR Doodle
เดี๋ยวจะมีคนเล่นอันนี้เยอะที่สุดเมื่อ Note 10 วางขาย เชื่ออุ้ม 555 เพราะ IG ของเราจะเก๋ไก๋มากขึ้น เราสามารถเขียน Doodle บนใบหน้าของใครก็ได้ และเมื่อขยับตัว Doodle ก็จะติดบนใบหน้าเราไปทุกที่ แถมเขียนได้หลายหน้าพร้อมๆกันด้วยนะคะ ยังไม่พอ ในอนาคต จะสามารถเขียนที่ไหนก็ได้ เช่น ถ่ายท้องฟ้า แล้วเขียนคำว่า “คิดถึง” ลงในเฟสเก๋ๆ ก็ทำได้ผ่าน Galaxy Note 10 นี่ละ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้ายึดจากที่เคยใช้กล้องของ Galaxy S10 5G หรือ Galaxy S10 Plus ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ดีมากๆ ชุดหนึ่ง แต่จะมีการปรับกล้องหน้าเล็กน้อยนะคะ ความละเอียดจะเป็น 10MP f/2.2 สาเหตุที่รูรับแสงแคบลง เพราะเค้าพยายามทำให้รูกล้องหน้าเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใส่ Night Mode กล้องหน้ามาให้แทน อันนี้ต้องลองอีกที ว่าเริ่ดมั้ยนะคะ
ชาร์จเร็ว 25W | 45W จุติแล้ว
หลังจากที่มีคนแซว Samsung เรื่องการชาร์จอยู่พักใหญ่ เราก็จะสามารถชาร์จ Galaxy Note 10 Series ได้ที่ความเร็ว 25W แล้วนะคะ ได้ทดสอบกับตัวเอง ต้องใช้คำว่าประทับใจกับการชาร์จเร็วครั้งนี้นะคะ
อย่างแบตของ Note 10 Plus ความจุ 4,300 mAh จะชาร์จแบบ 25W เต็มใน 65 นาที และถ้าซื้ออุปกรณ์เสริมมาชาร์จที่ 45W จะชาร์จเต็มใน 58 นาที แปลว่าเอามาเสียบทิ้งไว้เพียง 30 นาที แบตจะขึ้นมาที่ 66% ใช้งานได้ต่อเป็นวันสบายๆ โดยเทคโนโลยีการจัดการชาร์จเร็วแบบใหม่นี่ จะอยู่ใน Note 10 Plus ในชื่อของ Superfast Charge นะคะ
ส่วนแบตของ Note 10 จะมีขนาด 3,500 mAh และชาร์จเต็มใน 89 นาที ส่วนการชาร์จไร้สาย ตัว Note 10 จะชาร์จที่ 12W และ Note 10 Plus จะชาร์จที่ 15W เท่ากับการชาร์จแบบมีสายของ Note 9 ในครั้งที่แล้ว
EXYNOS 9825 7nm
ขุมพลังตัวใหม่จาก Exynos เจ๋งขึ้น ประหยัดพลังงานขึ้น มาพร้อม UFS 3.0 และเริ่มทั้ง Note 10 และ Note 10 Plus ที่ความจุ 256 GB โดย Galaxy Note 10 ให้แรมมา 8GB รอม 256GB ไม่สามารถเพิ่มเมมได้ ซิมจะเป็นแบบ Dual Sim ส่วน Galaxy Note 10 Plus จะให้แรมมา 12GB รอม 256GB เพิ่มเมมได้ถึง 1TB และเป็นช่องแยกด้วย
คอเกมก็สบายใจได้ เพราะระบบระบายความร้อนจะเป็นแบบ Vapor Chambers เหมือนเดิม และให้ Game Booster ปรับเฟรมเรทให้ดีขึ้น สมูธขึ้น จริงๆ ปีนี้ Note 10 มีพาร์ทเนอร์หลายเจ้ามากๆๆ เช่น Call of Duty Mobile / Harry Potter / Candy Crush / Discord ซึ่งแน่นอนว่าจะมาพร้อมไอเทมหรือวิธีเล่นที่แตกต่างกับชาวบ้านเค้า และยังมี Spotify & NetFlix สำหรับสายบันเทิงอีกด้วย
[มีต่อ]
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม