Starbucks Rewards
โปรแกรมการรักษาฐานลูกค้าของ สตาร์บัค ในยุคการเปลี่ยนผ่านไปสู่เจ้าของธุรกิจเจ้าใหม่
สำหรับ ลูกค้า สตาร์บัค ที่เป็นกันอยู่แล้วไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงได้รับ อีเมล์ เหมือนผมแน่ ๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบใหม่ ทำให้ระดับ Welcome หายไป เหลือเพียง Green & Gold เท่านั้น
สมาชิกเก่าที่เป็น ระดับ Gold อยู่แล้ว หลายคนจะเกิดคำถาม "การจงรักภักดีต่อสินค้านั้น" จะสามารถให้ ผลตอบประโยชน์ หรือ Benefit กับลูกค้าประจำที่สร้างยอดขายให้กับสินค้านั้นได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง ปัจจุบัน การรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ หลายผลิตภัณฑ์ค่อนข้างให้ความสนใจ และ เสริมโปรโมชั่นทั้งผลักทั้งดันไปเยอะมาก แต่ มา ณ. ตอนนี้ สตาร์บัคไทย กำลังทำลายฐานลูกค้ากลุ่มลงไป เพราะการตลาดยุคใหม่เน้นการเข้าถึงลูกค้าทั่วไปเข้าถึงความพิเศษในระดับสูงสุดได้เพียงการเข้าร่วมกิจกรรมระยะสั้น ๆ เท่านั้น
สมาชิกปัจจุบัน กว่าจะผ่านมาถึงระดับ Gold ได้ ต้องจ่ายเงินทั้งหมด 25,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งแลกการได้มาซึ่งสิทธิพิเศษในการได้ส่วนลดพิเศษ, ของขวัญวันเกิด,ปฎิทิน,เซตของขวัญปีใหม่ เป็นต้น กว่าจะจ่ายเงินไปขนาดนี้ภายใน 2 ปี มันเยอะมากอยู่นะ เพราะว่าจะถึง Gold ต้องเป็น Green
สำหรับ สมาชิก อาจจะเข้าใจอยู่แล้ว แต่สำหรับที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ผมจะอธิบาย ง่าย ๆ แบบนี้
1. การแลกเครื่องดื่ม
ระบบปกติ การแลกเครื่องดื่มฟรี เป็นแก้ว Tall หรือแก้วเล็ก จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ซื้อเครื่องดื่มสะสมครบ 12 แก้ว
ระบบใหม่ ใช้ดาวแลก 120 ดาว แลกเครื่องดื่มขนาดไหน แบบไหนก็ได้
2. การสะสมดาว
ระบบปกติ ใช้จ่ายในร้าน ทุก 100 บาทจะได้ดาว 1 ดวง
ระบบใหม่ ใช้จ่ายในร้าน ทุก 25 บาทจะได้ดาว 1 ดวง
3. การเลื่อนขั้น
ระบบปกติ สะสมครบ 100 ดาว จะได้อยู่ในระดับ Green
สะสมต่อจาก Green ครบ 150 ดาว จะได้เป็น Gold ซึ่งถ้าให้คิดง่าย ๆ ก็คือ ต้องได้ 250 ดาว
ระบบใหม่ สะสมครบ 300 ดวง สามารถเป็น Gold ได้เลย ต่ำกว่า 300 ดวง ทำยังไงก็ Green และจะไม่มีคำว่า Welcome อีกต่อไป
ความน่าสนใจ อยู่ตรงนี้ครับ
คนส่วนมากที่เป็น สมาชิก กว่าจะได้เป็น Gold ต้องสะสมในระยะเวลาที่นานมาก เป็นปี แต่ ถ้าเปลี่ยนเป็นระบบใหม่ คุณสามารถเป็น Gold ได้โดยการใช้จ่ายเงินภายใน 7,500 บาทเท่านั้น !!! การลดคุณค่าโดยการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่ง่ายขึ้น เพื่อการเข้าถึง ผมว่าดีนะ แต่การรักษาลูกค้าฐานเก่าให้เค้าอยู่กับคุณต่อไปได้ อันนี้น่าสนใจยิ่งกว่า
การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าแบบ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ผมอยากเห็นนะว่าจะมีจริงไหม
พอตอนเย็นได้ไปคุยกับน้อง ๆ ที่ สตาร์บัค ยิ่งตกใจ
เค้าบอกว่า การได้แก้วฟรี ซื้ออะไรก็ได้ในร้านให้ได้ ดาวมา 120 ดวงก็ง่ายดีนะ นั้นหมายถึงเงิน 2,500 บาท จะได้แก้วฟรี 1 แก้ว แต่ถ้าระบบเก่า สมมุติ ว่าซื้อ กาแฟ แก้วละ 130 บาท จำนวน 12 แก้วจะต้องจ่ายเงิน 1,560 บาท แน่ละ ดาว ได้น้อยกว่า เน้นการเลิกแก้วฟรีโดยการจ่ายเงิน 2,500 บาท ซึ่งแน่นอน บริษัท มองเงินที่ได้รับ และ ไม่ได้สนใจ กลุ่มลูกค้า Gold เดิมที่อยู่จะยังไงก็ช่าง
ซึ่งผมต้องย้ำก่อนว่า ร้านกาแฟเจ้านี้ ไม่ได้เป็นกาแฟชั้นสูง เป็นอีกร้านที่เสริฟกาแฟ แบบเร่งด่วน และ สะดวกในการเข้าถึง รวมไปถึงการให้บริการพื้นที่ของร้านเพื่อสร้างเป็น Community หนึ่งสำหรับใครที่นัดเพื่อน คุยงาน แล้วสั่งกาแฟ สามารถชาร์จแบต นั่งหลับ นอนอ่านหนังสือ ได้เป็นอย่างดี
อยากฝากให้ทาง สตาร์บัค ได้คิด การผันแปรสะสมแก้วกาแฟ มาเป็นดาว และ การเปลี่ยนยอดเงินมาเป็นดาว รวมถึงเอาดาวมาแลกเป็น กาแฟ ฟรี แต่สิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่คนสะสมบางคนอย่างผมต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้มา มันช่างน่าขันที่ พวกคณแมร่งไม่ได้จริงใจเลย !!! และแน่นอนว่า ถ้าไม่นัดเพื่อน, คุย ธุระ ก็อาจจะไม่แวะเข้าไปอีก
Starbucks Rewards new Royalty program กำเนิดใหม่สมาชิก สตาร์บัคไทย
โปรแกรมการรักษาฐานลูกค้าของ สตาร์บัค ในยุคการเปลี่ยนผ่านไปสู่เจ้าของธุรกิจเจ้าใหม่
สำหรับ ลูกค้า สตาร์บัค ที่เป็นกันอยู่แล้วไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงได้รับ อีเมล์ เหมือนผมแน่ ๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบใหม่ ทำให้ระดับ Welcome หายไป เหลือเพียง Green & Gold เท่านั้น
สมาชิกเก่าที่เป็น ระดับ Gold อยู่แล้ว หลายคนจะเกิดคำถาม "การจงรักภักดีต่อสินค้านั้น" จะสามารถให้ ผลตอบประโยชน์ หรือ Benefit กับลูกค้าประจำที่สร้างยอดขายให้กับสินค้านั้นได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง ปัจจุบัน การรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ หลายผลิตภัณฑ์ค่อนข้างให้ความสนใจ และ เสริมโปรโมชั่นทั้งผลักทั้งดันไปเยอะมาก แต่ มา ณ. ตอนนี้ สตาร์บัคไทย กำลังทำลายฐานลูกค้ากลุ่มลงไป เพราะการตลาดยุคใหม่เน้นการเข้าถึงลูกค้าทั่วไปเข้าถึงความพิเศษในระดับสูงสุดได้เพียงการเข้าร่วมกิจกรรมระยะสั้น ๆ เท่านั้น
สมาชิกปัจจุบัน กว่าจะผ่านมาถึงระดับ Gold ได้ ต้องจ่ายเงินทั้งหมด 25,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งแลกการได้มาซึ่งสิทธิพิเศษในการได้ส่วนลดพิเศษ, ของขวัญวันเกิด,ปฎิทิน,เซตของขวัญปีใหม่ เป็นต้น กว่าจะจ่ายเงินไปขนาดนี้ภายใน 2 ปี มันเยอะมากอยู่นะ เพราะว่าจะถึง Gold ต้องเป็น Green
สำหรับ สมาชิก อาจจะเข้าใจอยู่แล้ว แต่สำหรับที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ผมจะอธิบาย ง่าย ๆ แบบนี้
1. การแลกเครื่องดื่ม
ระบบปกติ การแลกเครื่องดื่มฟรี เป็นแก้ว Tall หรือแก้วเล็ก จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ซื้อเครื่องดื่มสะสมครบ 12 แก้ว
ระบบใหม่ ใช้ดาวแลก 120 ดาว แลกเครื่องดื่มขนาดไหน แบบไหนก็ได้
2. การสะสมดาว
ระบบปกติ ใช้จ่ายในร้าน ทุก 100 บาทจะได้ดาว 1 ดวง
ระบบใหม่ ใช้จ่ายในร้าน ทุก 25 บาทจะได้ดาว 1 ดวง
3. การเลื่อนขั้น
ระบบปกติ สะสมครบ 100 ดาว จะได้อยู่ในระดับ Green
สะสมต่อจาก Green ครบ 150 ดาว จะได้เป็น Gold ซึ่งถ้าให้คิดง่าย ๆ ก็คือ ต้องได้ 250 ดาว
ระบบใหม่ สะสมครบ 300 ดวง สามารถเป็น Gold ได้เลย ต่ำกว่า 300 ดวง ทำยังไงก็ Green และจะไม่มีคำว่า Welcome อีกต่อไป
ความน่าสนใจ อยู่ตรงนี้ครับ
คนส่วนมากที่เป็น สมาชิก กว่าจะได้เป็น Gold ต้องสะสมในระยะเวลาที่นานมาก เป็นปี แต่ ถ้าเปลี่ยนเป็นระบบใหม่ คุณสามารถเป็น Gold ได้โดยการใช้จ่ายเงินภายใน 7,500 บาทเท่านั้น !!! การลดคุณค่าโดยการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่ง่ายขึ้น เพื่อการเข้าถึง ผมว่าดีนะ แต่การรักษาลูกค้าฐานเก่าให้เค้าอยู่กับคุณต่อไปได้ อันนี้น่าสนใจยิ่งกว่า
การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าแบบ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ผมอยากเห็นนะว่าจะมีจริงไหม
พอตอนเย็นได้ไปคุยกับน้อง ๆ ที่ สตาร์บัค ยิ่งตกใจ
เค้าบอกว่า การได้แก้วฟรี ซื้ออะไรก็ได้ในร้านให้ได้ ดาวมา 120 ดวงก็ง่ายดีนะ นั้นหมายถึงเงิน 2,500 บาท จะได้แก้วฟรี 1 แก้ว แต่ถ้าระบบเก่า สมมุติ ว่าซื้อ กาแฟ แก้วละ 130 บาท จำนวน 12 แก้วจะต้องจ่ายเงิน 1,560 บาท แน่ละ ดาว ได้น้อยกว่า เน้นการเลิกแก้วฟรีโดยการจ่ายเงิน 2,500 บาท ซึ่งแน่นอน บริษัท มองเงินที่ได้รับ และ ไม่ได้สนใจ กลุ่มลูกค้า Gold เดิมที่อยู่จะยังไงก็ช่าง
ซึ่งผมต้องย้ำก่อนว่า ร้านกาแฟเจ้านี้ ไม่ได้เป็นกาแฟชั้นสูง เป็นอีกร้านที่เสริฟกาแฟ แบบเร่งด่วน และ สะดวกในการเข้าถึง รวมไปถึงการให้บริการพื้นที่ของร้านเพื่อสร้างเป็น Community หนึ่งสำหรับใครที่นัดเพื่อน คุยงาน แล้วสั่งกาแฟ สามารถชาร์จแบต นั่งหลับ นอนอ่านหนังสือ ได้เป็นอย่างดี
อยากฝากให้ทาง สตาร์บัค ได้คิด การผันแปรสะสมแก้วกาแฟ มาเป็นดาว และ การเปลี่ยนยอดเงินมาเป็นดาว รวมถึงเอาดาวมาแลกเป็น กาแฟ ฟรี แต่สิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่คนสะสมบางคนอย่างผมต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้มา มันช่างน่าขันที่ พวกคณแมร่งไม่ได้จริงใจเลย !!! และแน่นอนว่า ถ้าไม่นัดเพื่อน, คุย ธุระ ก็อาจจะไม่แวะเข้าไปอีก