สิ่งก่อสร้างรูปทรงประหลาดชวนพิศวง

อาคารรูปทรงประหลาด ที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรแอตแลนติก

ณ มหาสมุทร Ile d’Aix  และ Ile d’Oléron ที่ประเทศฝรั่งเศส คุณจะได้เห็นตึกรูปร่างประหลาดหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ตึกอาคาร แต่มันถูกสร้างมาเพื่อเป็นเกาะกลางทะเลที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ Fort Boyard และสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการสำหรับป้องกันเมือง Charente กับอ่าว Rochefort ในช่วงศตวรรษที่ 17

จุดประสงค์แรกสุดที่สร้างมันขึ้นมาก็เพื่อใช้เป็นฐานทัพกองกำลังแห่งฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 
โดยโปรเจกต์นี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1662 และด้วยวิทยาการอะไรต่างๆ ที่ยังไม่ทันสมัย จึงทำให้โครงการสร้างไม่สำเร็จเพราะค่าใช้จ่ายสูงเกินไป

แต่ก็ใช่ว่ามันจะถูกทิ้งร้างไว้อย่างน่าเสียดาย เพราะครั้งหนึ่ง Vauban ผู้เปรียบเสมือนบิดาแห่งสถาปนิก เคยออกมากล่าวว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวใกล้เคียงกับคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ สูงมาก ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างมาอย่างลวกๆ แต่มันก็ถูกใช้งานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ทำสงครามกับอังกฤษ จนกระทั่งในปี 1801 ซึ่งเป็นยุคการปกครองของนโปเลียน จึงได้สั่งให้มีการบูรณะสถานที่แห่งนี้ใหม่อีกครั้ง

ทว่ายังไม่ทันได้สร้างเสร็จดี โครงการก็ถูกล้มเลิกไป จนต่อมาในปี 1830 พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปจึงได้สั่งสร้างสถานที่แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง ในช่วงนั้นคนงานก่อสร้างต้องมารวมกันอาศัยอยู่ที่ Ile d’Oléron และมันก็นำมาซึ่งวิถีชีวิตของคนในชุมชน จนเริ่มขยับขยายไปเรื่อยๆ และกลายเป็นท่าเรือขนส่งในที่สุด ซึ่งสถานที่แห่งนี้สร้างเสร็จในปี 1858 หลังก่อสร้างเสร็จสถานที่แห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นโกดังสำหรับเก็บอาหาร รวมถึงอาวุธทหารต่างๆ อีกทั้งยังสามารถจุคนได้มากถึง 250 คน

แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไปจุดประสงค์ที่ถูกใช้งานก็เปลี่ยนตาม เมื่อปี 1990 สถานที่แห่งนี้ก็ถูกปลุกให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งจากรายการเรียลลิตี้ทีวีโชว์ Les Adventures ซึ่งเป็นรายการที่จะพาผู้เข้าแข่งขันไปเอาชีวิตรอดบนเกาะแห่งนี้ แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประวัติแบบคร่าวๆ ของสถานที่
Cr.menmen007.blogspot.com

The Long Lines Building 

ตึกที่เราว่านั้นก็คือตึก The Long Lines Building ที่ตั้งอยู่บริเวณ 33 Thomas Street ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตึกนี้น่าสนใจก็คือ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2017 ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง Tom Hanks ได้ทวีตข้อความว่าเขาไปเจอกับตึกดังกล่าว แล้วเขาก็บอกว่าตึกนี้มันเป็นตึกที่เขากลัวที่สุดในชีวิตแล้ว…

The Long Lines Building เป็นตึกที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1974 ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิคที่ชื่อว่า John Carl Warnecke ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งตระหง่านสูงถึง 167 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตล้วนๆ ไม่มีหน้าต่างหรือกระจกเป็นส่วนประกอบแม้แต่นิดเดียว
    นอกจากนั้นตัวตึกยังเป็นทรัพย์สินของบริษัท AT&T ซึ่งภายในก็จะมีเจ้าหน้าที่ทำงานเกี่ยวกับระบบสื่อสารถ่ายทอดสดต่างๆ และกำหนดเส้นทางสายการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
    ผู้คนในบริเวณนั้นว่ากันว่า ภายในตึกก็มีแต่อุปกรณ์สื่อสารเท่านั้น ส่วนคนทำงานอยู่ข้างในก็มีไม่เยอะด้วย รอบตึกจึงดูเงียบสงัดอย่างที่เห็น

ทว่าจุดประสงค์ซ่อนเร้นอีกอย่างของตึกนี้ก็คือ มันถูกสร้างมาในช่วงสงครามเย็นและตั้งไว้เพื่อเป็นป้อมปราการในยามที่มีระเบิดนิวเคลียร์หรือแรงระเบิดที่รุนแรงเกิดขึ้น
    ตึกนี้จะสามารถป้องกันสารพิษและแรงระเบิดได้ ซึ่งมันจะช่วยให้คนมากกว่า 1,500 คนสามารถมีชีวิตรอดอยู่ภายในตึกนานกว่า 2 สัปดาห์

แต่เรื่องลึกลับของตึกยังไม่หมดเท่านั้น เพราะทาง The Intercept ได้รายงานว่าจริงๆ แล้วย่านรอบๆ ตัวตึก The Long Lines Building อาจจะเป็นที่ตั้งของจุดเฝ้าสังเกตการณ์สำคัญ ของสำนักความมั่นคงแห่งชาติหรือ NSA ก็เป็นได้ แถมตึกนี้ยังมีชื่อแฝง TITANPOINTE อีกต่างหาก!!?
    และเจ้าตึกนี้ยิ่งลึกลับน่ากลัวขึ้นไปอีกเมื่อขุดค้นเพิ่มก็พบว่า ตัวตึกตอนที่สร้างมันเคยถูกเรียกว่า Project X ซึ่งมันฟังดูเหมือนกับโครงการลับอะไรบางอย่าง แถมพอเอามารวมเข้ากับเรื่องข้างบนยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก หรือว่าจะมีความลับซ่อนอยู่ แล้วใช้งานเกี่ยวกับการสื่อสารบังหน้ากันนะ

เรื่องทุกอย่างมันยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกเมื่อมีเอกสารที่แฮคเกอร์ในตำนาน Edward Snowden ได้ระบุว่าทาง  AT&T เคยทำงานร่วมกับ NSA ในช่วงระยะเวลาหนึ่งอีกด้วย
Cr.liekr.com

ประติมากรรม Maman ที่ Lake Zџrich ซูริก, สวิตเซอร์แลนด์

ประติมากรรมนี้เป็นผลงานของศิลปินหญิงชาวฝรั่งเศส/อเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในวงการศิลปะร่วมสมัยโลกผู้ล่วงลับอย่าง หลุยส์ บรูชัวร์ (Louise Bourgeois) ประติมากรรมรูปแมงมุมขนาดยักษ์ที่ทำจากเหล็กและหินอ่อนชิ้นนี้เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เธอที่สุด จนมีคนตั้งฉายาให้เธอว่า ‘มิสซิสแมงมุม’ เลยทีเดียว เธอมักจะถ่ายทอดผลงานของเธอออกมาในรูปทรงของสิ่งมีชีวิต (ส่วนใหญ่เป็นเพศเมีย) อันน่าขนลุก พิสดาร แต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความงามอย่างน่าพิศวง

องค์ประกอบอันน่าสะพรึงกลัวในผลงานหลายๆ ชิ้นของเธอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมงมุม เปรียบเสมือนภาพสะท้อนความรู้สึกหวาดกลัวในวัยเยาว์ที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอและผู้หญิงหลายคน เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเอง ซึ่งเป็นเผด็จการและเจ้าชู้มากรักหลายใจ ว่ากันว่าเขาถึงกับมีความสัมพันธ์โจ่งแจ้งกับชู้รักต่อหน้าภรรยาและลูก ๆ เลยทีเดียว

นอกจากนั้นเธอยังตั้งคำถามต่อเพศสภาวะ บทบาท และพื้นที่ของสตรีในทั้งโลกศิลปะและสังคมที่ถูกจำกัดจำเขี่ยอย่างคับแคบเสมอมา อีกนัยนึงมันก็แสดงออกถึงความปรารถนา ความเย้ายวน พลังและสัญลักษณ์ทางเพศ ของผู้หญิง ของเพศแม่ ซึ่งก็คือเพศผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งผลงานชิ้นที่โด่งดังที่สุดอย่างแมงมุมตัวนี้ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของแม่ของเธอนั่นเอง (Maman ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า แม่)

ผลงานประติมากรรมขนาดยักษ์รูปแมงมุมขยุ้มหลังคาแข้งขายาวเหยียดตัวนี้ แพร่พันธุ์ไปยืนเขย่งเกงกอยให้เราเห็นอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ หลายเมืองในโลก ทั้งปารีส โตเกียว สเปน หรือแม้แต่ในบ้านเราก็ยังเคยเข้ามาแสดงแล้วเป็นการชั่วคราวที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
Cr.www.wurkon.com

Spomeniks แถบบอลข่าน

ที่มาภาพ twistedsifter
 
ถ้าคุณเห็นภาพสิ่งก่อสร้างอะไรแบบนี้จากไกลๆ คุณคงนึกว่าตัวเองได้หลงเข้ามายังดินแดนต่างดาว โลกต่างมิติ หรือผ่านเข้าไทม์แมชชีนไปยังโลกอนาคตเข้าให้เสียแล้ว แต่ความจริง ที่นี่คือสิ่งที่มีชื่อว่า Spomenik

Spomenik คืออนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลของยูโกสลาเวียเพื่อระลึกถึงการเสียสละในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลก็คือ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นับพันชิ้นที่มีอยู่กระจัดกระจายเต็มพื้นที่ไปหมด ดูเหมือนหลักในการสร้างอนุสาวรีย์พวกนี้ขึ้นมาก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้มันดูประหลาดมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นยุค ค.ศ.1990 ยูโกสลาเวียก็แตกออกเป็นกลายประเทศ  Spomenik เองก็ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่รอบๆ แหลมบอลข่าน ส่วนความหมายและสัญลักษณ์ของ Spomenik ที่เหลืออยู่ก็ถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้น ทำให้ทุกวันนี้ จดประสงค์เดียวของสิ่งก่อสร้างนี้ก็คือทำให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้สึกประหลาดใจเท่านั้น
Cr./board.postjung.com

อาคาร Energomash กรุงมอสโคว์

ที่มาภาพ lana-sator.livejournal
 
แค่ดูจากภาพก็บอกได้เลยว่าที่นี่คือฉากจากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์สักเรื่องแน่ๆ และอีกไม่นานเราคงจะเห็นยานอวกาศบินผ่านไปมา พร้อมกับฉากระเบิดในอวกาศเป็นฉากหลัง

จริงๆ แล้ว ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายขึ้นในห้วงอวกาศไกลโพ้นบนดาวดวงไหน แต่มันคือภาพสิ่งที่เหลือจากการทำอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ในสมัยสหภาพโซเวียต ผลที่ได้คือสิ่งก่อสร้างกว้างใหญ่ที่อยู่ใต้ดิน และต้องขอบคุณกฏหมายของประเทศรัสเซียที่บอกไว้ว่า การเข้าไปยังสถานที่ๆ ประตูเปิดไว้อยู่แล้วไม่ถือว่าเป็นการบุกรุก ทำให้ปัจจุบันมีชาวรัสเซียหลายร้อยคนเข้าไปรื้อค้นหาสิ่งของที่อาจมีค่า และหนึ่งในคนเหล่านั้นคือ Lana Sator ผู้บันทึกการผจญภัยของตัวเองไว้ในเว็บไซต์ LiveJournal ของเธอเอง 

ภาพถ่ายเหล่านี้ถ่ายขึ้นในตอนที่ Sator และเพื่อนๆ แอบเข้าไปยังอาคาร Energomash ใกล้ๆ กรุงมอสโคว์ ซึ่งแต่ก่อนที่นี่ถูกใช้เป็นที่ทดลองจรวด ซึ่งไม่ใช่จรวดธรรมดาๆ แต่เป็นขนาดใหญ่ยักษ์ ทำให้เมื่อเข้าไปข้างในทุกอย่างจึงดูใหญ่โตน่าตื่นตาแบบที่เห็น
Cr.board.postjung.com

อนุสาวรีย์ Buzludzha ประเทศบัลแกเรีย

ที่มาภาพ leveledmag

สถานที่นี้คือ อนุสาวรีย์ Buzludzha ตั้งอยู่ในประเทศบัลแกเรีย ความจริงแล้วที่นี่ไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยหิมะแบบนี้อยู่ตลอด แต่อย่างไรก็ตาม จะมีหิมะหรือไม่มีที่นี่ก็ดูเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์อยู่ดี

ที่นี่ถูกสร้างขึ้นก็เพราะในปี ค.ศ.1891 ชาวบัลแกเรียหลายคนนัดเจอกันที่ภูเขาห่างไกลเพื่อสร้างกลุ่มนักสังคมนิยมขึ้นมา หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กลุ่มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ก็เข้าปกครองประเทศ และสร้างสิ่งก่อสร้างนี้ขึ้นมาในยอดเขาสูงเพื่อเป็นการระลึกถึงการประชุมในปี ค.ศ.1891  หลังจากนั้น 10 ปี รัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่เคยปกครองบัลแกเรียก็ล่มสลาย ทำให้สถานที่นี้ถูกทิ้งร้างไว้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเพิ่มหิมะและแสงสะท้อนจากพระอาทิตย์เข้าไป ห้องภายในตึกนี้จะกลายเป็นเหมือนกับ UFO ขนาดยักษ์น่าตื่นตาตื่นใจ
Cr.board.postjung.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่