เรามองว่าคนเก็บซิงหรือไม่เก็บเป็นความชอบส่วนบุคคล มีมุมมองที่ต่างกัน ที่สำคัญคือคุณต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง

ถ้าสองคนรักกัน ยังไม่ได้กัน sex drive มันจะมีแรงพอที่จะทำให้ผู้ชายมีความพยายามเพื่อที่จะได้แต่งงาน

แต่ถ้าได้กันมานาน ยิ่งอยู่ด้วยกัน sex drive มันได้รับการตอบสนอง จนถึงชินชา บางรายถึงกับเต็มจนเบื่อ ผู้ชายเขาก็จะไปตอบสนองความต้องการส่วนอื่น การจะกระตือรือร้นเรื่องงานแต่งมันจะลดลงมาก เหมือนหมดความจำเป็น ถ้ารักกันดีก็แต่งแน่แต่ไม่รีบ รอไปก่อน พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

การที่บางคนมี sex ก่อนก็ไม่ผิด แต่ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง อยากมีก็ยอมรับตรงๆไปเลยว่าอยาก ไม่ต้องอ้างว่าอยู่ก่อนแต่งเพื่อเรียนรู้กันกลัวจะเข้ากันไม่ได้ เพราะถ้าเรารับผิดชอบการกระทำของเราเอง เราจะไม่เรียกร้องว่าใครฟันเราแล้วทิ้งให้เราเสียคุณค่าในตัวเอง

ไม่มีใครฟันใครแล้วทิ้งหรอก อยากมี sex ก็ยืดอกรับไป รับผิดชอบตัวเองให้ได้ ยอมเองแล้วมาเรียกร้องมากมายมันดูเป็นพวกขี้แพ้ อยากเองแต่อ้างโน่นนี่นั่น แล้วต้องคิดเผื่อพลาดท้องแล้วโดนทิ้ง ติดโรค โดนนินทา พลาดไม่ได้แต่งไว้ด้วย คุณเป็นมีสิทธิเลือกว่าจะอ้าหรือไม่อ้าขาให้ใคร

ปัญหาตอนนี้ที่เห็นคือ เอาวัฒนธรรมตะวันตกมาครึ่งๆกลางๆ อยากมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่อยากรับผิดชอบ ประเภทเยได้ก็เลี้ยงได้ แต่ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลย คนที่มีเพศสัมพันธ์ต้องมองว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบตัวเอง ไม่ใช่โทษผู้ชายว่าหลอกฟัน ด่าแม่ผัวว่าไม่ยอมมาขอ ด่าผัวว่าไม่ยอมมาแต่ง ไม่รวมกรณีที่ผู้ชายจงใจหลอกและการโดนข่มขืนนะ ผู้หญิงบางคนซะอีกเอา sex มาแลกรัก ยอมท้องเพื่อจับผู้ชาย

เรามองว่าถ้าทุกคนมี sex ด้วยความรับผิดชอบ จะมีก่อนแต่งหรือหลังแต่งก็ไม่ใช่ประเด็น แต่ต้องรู้ว่ามันจะมีผลอะไรตามมา แล้วก็ยืดอกรับอย่าโทษคนอื่น