เห็นเพื่อนโพสเรื่อง การเอาคืนคนเห็นแก่ตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันที่เดินทางสารด้วยรถไฟฟ้ามาทำงานวันแรก เป็นวันที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด มีแต่คนเห็นแก่ตัวเต็มไปหมด รีบจนทำทุกอย่างได้ให้ได้ขึ้นขบวนแม้จะเอาเปรียบคนอื่น
แต่ชีวิตไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จะใช้มันเดินทางทุกวัน เดินทางในทุกวันๆ เลยเปลี่ยนความหงุดหงิด จำเจ น่าเบื่อ ให้สนุกขึ้น
1. เริ่ม optimize ด้วยการสังเกตว่าเข้าขบวนไหน เวลาถึงสถานีประตูจะตรงกับบรรไดเลื่อนเลย
2. ในสายสีม่วงถ้าหลัง 9 โมงเขาจะเปิดบรรไดเดินลง บันไดเดินลงจะลงไปเจอสายสีน้ำเงินเลย
3. Mrt รถจะช้ามาก ถ้าพลาดก็ต้องรออย่างน้อย 5 นาทีให้รีบขึ้น Bts ต้นสายหมอชิต ถ้าคนเยอะไม่ได้นั่ง ก็รอขบวนถัดไปแค่ 2-3 นาที
และเริ่มฝึกสกิลเอาคืนคนเห็นแก่ตัว พอเจอผมก็จะเล่นด้วยกับพวกเขา ถ้าเขาหงุดหงิดก็ถือว่าสำเร็จ
1. เห็นรีบๆ วิ่งๆ ผมจะทำใส่หูฟัง แล้วเดินช้าๆ ขวางทางๆ ให้วิ่งไปยากๆ
2. ถ้ายังทันผมก็กระโจนอัดเข้าขบวนเลย แล้วปลดกระเป๋าจากข้างหน้า ไว้ข้างหลัง ให้กระเป๋าไปเกะกะ
3. พอจะลง(กรณีที่เขาลงก่อน) ผมก็จะทำ งงๆ ขวางๆ ให้ลงยากๆ บางทีลงไม่ทันก็มีนะ
4. ไม้ตาย คือเดินตาม ถ้าใส่รองเท้าแตะ ให้แกล้งเหยียบรองเท้าเลย เขาจะสะดุด แล้วเราก็ยิ้มขอโทษเขาอย่างจริงใจ
แต่จริงๆ คนเห็นแก่ตัวเขาก็อาจมีเหตุผลของเขานะ ที่รีบๆ จนต้องเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่สนหรอก เพราะเขาได้เอาเปรียบผมแล้ว ผมก็มีเหตุผลของผมที่เอาคืนเหมือนกัน
ทำให้นึกถึงตอนที่ผมพักที่หลักสี่ แล้วต้องเดินทางไปทำงานที่สีลม
นั่งรถเมล์สาย 538 510(ทางด่วน) จำได้ไม่ลืมเลยว่าตอนเช้ารถเมล์สายนี้คนจะแน่นมากๆ ประมาณว่าเป็นปลากระป๋อง
แล้วที่นี้ป้ายรถเมล์ตรงข้ามวัดหลักสี่ดันเป็นป้ายสุดท้ายก่อนขึ้นทางด่วนนี่สิ คนจากรังสิตดอนเมืองขึ้นก็ว่าแน่นรถแล้ว คนที่ขึ้นจากหลักสี่ ใหม่ๆ เห็นคนกรูวิ่งขึ้นไปไม่สนคิว ไม่ตอแถว ไอ้เราก็มีน้ำใจให้ ผู้หญิงขึ้นไปก่อน ให้คนมีอายุขึ้นไปก่อน ผลปรากฎว่า เราเองที่ไม่ได้ขึ้นเพราะรถเมล์เต็มแล้ว เต็มจนถึงต้องมายืนบนบันไดทางขึ้น
หลังๆ เลยต้องเก็บความมีน้ำใจไว้ รักตัวเอง กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไว้ก่อน รถเมล์มา ไม่สนวิ่งกรูขึ้นไป ก็ให้ได้เข้าไปยืนข้างใน แต่เมื่อมองลงมาก็มี คนอื่นๆ ที่เค้ายืนบนบันไดบ้าง เราเองยืนบนบันไดบ้าง เห็นคนที่ไม่ได้ขึ้นบ้าง ก็อนิจา ระบบขนส่งมวลชนของประเทศจริงๆ รถเมล์ไม่พอ ทำให้คนเมืองกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยไม่รู้ตัว
ขากลับผมจึงเลือกนั่งรถเมล์ไปหัวลำโพง แล้วนั่งรถไฟ รฟท.กลับหลักสี่
จบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้
ใครอยากแชร์ก็มาแชร์กันได้ครับ
ตอนนี้ทำงานใกล้ที่พัก แฮปปี้สุดๆ ละ นานๆ เข้าเมืองนั่ง BTS ทียังกะบ้านนอกเข้ากรุง ทั้งๆ พักใน กรุงเทพฯ
ใครเคยขึ้นรถเมล์สายอัดปลากระป๋อง บ้างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทำให้นึกถึงตอนที่ผมพักที่หลักสี่ แล้วต้องเดินทางไปทำงานที่สีลม
นั่งรถเมล์สาย 538 510(ทางด่วน) จำได้ไม่ลืมเลยว่าตอนเช้ารถเมล์สายนี้คนจะแน่นมากๆ ประมาณว่าเป็นปลากระป๋อง
แล้วที่นี้ป้ายรถเมล์ตรงข้ามวัดหลักสี่ดันเป็นป้ายสุดท้ายก่อนขึ้นทางด่วนนี่สิ คนจากรังสิตดอนเมืองขึ้นก็ว่าแน่นรถแล้ว คนที่ขึ้นจากหลักสี่ ใหม่ๆ เห็นคนกรูวิ่งขึ้นไปไม่สนคิว ไม่ตอแถว ไอ้เราก็มีน้ำใจให้ ผู้หญิงขึ้นไปก่อน ให้คนมีอายุขึ้นไปก่อน ผลปรากฎว่า เราเองที่ไม่ได้ขึ้นเพราะรถเมล์เต็มแล้ว เต็มจนถึงต้องมายืนบนบันไดทางขึ้น
หลังๆ เลยต้องเก็บความมีน้ำใจไว้ รักตัวเอง กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไว้ก่อน รถเมล์มา ไม่สนวิ่งกรูขึ้นไป ก็ให้ได้เข้าไปยืนข้างใน แต่เมื่อมองลงมาก็มี คนอื่นๆ ที่เค้ายืนบนบันไดบ้าง เราเองยืนบนบันไดบ้าง เห็นคนที่ไม่ได้ขึ้นบ้าง ก็อนิจา ระบบขนส่งมวลชนของประเทศจริงๆ รถเมล์ไม่พอ ทำให้คนเมืองกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยไม่รู้ตัว
ขากลับผมจึงเลือกนั่งรถเมล์ไปหัวลำโพง แล้วนั่งรถไฟ รฟท.กลับหลักสี่
จบการแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้
ใครอยากแชร์ก็มาแชร์กันได้ครับ
ตอนนี้ทำงานใกล้ที่พัก แฮปปี้สุดๆ ละ นานๆ เข้าเมืองนั่ง BTS ทียังกะบ้านนอกเข้ากรุง ทั้งๆ พักใน กรุงเทพฯ