ห่างหน้าไปจากห้องบลูแพลนเน็ตหลายปี ไม่มีเวลามาตั้งกระทู้รีวิว ด้วยภารกิจที่หนักขึ้น และต้องเดินทางบ่อย ๆ แต่เมื่อมีเรื่องเตือนภัย ป้าต้องรีบมาค่ะ
*หากเห็นว่ากระทู้เป็นประโยชน์ รบกวนกดโหวตด้วยนะคะ เพื่อน ๆ จะได้เห็นกันถ้วนหน้าและระวังตัวกัน
**ขอเล่ารายละเอียดเยอะหน่อยนะคะ เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ได้ครบถ้วน และอาจจะมีจุดที่ตัวเองมองข้ามไป
เหตุเกิดจากโปรบัตรเครดิต Citibank Royal Orchid Plus ที่สามารถปรับสถานะบัตร ROP ได้เร็วกว่าเดิม ป้าคำนวณยอดไมล์จากทริปที่วางแผนไว้แล้วปีนี้ ยังขาดประมาณ 8,500 ไมล์ เพื่อนสนิทไปรัสเซียมาปีก่อน บอกว่าป้าน่าจะชอบ แถมวีซ่าก็ไม่ต้องทำ มีวันหยุดยาวด้วย จะรออะไร จองตั๋ว 24 – 29 ก.ค. ไปเลย ด้วยความที่ไม่ได้จัดงบไว้เยอะ เพราะเน้นเก็บไมล์ เลยเลือกโรงแรมเล็ก ๆ ถูก ที่คะแนนดีมาก เคยเที่ยวคนเดียวมา 20 ปีง่าย ๆ ลุย ๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหา
เริ่มจากลงจากเครื่อง ไปซื้อซิม เพื่อนก็บอกไว้แล้วว่าถูกหลอก ป้าก็โดนหลอกเช่นกัน เดินไปบูธ Beeline แต่คนขายยัดเยียด MTC ให้ บอกว่าบริษัทเดียวกัน เริ่มต้นที่ 5GB 1,500 รูเบิ้ล ป้าหาข้อมูลมาก่อนก็โวยไปสิคะว่าไม่ใช่ละ คนขายก็ตอบว่าราคานั้นน่ะมันเฉพาะมอสโคว ไม่ได้ใช้ได้ทั่วประเทศ แล้วก็เถียงวนลูปไปจนยอมแพ้ พอข้อความส่งมา ยอดมันแค่ 500 รูเบิ้ลค่ะท่านผู้ชม แนะนำว่าถ้าไม่รีบร้อนใช้เน็ทให้เข้าไปซื้อในตัวเมืองดีกว่า ป้าทำตามรีวิวที่เค้าบอกไว้ นึกว่าจะหาซื้อได้ยาก ที่สถานีรถไฟหรือในตัวเมืองก็เห็นร้านทั่วไป
หลังจากนั้นก็นั่งรถนอน Megapolisไป St.Petersburg ค่ะ ไฮไลท์ของเรื่องอยู่ตรงนี้เอง ป้าเข้าไปเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ Bereg Hotel ที่ Likovski Prospekt 55/4 ราคาประมาณ 1,500 บาทต่อคืน ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาเจอ ตอนเช็คอินเจอพนักงาน 2 คน คนแรกให้ชื่อว่าเอ เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 มารับป้าตรงประตู ช่วยหอบกระเป๋าขึ้นไปชั้น 3 คนที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ บี อายุประมาณ 30 กว่า ตัวสูง ผมบลอนด์ยาว ทั้งสองคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแต่บีจะใช้ Google Translate คุยกะป้าถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตอนเช้าห้องยังไม่ว่างเลยฝากกระเป๋าไปเที่ยวก่อน แล้วกลับมาเช็คอินตอนเย็นกับบี การเช็คอินเป็นไปด้วยความราบรื่น ห้องเล็ก ๆ ง่าย ๆ ตามราคา ออกไปดูบัลเล่ต์กว่าจะกลับมาก็เที่ยงคืน วันแรกไม่มีปัญหาอะไร
วันที่สอง ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางเลยตื่นสาย ตอนใกล้จะออกจากห้อง มีพนักงานมาเคาะประตู ซี อายุประมาณ 20 กว่า บอกว่าเค้าเป็นพนักงานธุรการและทำความสะอาด ขอพาสปอร์ตเพื่อเอาไปลงทะเบียน ป้าก็ให้ไปแต่โดยดีเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ซีก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน เลยใช้แอพแปลภาษาบนมือถือ
ซี: จากนี้ไปไหนต่อ
ป้า: 28 ไปมอสโคว แล้วกลับไทย 29
(อันนี้เป็นประเด็นแรกว่าทำไมถึงถาม เพราะพอไปอีกโรงแรม เค้าไม่ได้ถามเพื่อใช้ลงทะเบียน ใช้แค่พาสปอร์ต)
ซี: การลงทะเบียนนี่สำคัญมากเลยรู้มั้ย มี CEO เสียเงินไป 3,000 รูเบิ้ล
(นี่จากแอพนะคะ ข้อความจริง ๆ มันจะงง ๆ ป้าก็เติมเองบ้างซึ่งความหมายอาจจะไม่เป๊ะ CEO ที่ไหนก็ไม่ทราบ)
พอส่งพาสปอร์ตให้
ซี: มาจากเมืองไทยเหรอ ชั้นไปเที่ยวพัทยาทุกปีเลย
ป้า: (ดีใจจัง เค้ารู้จักเมืองไทยด้วย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ)
แล้วซีก็หยิบพาสปอร์ตไปเปิดทุกหน้า เค้าหยุดตรงหน้าวีซ่าเช็งเก้นนานผิดปกติ ถามว่านี่ของเดนมาร์กเหรอ (ป้าเพิ่งกลับจากทริปนอร์เวย์ – ไอซ์แลนด์แค่ 2 วันก่อนมารัสเซีย)
ป้า: เสร็จแล้วใช่มั้ย
ซี: 3,000 รูเบิ้ล
ตอนนี้ก็งง ๆ นิดนึงว่าแอพอาจจะแปลผิด เค้าอาจจะหมายความให้จ่าย 3,000 รูเบิ้ล ตั้งแต่ต้น ป้าพอรู้ว่าโรงแรมใหญ่ ๆ เค้าจะทำให้ฟรี แต่โรงแรมเล็ก ๆ อาจจะเก็บเงิน ซึ่ง 3,000 รูเบิ้ล นี่เท่าค่าห้องที่นี่คืนนึงเลย พอเดาได้ว่าโดนขูดเลือด แต่ไม่อยากจะเถียงให้เสียอารมณ์ เลยจ่ายไป
หลังจากนั้นนางก็มาถามค่ะว่าอยากไปทัวร์มั้ย บอกได้นะ มีชากาแฟ ฟรีนะ ฯลฯ พูดจาดีมาก แล้วอีกแป๊บนึงก็มาเคาะประตูใหม่ค่ะ บอกว่าที่นี่กำลังจะมีการเลือกตั้งแล้วมีปัญหาไฟลท์ออกไม่ได้ จะบินออกได้เร็วสุด 3 ส.ค. นะ ป้าไฟลท์อะไร เอาข้อมูลไปแล้วจะไปเช็คให้ ป้าก็ส่งให้เค้าค่ะ คุยมือถือ ระหว่างนั้นก็เข้าเน็ตเลยค่ะว่าที่เค้าบอกจริงมั้ย ซึ่งค้นหาแล้วก็ไม่เห็นมีข่าว แต่ไม่แน่ ข่าวภาษาอังกฤษ ภาษาไทยมันอาจจะยังไม่ออก ติดต่อทางบ้านด้วย Messenger โชคร้ายที่บ้านเล่นแต่ไลน์ ซึ่งโดนบล็อคทีรัสเซีย ไม่มีใครอ่านข้อความป้าเลย
ซี:ไม่มีชื่อเธอในรายชื่อผู้โดยสารนะ ตั๋วเธอไม่รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ป้า: มันรวมแล้วนะ (หยิบตั๋วไปชี้ให้ดู – เดินทางบ่อย มั่นใจมาก – และตรงนี้ล่ะเป็นจุดที่สงสัยว่านางหลอก แต่ด้วยสันดานผู้ตรวจสอบ ถามคำถามไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อสอบทานข้อมูลอีกที และให้นางคิดว่าเราไม่สงสัย)
ซี: เรทมันขึ้นแล้วน่ะ เธอต้องจ่ายส่วนเพิ่ม
ป้า: ขอบคุณที่บอกนะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อการบินไทย
ซี: ไม่ ๆ มันไม่ใช่ปัญหาการบินไทย การบินไทยไม่รู้เรื่องหรอก มันเป็นปัญหาภายในของทางการที่นี่ แต่ไม่ต้องกลัวนะ ทุกปัญหามีทางออก
(เอ่อ ถ้าไม่ใช่ปัญหาการบินไทย แล้วทางการเกี่ยวอะไรกับค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่สารภาพว่าตอนนั้นคิดไม่ทันเพราะบทสนทนาเกิดขึ้นเร็วมาก)
ซี: การจะออกจากประเทศได้ เธอต้องใส่ชื่ออ้างอิงที่นี่ เดี๋ยวฉันใส่ชื่อตัวเองให้เธอได้นะ
ป้า: อ้างอิงอะไร กับใคร
ซี: กับกงสุล ตม.
ป้า: ฉันจะรู้ได้ไงว่าจะบินออกได้จริง ๆ วันนั้น
ซี: 28 ก.ค. ตอน 5 โมงจะมีอีเมล์ไปแจ้ง (ฉลาดนะคะ เพราะตอนนั้นเราจะอยู่มอสโควแล้ว ทำอะไรเค้าไม่ได้)
ป้า: ที่ต้องจ่ายเพิ่มน่ะเท่าไหร่
ซี: แป๊บนะ เดี๋ยวถามให้ (ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าโทร.จริงหรือเปล่า โทร.หาใคร หรือแค่ฟอร์มโทร.)
แล้วนางก็กลับมาพร้อมกับคำตอบ
ซี: 17,897 รูเบิ้ล ถ้าจะกลับวันเดิม หรือ 7,000 ถ้าจะกลับ 3 ส.ค.
ป้า: นั่นเงินเยอะมากเลยนะ ขอใช้เวลาตัดสินใจนะ
(ซี: จำไม่ได้แล้วว่าตอบว่าอะไร แต่ประมาณว่า ถ้าไม่จ่ายเลย เดี๋ยวไม่ได้บินนะ)
ป้า: ฉันจะจ่ายด้วยบัตรเครดิตของฉัน
ซี: ไม่ได้ รัฐบาลรับชำระด้วยบัตร Mir เท่านั้น วีซ่า มาสเตอร์การ์ดไม่รับ ฉันจะจ่ายเงินตรงนี้ให้ไปก่อนด้วยบัตรเครดิตของฉัน
ป้า: ฉันไม่สามารถเข้าใจที่คุณพูดมาได้เลย ถ้าฉันไม่สามารถใช้เครดิตการ์ดของตัวเองจ่ายได้ ฉันต้องดูกระบวนการที่เธอทำรายการทั้งหมด ฉันไม่เข้าใจ และต้องการเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น (ตอนนี้เสียงแข็งแล้วค่ะ)
ซี: ไอเข้าใจยูนะ ไออยากให้ยูได้สิ่งที่ดีที่สุด (สังเกตว่า เค้าจะไม่ตอบตรง ๆ แต่พยายามตอบเลี่ยง ๆ และมาแนวซอฟท์ตลอด ไม่มีการข่มขู่เลย)
ป้า: ฉันต้องการเข้าใจว่าการจ่ายเงินนี่จะช่วยฉันได้ยังไง คุณจ่ายเงินให้ใครและจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันจะมีชื่อเดินทางออก
ซี: (ตรงนี้แอพแปลออกมาไม่รู้เรื่อง อะไร Wed World นี่ล่ะ)
ป้า: Wed World คืออะไร
ซี: ระบบการชำระเงิน
ป้า: คุณช่วยให้เอกสารหลังจากคุณจ่ายเงินแล้วและเอกสารเพื่อยืนยันว่าฉันจะได้บินจริงก่อน 28 ก.ค.ได้มั้ย
ซี: ได้สิ้นวัน จะส่งให้ทางอีเมล์ (ไม่ตรงกะตอนแรกที่บอกจะได้ 28 นะจ๊ะ)
ยังไม่ได้ตกปากรับคำอะไร ป้าก็เข้าห้องไปค่ะ กูเกิ้ลหาที่อยู่สถานทูตไทย และส่งอีเมล์ไปหาสถานทูตว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำยังไงดี ที่ไม่ได้โทร.เพราะแพ็คเกจมือถือไม่รวมโทร.ค่ะ และคิดว่ายังสามารถรับมือสถานการณ์ได้อยู่ เผื่อเจ้าหน้าที่จะตอบเร็ว
พอดีซีมาเคาะห้องจะทำความสะอาด ป้าเลยเผ่นไปเที่ยวเลย การเที่ยวก็เป็นไปด้วยความกังวล คือแน่ใจแล้วล่ะว่าเค้าตั้งใจหลอก แต่ยังต้องอยู่อีก 2 คืน จะทำยังไง แก้ปัญหายังไงดี
ประเด็นที่ 1 โรงแรมนี้ไม่มีพนักงานอยู่ตอนกลางคืน ถ้ากลับมาดึก ๆ อย่างน้อยจะได้เลี่ยงการเจอหน้าซีอีก เลยกลับมา 2 ทุ่มครึ่งแต่พลาดจ้า เจอเอกับซีคุยกันอยู่ แล้วตัวเองดันไขกุญแจไม่ได้ ซีมาช่วยเปิดให้ ป้าก็มุดเข้าห้องไปเลยแล้วเอากุญแจเสียบคารูไว้ ถ้าเค้าจะมาไขจากด้านนอกจะได้ไขไม่ได้
ประเด็นที่ 2 บีกับซีเค้าเข้าเวรสลับวันกันหรือเปล่า ถ้าวันรุ่งขึ้นเจอบี แล้วถามว่าค่าลงทะเบียนเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ 3,000 จะแอบฟ้องไปเลยมั้ยว่าซีเก็บเกิน แต่ต้องอยู่ต่ออีกคืน เกิดเจอซีวันเช็คเอ้าท์จะทำยังไง ที่น่าสงสัยกว่านั้นคือ เอ บี ซี รู้เห็นเป็นใจกันทั้งหมดหรือไม่ แค่ซีเป็นคนโกงคนเดียวหรือทำกันเป็นขบวน เพิ่งนึกได้ที่ซีพูดเรื่องพัทยา ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ดีใจที่เค้ามีความผูกพันกับเมืองไทย แต่คิดอีกที พนักงาน (ทำความสะอาด) โรงแรมเล็ก ๆ แค่ 6 ห้อง ทำไมถึงสามารถไปพัทยาได้ทุกปี และทำไมต้องเป็นพัทยา ถ้าเกิดเค้าเล่นไม้แข็งกับป้าจริง ๆ ยังไงก็ไม่รอด แค่ซีคนเดียวตัวประมาณ 2 – 3 เท่าของป้า
ประเด็นที่ 3 ถ้าซีมาทวงเงิน อ้างว่าจ่ายไปแล้วจะทำยังไง ป้าเองมีเงินติดตัวประมาณ 50,000 รูเบิ้ล!!! ปกติแล้วไม่พกเงินเยอะขนาดนั้น บังเอิญวางแผนเที่ยวมูร์มังส์เดือนต.ค.อยู่แล้ว ต้องจ่ายค่าทัวร์เป็นเงินสด เลยแลกเงินมาเกิน จะไม่เอามาหมดก็กลัวว่าถ้าจำเป็นต้องใช้ เงินไม่พอ จะเดือดร้อน งานนี้เลยเอาเงินไปซ่อนที่จุดลับที่คาดว่าเค้าจะหาไม่เจอ
อ้อ พอกลับเข้าห้องมา มีเรื่องให้นอยด์อีกอย่างคือค่อนข้างแน่ใจว่าเค้ามาค้นเอกสารการเดินทางเราค่ะ ป้าใส่เอกสารการเดินทาง พวกใบจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ โรงแรม ไว้ในแฟ้มพลาสติก แล้วเอาของทับไว้ (อันนี้ไม่ควรเลียนแบบนะคะ แต่ตอนนั้นตั้งใจทดสอบจริง ๆ) พอกลับมา ของที่ทับมันกระจัดกระจายไปจุดอื่นของโต๊ะ ไม่เนียนนะเนี่ย
วันนั้นเลยเป็นวันที่เที่ยวไม่สนุก ถึงไม่เครียดแต่ก็กังวลไปหมดเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แล้วแผนที่วางไว้จะเป็นไปด้วยดีมั้ย ตอนกลางคืนก็หลับไม่สนิท ที่แน่ ๆ ตัดสินใจแล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะเช็คเอ้าท์เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของตัวเอง (ได้ประสบการณ์ที่ตัวเองถูกปล้นและทำร้าย จากกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/33018148 ยังไงแล้วชีวิตความปลอดภัยสำคัญกว่าเงินเยอะ)
วันรุ่งขึ้นคุณแม่ป้าติดต่อมา เช็คการบินไทยแล้วเป็นตามคาดคือไฟลท์ไม่มีปัญหา และโทร.เข้าสายฮอทไลน์ของสถานทูต เพราะเพิ่งนึกได้ว่ามี Skype Credit อยู่ เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก และเห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าอยากอยู่ก็อ้างว่าแจ้งสถานทูตแล้ว หรือถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยก็ย้ายโรงแรมดีกว่า ป้าก็จัดการจองโรงแรมใกล้ ๆ แพงกว่า 3 เท่า (ต้องบอกว่าหน้าร้อนหาห้องว่างยากนะคะ โรงแรมดี ๆ เต็มแล้วทั้งนั้น) ตอนเช็คเอ้าท์ที่นี่ ตอนแรกไม่มีคนที่เคาน์เตอร์ แต่พอจะออกเจอเอมาพอดี เอก็ถามจะกลับแล้วเหรอ รับกุญแจไว้แล้วเดินมาส่งถึงประตู
พอย้ายโรงแรมแล้วก็เหมือนว่าเรื่องน่าจะจบลงแล้วใช่มั้ยคะ ยังค่ะ เพราะป้าก็กังวลเหมือนกันว่าซีจะไปทำอะไรกับข้อมูลหรือการจดทะเบียนที่ทำไว้แล้ว ทำให้มีปัญหาตอนออกจากประเทศหรือเปล่า เรียกว่าลุ้นจนวินาทีสุดท้าย แต่สรุปแล้วก็ผ่านตม.มาได้ด้วยดี โล่งอก
ป้าลองทบทวนดูว่าทำไมตัวเองถึงโดน คิดได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. นางนี่ท่าทางหลอกง่าย 3,000 รูเบิ้ลก็จ่ายมาแล้ว
2. บุคลิกดี แต่งตัวดี ท่าทางมีเงิน >> หลายคนชมป้าว่า “ดูแพง” ใส่ของถูก ๆ ก็เหมือนใส่ของแพง ในสถานการณ์ปกติถือเป็นข้อดี แต่ในสถานการณ์นี้ถือเป็นข้อเสีย ขนาดว่าทริปนี้ไม่ได้เอาของมีราคามาแล้ว แบบใครจะเอาอะไรก็เอา
3. มีวีซ่าเช็งเก้น ต้องมีเงินแน่ ๆ >> ดีนะที่แยกพาสปอร์ตเล่มล่าสุดออกมา ถ้าเห็นเล่มเก่าทั้งอเมริกา อังกฤษ และอื่น ๆ อาจจะโดนแรงกว่านี้
4. ตัวบาง ๆ ไม่น่าจะสู้ไหว >> กล้ามพอมีจากการเล่นโยคะ พิลาติส แต่ให้สู้กันตัว – ตัวนี่ยอมจริง ๆ ค่ะ
5. ถูกทุกข้อ
<<กระทู้เตือนภัย>> สาวเดี่ยวเที่ยวรัสเซีย ครั้งแรกก็โดนซะแล้ว
*หากเห็นว่ากระทู้เป็นประโยชน์ รบกวนกดโหวตด้วยนะคะ เพื่อน ๆ จะได้เห็นกันถ้วนหน้าและระวังตัวกัน
**ขอเล่ารายละเอียดเยอะหน่อยนะคะ เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ได้ครบถ้วน และอาจจะมีจุดที่ตัวเองมองข้ามไป
เหตุเกิดจากโปรบัตรเครดิต Citibank Royal Orchid Plus ที่สามารถปรับสถานะบัตร ROP ได้เร็วกว่าเดิม ป้าคำนวณยอดไมล์จากทริปที่วางแผนไว้แล้วปีนี้ ยังขาดประมาณ 8,500 ไมล์ เพื่อนสนิทไปรัสเซียมาปีก่อน บอกว่าป้าน่าจะชอบ แถมวีซ่าก็ไม่ต้องทำ มีวันหยุดยาวด้วย จะรออะไร จองตั๋ว 24 – 29 ก.ค. ไปเลย ด้วยความที่ไม่ได้จัดงบไว้เยอะ เพราะเน้นเก็บไมล์ เลยเลือกโรงแรมเล็ก ๆ ถูก ที่คะแนนดีมาก เคยเที่ยวคนเดียวมา 20 ปีง่าย ๆ ลุย ๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหา
เริ่มจากลงจากเครื่อง ไปซื้อซิม เพื่อนก็บอกไว้แล้วว่าถูกหลอก ป้าก็โดนหลอกเช่นกัน เดินไปบูธ Beeline แต่คนขายยัดเยียด MTC ให้ บอกว่าบริษัทเดียวกัน เริ่มต้นที่ 5GB 1,500 รูเบิ้ล ป้าหาข้อมูลมาก่อนก็โวยไปสิคะว่าไม่ใช่ละ คนขายก็ตอบว่าราคานั้นน่ะมันเฉพาะมอสโคว ไม่ได้ใช้ได้ทั่วประเทศ แล้วก็เถียงวนลูปไปจนยอมแพ้ พอข้อความส่งมา ยอดมันแค่ 500 รูเบิ้ลค่ะท่านผู้ชม แนะนำว่าถ้าไม่รีบร้อนใช้เน็ทให้เข้าไปซื้อในตัวเมืองดีกว่า ป้าทำตามรีวิวที่เค้าบอกไว้ นึกว่าจะหาซื้อได้ยาก ที่สถานีรถไฟหรือในตัวเมืองก็เห็นร้านทั่วไป
หลังจากนั้นก็นั่งรถนอน Megapolisไป St.Petersburg ค่ะ ไฮไลท์ของเรื่องอยู่ตรงนี้เอง ป้าเข้าไปเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ Bereg Hotel ที่ Likovski Prospekt 55/4 ราคาประมาณ 1,500 บาทต่อคืน ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาเจอ ตอนเช็คอินเจอพนักงาน 2 คน คนแรกให้ชื่อว่าเอ เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 มารับป้าตรงประตู ช่วยหอบกระเป๋าขึ้นไปชั้น 3 คนที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ บี อายุประมาณ 30 กว่า ตัวสูง ผมบลอนด์ยาว ทั้งสองคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแต่บีจะใช้ Google Translate คุยกะป้าถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตอนเช้าห้องยังไม่ว่างเลยฝากกระเป๋าไปเที่ยวก่อน แล้วกลับมาเช็คอินตอนเย็นกับบี การเช็คอินเป็นไปด้วยความราบรื่น ห้องเล็ก ๆ ง่าย ๆ ตามราคา ออกไปดูบัลเล่ต์กว่าจะกลับมาก็เที่ยงคืน วันแรกไม่มีปัญหาอะไร
วันที่สอง ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางเลยตื่นสาย ตอนใกล้จะออกจากห้อง มีพนักงานมาเคาะประตู ซี อายุประมาณ 20 กว่า บอกว่าเค้าเป็นพนักงานธุรการและทำความสะอาด ขอพาสปอร์ตเพื่อเอาไปลงทะเบียน ป้าก็ให้ไปแต่โดยดีเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ซีก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน เลยใช้แอพแปลภาษาบนมือถือ
ซี: จากนี้ไปไหนต่อ
ป้า: 28 ไปมอสโคว แล้วกลับไทย 29
(อันนี้เป็นประเด็นแรกว่าทำไมถึงถาม เพราะพอไปอีกโรงแรม เค้าไม่ได้ถามเพื่อใช้ลงทะเบียน ใช้แค่พาสปอร์ต)
ซี: การลงทะเบียนนี่สำคัญมากเลยรู้มั้ย มี CEO เสียเงินไป 3,000 รูเบิ้ล
(นี่จากแอพนะคะ ข้อความจริง ๆ มันจะงง ๆ ป้าก็เติมเองบ้างซึ่งความหมายอาจจะไม่เป๊ะ CEO ที่ไหนก็ไม่ทราบ)
พอส่งพาสปอร์ตให้
ซี: มาจากเมืองไทยเหรอ ชั้นไปเที่ยวพัทยาทุกปีเลย
ป้า: (ดีใจจัง เค้ารู้จักเมืองไทยด้วย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ)
แล้วซีก็หยิบพาสปอร์ตไปเปิดทุกหน้า เค้าหยุดตรงหน้าวีซ่าเช็งเก้นนานผิดปกติ ถามว่านี่ของเดนมาร์กเหรอ (ป้าเพิ่งกลับจากทริปนอร์เวย์ – ไอซ์แลนด์แค่ 2 วันก่อนมารัสเซีย)
ป้า: เสร็จแล้วใช่มั้ย
ซี: 3,000 รูเบิ้ล
ตอนนี้ก็งง ๆ นิดนึงว่าแอพอาจจะแปลผิด เค้าอาจจะหมายความให้จ่าย 3,000 รูเบิ้ล ตั้งแต่ต้น ป้าพอรู้ว่าโรงแรมใหญ่ ๆ เค้าจะทำให้ฟรี แต่โรงแรมเล็ก ๆ อาจจะเก็บเงิน ซึ่ง 3,000 รูเบิ้ล นี่เท่าค่าห้องที่นี่คืนนึงเลย พอเดาได้ว่าโดนขูดเลือด แต่ไม่อยากจะเถียงให้เสียอารมณ์ เลยจ่ายไป
หลังจากนั้นนางก็มาถามค่ะว่าอยากไปทัวร์มั้ย บอกได้นะ มีชากาแฟ ฟรีนะ ฯลฯ พูดจาดีมาก แล้วอีกแป๊บนึงก็มาเคาะประตูใหม่ค่ะ บอกว่าที่นี่กำลังจะมีการเลือกตั้งแล้วมีปัญหาไฟลท์ออกไม่ได้ จะบินออกได้เร็วสุด 3 ส.ค. นะ ป้าไฟลท์อะไร เอาข้อมูลไปแล้วจะไปเช็คให้ ป้าก็ส่งให้เค้าค่ะ คุยมือถือ ระหว่างนั้นก็เข้าเน็ตเลยค่ะว่าที่เค้าบอกจริงมั้ย ซึ่งค้นหาแล้วก็ไม่เห็นมีข่าว แต่ไม่แน่ ข่าวภาษาอังกฤษ ภาษาไทยมันอาจจะยังไม่ออก ติดต่อทางบ้านด้วย Messenger โชคร้ายที่บ้านเล่นแต่ไลน์ ซึ่งโดนบล็อคทีรัสเซีย ไม่มีใครอ่านข้อความป้าเลย
ซี:ไม่มีชื่อเธอในรายชื่อผู้โดยสารนะ ตั๋วเธอไม่รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ป้า: มันรวมแล้วนะ (หยิบตั๋วไปชี้ให้ดู – เดินทางบ่อย มั่นใจมาก – และตรงนี้ล่ะเป็นจุดที่สงสัยว่านางหลอก แต่ด้วยสันดานผู้ตรวจสอบ ถามคำถามไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อสอบทานข้อมูลอีกที และให้นางคิดว่าเราไม่สงสัย)
ซี: เรทมันขึ้นแล้วน่ะ เธอต้องจ่ายส่วนเพิ่ม
ป้า: ขอบคุณที่บอกนะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อการบินไทย
ซี: ไม่ ๆ มันไม่ใช่ปัญหาการบินไทย การบินไทยไม่รู้เรื่องหรอก มันเป็นปัญหาภายในของทางการที่นี่ แต่ไม่ต้องกลัวนะ ทุกปัญหามีทางออก
(เอ่อ ถ้าไม่ใช่ปัญหาการบินไทย แล้วทางการเกี่ยวอะไรกับค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่สารภาพว่าตอนนั้นคิดไม่ทันเพราะบทสนทนาเกิดขึ้นเร็วมาก)
ซี: การจะออกจากประเทศได้ เธอต้องใส่ชื่ออ้างอิงที่นี่ เดี๋ยวฉันใส่ชื่อตัวเองให้เธอได้นะ
ป้า: อ้างอิงอะไร กับใคร
ซี: กับกงสุล ตม.
ป้า: ฉันจะรู้ได้ไงว่าจะบินออกได้จริง ๆ วันนั้น
ซี: 28 ก.ค. ตอน 5 โมงจะมีอีเมล์ไปแจ้ง (ฉลาดนะคะ เพราะตอนนั้นเราจะอยู่มอสโควแล้ว ทำอะไรเค้าไม่ได้)
ป้า: ที่ต้องจ่ายเพิ่มน่ะเท่าไหร่
ซี: แป๊บนะ เดี๋ยวถามให้ (ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าโทร.จริงหรือเปล่า โทร.หาใคร หรือแค่ฟอร์มโทร.)
แล้วนางก็กลับมาพร้อมกับคำตอบ
ซี: 17,897 รูเบิ้ล ถ้าจะกลับวันเดิม หรือ 7,000 ถ้าจะกลับ 3 ส.ค.
ป้า: นั่นเงินเยอะมากเลยนะ ขอใช้เวลาตัดสินใจนะ
(ซี: จำไม่ได้แล้วว่าตอบว่าอะไร แต่ประมาณว่า ถ้าไม่จ่ายเลย เดี๋ยวไม่ได้บินนะ)
ป้า: ฉันจะจ่ายด้วยบัตรเครดิตของฉัน
ซี: ไม่ได้ รัฐบาลรับชำระด้วยบัตร Mir เท่านั้น วีซ่า มาสเตอร์การ์ดไม่รับ ฉันจะจ่ายเงินตรงนี้ให้ไปก่อนด้วยบัตรเครดิตของฉัน
ป้า: ฉันไม่สามารถเข้าใจที่คุณพูดมาได้เลย ถ้าฉันไม่สามารถใช้เครดิตการ์ดของตัวเองจ่ายได้ ฉันต้องดูกระบวนการที่เธอทำรายการทั้งหมด ฉันไม่เข้าใจ และต้องการเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น (ตอนนี้เสียงแข็งแล้วค่ะ)
ซี: ไอเข้าใจยูนะ ไออยากให้ยูได้สิ่งที่ดีที่สุด (สังเกตว่า เค้าจะไม่ตอบตรง ๆ แต่พยายามตอบเลี่ยง ๆ และมาแนวซอฟท์ตลอด ไม่มีการข่มขู่เลย)
ป้า: ฉันต้องการเข้าใจว่าการจ่ายเงินนี่จะช่วยฉันได้ยังไง คุณจ่ายเงินให้ใครและจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันจะมีชื่อเดินทางออก
ซี: (ตรงนี้แอพแปลออกมาไม่รู้เรื่อง อะไร Wed World นี่ล่ะ)
ป้า: Wed World คืออะไร
ซี: ระบบการชำระเงิน
ป้า: คุณช่วยให้เอกสารหลังจากคุณจ่ายเงินแล้วและเอกสารเพื่อยืนยันว่าฉันจะได้บินจริงก่อน 28 ก.ค.ได้มั้ย
ซี: ได้สิ้นวัน จะส่งให้ทางอีเมล์ (ไม่ตรงกะตอนแรกที่บอกจะได้ 28 นะจ๊ะ)
ยังไม่ได้ตกปากรับคำอะไร ป้าก็เข้าห้องไปค่ะ กูเกิ้ลหาที่อยู่สถานทูตไทย และส่งอีเมล์ไปหาสถานทูตว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำยังไงดี ที่ไม่ได้โทร.เพราะแพ็คเกจมือถือไม่รวมโทร.ค่ะ และคิดว่ายังสามารถรับมือสถานการณ์ได้อยู่ เผื่อเจ้าหน้าที่จะตอบเร็ว
พอดีซีมาเคาะห้องจะทำความสะอาด ป้าเลยเผ่นไปเที่ยวเลย การเที่ยวก็เป็นไปด้วยความกังวล คือแน่ใจแล้วล่ะว่าเค้าตั้งใจหลอก แต่ยังต้องอยู่อีก 2 คืน จะทำยังไง แก้ปัญหายังไงดี
ประเด็นที่ 1 โรงแรมนี้ไม่มีพนักงานอยู่ตอนกลางคืน ถ้ากลับมาดึก ๆ อย่างน้อยจะได้เลี่ยงการเจอหน้าซีอีก เลยกลับมา 2 ทุ่มครึ่งแต่พลาดจ้า เจอเอกับซีคุยกันอยู่ แล้วตัวเองดันไขกุญแจไม่ได้ ซีมาช่วยเปิดให้ ป้าก็มุดเข้าห้องไปเลยแล้วเอากุญแจเสียบคารูไว้ ถ้าเค้าจะมาไขจากด้านนอกจะได้ไขไม่ได้
ประเด็นที่ 2 บีกับซีเค้าเข้าเวรสลับวันกันหรือเปล่า ถ้าวันรุ่งขึ้นเจอบี แล้วถามว่าค่าลงทะเบียนเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ 3,000 จะแอบฟ้องไปเลยมั้ยว่าซีเก็บเกิน แต่ต้องอยู่ต่ออีกคืน เกิดเจอซีวันเช็คเอ้าท์จะทำยังไง ที่น่าสงสัยกว่านั้นคือ เอ บี ซี รู้เห็นเป็นใจกันทั้งหมดหรือไม่ แค่ซีเป็นคนโกงคนเดียวหรือทำกันเป็นขบวน เพิ่งนึกได้ที่ซีพูดเรื่องพัทยา ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ดีใจที่เค้ามีความผูกพันกับเมืองไทย แต่คิดอีกที พนักงาน (ทำความสะอาด) โรงแรมเล็ก ๆ แค่ 6 ห้อง ทำไมถึงสามารถไปพัทยาได้ทุกปี และทำไมต้องเป็นพัทยา ถ้าเกิดเค้าเล่นไม้แข็งกับป้าจริง ๆ ยังไงก็ไม่รอด แค่ซีคนเดียวตัวประมาณ 2 – 3 เท่าของป้า
ประเด็นที่ 3 ถ้าซีมาทวงเงิน อ้างว่าจ่ายไปแล้วจะทำยังไง ป้าเองมีเงินติดตัวประมาณ 50,000 รูเบิ้ล!!! ปกติแล้วไม่พกเงินเยอะขนาดนั้น บังเอิญวางแผนเที่ยวมูร์มังส์เดือนต.ค.อยู่แล้ว ต้องจ่ายค่าทัวร์เป็นเงินสด เลยแลกเงินมาเกิน จะไม่เอามาหมดก็กลัวว่าถ้าจำเป็นต้องใช้ เงินไม่พอ จะเดือดร้อน งานนี้เลยเอาเงินไปซ่อนที่จุดลับที่คาดว่าเค้าจะหาไม่เจอ
อ้อ พอกลับเข้าห้องมา มีเรื่องให้นอยด์อีกอย่างคือค่อนข้างแน่ใจว่าเค้ามาค้นเอกสารการเดินทางเราค่ะ ป้าใส่เอกสารการเดินทาง พวกใบจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ โรงแรม ไว้ในแฟ้มพลาสติก แล้วเอาของทับไว้ (อันนี้ไม่ควรเลียนแบบนะคะ แต่ตอนนั้นตั้งใจทดสอบจริง ๆ) พอกลับมา ของที่ทับมันกระจัดกระจายไปจุดอื่นของโต๊ะ ไม่เนียนนะเนี่ย
วันนั้นเลยเป็นวันที่เที่ยวไม่สนุก ถึงไม่เครียดแต่ก็กังวลไปหมดเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แล้วแผนที่วางไว้จะเป็นไปด้วยดีมั้ย ตอนกลางคืนก็หลับไม่สนิท ที่แน่ ๆ ตัดสินใจแล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะเช็คเอ้าท์เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของตัวเอง (ได้ประสบการณ์ที่ตัวเองถูกปล้นและทำร้าย จากกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/33018148 ยังไงแล้วชีวิตความปลอดภัยสำคัญกว่าเงินเยอะ)
วันรุ่งขึ้นคุณแม่ป้าติดต่อมา เช็คการบินไทยแล้วเป็นตามคาดคือไฟลท์ไม่มีปัญหา และโทร.เข้าสายฮอทไลน์ของสถานทูต เพราะเพิ่งนึกได้ว่ามี Skype Credit อยู่ เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมาก และเห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าอยากอยู่ก็อ้างว่าแจ้งสถานทูตแล้ว หรือถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยก็ย้ายโรงแรมดีกว่า ป้าก็จัดการจองโรงแรมใกล้ ๆ แพงกว่า 3 เท่า (ต้องบอกว่าหน้าร้อนหาห้องว่างยากนะคะ โรงแรมดี ๆ เต็มแล้วทั้งนั้น) ตอนเช็คเอ้าท์ที่นี่ ตอนแรกไม่มีคนที่เคาน์เตอร์ แต่พอจะออกเจอเอมาพอดี เอก็ถามจะกลับแล้วเหรอ รับกุญแจไว้แล้วเดินมาส่งถึงประตู
พอย้ายโรงแรมแล้วก็เหมือนว่าเรื่องน่าจะจบลงแล้วใช่มั้ยคะ ยังค่ะ เพราะป้าก็กังวลเหมือนกันว่าซีจะไปทำอะไรกับข้อมูลหรือการจดทะเบียนที่ทำไว้แล้ว ทำให้มีปัญหาตอนออกจากประเทศหรือเปล่า เรียกว่าลุ้นจนวินาทีสุดท้าย แต่สรุปแล้วก็ผ่านตม.มาได้ด้วยดี โล่งอก
ป้าลองทบทวนดูว่าทำไมตัวเองถึงโดน คิดได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. นางนี่ท่าทางหลอกง่าย 3,000 รูเบิ้ลก็จ่ายมาแล้ว
2. บุคลิกดี แต่งตัวดี ท่าทางมีเงิน >> หลายคนชมป้าว่า “ดูแพง” ใส่ของถูก ๆ ก็เหมือนใส่ของแพง ในสถานการณ์ปกติถือเป็นข้อดี แต่ในสถานการณ์นี้ถือเป็นข้อเสีย ขนาดว่าทริปนี้ไม่ได้เอาของมีราคามาแล้ว แบบใครจะเอาอะไรก็เอา
3. มีวีซ่าเช็งเก้น ต้องมีเงินแน่ ๆ >> ดีนะที่แยกพาสปอร์ตเล่มล่าสุดออกมา ถ้าเห็นเล่มเก่าทั้งอเมริกา อังกฤษ และอื่น ๆ อาจจะโดนแรงกว่านี้
4. ตัวบาง ๆ ไม่น่าจะสู้ไหว >> กล้ามพอมีจากการเล่นโยคะ พิลาติส แต่ให้สู้กันตัว – ตัวนี่ยอมจริง ๆ ค่ะ
5. ถูกทุกข้อ