คือพอพูดถึง
“เชียงตุง” หลายๆคนคงสงสัย ว่าคือเมืองอิหยังหว่า? อยู่ตรงไหน? ทำไมชื่อดูไทยๆ? อยู่ใกล้เชียงใหม่อ้ะเปล่า?? แต่ไม่เคยเห็นปรากฏอยู่ในแผนที่ประเทศไทย “ที่ไหนของมันวะ?” นั่นเป็นความคิดแรกของเราเหมือนกันหลังจากที่ ไอ้แจนเพื่อนสนิทที่ทำงานมาชวนไปเที่ยวเชียงตุง ตอนที่ตัดสินใจไปนั้นแทบไม่ได้คิดอะไรมาก แค่เบื่อๆกับที่ทำงาน เบื่อมาก มากแบบอยากกระโดดไปยื่นใบลาออกรายวัน บวกกับที่เชื่อใจไอ้เพื่อนคนนี้ เพราะมันเป็นนักเที่ยวที่ลาบริษัทได้แบบไม่เกรงใจวันลา ลาจนฝ่ายบุคคลต้องมองหน้าแต่ก็ยังไม่สำนึก
คือนางแจน มันเคยใช้บริการของทัวร์ส่วนตัวเที่ยวพม่าเจ้าหนึ่ง และกลับมาอวยไส้แตกแหกฉีกด้วยความมันส์ ว่าสนุกมาก ดีงามล้านแปดประการ และหลังจากที่ทัวร์นี้เปิดเส้นทางใหม่ไปเที่ยงเชียงตุง ซึ่งเป็นเมืองชื่อแปลกหูที่นางไม่เคยได้ยิน นางจึงไม่ต้องทำการตัดสินใจเสาะหาอะไรทั้งสิ้น จัดการรวมเพื่อนๆได้สี่คน พวกเราก็ลางานหนีเจ้านาย เก็บกระเป๋าบินไปเชียงรายกันเลยจ้า
ตามด้านล่างนี่เป็นรายละเอียดของทัวร์ ตามที่เค้าให้เรามานะคะ อธิบายนิดด ว่าสาเหตุหลักๆที่เราไปกับนางแจน ส่วนนึงก็เพราะว่าเราโอเคกับการที่ที่นี่เป็นแบบทัวร์ส่วนตัว จริงๆเราเป็นสายแบคแพคด้วยซ้ำ ไม่มักทัวร์ใหญ่ทุกชนิดเพราะเราเบื่อการโดนปล่อยลงตลาดและบังคับซื้อของ แต่กับที่นี่เค้าให้อิสระกับคนซื้อมาก อยากได้อะไรก็บอกเขา เขาปรับตามที่เราบอกได้ อาหาร อยากกินอะไรก็บอก โปรแกรมอยากปรับตามไหนก็ได้ สไตล์แบบนี้ก็เลยไปกันได้
🌲🌲ทริปส่วนตัว 3 วัน 2 คืน🌲🌲
สถานที่ : ท่าขี้เหล็ก - เชียงตุง -ดอยเหมย
- ค่าเช่ารถตู้ 10 ที่นั่ง (พร้อมคนขับ-น้ำมัน-ค่าผ่านทาง)
- ค่าพาหนะทุกชนิดตลอดการเดินทาง(ค่ารถรับจากสนามบินเชียงราย)
- ค่าวีซ่าข้ามแดนแม่สาย และเข้าเชียงตุง
- ค่าอาหาร - 6 มื้อ
- ค่าไกด์นำทาง(พูดภาษาไทย) : 3 วัน
- ค่าเข้าสถานที่ ทุกที่ในโปรแกรม
- ค่าโรงแรม Amazing hotel (ระดับสี่ดาว) 2 คืน 2 ห้อง
☆☆แถมฟรี ประกันการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท☆☆
🌻 หมายเหตุ 🌻
1.ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวม
- ทิปสำหรับคนขับรถและไกด์นำทาง โดยลูกค้าสามาถ ให้ตามความพึงพอใจในการบริการ)
- ค่าตั๋วเครื่องบิน--> ถ้าหากให้ทางบริษัทจองให้ ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นจะคิดตามราคาจริงจากสายการบิน อาจมีการขึ้นลงหรือเปลี่ยนแปลงตามวันที่ลูกค้าจอง
2.ราคานี่เป็นราคากรุ๊ปท้วร์ส่วนตัวโดยเฉพาะ ไม่มีการรวมกับคณะอื่น
3. ราคาของทริปจะแตกต่างกันไปตามจำนวนผู้เดินทาง ถ้าหากมีผู้เดินทางเพิ่มขึ้น ราคาจะถูกลงตามจำนวนผู้เดินทาง
ทริปนี้เริ่มต้นจากที่
เชียงราย บินในประเทศชิลๆแค่ประมาน 1 ชั่วโมง โชคดีที่เราคว้าโปรจากสายการบินสีแดงได้ จึงทำให้ได้ไปเชียงรายในราคาถูกมากๆ(ไฟล์ทบินตามนี้เลยค่า DMK-CEI FD3199 08:30 - 09:35) สนามบินแม่ฟ้าหลวงต้อนรับเราด้วยเสียงดนตรีเหนือต่อนยอนสุดๆ เมื่อออกมายังทางออก พี่คนขับรถตู้ที่ทางทัวร์จัดมาก็มารอรับเราตรงเวลาเป๊ะๆ และพาเราตรงดิ่งไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนชายแดนเหนือสุดของประเทศไทย ที่ที่เราจะนัดเจอกับไกด์ท้องถิ่นของเราค่ะ
ทริปนี้เดินทางช่วงเดือน เมษายน ผู้ร่วมทริปจำนวน 4 หน่อ ใครว่าภาคเหนืออากาศหนาว เจอแดดแม่สายเข้าไปนี่มะเร็งผิวหนังแทบกินค่า หลังจากลงรถตู้ พวกเราทั้งสี่ก็รีบวิ่งไปยังหน้าด่านแม่สายที่เรานัดเจอกับไกด์ท้องถิ่นของเรา
ไกด์เราวันนี้ชื่อ"พี่ตา"ค่ะ เป็นชายหนุ่ม สูง ขาวแบบผิวคนเหนือ แอบกระซิบว่าสไตล์โอปป้าสุดๆ!! ใครสายเกาหลีจองตัวพี่คนนี้ไว้ได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง (รวมถึงพวกเราสี่สาวชะนีน้อยด้วย) พี่ตาเป็นหนุ่มเชียงตุงแท้ๆเลยก้ะเจ้า เกิดเชียงตุง ทำงานเป็นไกด์อยู่ที่เชียงตุงเจ้า
โอเคและเราก็มาเริ่มดำเนินการเรื่องเอกสาร ก่อนจะไปเชียงตุงได้กันค่ะ
ขั้นที่ 1: ทำหนังสือผ่านแดน
พี่ตาพาเราตรงไปที่ สำนักงานออกหนังสือเดินทาง อ.แม่สายค่ะ ขั้นตอนง่ายมาก บริการรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
-->ไปกดบัตรคิว –> นำบัตรประชาชนของเราไปยื่น –> จ่ายเงิน 30 บาทก็จะได้มาแล้วจ้า
หลังจากนั้นก็ตรงไปที่ด่านแม่สายกันเลย ยื่นหนังสือผ่านแดนของเราได้เลยนะคะ
ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตค่ะ ย้ำ! ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ใช้แค่บัตรประชาชน ยื่นคู่กับหนังสือผ่านแดนให้ ต.ม. เค้าก็จะให้เราข้ามมา หลังจากนั้นก็เดินตามป้าย ก็จะเข้าสู่ประเทศพม่าเรียบร้อยค่า
ภาพหน้าด่านแม่สาย จะทำถ่ายชิคๆ คูล ก็ได้อยู่น้า
มุ่งตรงสู่ต่างประเทศกันเลยจ้า!! เดินข้ามมาอีกฝั่งคลองน้อยๆ ก็เข้าสู่เมืองพม่าเรียบร้อยแล้ว
ขั้นที่ 2: ขอวีซ่าเข้าเชียงตุง ต้องเข้ามาทำในฝั่งพม่าเท่านั้นนะคะ ขออธิบายให้ฟังก่อนว่า วีซ่าการเข้าเชียงตุง มีด้วยกันสองแบบหลักๆค่ะ
- มีไกด์ – คุณสามารถเข้าเที่ยวเชียงตุงได้โดยการทำวีซ่าที่ด่าน ยื่นเอกสารตามที่กำหนด
o เงิน 500 บาท
o รูปถ่าย 2นิ้ว 2 รูป (สามารถเอามาจากบ้าน หรือมาถ่ายแถวนั้นก็ได้ ร้านถ่ายรูปเพียบ)
o บัตรประชาชน
- ไม่มีไกด์ - ถ้าคุณต้องการเที่ยวเอง โดยไม่มีไกด์ – คุณต้องขอวีซ่ามาตั้งแต่ที่สถานทูต เท่านั้น!! ไม่สามารถขอวีซ่าที่ด่านได้ หรือไม่คุณก็ต้องบินจากย่างกุ้ง ไปลงเชียงตุง ถึงจะไม่ต้องใช้วีซ่า
สรุป...โดยไม่งง ไปเที่ยวเชียงตุง จากทางด่านแม่สาย ต้องมีไกด์เท่านั้นค่ะ โดยไกด์มีหน้าที่ต้องรายงานให้กับเจ้าหน้าที่ในแต่ละด่านทราบ ว่ามีคนต่างชาติเดินทางขึ้นรถมาด้วย รายงานกันไปเรื่อยๆ ทุกด่าน จนกว่าจะถึงเชียงตุงเลยแหละค่า เข้มงวดม๊ากก
สำหรับขั้นตอนการยื่นวีซ่า สารภาพตรงๆว่า "ไม่ทราบเลยค่ะ" พวกเราทำแค่ยื่นเอกสารตามตามด้านบนให้พี่ไกด์ และก็ไปเดินเฉิดฉายรอที่ตลาด สี่หน่อต่อราคากระเป๋าก๊อปยังไม่ทันได้สักใบสองใบ พี่ตาก็แจ้งว่าเสร็จแล้ว ส่วนบัตรประชาชนเรา ต้องทิ้งไว้ที่ด่านนะคะ เค้าจะยึดไว้ จนกว่าเราจะกลับกันมาค่ะ
วันที่ 1 : กรุงเทพ - เชียงราย - แม่สาย - ท่าขี้เหล็ก - เชียงตุง
เริ่มเดินทางเข้าเชียงตุงจริงๆแล้ววว ตื่นเต้ลๆๆ ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงค่ะ จากท่าขี้เหล็กไปเชียงตุง หลังจากออกจากท่าขี้เหล็ก พวกเราก็ค่อยๆทิ้งเมืองและความเจริญไว้เบื้องหลัง ภาพสองข้างทางเริ่มเป็นทุ่งนา บ้านไม้ หลังคามุงจาก พอพ้นเขตทุ่ง พวกเราก็ค่อยๆไต่ขึ้นเขาไปตามทางคดโค้ง ไม่อยากนับว่ากี่โค้งเพราะโค้งจนมึนไปหมด ใครเมารถ กินยาได้เลยนะคะ
แต่ตามโค้งนั้นธรรมชาติก็ดีงามมาก ธรรมชาติจริงๆ บางตอนขับเลียบแม่น้ำ ใสแจ๋วเลย เหมือนทางขึ้นเขาตอนไปญี่ปุ่นเลย แต่ต่างกันหน่อยคือสิ่งที่ต้องระวังระหว่างขับรถที่เราต้องนั่งลุ้นกันตลอดก็คือหมูป่า กับแพะ 555
แต่เราก็ผ่านมาได้อย่างฉลุยค่า ระหว่างทางขึ้นเชียงตุง เราจะผ่านเมืองสองเมืองค่ะ คือ "
เมือง Tarlay(ออกเสียงไม่ได้จริงๆ ชะนีจึงเรียกว่าเมืองตาเหลือกค่า
) กับเมือง Hpyak(แพยก)
" เรามาหยุดพักยืดแข้งยืดขา เดินตลาดกันแป๊บนึง ปกติตลาดแห่งนี้คือจะเป็นจุดช๊อปปิ้งของฝากสำหรับคนผ่านไปมาแถวนี้ และเราไม่ผิดหวังกับเมืองพม่า ลงมาก็เจอของฝากว้าวหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ทอด หนังควายทอด ที่เก๋ไก๋สุดคือ น้องเขียดอบแห้ง ในเวอร์ชั่นมัดถุงทานง่าย ไม่ต้องถามรสชาตินะค้า ไม่บังอาจจิงค่า
ฮือออ น้องเหยียดขาอยู่ในถุง มีหลายแพคเกจจิ้งให้เลือกชม เลือกหยิบจ้า
อาหารมื้อแรกหลังจากข้ามฝั่งมายังพม่าของเราคือ อาหารคล้ายๆอาหารไทยที่ร้านชื่อว่า yankin restaurant
เห้ย!! มีความว้าวเบาๆ มันกินได้ ตอนแรกก่อนมาพม่า รู้สึกกลัวอาหารมาก แต่พอมาเห็นร้านรวงใช้ได้ เป็นภัตตาคาร อาหารสะอาด รสชาติคล้ายอาหารไทยเลย โอ้ย ดีใจ รอดแล้วเรา
แล้วเราก็เริ่มไต่เขากันมาเรื่อยๆ ที่รู้คือสูงมากๆ จนเข้าเขตเมืองเชียงตุงในที่สุด ในเวลาเกือบสี่โมงเย็น หลังจากขึ้นมาที่จุดสูงสุดของภูเขา สถานที่แรก ที่เราแวะมาเที่ยวกัน ก็คือสวนพุทธคยาแห่งนี้ค่ะ
เมื่อเปิดประตูรถตู้ลงมา แวบแรกที่รู้สึกคือ เฮ้ย!! มันเย็นอ่ะ! คืออากาศมันเย็นจริงๆ นี่มันกลางเดือนเมษายนที่กรุงเทพร้อนเกือบ40 องศา แต่ที่เชียงตุงเย็น เย็นแบบที่เราต้องหยิบเสื้อกันแดด เอามาใส่กันหนาว คืออากาศดีมากกกก เฮ้ย! งง! ไม่คิดว่าที่นี่จะเย็น ด้วยความที่ไม่ได้ศึกษาอะไรกันมาก่อนเลย ก็ถึงกับงุนงงกันไป
บนเนินเขา ใช้คำว่าภูเขาดีกว่า ภูเขาทั้งลูกถูกปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสวนขนาดยักษ์ ที่เป็นแหล่งรวมของศาสนาพุทธ สร้างโดยพระชื่อดังของทางไทยใหญ่ เดินเล่นที่นี่ชิลมาก มีศาลา มีศิลปะเกี่ยวกับศาสนาพุทธมากมาย ยิ่งเราเดินกันตอนเย็นๆ ก็มีวิวพระอาทิตย์ที่กำลังตกลับขุนเขา ท้องฟ้าแสงสีฟ้าๆ ส้มๆ อากาศก็เย็นๆสบายๆ นอกจากประติมากรรม รูปปั้นก็ยังมีดอกไม้เมืองหนาวสีสด สวยๆให้ชมกันด้วย
ลงมาด้านล่างเนินลานจารึก ตรงนี้มีพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดยักษ์ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เห็นวิวเขาทั้งลูกเลย วิวดีมากค่ะ และก็แนะนำให้เข้าไปเดินชมใต้ฐานพระค่ะ ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ ภายในมีงานหินอ่อน ที่สลักเป็นภาพพุทธประวัติ มีประตูสลักด้วย สวยงามมาก
และช่วงเย็น เราก็เดินทางเข้าตัวเมืองเชียงตุงกันเจ้า เชียงตุงเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนภูเขา หมายถึงภูเขาจริงๆเพราะว่าบ้านจะตั้งเรียงกันอยู่ตามเนิน มีสูง มีต่ำ ให้ความรู้สึกเหมือนเกาหลีเบาๆที่บ้านไล่กันมาเป็นลำดับขั้น คือความรู้สึกเรา ที่นี่เป็นเมืองที่เจริญเมืองนึงเลยทีเดียว ผู้คนคึกคัก มีตลาด มีบ้าน มีมหาลัย3ที่ มีโรงไฟฟ้า คือมีทุกอย่างอย่างที่เมืองเจริญเมืองหนึ่งควรจะมี แต่ด้วยสภาพการเมืองการปกครองที่ไม่อำนวยมาก รวมถึงสาธารณูปโภคน้ำไฟหลายๆอย่างยังไม่ทั่วถึงพอ ทำให้มันไม่ได้ถูกผลักดันให้กลายเป็นเมืองใหญ่ แต่ความจำกัดนี่ก็กลายเป็นเสน่ห์ของเมือง ที่ยังมีกลิ่นไอบ้านๆ ให้เราได้สัมผัส และก็กลายเป็นความน่ารักของที่นี่ไป
ความดีงามของที่นี่คือ ภาษาคล้ายบ้านเรามาก คนส่วนมากเข้าใจภาษาไทย ภาษาคล้ายภาษาเหนือ ที่ทำให้เราสื่อสารได้โดยไม่ต้องกังวล เงินไทยก็ใช้ได้เหมือนกัน บรรยากาศตอนกลางคืนนี่ก็คึกคัก ลูกเด็กเล็กแดง มอไซค์รถ ขับกันว่อนจ้า
โรงแรมที่เราพักคืนนี้คือ Amazing Kyaingtung โรงแรมโอเคเลย นอนได้สบายมาก(ประเด็นคือดีกว่าที่คาดไว้ ตอนแรกคิดว่าจะต้องนอนหลังคามุงไม้ไผ่ซะแว้ว) มีบริการครบเหมือนโรงแรมทั่วไปเลย แอร์ ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่โรงแรมใหม่นะคะ บรรยากาศก็จะคลาสสิคหน่อยๆ
[CR] รีวิวทริปเชียงตุง รัฐฉาน(พม่า) ทัวร์ส่วนตัว 3วัน2คืน กับการเที่ยวเมืองนอก(สายตา) ที่ตะลึงเกินคาดหมาย
คือนางแจน มันเคยใช้บริการของทัวร์ส่วนตัวเที่ยวพม่าเจ้าหนึ่ง และกลับมาอวยไส้แตกแหกฉีกด้วยความมันส์ ว่าสนุกมาก ดีงามล้านแปดประการ และหลังจากที่ทัวร์นี้เปิดเส้นทางใหม่ไปเที่ยงเชียงตุง ซึ่งเป็นเมืองชื่อแปลกหูที่นางไม่เคยได้ยิน นางจึงไม่ต้องทำการตัดสินใจเสาะหาอะไรทั้งสิ้น จัดการรวมเพื่อนๆได้สี่คน พวกเราก็ลางานหนีเจ้านาย เก็บกระเป๋าบินไปเชียงรายกันเลยจ้า
ตามด้านล่างนี่เป็นรายละเอียดของทัวร์ ตามที่เค้าให้เรามานะคะ อธิบายนิดด ว่าสาเหตุหลักๆที่เราไปกับนางแจน ส่วนนึงก็เพราะว่าเราโอเคกับการที่ที่นี่เป็นแบบทัวร์ส่วนตัว จริงๆเราเป็นสายแบคแพคด้วยซ้ำ ไม่มักทัวร์ใหญ่ทุกชนิดเพราะเราเบื่อการโดนปล่อยลงตลาดและบังคับซื้อของ แต่กับที่นี่เค้าให้อิสระกับคนซื้อมาก อยากได้อะไรก็บอกเขา เขาปรับตามที่เราบอกได้ อาหาร อยากกินอะไรก็บอก โปรแกรมอยากปรับตามไหนก็ได้ สไตล์แบบนี้ก็เลยไปกันได้
🌲🌲ทริปส่วนตัว 3 วัน 2 คืน🌲🌲
สถานที่ : ท่าขี้เหล็ก - เชียงตุง -ดอยเหมย
- ค่าเช่ารถตู้ 10 ที่นั่ง (พร้อมคนขับ-น้ำมัน-ค่าผ่านทาง)
- ค่าพาหนะทุกชนิดตลอดการเดินทาง(ค่ารถรับจากสนามบินเชียงราย)
- ค่าวีซ่าข้ามแดนแม่สาย และเข้าเชียงตุง
- ค่าอาหาร - 6 มื้อ
- ค่าไกด์นำทาง(พูดภาษาไทย) : 3 วัน
- ค่าเข้าสถานที่ ทุกที่ในโปรแกรม
- ค่าโรงแรม Amazing hotel (ระดับสี่ดาว) 2 คืน 2 ห้อง
☆☆แถมฟรี ประกันการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท☆☆
🌻 หมายเหตุ 🌻
1.ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวม
- ทิปสำหรับคนขับรถและไกด์นำทาง โดยลูกค้าสามาถ ให้ตามความพึงพอใจในการบริการ)
- ค่าตั๋วเครื่องบิน--> ถ้าหากให้ทางบริษัทจองให้ ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นจะคิดตามราคาจริงจากสายการบิน อาจมีการขึ้นลงหรือเปลี่ยนแปลงตามวันที่ลูกค้าจอง
2.ราคานี่เป็นราคากรุ๊ปท้วร์ส่วนตัวโดยเฉพาะ ไม่มีการรวมกับคณะอื่น
3. ราคาของทริปจะแตกต่างกันไปตามจำนวนผู้เดินทาง ถ้าหากมีผู้เดินทางเพิ่มขึ้น ราคาจะถูกลงตามจำนวนผู้เดินทาง
ทริปนี้เริ่มต้นจากที่เชียงราย บินในประเทศชิลๆแค่ประมาน 1 ชั่วโมง โชคดีที่เราคว้าโปรจากสายการบินสีแดงได้ จึงทำให้ได้ไปเชียงรายในราคาถูกมากๆ(ไฟล์ทบินตามนี้เลยค่า DMK-CEI FD3199 08:30 - 09:35) สนามบินแม่ฟ้าหลวงต้อนรับเราด้วยเสียงดนตรีเหนือต่อนยอนสุดๆ เมื่อออกมายังทางออก พี่คนขับรถตู้ที่ทางทัวร์จัดมาก็มารอรับเราตรงเวลาเป๊ะๆ และพาเราตรงดิ่งไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนชายแดนเหนือสุดของประเทศไทย ที่ที่เราจะนัดเจอกับไกด์ท้องถิ่นของเราค่ะ
ทริปนี้เดินทางช่วงเดือน เมษายน ผู้ร่วมทริปจำนวน 4 หน่อ ใครว่าภาคเหนืออากาศหนาว เจอแดดแม่สายเข้าไปนี่มะเร็งผิวหนังแทบกินค่า หลังจากลงรถตู้ พวกเราทั้งสี่ก็รีบวิ่งไปยังหน้าด่านแม่สายที่เรานัดเจอกับไกด์ท้องถิ่นของเรา
ไกด์เราวันนี้ชื่อ"พี่ตา"ค่ะ เป็นชายหนุ่ม สูง ขาวแบบผิวคนเหนือ แอบกระซิบว่าสไตล์โอปป้าสุดๆ!! ใครสายเกาหลีจองตัวพี่คนนี้ไว้ได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง (รวมถึงพวกเราสี่สาวชะนีน้อยด้วย) พี่ตาเป็นหนุ่มเชียงตุงแท้ๆเลยก้ะเจ้า เกิดเชียงตุง ทำงานเป็นไกด์อยู่ที่เชียงตุงเจ้า
โอเคและเราก็มาเริ่มดำเนินการเรื่องเอกสาร ก่อนจะไปเชียงตุงได้กันค่ะ
ขั้นที่ 1: ทำหนังสือผ่านแดน
พี่ตาพาเราตรงไปที่ สำนักงานออกหนังสือเดินทาง อ.แม่สายค่ะ ขั้นตอนง่ายมาก บริการรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
-->ไปกดบัตรคิว –> นำบัตรประชาชนของเราไปยื่น –> จ่ายเงิน 30 บาทก็จะได้มาแล้วจ้า
หลังจากนั้นก็ตรงไปที่ด่านแม่สายกันเลย ยื่นหนังสือผ่านแดนของเราได้เลยนะคะ ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตค่ะ ย้ำ! ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ใช้แค่บัตรประชาชน ยื่นคู่กับหนังสือผ่านแดนให้ ต.ม. เค้าก็จะให้เราข้ามมา หลังจากนั้นก็เดินตามป้าย ก็จะเข้าสู่ประเทศพม่าเรียบร้อยค่า
- มีไกด์ – คุณสามารถเข้าเที่ยวเชียงตุงได้โดยการทำวีซ่าที่ด่าน ยื่นเอกสารตามที่กำหนด
o เงิน 500 บาท
o รูปถ่าย 2นิ้ว 2 รูป (สามารถเอามาจากบ้าน หรือมาถ่ายแถวนั้นก็ได้ ร้านถ่ายรูปเพียบ)
o บัตรประชาชน
- ไม่มีไกด์ - ถ้าคุณต้องการเที่ยวเอง โดยไม่มีไกด์ – คุณต้องขอวีซ่ามาตั้งแต่ที่สถานทูต เท่านั้น!! ไม่สามารถขอวีซ่าที่ด่านได้ หรือไม่คุณก็ต้องบินจากย่างกุ้ง ไปลงเชียงตุง ถึงจะไม่ต้องใช้วีซ่า
สรุป...โดยไม่งง ไปเที่ยวเชียงตุง จากทางด่านแม่สาย ต้องมีไกด์เท่านั้นค่ะ โดยไกด์มีหน้าที่ต้องรายงานให้กับเจ้าหน้าที่ในแต่ละด่านทราบ ว่ามีคนต่างชาติเดินทางขึ้นรถมาด้วย รายงานกันไปเรื่อยๆ ทุกด่าน จนกว่าจะถึงเชียงตุงเลยแหละค่า เข้มงวดม๊ากก
สำหรับขั้นตอนการยื่นวีซ่า สารภาพตรงๆว่า "ไม่ทราบเลยค่ะ" พวกเราทำแค่ยื่นเอกสารตามตามด้านบนให้พี่ไกด์ และก็ไปเดินเฉิดฉายรอที่ตลาด สี่หน่อต่อราคากระเป๋าก๊อปยังไม่ทันได้สักใบสองใบ พี่ตาก็แจ้งว่าเสร็จแล้ว ส่วนบัตรประชาชนเรา ต้องทิ้งไว้ที่ด่านนะคะ เค้าจะยึดไว้ จนกว่าเราจะกลับกันมาค่ะ
แต่ตามโค้งนั้นธรรมชาติก็ดีงามมาก ธรรมชาติจริงๆ บางตอนขับเลียบแม่น้ำ ใสแจ๋วเลย เหมือนทางขึ้นเขาตอนไปญี่ปุ่นเลย แต่ต่างกันหน่อยคือสิ่งที่ต้องระวังระหว่างขับรถที่เราต้องนั่งลุ้นกันตลอดก็คือหมูป่า กับแพะ 555
แต่เราก็ผ่านมาได้อย่างฉลุยค่า ระหว่างทางขึ้นเชียงตุง เราจะผ่านเมืองสองเมืองค่ะ คือ "เมือง Tarlay(ออกเสียงไม่ได้จริงๆ ชะนีจึงเรียกว่าเมืองตาเหลือกค่า) กับเมือง Hpyak(แพยก)" เรามาหยุดพักยืดแข้งยืดขา เดินตลาดกันแป๊บนึง ปกติตลาดแห่งนี้คือจะเป็นจุดช๊อปปิ้งของฝากสำหรับคนผ่านไปมาแถวนี้ และเราไม่ผิดหวังกับเมืองพม่า ลงมาก็เจอของฝากว้าวหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ทอด หนังควายทอด ที่เก๋ไก๋สุดคือ น้องเขียดอบแห้ง ในเวอร์ชั่นมัดถุงทานง่าย ไม่ต้องถามรสชาตินะค้า ไม่บังอาจจิงค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้