---

สวัสดีครับ

จริง ๆ เมนูนี้มีคนรีเควสเข้ามาเดือนก่อน แต่เผอิญแถวที่พักไม่มีร้านขายชานมไข่มุกเลย (มีแต่ชานมเฉย ๆ )
เผอิญวันนึงได้ไปทำธุระในห้าง ก็นึกถึงเมนูนี้ขึ้นมา เลยแวะซื้อชานมไข่มุกที่อิเกียซะเลย

รสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันครับ (ทำเป็นรายการทีวีไปได้ = =" )

---

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ชานมไข่มุก - ขยันก็ทำเองได้ แต่แนะนำให้ซื้อที่เขาทำมาให้แล้วดีกว่า

2. ข้าวสาร - จะเป็นพันธุ์อะไร แล้วแต่ศรัทธา จะเสกไม่เสกก็แล้วแต่สะดวกครับ

---

1. ชานมไข่มุกจากอิเกีย ตอนแรกว่าจะเอากระบอกน้ำไปใส่เอง แต่ดันลืมพกไปด้วย เลยจำเป็นต้องใช้แก้วพลาสติกที่เขาให้มา
ตอนนี้ก็ล้างเก็บไว้ใช้ รียูสช่วยโลก

2. ไข่มุกอิเกีย มุกมันจะเล็ก ๆ นิดนึง

3. ถ่ายรูปร่วมกัน ชีสสสสส....เนื่องจากหลัง ๆ มาข้าพเจ้าต้องดูแลสุขภาพ เลยกินข้าวแบบผสม
ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่+ข้าวก่ำดอย+ลูกเดือย ผสมในอัตราส่วนพอ ๆ กัน ได้วิตามิน ดูดซึมช้า อยู่ท้องนาน

จะตัดอะไรออกก็กระไร มันเหมือนตัดพี่ตัดน้องยังไงไม่รู้

4. พอเอาข้าวทั้งสองกับลูกเดือยผสมกัน ก็จะออกมาประมาณนี้แหละ

5. หยินหยาง มีขาวมีดำ (แต่หนักดำไปนิด)

6. เทลงหม้อหุงข้าวให้เรียนร้อย... ทำไมดูรูปในคอมมันดูสวยกว่าความเป็นจริงหว่า?

7. เปิดฝาชานม พร้อมเท

8. กระถอก!!

9. จริง ๆ ถ้าเทียบปริมาณข้าวแล้ว ควรใส่ประมาณครึ่งแก้ว แต่เนื่องจากถ่ายรูปเพลิน เลยเทไปเลยหมดแก้ว

10. คนให้เข้ากัน... ถ้าไม่ได้ข้าวสวย อย่างน้อยก็ได้ข้าวต้มล่ะนะ

11. ปกติหุงข้าวพวกไรซ์เบอร์รี่ มันต้องแช่ข้าวทิ้งไว้อย่างต่ำประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ไม่งั้นหุงออกมาแล้วมันจะแข็ง
อันนี้เลยแช่ทิ้งไว้ทั้งคืน ตั้งเวลาหุงข้าวทิ้งเอาไว้ ขอบคุณเทคโนโลยี

รับประกันว่ารสชาติชานมไข่มุกจะซึมเข้าถึงข้าวทุกโมเลกุลแน่นอน

ผิดรูป ๆ  โทษ ๆ

....
ตอนเช้ามา สิ่งแรกที่ได้กลิ่นคือ กลิ่นชานมไข่มุกที่กรุ่นออกมาจากหม้อหุงข้าว
จากประสบการณ์การกินแปลก ๆ ที่ผ่านมา สัญชาตญาณมันเตือนว่าเป็นสัญญาณของความพินาศ เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี

12. เปิดหม้อมา.. นั่นไง ตามคาด หน้าตาดูไม่ได้เลย ไข่มุกออกมาเป็นไข่คางคกเลยแก

13. หน้าตาไม่ได้น่ารับประทานเลย ให้ตายเหอะโรบิ้น

14. มีข้าวแต่ไม่มีกับ วิ่งไปซื้ออกไก่พริกไทยดำจากเซเว่นมา น่าจะช่วยกู้สถานการณ์ได้บ้าง
(หมายเหตุ: ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด)

15. กินแต่อกไก่ได้ไหม? ไม่อยากกินข้าวไข่ขี้คันคากแล้วอะ = =:

---

---