สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
1.เมื่อโลกหยุดหมุน อีกฝั่งของโลกจะมืดตลอดไหม
1.1 ถ้ามืดตลอด มันจะหนาวเย็นขนาดไหน
1.2 ถ้าไม่ตลอด มันจะกลางคืนกี่ชั่วโมงหรือกลางวันกี่ชั่วโมง
ขอตอบแบบรวมไปเลยนะครับ หากโลกหยุดหมุน ..... สิ่งแรกเลยคือช่วงกลางวัน - กลางคืน นั้น
จากที่เป็นวงรอบ 24 ชม. คือกลางวัน 12 ชม. กลางคืน 12 ชม. จะกลายเป็นวงรอบยาวนานถึง 1 ปี
ก็คือ ตำแหน่งหนึ่งจะได้รับแสงอาทิตย์ 6 เดือน และมืดไปนาน 6 เดือน โดย 2 ตำแหน่งนี้จะค่อยเป็นค่อยไป
อย่างช้ามากครับ ..... เราจะเริ่มเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นในเดือนมกราคม และดวงอาทิตย์ตกในเดือนมิถุนายน
ลักษณะแบบนี้จะทำให้เกิดความหนาวเย็นมากในด้านที่มืด 6 เดือน พืชจะทยอยตายไปเรื่อย ๆ
และมนุษย์จะมีปัญหากับเรื่องอาหารมากครับ ส่วนด้านสว่าง 6 เดือนก็จะร้อนตลอดเวลา
อุณหภูมิอาจจะขึ้นไปได้ถึง 60 - 70 องศา C
แต่ ...... หากการหยุดหมุนของโลกนั้น ก่อให้เกิดลักษณะ Tidal lock จะยิ่งแย่ใหญ่เลยครับ
Tidal lock คือการหันด้านเดียวของโลกเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลา
(เหมือนกับดวงจันทร์หันด้านเดียวให้กับโลกตลอดเวลา) ซึ่งหากเป็นแบบนั้น
โลกจะยิ่งอยู่ในสภาพตายครึ่งซีก คือด้านหนึ่งหันเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลา
ก็จะร้อนมาก ส่วนอีกด้านจะหันออกสู่อวกาศ จะเย็นและตายสนิท ไม่มีพืช และแทบไม่มีสัตว์เลยครับ
2.ถ้าเกิดขึ้นจริง มนุษย์จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน อพยพไหม
หากโลกเป็นลักษณะที่ว่า มืด 6 เดือน สว่าง 6 เดือน ...... การย้ายถิ่นฐานก็จะต้องย้ายไปที่
บริเวณที่ไม่ร้อนจนเกินไปครับ เพราะการสว่าง 6 เดือนนั้นจะร้อนมาก ๆ จนอยู่ไม่ได้
มนุษย์อาจต้องย้ายถิ่นฐานไปบริเวณ Latitude สูง ๆ เพื่อให้ร้อนน้อยลง แต่เวลามืด 6 เดือน
ก็จะมีปัญหาหนาวมากอีก (แต่ก็ดีกว่าร้อนจนตาย)
แต่ในกรณีที่โลกเกิด Tidal locking ก็จะต้องอยู่แบบในภาพนี้ครับ
หากอยู่ใน zone แบบนี้ เราจะเห็นวิวแบบนี้ตลอดกาล
3.นอกจากที่ถามไป ถ้าโลกหยุดหมุน จะมีปรากฏการณ์อะไรขึ้นบนโลกบ้างครับ
นอกจากที่ถามมา ก็จะยังจะเกิดปรากฏการณ์แห้งแล้งบริเวณ Equator (Equator dry out) อีกด้วยครับ
ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ .....
ในยามปกติเมื่อโลกหมุน โลกจะมีแรงเหวี่ยงบริเวณพื้นที่เส้น Equator เรียกว่า Centrifugal force
ซึ่งจะทำให้พื้นที่ต่าง ๆ บริเวณเส้น Equator มีการ บวม ออกมาตามลักษณะภูมิศาสตร์ปัจจุบัน
ซึ่งเรียกว่า Equatorial bulge ... และเจ้า Equatorial bulge นี้มีผลต่อทั้งน้ำทะเล ภูมิประเทศ และสภาพอากาศ
เมื่อโลกหยุดหมุน centrifugal force จะหมดไป ทำให้แรงลัพท์ของ gravity - centrifugal force
บริเวณ equator หมดสิ้นไป ทำให้ภูมิประเทศทั้งหมด ทั้งน้ำทะเล กระแสอากาศ ค่อย ๆ ไหล
ไปรวมตัวกันที่ขั้วโลกหมดครับ เพราะ Equatorial bulge ทั้งหมดที่เคยมีจาก centrifugal force บัดนี้ได้หมดแรงยึดใว้แล้ว
มวลน้ำจึงไหลไปรวมตัวกันในที่ ต่ำกว่า คือบริเวณขั้วโลกนั่นเอง
ในภาพนี้แสดงถึงพื้นที่แถบ Equator ซึ่งจะกลายเป็นดินแดนแห้งแล้ง
หมดสิ้นซึ่งน้ำทะเล สภาพอากาศ กลายเป็นพื้นที่ที่ตายแล้ว
ส่วนบริเวณขั้วโลกจะเต็มไปด้วยน้ำทะเลที่สูงกว่าเดิมประมาณ 25 - 30 กิโลเมตร
1.1 ถ้ามืดตลอด มันจะหนาวเย็นขนาดไหน
1.2 ถ้าไม่ตลอด มันจะกลางคืนกี่ชั่วโมงหรือกลางวันกี่ชั่วโมง
ขอตอบแบบรวมไปเลยนะครับ หากโลกหยุดหมุน ..... สิ่งแรกเลยคือช่วงกลางวัน - กลางคืน นั้น
จากที่เป็นวงรอบ 24 ชม. คือกลางวัน 12 ชม. กลางคืน 12 ชม. จะกลายเป็นวงรอบยาวนานถึง 1 ปี
ก็คือ ตำแหน่งหนึ่งจะได้รับแสงอาทิตย์ 6 เดือน และมืดไปนาน 6 เดือน โดย 2 ตำแหน่งนี้จะค่อยเป็นค่อยไป
อย่างช้ามากครับ ..... เราจะเริ่มเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นในเดือนมกราคม และดวงอาทิตย์ตกในเดือนมิถุนายน
ลักษณะแบบนี้จะทำให้เกิดความหนาวเย็นมากในด้านที่มืด 6 เดือน พืชจะทยอยตายไปเรื่อย ๆ
และมนุษย์จะมีปัญหากับเรื่องอาหารมากครับ ส่วนด้านสว่าง 6 เดือนก็จะร้อนตลอดเวลา
อุณหภูมิอาจจะขึ้นไปได้ถึง 60 - 70 องศา C
แต่ ...... หากการหยุดหมุนของโลกนั้น ก่อให้เกิดลักษณะ Tidal lock จะยิ่งแย่ใหญ่เลยครับ
Tidal lock คือการหันด้านเดียวของโลกเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลา
(เหมือนกับดวงจันทร์หันด้านเดียวให้กับโลกตลอดเวลา) ซึ่งหากเป็นแบบนั้น
โลกจะยิ่งอยู่ในสภาพตายครึ่งซีก คือด้านหนึ่งหันเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลา
ก็จะร้อนมาก ส่วนอีกด้านจะหันออกสู่อวกาศ จะเย็นและตายสนิท ไม่มีพืช และแทบไม่มีสัตว์เลยครับ
2.ถ้าเกิดขึ้นจริง มนุษย์จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน อพยพไหม
หากโลกเป็นลักษณะที่ว่า มืด 6 เดือน สว่าง 6 เดือน ...... การย้ายถิ่นฐานก็จะต้องย้ายไปที่
บริเวณที่ไม่ร้อนจนเกินไปครับ เพราะการสว่าง 6 เดือนนั้นจะร้อนมาก ๆ จนอยู่ไม่ได้
มนุษย์อาจต้องย้ายถิ่นฐานไปบริเวณ Latitude สูง ๆ เพื่อให้ร้อนน้อยลง แต่เวลามืด 6 เดือน
ก็จะมีปัญหาหนาวมากอีก (แต่ก็ดีกว่าร้อนจนตาย)
แต่ในกรณีที่โลกเกิด Tidal locking ก็จะต้องอยู่แบบในภาพนี้ครับ
หากอยู่ใน zone แบบนี้ เราจะเห็นวิวแบบนี้ตลอดกาล
3.นอกจากที่ถามไป ถ้าโลกหยุดหมุน จะมีปรากฏการณ์อะไรขึ้นบนโลกบ้างครับ
นอกจากที่ถามมา ก็จะยังจะเกิดปรากฏการณ์แห้งแล้งบริเวณ Equator (Equator dry out) อีกด้วยครับ
ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ .....
ในยามปกติเมื่อโลกหมุน โลกจะมีแรงเหวี่ยงบริเวณพื้นที่เส้น Equator เรียกว่า Centrifugal force
ซึ่งจะทำให้พื้นที่ต่าง ๆ บริเวณเส้น Equator มีการ บวม ออกมาตามลักษณะภูมิศาสตร์ปัจจุบัน
ซึ่งเรียกว่า Equatorial bulge ... และเจ้า Equatorial bulge นี้มีผลต่อทั้งน้ำทะเล ภูมิประเทศ และสภาพอากาศ
เมื่อโลกหยุดหมุน centrifugal force จะหมดไป ทำให้แรงลัพท์ของ gravity - centrifugal force
บริเวณ equator หมดสิ้นไป ทำให้ภูมิประเทศทั้งหมด ทั้งน้ำทะเล กระแสอากาศ ค่อย ๆ ไหล
ไปรวมตัวกันที่ขั้วโลกหมดครับ เพราะ Equatorial bulge ทั้งหมดที่เคยมีจาก centrifugal force บัดนี้ได้หมดแรงยึดใว้แล้ว
มวลน้ำจึงไหลไปรวมตัวกันในที่ ต่ำกว่า คือบริเวณขั้วโลกนั่นเอง
ในภาพนี้แสดงถึงพื้นที่แถบ Equator ซึ่งจะกลายเป็นดินแดนแห้งแล้ง
หมดสิ้นซึ่งน้ำทะเล สภาพอากาศ กลายเป็นพื้นที่ที่ตายแล้ว
ส่วนบริเวณขั้วโลกจะเต็มไปด้วยน้ำทะเลที่สูงกว่าเดิมประมาณ 25 - 30 กิโลเมตร
แสดงความคิดเห็น
ถ้าโลกหยุดหมุนจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างครับ
1.เมื่อโลกหยุดหมุน อีกฝั่งของโลกจะมืดตลอดไหม
1.1 ถ้ามืดตลอด มันจะหนาวเย็นขนาดไหน
1.2 ถ้าไม่ตลอด มันจะกลางคืนกี่ชั่วโมงหรือกลางวันกี่ชั่วโมง
2.ถ้าเกิดขึ้นจริง มนุษย์จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน อพยพไหม
3.นอกจากที่ถามไป ถ้าโลกหยุดหมุน จะมีปรากฏการณ์อะไรขึ้นบนโลกบ้างครับ