หลายคนที่ติดตามในเพจของเรา ซึ่งเขียนรีวิวเกี่ยวกับที่กิน ที่เที่ยว การดูโชว์ต่าง ๆ เป็นหลัก แต่จะเห็นได้ว่าเราไม่เคยมีแนวทางในการเที่ยวแบบเน้นว่าต้องออกไปเปิดโลกกว้างกันบ่อย ๆ ไปให้ได้มากที่สุดอะไรแบบนั้นเลย ก็เพราะเราเชื่อว่าชีวิตมีหลายบริบท มีสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตที่ต้องใส่ใจ มีทั้งการทำงาน คนในครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปทั้งน้องหมาซึ่งเปรียบเสมือนลูกรักของเรา
หลังจากที่ไม่ได้เขียนรีวิวมาเสียนาน สาเหตุก็เพราะว่าเราเสียลูกรัก “น้องเต้าฮวย” ไปอย่างกะทันหัน มันเป็นเหตุการณ์ที่เราเชื่อว่ามันมีโอกาสเกิดได้ยากมากด้วยล่ะ อยากจะเขียนรีวิวมาหลายวันก็เขียนไม่ออกสักที วันนี้ก็เพิ่งจะได้ฤกษ์กลับมาเขียนรีวิวอีกครั้ง อยากให้รีวิวนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอนจริง ๆ และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะต้องจัดพิธีศพให้น้องหมาแสนรักของตัวเอง
รีวิวนี้อาจจะไม่มีรูปมากเท่าไรนัก เพราะว่าอยากเก็บรูปไว้เป็นส่วนตัวมากกว่า
รีวิวท่องเที่ยวของน้องเต้าฮวยและครอบครัวที่เคยเขียนไว้เข้าไปดูได้ที่
สี่สาวพาเที่ยวดูชมพูพันธ์ุทิพย์ที่ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
https://goneverstopblog.wordpress.com/2018/02/23/pink-trumpet-tree-ku/
[Westie is my Bestie] 4 สาวชวนชิม ชวนเที่ยวเพชรบุรี-ประจวบ
https://ppantip.com/topic/33522726
สี่ทุ่มกว่าของคืนหนึ่งขณะที่เรานอนหลับอยู่บนโซฟา และน้องหมาทุกตัวในบ้านกำลังนอนพักผ่อนอยู่รอบ ๆ โซฟานั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนบอกว่า “เต้าฮวยชัก” พร้อมกับได้ยินเสียงเต้าฮวยร้องเสียงดังขึ้นมาหนึ่งครั้งเหมือนเวลาเราถอนขนหูแล้วร้อง แต่มันดังกว่า ความคิดแว่บแรกตอนตื่นขึ้นมา คิดว่าเต้าฮวยอาจจะกินอะไรเข้าไปติดคอหรือเปล่า เดี๋ยวก็ขย่อนคายออกมาเอง ซึ่งพออุ้มตัวเต้าฮวยขึ้นมาบนโต๊ะเห็นสภาพเต้าฮวยแล้วรู้ว่ามันไม่ใช่เลย เต้าฮวยตัวอ่อนปวกเปียกไปหมด ตาเปิด แต่ไม่มีลมหายใจแล้ว ล้วงคอ พยายามปั๊มหัวใจ และผายปอดอยู่ไม่ถึงนาที รีบออกรถไปถึงโรงพยาบาลภายใน 8 นาที ระหว่างทางก็พยายามปั๊มหัวใจและผายปอดให้ตลอดทาง แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอก็เข้าพร้อมช่วยเหลือทันที ทั้งใช้อุปกรณ์และยาช่วยเต้าฮวย แต่ไม่สามารถยื้อเต้าฮวยมาจากการพลัดพรากในครั้งนี้ได้ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เหมือนทุกอย่างเป็นฝันร้ายที่เกิดขึ้น และเราก็ยังคงรู้สึกเหมือนเราฝันร้ายแบบนั้นอยู่อีกหลายวัน หลายสัปดาห์ และเป็นเดือน
เต้าฮวยเป็นหมาสายพันธุ์เวสตี้ อายุได้ประมาณ 9.5 ปีเอง จะว่าเด็กก็ไม่เด็ก จะว่าแก่ก็ไม่แก่ ตรวจร่างกายประจำปีก็ไม่พบว่าเป็นโรคประจำตัวอะไร นิสัยร่าเริง เทียบกับตัวอื่นในบ้านก็เรียกได้ว่าแข็งแรงที่สุดด้วยซ้ำ พอเต้าฮวยมาจากไปกะทันหันแบบนี้ตั้งตัวไม่ถูกเลย เราก็ได้แต่คิดว่า
ยังดีที่วันสุดท้าย วินาทีสุดท้ายในชีวิตของเต้าฮวยยังมีเราอยู่ข้าง ๆ
ยังดีที่วันนั้นเราไม่ได้ออกไปไหน ไปเที่ยวไกล ๆ หรือนอนอยู่ไกลคนละห้องกับเต้าฮวย
ยังดีที่เต้าฮวยมีแต่วันที่ความสุขทุกวันในชีวิต แม้กระทั่งวันสุดท้ายเต้าฮวยก็ยังได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบนั่นก็คือ ได้ออกไปเดินเล่น
ยังดีที่เต้าฮวยไม่ต้องเจ็บป่วยทรมานนาน ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลมีสายระโยงระยางคอยประคับประคองชีวิต
รักหนูนะ คุณเต้าฮวย...คุณแม่ supermom ของอัลฟ่า แองเจิ้ล เอแคลร์ อั่งเปา และพี่น้องที่แสนดีของเต้าหู้
เหตุการณ์ที่โรงพยาบาล หลังจากที่ไม่สามารถยื้อชีวิตเต้าฮวยกลับมาได้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุนั้นคุณหมอเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน และเราก็ไม่ติดใจที่จะค้นหาแม้ว่าจะสงสัย อย่างไรเสียเราก็รู้แน่ ๆ ว่าเต้าฮวยนั่งเล่นอยู่อย่างปกติ ก่อนที่จะหยุดหายใจไปกะทันหัน ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุหรือมีคนมาวางยา
สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ คิดกันว่าจะจัดการกับศพของเต้าฮวยอย่างไรดี ด้วยความที่บ้านนี้ไม่ได้มีพื้นดินเหมือนกับบ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นเราจึงตัดสินใจจะเผาศพเต้าฮวย โดยจัดการเลือกวัดที่ใกล้บ้าน ตอนแรกที่หาข้อมูลมีตัวเลือกอยู่สองที่คือ
วัดผาสุกมณีจักร แถวเมืองทองธานี และวัดบางบัว แถวบางเขน สุดท้ายเราเลือกที่วัดบางบัวเพราะว่า จากข้อมูลบอกว่าเป็นเตาเผาศพที่สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการศพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ (ไม่ใช่แค่เฉพาะสุนัข) มีบริเวณสำหรับทำพิธีทางพุทธศาสนา และเป็นเตาเผาแบบไร้มลพิษ
ช่วงกลางคืน เราเอาศพน้องเต้าฮวยมาไว้ที่บ้านเปิดแอร์ให้เย็นจัด นอนบนโซฟาใกล้ ๆ กับน้องเต้าฮวย ตอนเช้าก็รีบโทรติดต่อกับทาง Pet Master เรื่องพิธีศพ พอดีมีคิวว่างพอดี เลยนัดไปเผาตอนประมาณ 10 โมงเช้า
พอไปถึงวัดบางบัว บางเขน เราสามารถเอารถไปจอดหน้าสถานที่ทำพิธีศพได้เลย เราขอให้ทั้งทำพิธีสงฆ์และก็เผาศพพร้อมเก็บกระดูกด้วย ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 บาท จำราคาได้ไม่แม่นนะ เพราะว่าผ่านมาเป็นเดือนแล้วเพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนรีวิว ยิ่งถ้าไม่ทำพิธีสงฆ์ราคาจะยิ่งถูกลงไปอีก
ก่อนเผาก็จะมีสวด และแขกที่มาร่วมงานก็มาวางดอกไม้จันทน์ พิธีเป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย หลังจากนั้นสัปเหร่อก็ห่อผ้าขาว แล้วพาน้องเตาฮวยเข้าเตาเผา (ใครอยากจะเอาน้องหมาใส่โลงศพก็ได้นะคะ มีจำหน่ายที่ตรงนั้นเลย แต่เราเห็นว่าจะเป็นการเพิ่มขยะให้โลกโดยสิ้นเปลือง เลยไม่เอาน้องเต้าฮวยใส่โลงศพ)
น้องหมาของเราตัวเล็กใช้เวลาเผาไม่นาน ออกไปกินข้าว แล้วกลับมาสัปเหร่อก็เก็บกระดูกให้เรียบร้อยแล้ว
ตอนแรกเราหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเจอว่ามีเรือรับจ้างพาไปลอยอังคารแถวเกาะเกร็ดด้วย ราคาตามระยะทาง แต่สุดท้ายแล้วด้วยความเหนื่อยล้าในวันนั้น เราก็ยังไม่ได้ไปลอยอังคาร เอากระดูกน้องเต้าฮวยห่อผ้าขาวมาเก็บไว้ที่บ้านในห้องพระแทน
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า “ทำดีกับคนรอบตัวไว้เสมอ เพราะวันสุดท้ายของเราหรือเค้าอาจจะมาถึงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว”
[CR] ส่งน้องเต้าฮวยไปดาวหมา
หลังจากที่ไม่ได้เขียนรีวิวมาเสียนาน สาเหตุก็เพราะว่าเราเสียลูกรัก “น้องเต้าฮวย” ไปอย่างกะทันหัน มันเป็นเหตุการณ์ที่เราเชื่อว่ามันมีโอกาสเกิดได้ยากมากด้วยล่ะ อยากจะเขียนรีวิวมาหลายวันก็เขียนไม่ออกสักที วันนี้ก็เพิ่งจะได้ฤกษ์กลับมาเขียนรีวิวอีกครั้ง อยากให้รีวิวนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอนจริง ๆ และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะต้องจัดพิธีศพให้น้องหมาแสนรักของตัวเอง
รีวิวนี้อาจจะไม่มีรูปมากเท่าไรนัก เพราะว่าอยากเก็บรูปไว้เป็นส่วนตัวมากกว่า
รีวิวท่องเที่ยวของน้องเต้าฮวยและครอบครัวที่เคยเขียนไว้เข้าไปดูได้ที่
สี่สาวพาเที่ยวดูชมพูพันธ์ุทิพย์ที่ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
https://goneverstopblog.wordpress.com/2018/02/23/pink-trumpet-tree-ku/
[Westie is my Bestie] 4 สาวชวนชิม ชวนเที่ยวเพชรบุรี-ประจวบ
https://ppantip.com/topic/33522726
สี่ทุ่มกว่าของคืนหนึ่งขณะที่เรานอนหลับอยู่บนโซฟา และน้องหมาทุกตัวในบ้านกำลังนอนพักผ่อนอยู่รอบ ๆ โซฟานั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนบอกว่า “เต้าฮวยชัก” พร้อมกับได้ยินเสียงเต้าฮวยร้องเสียงดังขึ้นมาหนึ่งครั้งเหมือนเวลาเราถอนขนหูแล้วร้อง แต่มันดังกว่า ความคิดแว่บแรกตอนตื่นขึ้นมา คิดว่าเต้าฮวยอาจจะกินอะไรเข้าไปติดคอหรือเปล่า เดี๋ยวก็ขย่อนคายออกมาเอง ซึ่งพออุ้มตัวเต้าฮวยขึ้นมาบนโต๊ะเห็นสภาพเต้าฮวยแล้วรู้ว่ามันไม่ใช่เลย เต้าฮวยตัวอ่อนปวกเปียกไปหมด ตาเปิด แต่ไม่มีลมหายใจแล้ว ล้วงคอ พยายามปั๊มหัวใจ และผายปอดอยู่ไม่ถึงนาที รีบออกรถไปถึงโรงพยาบาลภายใน 8 นาที ระหว่างทางก็พยายามปั๊มหัวใจและผายปอดให้ตลอดทาง แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอก็เข้าพร้อมช่วยเหลือทันที ทั้งใช้อุปกรณ์และยาช่วยเต้าฮวย แต่ไม่สามารถยื้อเต้าฮวยมาจากการพลัดพรากในครั้งนี้ได้ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เหมือนทุกอย่างเป็นฝันร้ายที่เกิดขึ้น และเราก็ยังคงรู้สึกเหมือนเราฝันร้ายแบบนั้นอยู่อีกหลายวัน หลายสัปดาห์ และเป็นเดือน
เต้าฮวยเป็นหมาสายพันธุ์เวสตี้ อายุได้ประมาณ 9.5 ปีเอง จะว่าเด็กก็ไม่เด็ก จะว่าแก่ก็ไม่แก่ ตรวจร่างกายประจำปีก็ไม่พบว่าเป็นโรคประจำตัวอะไร นิสัยร่าเริง เทียบกับตัวอื่นในบ้านก็เรียกได้ว่าแข็งแรงที่สุดด้วยซ้ำ พอเต้าฮวยมาจากไปกะทันหันแบบนี้ตั้งตัวไม่ถูกเลย เราก็ได้แต่คิดว่า
ยังดีที่วันสุดท้าย วินาทีสุดท้ายในชีวิตของเต้าฮวยยังมีเราอยู่ข้าง ๆ
ยังดีที่วันนั้นเราไม่ได้ออกไปไหน ไปเที่ยวไกล ๆ หรือนอนอยู่ไกลคนละห้องกับเต้าฮวย
ยังดีที่เต้าฮวยมีแต่วันที่ความสุขทุกวันในชีวิต แม้กระทั่งวันสุดท้ายเต้าฮวยก็ยังได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบนั่นก็คือ ได้ออกไปเดินเล่น
ยังดีที่เต้าฮวยไม่ต้องเจ็บป่วยทรมานนาน ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลมีสายระโยงระยางคอยประคับประคองชีวิต
รักหนูนะ คุณเต้าฮวย...คุณแม่ supermom ของอัลฟ่า แองเจิ้ล เอแคลร์ อั่งเปา และพี่น้องที่แสนดีของเต้าหู้
เหตุการณ์ที่โรงพยาบาล หลังจากที่ไม่สามารถยื้อชีวิตเต้าฮวยกลับมาได้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุนั้นคุณหมอเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน และเราก็ไม่ติดใจที่จะค้นหาแม้ว่าจะสงสัย อย่างไรเสียเราก็รู้แน่ ๆ ว่าเต้าฮวยนั่งเล่นอยู่อย่างปกติ ก่อนที่จะหยุดหายใจไปกะทันหัน ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุหรือมีคนมาวางยา
สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ คิดกันว่าจะจัดการกับศพของเต้าฮวยอย่างไรดี ด้วยความที่บ้านนี้ไม่ได้มีพื้นดินเหมือนกับบ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นเราจึงตัดสินใจจะเผาศพเต้าฮวย โดยจัดการเลือกวัดที่ใกล้บ้าน ตอนแรกที่หาข้อมูลมีตัวเลือกอยู่สองที่คือ วัดผาสุกมณีจักร แถวเมืองทองธานี และวัดบางบัว แถวบางเขน สุดท้ายเราเลือกที่วัดบางบัวเพราะว่า จากข้อมูลบอกว่าเป็นเตาเผาศพที่สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการศพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ (ไม่ใช่แค่เฉพาะสุนัข) มีบริเวณสำหรับทำพิธีทางพุทธศาสนา และเป็นเตาเผาแบบไร้มลพิษ
ช่วงกลางคืน เราเอาศพน้องเต้าฮวยมาไว้ที่บ้านเปิดแอร์ให้เย็นจัด นอนบนโซฟาใกล้ ๆ กับน้องเต้าฮวย ตอนเช้าก็รีบโทรติดต่อกับทาง Pet Master เรื่องพิธีศพ พอดีมีคิวว่างพอดี เลยนัดไปเผาตอนประมาณ 10 โมงเช้า
พอไปถึงวัดบางบัว บางเขน เราสามารถเอารถไปจอดหน้าสถานที่ทำพิธีศพได้เลย เราขอให้ทั้งทำพิธีสงฆ์และก็เผาศพพร้อมเก็บกระดูกด้วย ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 บาท จำราคาได้ไม่แม่นนะ เพราะว่าผ่านมาเป็นเดือนแล้วเพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนรีวิว ยิ่งถ้าไม่ทำพิธีสงฆ์ราคาจะยิ่งถูกลงไปอีก
ก่อนเผาก็จะมีสวด และแขกที่มาร่วมงานก็มาวางดอกไม้จันทน์ พิธีเป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย หลังจากนั้นสัปเหร่อก็ห่อผ้าขาว แล้วพาน้องเตาฮวยเข้าเตาเผา (ใครอยากจะเอาน้องหมาใส่โลงศพก็ได้นะคะ มีจำหน่ายที่ตรงนั้นเลย แต่เราเห็นว่าจะเป็นการเพิ่มขยะให้โลกโดยสิ้นเปลือง เลยไม่เอาน้องเต้าฮวยใส่โลงศพ)
น้องหมาของเราตัวเล็กใช้เวลาเผาไม่นาน ออกไปกินข้าว แล้วกลับมาสัปเหร่อก็เก็บกระดูกให้เรียบร้อยแล้ว
ตอนแรกเราหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเจอว่ามีเรือรับจ้างพาไปลอยอังคารแถวเกาะเกร็ดด้วย ราคาตามระยะทาง แต่สุดท้ายแล้วด้วยความเหนื่อยล้าในวันนั้น เราก็ยังไม่ได้ไปลอยอังคาร เอากระดูกน้องเต้าฮวยห่อผ้าขาวมาเก็บไว้ที่บ้านในห้องพระแทน
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า “ทำดีกับคนรอบตัวไว้เสมอ เพราะวันสุดท้ายของเราหรือเค้าอาจจะมาถึงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น