เป็นทฤษฎีที่คิดขึ้นมาเองครับ ส่วนตัวไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ แต่มีความสนใจด้านนี้ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ ได้เติมเต็มให้ด้วยครับ
อ้างอิงรูปตามนี้
https://uppic.cc/v/5KZ8
ทฤษฎีจักรวาลกลับด้าน
***แนวคิดเกี่ยวกับจักรวาลในทัศนของข้าพเจ้า***
ภาพที่ 1 คือ พื้นที่อวกาศปกติ ที่ไม่มีสสารใดๆ
ภาพที่ 2 คือ เมื่อมีวัตถุที่มีมวลปรากฏขึ้น อวกาศจะบิดงอ ดังรูป (เหมือนเอาบอลเหล็กมาวางบนผ้า ผืนผ้าจะหย่อนลง)
ภาพที่ 3 ดาวนิวตรอนภายหลังซูเปอร์โนวา มีขนาดเล็กกว่า แต่มีแรงโน้มถ่วงสูงมากกว่าดาวฤกษ์ทั่วไป จึงบิดอวกาศได้มาก
ภาพที่ 4 ธรรมชาติของดาวนิวตรอน แรงโน้มถ่วงจะบีบอัดสสารทั้งหมดเข้าสู่จุดศูนย์กลางของดาว นั่นแปลว่า ดาวนิวตรอนจะมีขนาดเล็กลงเลื่อยๆเนื่องจากการบีบอีดตัวด้วยพลังมหาศาลของแรงโน้มถ่วง ทำให้พื้นผิวจักรวาลถูกบิดเบือนมากยิ่งขึ้น
ภาพที่ 5 เมื่อดาวนิวตรอนถูกบีบอัดเข้าไปจนถึงจุดหรือหน่วยที่เล็กสุดของจักรวาล การบีบอัดตัวจะเล็กลงกว่านั้นไม่ได้อีก แต่เนื่องจากแรงโน้มถ่วงมหาศาลที่ยังคงทำงานของมันจึงบังคับให้จุดที่เล็กที่สุดที่ถูกอัดแน่นไปด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาลนั่น จำเป็นต้องปลดปล่อยพลังงานออกมา แต่เนื่องจาก มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังงานออกไปทางเดิมได้เนื่องจากแรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดทุกอย่างสวนทางเข้ามา ค่าทางคณิตศาสตร์ที่บอกว่าหน่วยที่เล็กที่สุดของมวลสารไม่สามารถติดลบได้ จึงเกิดติดลบขึ้นมา แต่การติดลบนั่น ไม่ได้เกิดขึ้นที่จักรวาลของเรา แต่มันไปปรากฏเป็นค่าบวกในจักรวาลอื่นแทน
ภาพที่ 6 การกลับด้านของจักรวาลดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อขนาดของดาวนิวตรอนนั้นถูกบีบอัดจนถึงจุดที่เล็กที่สุดซึ่งไม่สามารถเล็กกว่านั้นได้อีก และเมื่อมันปลดปล่อยพลังงานออกไปยังจักรวาลใหม่นั่นเอง ทำให้ตัวตนของมันซึ่งมีขนาดติดลบไม่ได้มีอยู่ในจักรวาลของเราอีกต่อไป นั่นอธิบายได้ 2 ข้อ คือ
1.อธิบายว่าทำไมหลุมดำจึงไม่มีตัวตน เป็นเพียงอวกาศว่างเปล่า แต่กลับมีเฉพาะแรงโน้มถ่วงอันเป็นอนันต์ เนื่องจากพลังงานทั้งหมดที่ดูดเข้าไป มันปลดปล่อยออกไปยังจักรวาลอื่นแทน และเมื่อจักรวาลในอีกมิติขยายขึ้นมวลสารที่ถูกส่งเข้าไปก็ต้องเพิ่มมากยิ่งขึ้นเช่นกัน นั่นนำไปสู่ทฤษฎีที่ว่ายิ่งหลุมดำดึงดูดมวลสารหรือพลังงานมากเท่าไหร่ ขนาดของมันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
2.ใจกลางหลุมดำ คือจุดเล็กๆ(หน่วยที่เล็กที่สุดของจักรวาล)ที่ดึงดูดทุกอย่างเข้าไป และแน่นอนว่า สิ่งที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้ ต้องมีขนาดพอๆกัน
จึงจะสามารถลอดผ่านจุดๆนั้นเพื่อไปยังจักรวาลกลับด้านได้ ดังนั้นมวลสารทั้งหมดจึงต้องถูกบีบอัดให้เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดก่อนตรงใจกลางหลุมดำ และเหตุการณ์หลังจากนั้น คณิตศาสตร์ที่เรารู้จักร จะกลับด้านไปตามจักรวาลในทันที
ภาพที่ 7 ทฤษฎี บิ๊กแบงบอกว่าจักรวาลถือกำเนิดมาจากการอัดแน่นของมวลสารและพลังงานจนถึงจุดหนึ่งก็ระเบิดออกมาปลดปล่อยมวลสารและพลังงานออกมาจนกลายเป็นจักรวาลที่เราอยู่ในปัจจุบันแต่หากยึดตามทฤษฎีจักรวาลกลับด้านนี้จะพบว่า บิ๊กแบงสามารถเกิดขึ้นได้จริง นั่นคือจุดเล็กๆที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงกลับด้านนั้นทำให้อีกด้านของจักรวาลปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดออกมาภายในทีเดียว(อีกด้านของจักรวาล) นั่นนำไปสู่ทฤษฎีที่ว่า จักรวาลไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่ง แต่มีเป็นอนันต์ แต่ที่ผมกำลังพูดถึง ไม่ได้แปลว่า มีหลายจักรวาลรอบๆจักรวาลของเรา ถ้าอ้างทฤษฎีข้างต้นจะอธิบายได้ 2 ข้อคือ
1. จักรวาลในแต่ละมิติ(มีมิติเป็นอนันต์)จะมีเพียงแค่จักรวาลเดียว
2.ข้อถกเถียงของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเกี่ยวกับการถือกำเนิดของเวลา จะถูกอธิบายใหม่ด้วยทฤษฎีนี้ว่า เวลาไม่เคยมีจุดเริ่มต้นและจุดจบในเชิงอนันตจักวารแต่เวลา สามารถมีจุดเริ่มต้นและจุดจบในหนึ่งมิติจักรวาลนั้นๆ
ภาพที่ 8 แสดงถึงดาวนิวตรอนที่ถูกบีบอัดไปจนถึงจุดที่เล็กที่สุดที่ไม่สามารถเล็กลงกว่านั้นอีกได้ จึงต้องสร้างขนาดติดลบขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับแรงโน้มถ่วงอันมหาศาล หรืออาจเรียกได้ว่า มันได้สร้างจักรวาลอีกอัน(คนละมิติ)ขึ้นมา แน่นอนว่าถ้าหากคุณอยากไปยังอีกจักรวาล คุณจะต้องย่อตัวให้เป็นแบบแอนท์แมน ถึงจะผ่านประตูมิตินั้นไปได้ และที่สำคัญอีกข้อ เมื่อบิ๊กแบงแห่งใหม่ปรากฏขึ้น เราจะไม่มีทางรับรู้มันได้ เนื่องจาก มิติแห่งนั้นเป็นคนละมิติกับเรา
ภาพที่ 9 แสดงกราฟ เกี่ยวกับการถือกำเนิดหลุมดำ
ภาพที่ 10 แสดงกราฟต่อจากภาพที่ 9 ที่ขนาดเล็กลงไปถึงจุดติดลบจนเข้าสู่อีกจักรวาล โดยทุกอย่างจะเริ่มต้นที่ 0 เพื่อนเป็นบรรทัดฐานของจักรวาลแห่งนั้น โดยกราฟจะแสดงลูกศรในทิศทางตรงกันข้ามหากมองจากอีกฟากหนึ่งของเรา
ข้อสรูปจากทฤษฎีจักรวาลแบบกลับด้าน
1.จุดศูนย์กลางของหลุมดำนั้นมีขนาดเล็กที่สุดของจักรวาล
2. หลุมดำคือพื้นที่ที่แทบจะว่างเปล่าในอวกาศที่มีเพียงแรงโน้มถ่วงมหาศาล(ความจริงมีจุดที่เล็กที่สุด แต่แทบจะไม่มีทางมองเห็นได้)
3. สาเหตุที่สสารถูกบีบจนกลายเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด เพื่อที่จะสามารถส่งต่อไปยังจักรวาลกลับด้านได้
4. บิ๊กแบง เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานอีกด้านหนึ่งของหลุมดำ(บางคนอาจเรียกหลุมขาว ซึ่งตอนนี้ขอสรุปว่า หลุมขาว=บิ๊กแบง)
5. ทฤษฎีจักรวาลกลับด้านสามารถอธิบายได้ว่า บิ๊กแบงทำงานอย่างไร
6. จักรวาล มีจำนวนเป็นอนันต์ ซึ่งแต่ละมิติจะมีเพียงจักรวาลเดียวเพียงเท่านั้น
7. เมื่อแรงโน้มถ่วงของจักรวาลต้นลดลงจะทำให้จักรวาลกลับด้านเริ่มยุบตัว
8. จักรวาลในมิติของเรามีขอบจักรวาลซึ่งจะขอใช้คำว่ากำแพงมิติปัจจุบัน
9. หากคุณต้องการไปยังมิติอื่น คุณจะต้องบีบอัดตัวของคุณเอง ให้กลายเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของจักรวาล เพื่อลอดผ่านประตูของจักรวาลกลับด้านให้ได้
10. ในอีกด้านของจักรวาล ลบจะกลายเป็นบวก บวกจะกลายเป็นลบ
11. มวลสารและพลังงานแทบทุกอย่าง อาจเคยผ่านจักรวาลมิติอื่นๆมานับไม่ถ้วน
12. ทฤษฎีนี้นำไปสู่ปัญหาโลกแตก เช่นเดียวกับ ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ในเมื่อบิ๊กแบงเกิดหลังจักรวาล ส่วนจักรวาลเองก็เกิดหลังบิ๊กแบงเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาจุดเริ่มต้นของมิติอันดับที่ 1 ได้
หากอ่านจนมาถึงตรงนี้ รบกวนท่านผู้รู้เติมเต็มส่วนที่ขาดหาย และแนะนำจุดที่บกพร่อง และช่วยให้ข้อชี้แนะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
*****และท้ายที่สุด ทฤษฎีนี้ไม่ผ่านการทดลองใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น******
รบกวนช่วยวิเคราะห์ ทฤษฎีจักรวาลกลับด้าน ทีกลับ
อ้างอิงรูปตามนี้
https://uppic.cc/v/5KZ8
ทฤษฎีจักรวาลกลับด้าน
***แนวคิดเกี่ยวกับจักรวาลในทัศนของข้าพเจ้า***
ภาพที่ 1 คือ พื้นที่อวกาศปกติ ที่ไม่มีสสารใดๆ
ภาพที่ 2 คือ เมื่อมีวัตถุที่มีมวลปรากฏขึ้น อวกาศจะบิดงอ ดังรูป (เหมือนเอาบอลเหล็กมาวางบนผ้า ผืนผ้าจะหย่อนลง)
ภาพที่ 3 ดาวนิวตรอนภายหลังซูเปอร์โนวา มีขนาดเล็กกว่า แต่มีแรงโน้มถ่วงสูงมากกว่าดาวฤกษ์ทั่วไป จึงบิดอวกาศได้มาก
ภาพที่ 4 ธรรมชาติของดาวนิวตรอน แรงโน้มถ่วงจะบีบอัดสสารทั้งหมดเข้าสู่จุดศูนย์กลางของดาว นั่นแปลว่า ดาวนิวตรอนจะมีขนาดเล็กลงเลื่อยๆเนื่องจากการบีบอีดตัวด้วยพลังมหาศาลของแรงโน้มถ่วง ทำให้พื้นผิวจักรวาลถูกบิดเบือนมากยิ่งขึ้น
ภาพที่ 5 เมื่อดาวนิวตรอนถูกบีบอัดเข้าไปจนถึงจุดหรือหน่วยที่เล็กสุดของจักรวาล การบีบอัดตัวจะเล็กลงกว่านั้นไม่ได้อีก แต่เนื่องจากแรงโน้มถ่วงมหาศาลที่ยังคงทำงานของมันจึงบังคับให้จุดที่เล็กที่สุดที่ถูกอัดแน่นไปด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาลนั่น จำเป็นต้องปลดปล่อยพลังงานออกมา แต่เนื่องจาก มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังงานออกไปทางเดิมได้เนื่องจากแรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดทุกอย่างสวนทางเข้ามา ค่าทางคณิตศาสตร์ที่บอกว่าหน่วยที่เล็กที่สุดของมวลสารไม่สามารถติดลบได้ จึงเกิดติดลบขึ้นมา แต่การติดลบนั่น ไม่ได้เกิดขึ้นที่จักรวาลของเรา แต่มันไปปรากฏเป็นค่าบวกในจักรวาลอื่นแทน
ภาพที่ 6 การกลับด้านของจักรวาลดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อขนาดของดาวนิวตรอนนั้นถูกบีบอัดจนถึงจุดที่เล็กที่สุดซึ่งไม่สามารถเล็กกว่านั้นได้อีก และเมื่อมันปลดปล่อยพลังงานออกไปยังจักรวาลใหม่นั่นเอง ทำให้ตัวตนของมันซึ่งมีขนาดติดลบไม่ได้มีอยู่ในจักรวาลของเราอีกต่อไป นั่นอธิบายได้ 2 ข้อ คือ
1.อธิบายว่าทำไมหลุมดำจึงไม่มีตัวตน เป็นเพียงอวกาศว่างเปล่า แต่กลับมีเฉพาะแรงโน้มถ่วงอันเป็นอนันต์ เนื่องจากพลังงานทั้งหมดที่ดูดเข้าไป มันปลดปล่อยออกไปยังจักรวาลอื่นแทน และเมื่อจักรวาลในอีกมิติขยายขึ้นมวลสารที่ถูกส่งเข้าไปก็ต้องเพิ่มมากยิ่งขึ้นเช่นกัน นั่นนำไปสู่ทฤษฎีที่ว่ายิ่งหลุมดำดึงดูดมวลสารหรือพลังงานมากเท่าไหร่ ขนาดของมันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
2.ใจกลางหลุมดำ คือจุดเล็กๆ(หน่วยที่เล็กที่สุดของจักรวาล)ที่ดึงดูดทุกอย่างเข้าไป และแน่นอนว่า สิ่งที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้ ต้องมีขนาดพอๆกัน
จึงจะสามารถลอดผ่านจุดๆนั้นเพื่อไปยังจักรวาลกลับด้านได้ ดังนั้นมวลสารทั้งหมดจึงต้องถูกบีบอัดให้เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดก่อนตรงใจกลางหลุมดำ และเหตุการณ์หลังจากนั้น คณิตศาสตร์ที่เรารู้จักร จะกลับด้านไปตามจักรวาลในทันที
ภาพที่ 7 ทฤษฎี บิ๊กแบงบอกว่าจักรวาลถือกำเนิดมาจากการอัดแน่นของมวลสารและพลังงานจนถึงจุดหนึ่งก็ระเบิดออกมาปลดปล่อยมวลสารและพลังงานออกมาจนกลายเป็นจักรวาลที่เราอยู่ในปัจจุบันแต่หากยึดตามทฤษฎีจักรวาลกลับด้านนี้จะพบว่า บิ๊กแบงสามารถเกิดขึ้นได้จริง นั่นคือจุดเล็กๆที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงกลับด้านนั้นทำให้อีกด้านของจักรวาลปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดออกมาภายในทีเดียว(อีกด้านของจักรวาล) นั่นนำไปสู่ทฤษฎีที่ว่า จักรวาลไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่ง แต่มีเป็นอนันต์ แต่ที่ผมกำลังพูดถึง ไม่ได้แปลว่า มีหลายจักรวาลรอบๆจักรวาลของเรา ถ้าอ้างทฤษฎีข้างต้นจะอธิบายได้ 2 ข้อคือ
1. จักรวาลในแต่ละมิติ(มีมิติเป็นอนันต์)จะมีเพียงแค่จักรวาลเดียว
2.ข้อถกเถียงของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเกี่ยวกับการถือกำเนิดของเวลา จะถูกอธิบายใหม่ด้วยทฤษฎีนี้ว่า เวลาไม่เคยมีจุดเริ่มต้นและจุดจบในเชิงอนันตจักวารแต่เวลา สามารถมีจุดเริ่มต้นและจุดจบในหนึ่งมิติจักรวาลนั้นๆ
ภาพที่ 8 แสดงถึงดาวนิวตรอนที่ถูกบีบอัดไปจนถึงจุดที่เล็กที่สุดที่ไม่สามารถเล็กลงกว่านั้นอีกได้ จึงต้องสร้างขนาดติดลบขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับแรงโน้มถ่วงอันมหาศาล หรืออาจเรียกได้ว่า มันได้สร้างจักรวาลอีกอัน(คนละมิติ)ขึ้นมา แน่นอนว่าถ้าหากคุณอยากไปยังอีกจักรวาล คุณจะต้องย่อตัวให้เป็นแบบแอนท์แมน ถึงจะผ่านประตูมิตินั้นไปได้ และที่สำคัญอีกข้อ เมื่อบิ๊กแบงแห่งใหม่ปรากฏขึ้น เราจะไม่มีทางรับรู้มันได้ เนื่องจาก มิติแห่งนั้นเป็นคนละมิติกับเรา
ภาพที่ 9 แสดงกราฟ เกี่ยวกับการถือกำเนิดหลุมดำ
ภาพที่ 10 แสดงกราฟต่อจากภาพที่ 9 ที่ขนาดเล็กลงไปถึงจุดติดลบจนเข้าสู่อีกจักรวาล โดยทุกอย่างจะเริ่มต้นที่ 0 เพื่อนเป็นบรรทัดฐานของจักรวาลแห่งนั้น โดยกราฟจะแสดงลูกศรในทิศทางตรงกันข้ามหากมองจากอีกฟากหนึ่งของเรา
ข้อสรูปจากทฤษฎีจักรวาลแบบกลับด้าน
1.จุดศูนย์กลางของหลุมดำนั้นมีขนาดเล็กที่สุดของจักรวาล
2. หลุมดำคือพื้นที่ที่แทบจะว่างเปล่าในอวกาศที่มีเพียงแรงโน้มถ่วงมหาศาล(ความจริงมีจุดที่เล็กที่สุด แต่แทบจะไม่มีทางมองเห็นได้)
3. สาเหตุที่สสารถูกบีบจนกลายเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด เพื่อที่จะสามารถส่งต่อไปยังจักรวาลกลับด้านได้
4. บิ๊กแบง เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานอีกด้านหนึ่งของหลุมดำ(บางคนอาจเรียกหลุมขาว ซึ่งตอนนี้ขอสรุปว่า หลุมขาว=บิ๊กแบง)
5. ทฤษฎีจักรวาลกลับด้านสามารถอธิบายได้ว่า บิ๊กแบงทำงานอย่างไร
6. จักรวาล มีจำนวนเป็นอนันต์ ซึ่งแต่ละมิติจะมีเพียงจักรวาลเดียวเพียงเท่านั้น
7. เมื่อแรงโน้มถ่วงของจักรวาลต้นลดลงจะทำให้จักรวาลกลับด้านเริ่มยุบตัว
8. จักรวาลในมิติของเรามีขอบจักรวาลซึ่งจะขอใช้คำว่ากำแพงมิติปัจจุบัน
9. หากคุณต้องการไปยังมิติอื่น คุณจะต้องบีบอัดตัวของคุณเอง ให้กลายเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของจักรวาล เพื่อลอดผ่านประตูของจักรวาลกลับด้านให้ได้
10. ในอีกด้านของจักรวาล ลบจะกลายเป็นบวก บวกจะกลายเป็นลบ
11. มวลสารและพลังงานแทบทุกอย่าง อาจเคยผ่านจักรวาลมิติอื่นๆมานับไม่ถ้วน
12. ทฤษฎีนี้นำไปสู่ปัญหาโลกแตก เช่นเดียวกับ ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ในเมื่อบิ๊กแบงเกิดหลังจักรวาล ส่วนจักรวาลเองก็เกิดหลังบิ๊กแบงเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาจุดเริ่มต้นของมิติอันดับที่ 1 ได้
หากอ่านจนมาถึงตรงนี้ รบกวนท่านผู้รู้เติมเต็มส่วนที่ขาดหาย และแนะนำจุดที่บกพร่อง และช่วยให้ข้อชี้แนะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
*****และท้ายที่สุด ทฤษฎีนี้ไม่ผ่านการทดลองใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น******