ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 3 ปิดท้ายสำหรับรอบที่ 9 นี้ครับ
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งลาพักงานหนีความเบื่อหน่ายเซ็งกับการแก่งแย่งแข่งดี กะจะไปเที่ยวต่างจังหวัดผ่อนคลายอารมณ์ดีๆ ซักหน่อย แต่ดันไปเผชิญการจราจรหนาแน่น แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือพบกับคนขับรถกวนส้น และเกิดการเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันบนถนน! กูจะแซงเมิงๆก็จะแซงกู กูขวางเมิงๆ ก็ขวางกู ประมาณนั้น!
งานนี้ อยู่ที่ใครควบคุมสติดีกว่าละครับ ที่จะผ่านพ้นสถานการณ์กวนประสาทกลางถนนนั้นไปได้
ตรงกันข้าม ใครสติแตกก่อน ก็เตรียมเจอหายนะที่รออยู่ข้างหน้า !! ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะหนักเบาแค่ไหน
แล้วกระทาชายนายคนนี้ จะทำประการใด ตามไปดูกันครับ ดูซิว่าการตัดสินใจของเขา ถูกหรือผิด ???
คนเราทุกวันนี้ฆ่ากันง่ายๆ แค่มองหน้ากันก็ฆ่ากันได้
สุรชิตหนุ่มวัยทำงานได้ยินคำบอกเล่าแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยใส่ใจ
จนกระทั่งวันนี้ ที่เขาเองก็อยากจะฆ่าใครบางคน แม้จะไม่มีสาเหตุมาจากการมองหน้ากันก็ตาม
วันหยุดสุดสัปดาห์ ชายหนุ่มถือโอกาสลาพักร้อนยาว พารถญี่ปุ่นคู่ใจที่รับใช้เขามาหลายปี เดินทางออกไปต่างจังหวัด ตั้งใจว่าจะไปหาเพื่อนที่อยู่ทางภาคเหนือ ให้พาไปแอ่วสาวเหนือให้สนุก เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากทำงานให้กับบริษัทแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่พอสิ้นปีปรากฏว่าตำแหน่งที่ตั้งเป้าหมาย โดนคนอื่นคว้าเอาไปกินแบบตัดหน้าในระยะประชิด
เขาแน่ใจว่ามันผลงานไม่ได้ดีอะไรมากมายไปกว่าเขา แต่เรื่องความประสบสอพลอระดับโลก การทำงานในบริษัทก็เหมือนสงครามการแข่งขันอย่างหนึ่ง ที่จะไว้ใจคู่แข่งไม่ได้เลย ถ้าคิดจะมุ่งสู่เส้นทางแห่งความก้าวหน้าของตำแหน่งหน้าที่การงาน
ผลจากการเบื่อหน่ายอ่อนล้าทางใจ ทำให้ชายหนุ่มลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อทำใจและตั้งหลักว่าจะกลับมาลงสนามแข่งใหม่ หรือจะถอนตัวออกจากการแข่งขัน
คนอย่างเขามีฝีมือมีความรู้ในการทำงาน เรื่องหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเสียความรู้สึกมากกว่า ทำให้เสียหน้า!
ถนนมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพ รถราไม่ค่อยติดหนึบเหมือนใจกลางเมืองหลวง ทำให้ใช้ความเร็วได้แบบตามใจสั่ง เสียงเพลงจากเครื่องเสียงชั้นดี ทำให้จิตใจผ่อนคลายลงได้บ้าง
คนเราหาเวลาส่วนตัวให้กับตัวเองก็ดี ไม่ใช่ตื่นขึ้นมา ก็ตาลีตาเหลือกรีบไปทำงาน หามรุ่งหามค่ำ ความสุขอยู่ตรงไหน??? เขาเพิ่งจะเริ่มรู้สัจธรรมในข้อนี้!
ก่อนขับรถออกจากบ้าน เขาวาดแผนที่การเดินทางอย่างคร่าวๆ ในหัวสมอง ออกจากกรุงเทพ – สุพรรณบุรี – ชัยนาท - นครสวรรค์ – กำแพงเพชร – ตาก – ลำปาง – ลำพูน – ไปจนถึงเชียงใหม่เป็นจุดหมายสุดท้าย โดยตั้งใจว่าจะขับรถไปเรื่อย ๆ เหนื่อยไหนก็พักนั่น เจอสถานที่ท่องเที่ยว อาจจะแวะท่องเที่ยวไปด้วยตามประสาหนุ่มโสด เผลอๆ อาจได้แฟนกลางทาง!
แต่ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งที่แทบไม่ต่างกันคือ เรื่องการขับรถแบบไม่เคารพกฏจราจร หลายครั้งที่ชายหนุ่มมองเห็นรถกระบะบรรทุกสินค้า วิ่งเลนขวาสุดแบบหวานเย็น ไม่สนใจมนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น ราวกับว่าถนนสายนี้สัมปทานมาเป็นของตัวเอง หลายครั้งที่มอเตอร์ไซด์แผดเสียงสนั่น แซงปาดหน้าจากซ้ายมือขนาดปิดกระจกรถยังทำเอาสะดุ้งเพราะเสียงของมัน
หรือบางครั้งเส้นทางเป็นคอขวดบริเวณขึ้นสะพาน เห็นรถจำนวนมากวิ่งแซงทางเลนซ้ายมือ แล้วโฉบเข้าทางขวามือแบบลักไก่ ไปจ่อคิวตัดหน้ารถคันที่วิ่งมาในเส้นทางถูกต้อง ทำให้ไปชะลอออกันอยู่ตรงนั้นเป็นกระจุก เดือดร้อนถึงรถราที่ไม่วิ่งขึ้นสะพาน แต่วิ่งทางตรงเลนซ้ายมือพลอยเดือดร้อนไปด้วย จะไปก็ไปไม่ได้ !
และมีหลายครั้งที่เขาต้องผ่านทางแยกที่มองเห็นป้ายเขียนบอกว่า
“เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” แต่มีรถลักไก่ วิ่งแซงซ้าย ไปจอดขวางเลนซ้ายมือเพื่อรอสัญญาณไปทางตรง กลายเป็น
“เลี้ยวซ้ายข้าจะขวางตลอด” ทำให้รถเลนซ้ายสุดไม่สามารถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้ ต้องยอมรอจนไฟเขียว ทั้งที่ไม่ได้ไปทางตรงสักนิด
อารมณ์ของสุรชิตเริ่มเดือดปุดๆ ขึ้นทุกที ทำงานก็ถูกเอาเปรียบ มาเที่ยวก็ถูกการขัดขวางเอาเปรียบแบบผิดกติกา
ไอ้บ้าเอ้ย...!! เขาเริ่มสบถในใจ ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนพูดหยาบคายอะไร
แหม่งง...จะไปตรงก็จอดรอตามคิวสิวะ...!! เจือกมาจอดเลนซ้ายสุดทำไม ??...ตรูมีปืนกลติดรถจะยิงแหม่งงให้เละทั้งคัน !!! กดปุ่มยิงจรวดนำวิถีถล่มมัน!!! ไอ้คนมรรยาททราม!!! เห็นแก่ตัว ไปลงนรกเสียเถอะแก....เห็นแกดิ้นตายอยู่ข้างทางตรูจะไม่ลงไปช่วย!!
พอรถเคลื่อนตัวได้ ใจคอยังร้อนอยู่ เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมเรื่องการขับรถขับราถึงทำให้คนเราอารมณ์ร้อนฆ่ากันตายได้
แต่เขาไม่ใช่ฝ่ายผิด! ไอ้คนที่ผิดมันจะสามัญสำนึกที่ดีต่อสังคมไหมหนอ? มันจะสำนึกกันไหม ว่ามันเป็นพวกเห็นแก่ตัว!
สุรชิตสูดลมหายใจลึกยาว พยายามตั้งสติ อารมณ์เสียไปก็เท่านั้น ด่าไปพวกกะโหลกหนาก็คงไม่ได้ยิน เราต่างหากได้ยินเสียงก่นด่าของตัวเอง ไม่ดี!! แม้จะพยายามข่มใจ ก็ยังรู้สึกหัวใจเต้นแรงด้วยความฉุนเฉียว!
หลังจากอารมณ์เย็นลงบ้าง เป็นจังหวะจะเข้าตัวเมืองชัยนาท รถราหนาแน่นขึ้น ชายหนุ่มขับรถอย่างระมัดระวัง รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าไว้ในระยะปลอดภัย ถ้าเกิดรถคันหน้าเบรกกะทันหันจะได้หยุดรถทัน
ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!.....!!!
เสียงแตรรถทำให้เขาสะดุ้งด้วยความตกใ มีอะไรเกิดขึ้น?? เปล่า ไม่มีอะไร...รถคันวิ่งตามหลังคงบีบแตรเร่งให้เขาขับรถเร็วกว่านี้ ความหงุดหงิดระเบิดขึ้นทันที
มันติดรถข้างหน้าโว้ย!! จะรีบไปตายที่ไหน?
มองกระจกหลัง เห็นรถที่วิ่งตามมาเป็นรถบีเอ็มดับบลิวสีขาว ขับจี้ท้ายรถมากระชั้นชิดอย่างน่าเกลียด ทั้งๆ ที่รู้ว่ารถกำลังพากันเคลื่อนตัวช้า มันออกอาการหลุกหลิกเหมือนอยากแซงให้ได้เสียเต็มประดา! มันจะแซงไปหาสวรรค์วิมานอะไรของมัน แซงเขาไปได้ก็ต้องมีรถคันหน้าขวางอยู่ดี แถมมาบีบแตรไล่อีก!!
เห็นบีเอ็มดับบลิวคันนั้นหลังจากส่ายหัวซ้ายทีขวาที มันก็เร่งเครื่องทำท่าจะแซงซ้ายแล้วปาดหน้า ซึ่งมีระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่ง หนอย...แค่นี้ก็ยังอยากจะแซง ! ไวเท่าความคิด เท้าเหยียบคันเร่งทันที! ทำให้รถของเขาจี้รถคันหน้าไปติดๆ แบบไม่เปิดโอกาสให้ใครอาศัยระยะห่างมาปาดหน้าได้ ซึ่งก็ได้ผล! บีเอ็มดับบลิวคันนั้นต้องยอมถอยลงไปตามเดิม ปาดเข้าไม่ได้!จะแซงซ้ายต่อไปก็ไม่ได้ เพราะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่อุ้ยอ้ายวิ่งขวางอยู่
“สะใจจริงโว้ย!! ฮ่าฮ่าฮ่า!! ไอ...กร๊วกกกกเยสส !! วะ ฮู้ว์ว์ว์!!! โว้ยยยย !!! ยี้...ฮ่าาา !!!!”
สุรชิตหัวเราะลั่นรถชูกำปั้นข้างหนึ่งอย่างสะใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ตามที ถูกเอาเปรียบมาหลายครั้ง ครั้งนี้จะต้องแสดงความเห็นแก่ตัวให้คนอื่นรู้บ้าง ว่าถ้าจะทำก็ทำได้!
สภาพรถหนาแน่น ตามหลักแล้วรถควรวิ่งตามกันไม่ควรเปลี่ยนเลนโดยไม่จำเป็น เพราะไม่มีช่องว่างให้มาแทรก แต่รถบีเอ็มดับบลิวคันนั้นยังไม่ละความพยายาม มันจะแซงเลนขวามือก็ไม่ได้เพราะรถยังวิ่งตามกันมาแบบไม่เปิดระยะว่าง...
ต่อให้มันจะรีบไปตาย ก็ไปตายไม่ได้ เพราะโอกาสไม่มี ! หลายครั้งที่รถคันนั้นพยายามจะทำแบบเดิมคือปาดแซงขึ้นมาเพื่อจะเข้าช่องว่างด้านหน้า แต่สุรชิตแก้ลำโดยการขับจี้ท้ายรถคันหน้าแบบติด ๆ
ไม่ยอมปล่อยโอกาสเด็ดขาด! แม้ว่าจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุก็ตาม แต่ในเมื่อเขาไม่ได้ผิด ก็ต้องรักษาความถูกต่อไป!
หลายครั้งที่บีเอ็มดับบลิวเปิดไฟสูงอย่างจงใจทั้งที่เป็นเวลากลางวัน
มันตั้งใจกวน!! ไอ้บร้า !! ขับรถแบบนี้ อย่างแกนะ... ถ้าเห็นกลิ้งโค่โร่อยู่ข้างทาง จะลงไปถ่มน้ำลายใส่หน้าเสียให้เข็ด ปล่อยให้ตายข้างทางไปเลย!!!
รถยังเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ไม่แน่ว่าข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุหรืออย่างไร รถจึงติดขนาดนี้ แต่ทุกคนก็ต้องใจเย็นขับตามกฏจราจร ในเวลารถติด พวกที่ยิ้มได้คือบรรดาคนขับมอเตอร์ไซด์ที่ลัดเลาะไปตามช่องว่าง ชนิดแม้แต่คนขับรถคันละหลายสิบล้านก็ต้องมองค้อน... เพราะไม่ว่าจะขับรถหรูหราราคาแพงขนาดไหน ในสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ช่วยอะไรได้! ติดเหมือนกัน!
เป็นเวลาสิบกว่านาทีที่สุรชิตและรถบีเอ็มดับบลิวเล่นเกมแซงไม่แซง เขาไม่ยอมเปิดช่องว่าง มันก็พยายามหาจังหวะจะแซงมาปาดหน้าให้ได้ จนหลายครั้งเกือบจะเฉี่ยวชนกัน เหมือนความสุขทั้งโลกอยู่กับชัยชนะครั้งนี้
หลายครั้งที่มันบีบแตรกวนประสาท เขาก็กดแตรโต้ตอบบ้าง ให้มันรู้กันไป!
สุรชิตนึกเสียดาย ที่ไม่ได้พกปืนติดรถมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะเจอการกวนประสาทแบบนี้ แต่ถ้าอีกฝ่ายมีอาวุธจะทำยังไง ?? เขาพยายามนึกว่าในรถมีอะไรเอามาต่อสู้ป้องกันตัวได้บ้าง ไม่มี! แต่มานึกอีกที โอกาสที่ลงลงจากรถมาทำร้ายกันคงยาก เพราะสภาพจราจรที่รถยังคงค่อยไหลไปเรื่อยๆ ไปบ้างหยุดบ้าง แต่ก็ไม่นานพอจะเปิดโอกาสให้ลงมาทะเลาะกันกลางถนน และบางทีมันอาจไม่กล้าลงมาเหมือนกัน เขาคิดเข้าข้างตัวเองไปก่อน แต่ถ้าลงมาก็ค่อยว่ากัน!
"ไอ้บ้าเอ๊ยย!! แน่จริงลงมาสิวะ" เขาร้องเมื่อแน่ใจว่าเจ้าของรถคันนั้นไม่ลงมาหาเรื่องแน่ ใจหนึ่งก็โล่งใจไป
และเหตุการณ์ที่ไม่มีใครยอมใครคงจะดำเนินต่อไปถ้าไม่เพราะมาถึงสี่แยกไฟแดง ซึ่งเป็นเหมือนกรรมการห้าม รถหยุดรอไฟเขียว มีเวลาให้ลงมามีเรื่องกันแล้ว... สุรชิตหัวใจเต้นแรงคอยมองกระจกหลัง ถ้ามันเปิดประตูเดินตรงมา เขาจะใช้จังหวะกระแทกประตูใส่มันก่อน แล้วรีบลงไปเตะกระโดงคางให้สักทีก่อนที่มันจะเล่นงานเขาได้
แต่คนขับบีเอ็มดับบลิวไม่ได้ลงมาหาเรื่อง พวกนี้เก่งแต่ในรถ! ชายหนุ่มนึกอย่างโล่งใจ เขาเองก็ไม่ใช่คนชอบวิวาท
เผลอแวบเดียว! ก่อนจะไฟเขียว รถบีเอ็มดับบลิวได้จังหวะที่เขามัวแต่ระวังซ้าย มันปาดหน้ารถเลนขวามือได้
แต่แทนที่จะขับไปตามเลนขวาอย่างควรจะเป็น มันกลับปาดซ้ายเข้ามาเอาหน้ารถกันท่ารถของเขาไว้!
ชนแมร่งงมันเลยดีไหม ??? เขาคำราม นึกเจ็บใจตัวเองที่พลาดท่า!
ชนเหรอ!! ก็แค่เหยียบคันเร่งเท่านั้น….ตูม!!!!ให้มันแหลกไปข้าง!
วูบหนึ่ง สติอันเร่าร้อนของชายหนุ่มดึงวูบกลับมา ชนไปได้อะไร เสียหายเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เออ...คุณครับ!!...คุณอยากไปก็กรุณาเชิญเลยครับท่าน!!
รถบีเอ็มดับบลิวปาดหน้าเขาจนได้ รู้เลยว่ามันตั้งใจทำ! คนขับเปิดกระจกข้าง ยื่นมือออกมาชูนิ้วกลาง!
ครับ ...!!! คุณครับ ... ผมยอมแพ้แล้วครับ !!...
สุรชิตถอนใจอย่างยอมแพ้ แต่รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
เออ!... การยอมแพ้บางทีก็ไม่เลวเหมือนกัน
พอไฟเขียว คราวนี้สุรชิตเป็นฝ่ายวิ่งตามบีเอ็มดับบลิวบ้าง แต่เขาไม่ได้คิดจะแก้ลำโดยการปาดหน้าคืน สติผิดชอบชั่วดีกลับคืนมา
ขณะผ่านสี่แยก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!!!
ปรื้นนนนนน!!!!!
โครมมมม !!!!
รถกระบะคันหนึ่งฝ่าไฟแดงมาจากด้านข้าง จะเพราะคนขับหลับใน เมายา หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ พุ่งเข้าชนบีเอ็มดับบลิวด้านข้างเต็มแรง แบบไม่มีการเหยียบเบรกต่อหน้าต่อตาของเขา!!
นาทีชีวิตโดยแท้จริง ! ถ้าเขาไม่ยอมให้บีเอ็มดับบลิวปาดหน้าแซง รถคันที่โดนชนจะต้องเป็นรถของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย มันเพียงสลับตำแหน่งกันเท่านั้น!!!!
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!
เสียงตะโกนจากผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น
ขอบคุณตัวเองกับการตัดสินใจยอมแพ้ในวินาทีสุดท้าย เลยกลายเป็นว่ารถบีเอ็มดับบลิวมาช่วยรับเคราะห์แทน !
พอได้สติ สุรชิตรีบเปิดประตูรถ ตรงไปยังรถคันที่ถูกชนยับเยินจนกระเด็นไปไกล
วันนี้เขาจะเป็นพลเมืองดี ยอมเสียเวลา ช่วยเหลือคนในรถบีเอ็มดับบลิวให้ถึงที่สุด !!
/// จบ ///
ถุงมือ ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า
💥😈💀THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง# 9 เรื่องสั้น "การตัดสินใจของสุรชิต" (ถุงมือ DRIFTING ซิ่งสายฟ้า)💀😈💥
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งลาพักงานหนีความเบื่อหน่ายเซ็งกับการแก่งแย่งแข่งดี กะจะไปเที่ยวต่างจังหวัดผ่อนคลายอารมณ์ดีๆ ซักหน่อย แต่ดันไปเผชิญการจราจรหนาแน่น แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือพบกับคนขับรถกวนส้น และเกิดการเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันบนถนน! กูจะแซงเมิงๆก็จะแซงกู กูขวางเมิงๆ ก็ขวางกู ประมาณนั้น!
งานนี้ อยู่ที่ใครควบคุมสติดีกว่าละครับ ที่จะผ่านพ้นสถานการณ์กวนประสาทกลางถนนนั้นไปได้
ตรงกันข้าม ใครสติแตกก่อน ก็เตรียมเจอหายนะที่รออยู่ข้างหน้า !! ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะหนักเบาแค่ไหน
แล้วกระทาชายนายคนนี้ จะทำประการใด ตามไปดูกันครับ ดูซิว่าการตัดสินใจของเขา ถูกหรือผิด ???
สุรชิตหนุ่มวัยทำงานได้ยินคำบอกเล่าแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยใส่ใจ
จนกระทั่งวันนี้ ที่เขาเองก็อยากจะฆ่าใครบางคน แม้จะไม่มีสาเหตุมาจากการมองหน้ากันก็ตาม
วันหยุดสุดสัปดาห์ ชายหนุ่มถือโอกาสลาพักร้อนยาว พารถญี่ปุ่นคู่ใจที่รับใช้เขามาหลายปี เดินทางออกไปต่างจังหวัด ตั้งใจว่าจะไปหาเพื่อนที่อยู่ทางภาคเหนือ ให้พาไปแอ่วสาวเหนือให้สนุก เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากทำงานให้กับบริษัทแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่พอสิ้นปีปรากฏว่าตำแหน่งที่ตั้งเป้าหมาย โดนคนอื่นคว้าเอาไปกินแบบตัดหน้าในระยะประชิด เขาแน่ใจว่ามันผลงานไม่ได้ดีอะไรมากมายไปกว่าเขา แต่เรื่องความประสบสอพลอระดับโลก การทำงานในบริษัทก็เหมือนสงครามการแข่งขันอย่างหนึ่ง ที่จะไว้ใจคู่แข่งไม่ได้เลย ถ้าคิดจะมุ่งสู่เส้นทางแห่งความก้าวหน้าของตำแหน่งหน้าที่การงาน
ผลจากการเบื่อหน่ายอ่อนล้าทางใจ ทำให้ชายหนุ่มลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อทำใจและตั้งหลักว่าจะกลับมาลงสนามแข่งใหม่ หรือจะถอนตัวออกจากการแข่งขัน
คนอย่างเขามีฝีมือมีความรู้ในการทำงาน เรื่องหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเสียความรู้สึกมากกว่า ทำให้เสียหน้า!
ถนนมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพ รถราไม่ค่อยติดหนึบเหมือนใจกลางเมืองหลวง ทำให้ใช้ความเร็วได้แบบตามใจสั่ง เสียงเพลงจากเครื่องเสียงชั้นดี ทำให้จิตใจผ่อนคลายลงได้บ้าง คนเราหาเวลาส่วนตัวให้กับตัวเองก็ดี ไม่ใช่ตื่นขึ้นมา ก็ตาลีตาเหลือกรีบไปทำงาน หามรุ่งหามค่ำ ความสุขอยู่ตรงไหน??? เขาเพิ่งจะเริ่มรู้สัจธรรมในข้อนี้!
ก่อนขับรถออกจากบ้าน เขาวาดแผนที่การเดินทางอย่างคร่าวๆ ในหัวสมอง ออกจากกรุงเทพ – สุพรรณบุรี – ชัยนาท - นครสวรรค์ – กำแพงเพชร – ตาก – ลำปาง – ลำพูน – ไปจนถึงเชียงใหม่เป็นจุดหมายสุดท้าย โดยตั้งใจว่าจะขับรถไปเรื่อย ๆ เหนื่อยไหนก็พักนั่น เจอสถานที่ท่องเที่ยว อาจจะแวะท่องเที่ยวไปด้วยตามประสาหนุ่มโสด เผลอๆ อาจได้แฟนกลางทาง!
แต่ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งที่แทบไม่ต่างกันคือ เรื่องการขับรถแบบไม่เคารพกฏจราจร หลายครั้งที่ชายหนุ่มมองเห็นรถกระบะบรรทุกสินค้า วิ่งเลนขวาสุดแบบหวานเย็น ไม่สนใจมนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น ราวกับว่าถนนสายนี้สัมปทานมาเป็นของตัวเอง หลายครั้งที่มอเตอร์ไซด์แผดเสียงสนั่น แซงปาดหน้าจากซ้ายมือขนาดปิดกระจกรถยังทำเอาสะดุ้งเพราะเสียงของมัน
หรือบางครั้งเส้นทางเป็นคอขวดบริเวณขึ้นสะพาน เห็นรถจำนวนมากวิ่งแซงทางเลนซ้ายมือ แล้วโฉบเข้าทางขวามือแบบลักไก่ ไปจ่อคิวตัดหน้ารถคันที่วิ่งมาในเส้นทางถูกต้อง ทำให้ไปชะลอออกันอยู่ตรงนั้นเป็นกระจุก เดือดร้อนถึงรถราที่ไม่วิ่งขึ้นสะพาน แต่วิ่งทางตรงเลนซ้ายมือพลอยเดือดร้อนไปด้วย จะไปก็ไปไม่ได้ !
และมีหลายครั้งที่เขาต้องผ่านทางแยกที่มองเห็นป้ายเขียนบอกว่า “เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” แต่มีรถลักไก่ วิ่งแซงซ้าย ไปจอดขวางเลนซ้ายมือเพื่อรอสัญญาณไปทางตรง กลายเป็น “เลี้ยวซ้ายข้าจะขวางตลอด” ทำให้รถเลนซ้ายสุดไม่สามารถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้ ต้องยอมรอจนไฟเขียว ทั้งที่ไม่ได้ไปทางตรงสักนิด
อารมณ์ของสุรชิตเริ่มเดือดปุดๆ ขึ้นทุกที ทำงานก็ถูกเอาเปรียบ มาเที่ยวก็ถูกการขัดขวางเอาเปรียบแบบผิดกติกา ไอ้บ้าเอ้ย...!! เขาเริ่มสบถในใจ ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนพูดหยาบคายอะไร แหม่งง...จะไปตรงก็จอดรอตามคิวสิวะ...!! เจือกมาจอดเลนซ้ายสุดทำไม ??...ตรูมีปืนกลติดรถจะยิงแหม่งงให้เละทั้งคัน !!! กดปุ่มยิงจรวดนำวิถีถล่มมัน!!! ไอ้คนมรรยาททราม!!! เห็นแก่ตัว ไปลงนรกเสียเถอะแก....เห็นแกดิ้นตายอยู่ข้างทางตรูจะไม่ลงไปช่วย!!
พอรถเคลื่อนตัวได้ ใจคอยังร้อนอยู่ เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมเรื่องการขับรถขับราถึงทำให้คนเราอารมณ์ร้อนฆ่ากันตายได้ แต่เขาไม่ใช่ฝ่ายผิด! ไอ้คนที่ผิดมันจะสามัญสำนึกที่ดีต่อสังคมไหมหนอ? มันจะสำนึกกันไหม ว่ามันเป็นพวกเห็นแก่ตัว!
สุรชิตสูดลมหายใจลึกยาว พยายามตั้งสติ อารมณ์เสียไปก็เท่านั้น ด่าไปพวกกะโหลกหนาก็คงไม่ได้ยิน เราต่างหากได้ยินเสียงก่นด่าของตัวเอง ไม่ดี!! แม้จะพยายามข่มใจ ก็ยังรู้สึกหัวใจเต้นแรงด้วยความฉุนเฉียว!
หลังจากอารมณ์เย็นลงบ้าง เป็นจังหวะจะเข้าตัวเมืองชัยนาท รถราหนาแน่นขึ้น ชายหนุ่มขับรถอย่างระมัดระวัง รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าไว้ในระยะปลอดภัย ถ้าเกิดรถคันหน้าเบรกกะทันหันจะได้หยุดรถทัน
ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!ปื้น!!.....!!!
เสียงแตรรถทำให้เขาสะดุ้งด้วยความตกใ มีอะไรเกิดขึ้น?? เปล่า ไม่มีอะไร...รถคันวิ่งตามหลังคงบีบแตรเร่งให้เขาขับรถเร็วกว่านี้ ความหงุดหงิดระเบิดขึ้นทันที มันติดรถข้างหน้าโว้ย!! จะรีบไปตายที่ไหน?
มองกระจกหลัง เห็นรถที่วิ่งตามมาเป็นรถบีเอ็มดับบลิวสีขาว ขับจี้ท้ายรถมากระชั้นชิดอย่างน่าเกลียด ทั้งๆ ที่รู้ว่ารถกำลังพากันเคลื่อนตัวช้า มันออกอาการหลุกหลิกเหมือนอยากแซงให้ได้เสียเต็มประดา! มันจะแซงไปหาสวรรค์วิมานอะไรของมัน แซงเขาไปได้ก็ต้องมีรถคันหน้าขวางอยู่ดี แถมมาบีบแตรไล่อีก!!
เห็นบีเอ็มดับบลิวคันนั้นหลังจากส่ายหัวซ้ายทีขวาที มันก็เร่งเครื่องทำท่าจะแซงซ้ายแล้วปาดหน้า ซึ่งมีระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่ง หนอย...แค่นี้ก็ยังอยากจะแซง ! ไวเท่าความคิด เท้าเหยียบคันเร่งทันที! ทำให้รถของเขาจี้รถคันหน้าไปติดๆ แบบไม่เปิดโอกาสให้ใครอาศัยระยะห่างมาปาดหน้าได้ ซึ่งก็ได้ผล! บีเอ็มดับบลิวคันนั้นต้องยอมถอยลงไปตามเดิม ปาดเข้าไม่ได้!จะแซงซ้ายต่อไปก็ไม่ได้ เพราะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่อุ้ยอ้ายวิ่งขวางอยู่
“สะใจจริงโว้ย!! ฮ่าฮ่าฮ่า!! ไอ...กร๊วกกกกเยสส !! วะ ฮู้ว์ว์ว์!!! โว้ยยยย !!! ยี้...ฮ่าาา !!!!”
สุรชิตหัวเราะลั่นรถชูกำปั้นข้างหนึ่งอย่างสะใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ตามที ถูกเอาเปรียบมาหลายครั้ง ครั้งนี้จะต้องแสดงความเห็นแก่ตัวให้คนอื่นรู้บ้าง ว่าถ้าจะทำก็ทำได้!
สภาพรถหนาแน่น ตามหลักแล้วรถควรวิ่งตามกันไม่ควรเปลี่ยนเลนโดยไม่จำเป็น เพราะไม่มีช่องว่างให้มาแทรก แต่รถบีเอ็มดับบลิวคันนั้นยังไม่ละความพยายาม มันจะแซงเลนขวามือก็ไม่ได้เพราะรถยังวิ่งตามกันมาแบบไม่เปิดระยะว่าง...
ต่อให้มันจะรีบไปตาย ก็ไปตายไม่ได้ เพราะโอกาสไม่มี ! หลายครั้งที่รถคันนั้นพยายามจะทำแบบเดิมคือปาดแซงขึ้นมาเพื่อจะเข้าช่องว่างด้านหน้า แต่สุรชิตแก้ลำโดยการขับจี้ท้ายรถคันหน้าแบบติด ๆ ไม่ยอมปล่อยโอกาสเด็ดขาด! แม้ว่าจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุก็ตาม แต่ในเมื่อเขาไม่ได้ผิด ก็ต้องรักษาความถูกต่อไป!
หลายครั้งที่บีเอ็มดับบลิวเปิดไฟสูงอย่างจงใจทั้งที่เป็นเวลากลางวัน
มันตั้งใจกวน!! ไอ้บร้า !! ขับรถแบบนี้ อย่างแกนะ... ถ้าเห็นกลิ้งโค่โร่อยู่ข้างทาง จะลงไปถ่มน้ำลายใส่หน้าเสียให้เข็ด ปล่อยให้ตายข้างทางไปเลย!!!
รถยังเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ไม่แน่ว่าข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุหรืออย่างไร รถจึงติดขนาดนี้ แต่ทุกคนก็ต้องใจเย็นขับตามกฏจราจร ในเวลารถติด พวกที่ยิ้มได้คือบรรดาคนขับมอเตอร์ไซด์ที่ลัดเลาะไปตามช่องว่าง ชนิดแม้แต่คนขับรถคันละหลายสิบล้านก็ต้องมองค้อน... เพราะไม่ว่าจะขับรถหรูหราราคาแพงขนาดไหน ในสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ช่วยอะไรได้! ติดเหมือนกัน!
เป็นเวลาสิบกว่านาทีที่สุรชิตและรถบีเอ็มดับบลิวเล่นเกมแซงไม่แซง เขาไม่ยอมเปิดช่องว่าง มันก็พยายามหาจังหวะจะแซงมาปาดหน้าให้ได้ จนหลายครั้งเกือบจะเฉี่ยวชนกัน เหมือนความสุขทั้งโลกอยู่กับชัยชนะครั้งนี้
หลายครั้งที่มันบีบแตรกวนประสาท เขาก็กดแตรโต้ตอบบ้าง ให้มันรู้กันไป!
สุรชิตนึกเสียดาย ที่ไม่ได้พกปืนติดรถมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะเจอการกวนประสาทแบบนี้ แต่ถ้าอีกฝ่ายมีอาวุธจะทำยังไง ?? เขาพยายามนึกว่าในรถมีอะไรเอามาต่อสู้ป้องกันตัวได้บ้าง ไม่มี! แต่มานึกอีกที โอกาสที่ลงลงจากรถมาทำร้ายกันคงยาก เพราะสภาพจราจรที่รถยังคงค่อยไหลไปเรื่อยๆ ไปบ้างหยุดบ้าง แต่ก็ไม่นานพอจะเปิดโอกาสให้ลงมาทะเลาะกันกลางถนน และบางทีมันอาจไม่กล้าลงมาเหมือนกัน เขาคิดเข้าข้างตัวเองไปก่อน แต่ถ้าลงมาก็ค่อยว่ากัน!
"ไอ้บ้าเอ๊ยย!! แน่จริงลงมาสิวะ" เขาร้องเมื่อแน่ใจว่าเจ้าของรถคันนั้นไม่ลงมาหาเรื่องแน่ ใจหนึ่งก็โล่งใจไป
และเหตุการณ์ที่ไม่มีใครยอมใครคงจะดำเนินต่อไปถ้าไม่เพราะมาถึงสี่แยกไฟแดง ซึ่งเป็นเหมือนกรรมการห้าม รถหยุดรอไฟเขียว มีเวลาให้ลงมามีเรื่องกันแล้ว... สุรชิตหัวใจเต้นแรงคอยมองกระจกหลัง ถ้ามันเปิดประตูเดินตรงมา เขาจะใช้จังหวะกระแทกประตูใส่มันก่อน แล้วรีบลงไปเตะกระโดงคางให้สักทีก่อนที่มันจะเล่นงานเขาได้
แต่คนขับบีเอ็มดับบลิวไม่ได้ลงมาหาเรื่อง พวกนี้เก่งแต่ในรถ! ชายหนุ่มนึกอย่างโล่งใจ เขาเองก็ไม่ใช่คนชอบวิวาท
เผลอแวบเดียว! ก่อนจะไฟเขียว รถบีเอ็มดับบลิวได้จังหวะที่เขามัวแต่ระวังซ้าย มันปาดหน้ารถเลนขวามือได้ แต่แทนที่จะขับไปตามเลนขวาอย่างควรจะเป็น มันกลับปาดซ้ายเข้ามาเอาหน้ารถกันท่ารถของเขาไว้!
ชนแมร่งงมันเลยดีไหม ??? เขาคำราม นึกเจ็บใจตัวเองที่พลาดท่า! ชนเหรอ!! ก็แค่เหยียบคันเร่งเท่านั้น….ตูม!!!!ให้มันแหลกไปข้าง!
วูบหนึ่ง สติอันเร่าร้อนของชายหนุ่มดึงวูบกลับมา ชนไปได้อะไร เสียหายเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เออ...คุณครับ!!...คุณอยากไปก็กรุณาเชิญเลยครับท่าน!!
รถบีเอ็มดับบลิวปาดหน้าเขาจนได้ รู้เลยว่ามันตั้งใจทำ! คนขับเปิดกระจกข้าง ยื่นมือออกมาชูนิ้วกลาง!
ครับ ...!!! คุณครับ ... ผมยอมแพ้แล้วครับ !!...
สุรชิตถอนใจอย่างยอมแพ้ แต่รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เออ!... การยอมแพ้บางทีก็ไม่เลวเหมือนกัน
พอไฟเขียว คราวนี้สุรชิตเป็นฝ่ายวิ่งตามบีเอ็มดับบลิวบ้าง แต่เขาไม่ได้คิดจะแก้ลำโดยการปาดหน้าคืน สติผิดชอบชั่วดีกลับคืนมา
ขณะผ่านสี่แยก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!!!
ปรื้นนนนนน!!!!!
โครมมมม !!!!
รถกระบะคันหนึ่งฝ่าไฟแดงมาจากด้านข้าง จะเพราะคนขับหลับใน เมายา หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ พุ่งเข้าชนบีเอ็มดับบลิวด้านข้างเต็มแรง แบบไม่มีการเหยียบเบรกต่อหน้าต่อตาของเขา!!
นาทีชีวิตโดยแท้จริง ! ถ้าเขาไม่ยอมให้บีเอ็มดับบลิวปาดหน้าแซง รถคันที่โดนชนจะต้องเป็นรถของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย มันเพียงสลับตำแหน่งกันเท่านั้น!!!!
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!
เสียงตะโกนจากผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น
ขอบคุณตัวเองกับการตัดสินใจยอมแพ้ในวินาทีสุดท้าย เลยกลายเป็นว่ารถบีเอ็มดับบลิวมาช่วยรับเคราะห์แทน !
พอได้สติ สุรชิตรีบเปิดประตูรถ ตรงไปยังรถคันที่ถูกชนยับเยินจนกระเด็นไปไกล