ทำไม “กลิ่นกาสะลอง” จึงเป็นละครดี ที่คนดูปิดหนี?
“ละครสูตรสำเร็จ ที่ไม่สำเร็จ”
พัฒนาการของตัวละคร เป็นหัวใจสำคัญที่คนดูมองหา
อย่าลำไยใส่คนดู
written by Thanabatra Beboyl Chaidarnn
page owner: ตุ๊ดส์review / Pussy can talk
ตอนแรกผมคิดว่ากลิ่นกาสะลองจะเรทติ้งถล่มทลาย หรือกระแสดีแบบเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ผมสังเกตว่า ละครไทยสไตล์ดราม่า มีตบตี ฟาดๆ (อารมณ์แบบแรงเงาภาค 1) แล้วก็พวกพีเรียดย้อนยุค น่าจะกระแสแรงมากๆ เพราะเป็นแนวที่คนไทยน่าจะชอบกัน แต่กับเรื่องกลิ่นกาสะลอง กลับผิดคาด
ผมก็เลยมีแวะเวียนไปถามเพื่อนๆ ที่ชอบดูละครกัน ปรากฏว่า หลายคนไปดูแค่ Highlight แล้วก็ skip ผ่านๆใน Line TV บางคนก็ดูแค่ตัวอย่างตอนต่อไป พอประติดประต่อได้ มีคนดูที่ตั้งใจดูจริงจังน้อยกว่าที่ผมคิด ทั้งๆที่รู้สึกว่าญาญ่าเล่นดีมากอ่ะ เล่นเป็น 3 บท (4 บทด้วย ถ้านับตอนเป็นผี) ซึ่งเรียกได้ว่าเรื่องนี้คือ Masterpiece ของญาญ่านะ สำหรับผม แต่ทำไมไม่ปัง เลยเป็นที่มาให้ได้เขียนบทความมาวิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับละครไทยเรื่องนี้ครับ
📌 ต้นตอของการปิดหนีคือ “การไม่มีพัฒนาการของตัวละคร”
'รู้สึกรำคาญที่โดนแกล้งอยู่นั่น ไม่ฉลาด ไม่ตอบโต้ ไม่มีความสุขซะที'
คุณสังเกตได้เลย จะมีคำว่า ‘ลำไย’ ในหลายๆคอมเมนต์ที่คนดูเรื่องนี้มักบ่นกัน นั่นเป็นเพราะเปิดดูกี่ที กาสะลองก็ยังคงเป็นผู้พ่ายแพ้ที่โดนกลั่นแกล้ง และเจ็บปวดซ้ำๆอยู่วันยังค่ำ ทำให้คนดูเบื่อเหนื่อยและเอือมระอา ในขณะที่ตัวละครของละครเรื่องยอดนิยมส่วนใหญ่ จะมี “ความเผ็ด” จัดจ้านที่ตัวละครหลักสามารถเอาชนะ หรือเชือดเฉือนตัวละครตัวอื่นอยู่เสมอ แต่กับกาสะลองเราดูตอนแรกเป็นมาอย่างไร ตัวละครไม่เกิดการเรียนรู้ หรือพัฒนาตัวเองให้แข็งแรง และต่อสู้ผู้คนได้เลย (มาเก่งเอาตอนเป็นผี)
ลักษณะของ Flat Character หรือตัวละครที่ขาดพัฒนาการในละครไทย เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเอาชนะใจคนดูได้ เพราะความอ่อนแอที่อ่อนแอตลอดไป ไม่ตอบโจทย์จิตวิทยาของมนุษย์ที่ต้องการเห็นการเอาชนะ จนกลายเป็นตัวละครตัวนี้ถูกตำหนิว่า “ไม่ฉลาด” เพราะความไร้พัฒนาการ การที่โดนกระทำเท่าไหร่ก็ไม่ลุกขึ้นสู้ อยู่ทุก EP ทำให้คนดูทนดูไม่ไหว เพราะขัดแย้งกับความรู้สึกที่ควรจะเป็นเมื่อถูกกระทำ
"เป็นคนดีจนโง่" เลยกลายเป็นอัตลักษณ์นางเอกละครไทย ที่คนดูด่าหนัก เพราะขัดใจเว่อร์
📌 นักแสดงยิ่งเล่นดี ยิ่งหดหู่ และโหดร้าย กลับสร้างความเครียดและอึดอัดให้คนดู
จริงๆคนดูเรื่องนี้ ดูแล้วจะเกิดความเครียดสูงนะครับ เพราะตัวละครไม่เป็นไปอย่างใจ การถูกทำร้ายซ้ำๆ หรือถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา ไม่ตอบโจทย์ความสุขของคนดู เพราะดูทีไรก็เต็มไปด้วยความเครียด ความหดหู่ เห็นแต่ความโหดร้ายของสมาชิกในครอบครัวที่รังแกกัน ทั้งตัวซ้องปีบ และนายแคว้นที่กระทำต่อกาสะลอง นั่นทำให้คนดูมีความทุกข์ในการเปิดรับ และ “ขาดกำลังใจ” ในการส่งใจไปช่วยตัวละครที่ตนอยากเชียร์ เพราะเชียร์อย่างไรก็ไม่ขึ้น เชียร์ไปก็ไม่เกิดอะไรที่ดีขึ้น เพราะปัญหาแรกสุดที่ตัวละครขาดพัฒนาการอย่างแรง
พอนักแสดงยิ่งแสดงดี ความโหดร้ายยิ่งชัด ความเศร้าโศกยิ่งแผ่ขยาย กลายเป็นเล่นละครดี ยิ่งสร้างความทุกข์ มากกว่าความสุข คนดูจึงทนดูไม่ไหว
📌 จิตวิทยาของคนดู คือ การเห็นความสมหวัง หรือการได้รับโอกาส หลังผ่านมรสุม
…โอกาส ความหวัง และความสุขสมหวัง เป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์พึงปรารถนา…
เนื่องจากความขัดใจคนดูของละครเรื่องนี้ ที่ไม่ตอบโจทย์จิตวิทยาของผู้ชม ที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่สมหวัง ไม่มีวันที่ฟ้าสว่างไสวซะที มีแต่มรสุม ทำให้ละครที่ควรสนุกมากกลายเป็นน่ารำคาญ และดูลำไยขึ้นมาทันที เพราะไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นตัวละครที่เป็นคนดี จะเปี่ยมไปด้วยความสุขสมหวังเสียที
ละครที่ไม่เคารพจิตวิทยาของคนดู ทำให้คนดูรู้สึกขัดใจซ้ำไปซ้ำมา มีโอกาสสูงเหลือเกินที่เกิดการปิดหนี แม้ว่าเนื้อเรื่องจะสนุก กองทัพนักแสดงที่เล่นอยู่จะเชือดเฉือนบทได้ดีแค่ไหน แต่มันต้องมีวันให้คนดูฟินจิกหมอนให้มากพอ ให้เขารู้สึกถึงความ ‘สุขสมหวัง’ ที่ตัวละครควรได้รับเสียบ้าง
📌 "การปล่อยให้คนชั่วชนะถี่ๆ แล้วความดีพ่ายแพ้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ทำร้ายคนดู" (เหมือนที่ประเทศเป็นอยู่ในสังคมไทยตอนนี้)
ขนาด "ปลาบู่ทอง" มันยังมีจุดให้ตัวละครได้มีชัยชนะเล็กๆน้อยๆไปถึงวันสุขสมหวัง แต่กลิ่นสะลองนั้น ไม่มี หดหู่ถี่ๆ ตัวละครจะเป็นบ้าไม่พอ คนดูจะบ้าไปด้วยเด้อ #อย่าอินเกิน
ละครที่นำเสนอแต่โศกนาฏกรรม (Tragedy) แบบต่อเนื่องทุก EP จึงเป็นข้อเสีย ที่ทำให้คนดูไม่ได้เห็นชัยชนะของตัวละครหลักอย่างกาสะลอง และไม่ได้สะใจกับการถูกกระทำที่สาสมมากพอของตัวละครที่เป็นคนไม่ดี นี่คือบาดแผลของกลิ่นกาสะลอง
กำลังจะอวสานแล้ว และเชื่อว่าคนดูที่ปิดหนีไปคงรอบทสรุปทีเดียวในตอนอวสานไปเลย เพื่อจะได้ไม่ทนทรมานในทุก EP เพราะที่ผ่านมาทนดูกันไม่ไหว คงได้โอกาสแล้วที่จะพบคำตอบที่เป็นจุดจบของตัวละครแต่ละตัวที่คนดูก็รอว่าจะได้รับการตอบแทนที่สาสมกับการกระทำของตนที่ผ่านมา เป็นผลแห่งกรรมที่ควรได้รับหรือไม่
ที่มา : #ตุ๊ดส์review
กลิ่นกาสะลอง “ละครสูตรสำเร็จ ที่ไม่สำเร็จ” ทำไมจึงเป็นละครดี ที่คนดูปิดหนี?
“ละครสูตรสำเร็จ ที่ไม่สำเร็จ”
พัฒนาการของตัวละคร เป็นหัวใจสำคัญที่คนดูมองหา
อย่าลำไยใส่คนดู
written by Thanabatra Beboyl Chaidarnn
page owner: ตุ๊ดส์review / Pussy can talk
ตอนแรกผมคิดว่ากลิ่นกาสะลองจะเรทติ้งถล่มทลาย หรือกระแสดีแบบเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ผมสังเกตว่า ละครไทยสไตล์ดราม่า มีตบตี ฟาดๆ (อารมณ์แบบแรงเงาภาค 1) แล้วก็พวกพีเรียดย้อนยุค น่าจะกระแสแรงมากๆ เพราะเป็นแนวที่คนไทยน่าจะชอบกัน แต่กับเรื่องกลิ่นกาสะลอง กลับผิดคาด
ผมก็เลยมีแวะเวียนไปถามเพื่อนๆ ที่ชอบดูละครกัน ปรากฏว่า หลายคนไปดูแค่ Highlight แล้วก็ skip ผ่านๆใน Line TV บางคนก็ดูแค่ตัวอย่างตอนต่อไป พอประติดประต่อได้ มีคนดูที่ตั้งใจดูจริงจังน้อยกว่าที่ผมคิด ทั้งๆที่รู้สึกว่าญาญ่าเล่นดีมากอ่ะ เล่นเป็น 3 บท (4 บทด้วย ถ้านับตอนเป็นผี) ซึ่งเรียกได้ว่าเรื่องนี้คือ Masterpiece ของญาญ่านะ สำหรับผม แต่ทำไมไม่ปัง เลยเป็นที่มาให้ได้เขียนบทความมาวิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับละครไทยเรื่องนี้ครับ
📌 ต้นตอของการปิดหนีคือ “การไม่มีพัฒนาการของตัวละคร”
'รู้สึกรำคาญที่โดนแกล้งอยู่นั่น ไม่ฉลาด ไม่ตอบโต้ ไม่มีความสุขซะที'
คุณสังเกตได้เลย จะมีคำว่า ‘ลำไย’ ในหลายๆคอมเมนต์ที่คนดูเรื่องนี้มักบ่นกัน นั่นเป็นเพราะเปิดดูกี่ที กาสะลองก็ยังคงเป็นผู้พ่ายแพ้ที่โดนกลั่นแกล้ง และเจ็บปวดซ้ำๆอยู่วันยังค่ำ ทำให้คนดูเบื่อเหนื่อยและเอือมระอา ในขณะที่ตัวละครของละครเรื่องยอดนิยมส่วนใหญ่ จะมี “ความเผ็ด” จัดจ้านที่ตัวละครหลักสามารถเอาชนะ หรือเชือดเฉือนตัวละครตัวอื่นอยู่เสมอ แต่กับกาสะลองเราดูตอนแรกเป็นมาอย่างไร ตัวละครไม่เกิดการเรียนรู้ หรือพัฒนาตัวเองให้แข็งแรง และต่อสู้ผู้คนได้เลย (มาเก่งเอาตอนเป็นผี)
ลักษณะของ Flat Character หรือตัวละครที่ขาดพัฒนาการในละครไทย เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเอาชนะใจคนดูได้ เพราะความอ่อนแอที่อ่อนแอตลอดไป ไม่ตอบโจทย์จิตวิทยาของมนุษย์ที่ต้องการเห็นการเอาชนะ จนกลายเป็นตัวละครตัวนี้ถูกตำหนิว่า “ไม่ฉลาด” เพราะความไร้พัฒนาการ การที่โดนกระทำเท่าไหร่ก็ไม่ลุกขึ้นสู้ อยู่ทุก EP ทำให้คนดูทนดูไม่ไหว เพราะขัดแย้งกับความรู้สึกที่ควรจะเป็นเมื่อถูกกระทำ
"เป็นคนดีจนโง่" เลยกลายเป็นอัตลักษณ์นางเอกละครไทย ที่คนดูด่าหนัก เพราะขัดใจเว่อร์
📌 นักแสดงยิ่งเล่นดี ยิ่งหดหู่ และโหดร้าย กลับสร้างความเครียดและอึดอัดให้คนดู
จริงๆคนดูเรื่องนี้ ดูแล้วจะเกิดความเครียดสูงนะครับ เพราะตัวละครไม่เป็นไปอย่างใจ การถูกทำร้ายซ้ำๆ หรือถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา ไม่ตอบโจทย์ความสุขของคนดู เพราะดูทีไรก็เต็มไปด้วยความเครียด ความหดหู่ เห็นแต่ความโหดร้ายของสมาชิกในครอบครัวที่รังแกกัน ทั้งตัวซ้องปีบ และนายแคว้นที่กระทำต่อกาสะลอง นั่นทำให้คนดูมีความทุกข์ในการเปิดรับ และ “ขาดกำลังใจ” ในการส่งใจไปช่วยตัวละครที่ตนอยากเชียร์ เพราะเชียร์อย่างไรก็ไม่ขึ้น เชียร์ไปก็ไม่เกิดอะไรที่ดีขึ้น เพราะปัญหาแรกสุดที่ตัวละครขาดพัฒนาการอย่างแรง
พอนักแสดงยิ่งแสดงดี ความโหดร้ายยิ่งชัด ความเศร้าโศกยิ่งแผ่ขยาย กลายเป็นเล่นละครดี ยิ่งสร้างความทุกข์ มากกว่าความสุข คนดูจึงทนดูไม่ไหว
📌 จิตวิทยาของคนดู คือ การเห็นความสมหวัง หรือการได้รับโอกาส หลังผ่านมรสุม
…โอกาส ความหวัง และความสุขสมหวัง เป็นสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์พึงปรารถนา…
เนื่องจากความขัดใจคนดูของละครเรื่องนี้ ที่ไม่ตอบโจทย์จิตวิทยาของผู้ชม ที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่สมหวัง ไม่มีวันที่ฟ้าสว่างไสวซะที มีแต่มรสุม ทำให้ละครที่ควรสนุกมากกลายเป็นน่ารำคาญ และดูลำไยขึ้นมาทันที เพราะไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นตัวละครที่เป็นคนดี จะเปี่ยมไปด้วยความสุขสมหวังเสียที
ละครที่ไม่เคารพจิตวิทยาของคนดู ทำให้คนดูรู้สึกขัดใจซ้ำไปซ้ำมา มีโอกาสสูงเหลือเกินที่เกิดการปิดหนี แม้ว่าเนื้อเรื่องจะสนุก กองทัพนักแสดงที่เล่นอยู่จะเชือดเฉือนบทได้ดีแค่ไหน แต่มันต้องมีวันให้คนดูฟินจิกหมอนให้มากพอ ให้เขารู้สึกถึงความ ‘สุขสมหวัง’ ที่ตัวละครควรได้รับเสียบ้าง
📌 "การปล่อยให้คนชั่วชนะถี่ๆ แล้วความดีพ่ายแพ้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ทำร้ายคนดู" (เหมือนที่ประเทศเป็นอยู่ในสังคมไทยตอนนี้)
ขนาด "ปลาบู่ทอง" มันยังมีจุดให้ตัวละครได้มีชัยชนะเล็กๆน้อยๆไปถึงวันสุขสมหวัง แต่กลิ่นสะลองนั้น ไม่มี หดหู่ถี่ๆ ตัวละครจะเป็นบ้าไม่พอ คนดูจะบ้าไปด้วยเด้อ #อย่าอินเกิน
ละครที่นำเสนอแต่โศกนาฏกรรม (Tragedy) แบบต่อเนื่องทุก EP จึงเป็นข้อเสีย ที่ทำให้คนดูไม่ได้เห็นชัยชนะของตัวละครหลักอย่างกาสะลอง และไม่ได้สะใจกับการถูกกระทำที่สาสมมากพอของตัวละครที่เป็นคนไม่ดี นี่คือบาดแผลของกลิ่นกาสะลอง
กำลังจะอวสานแล้ว และเชื่อว่าคนดูที่ปิดหนีไปคงรอบทสรุปทีเดียวในตอนอวสานไปเลย เพื่อจะได้ไม่ทนทรมานในทุก EP เพราะที่ผ่านมาทนดูกันไม่ไหว คงได้โอกาสแล้วที่จะพบคำตอบที่เป็นจุดจบของตัวละครแต่ละตัวที่คนดูก็รอว่าจะได้รับการตอบแทนที่สาสมกับการกระทำของตนที่ผ่านมา เป็นผลแห่งกรรมที่ควรได้รับหรือไม่
ที่มา : #ตุ๊ดส์review