Nokia เป็นค่ายที่เน้นเรื่องกล้องมาก่อน และใช้เลนส์ ZEISS มาเรื่อยๆ จนมาวันนี้ได้เปิดตัวมือถือกล้อง 5 ตัว เลนส์ ZEISS ในชื่อ Nokia 9 Pureview เป็นเจ้าแรกของโลกที่กล้องเยอะขนาดนี้ครับแน่นอนว่าการนำกล้องหลายๆตัวมาใช้ถือว่าน่าสนใจในแง่ของคุณภาพและประสิทธิภาพที่ได้ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี ส่วนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนามานานมากๆและการวางขายอะไรแอบช้าไปมากพอสมควรครับ แต่ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ และเป็น 1 ในหลายๆรุ่นที่อยากลองมากๆ เราจึงจะเน้นเรื่องกล้องเป็นหลักๆเลยในรีวิวครั้งนี้ รวมถึงการลองไฟล์ RAW DNG และ ดึงไฟล์ภาพดูว่าจะทำได้ดีขนาดไหน และ สอบปรับเล็กๆน้อยๆครับ รวมถึง มีไฟล์ฉบับเต็มๆไปให้โหลดไปลองดูคุณภาพและไปแต่งกัน
Nokia 9 Pureview นั้นถือว่าเป็นมือถือที่เปิดตัวมานานมากๆแล้วกว่าจะเข้าไทยนั้นต้องบอกว่ารอจนหลายๆคนไม่รอกันแล้ว แต่ด้วยความที่มันมาพร้อมกับกล้องหลัง 5 ตัว เลนส์ ZEISS สำหรับสายถ่ายภาพบางคนก็อาจจะรอสอยมาถ่ายรูปกันอยู่เหมือนกัน ด้วยจุดเด่นๆของมันนั้นคงหนีไม่พ้นกล้องหลังแน่ๆแหละที่มาพร้อมกับ 5 เลนส์ ระยะเดียวกันทั้งหมด 12MP F/1.8 เท่ากัน เป็นเซนเซอร์ สี 3 ตัว และ ขาวดำ 2 ตัว และ เซนเซอร์วัดระยะ TOF อีกตัวครับ ทำงานในลักษณะ Array Camera ทั้ง 5 กล้องจะถ่ายภาพพร้อมกัน ครับจึงมีไฟล์ที่ใหญ่พอสมควร ส่วนหน้าจอมาพร้อมกับ 5.99 นิ้ว P-OLED QHD+ (2880 x 1440) Gorilla Glass 5 ใช้ CPU Snapdragon 845 และ มาพร้อมแบต 3320 mAh และรองรับชาร์จไร้สายครับ กล้องหน้ามาพร้อมกับ 20MP และ ใช้ Android One
Nokia 9 Pureview นั้นเปิดราคาในไทย มาที่ ราคา 18,900 บาท ส่วนรุ่นนี้ มีแค่สีเดียวนะครับ
สเปค มาพร้อมกับ Snapdragon 845 / RAM 6 GB / STORAGE 128 GB
UNBOX
ตัวกล่องมาในการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นอื่นๆแต่มีขนาดอะไรแตกต่างกันเล็กน้อยครับ อุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาครบแต่ขาดพวกเคสฟิลม์ ซึ่งในการสั่งซื้อจริงๆเหมือนจะมีแถมมาให้จากทางค่ายนะครับเป็นของแถมแยกเสริมเข้ามาให้เอง
- ตัวเครื่อง Nokia 9 Pureview
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- สายแปลง Type-C ไปยัง 3.5มม.
- ที่ชาร์จ QC 3.0
- สาย Type-C
- หูฟัง InEar แบบ 3.5 มม.
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นเป็นจุดที่คนชอบก็ชอบเลยคนไม่ชอบก็เกลียดไปเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะการวางกล้องของมันที่แปลกและแตกต่างจนค่อนข้างประหลาดไปเลยดูผ่านๆนั้นรูจะค่อนข้างเยอะมากๆและการวางตำแหน่งวงกลมอาจจะไม่ได้ดูเป็นส่วนเดียวกันจริงๆถ้ามีสีดำครอบทับอีกรอบน่าจะสวยแบบตอน Nokia 1020 ก็น่าจะสวยเลยนะ ส่วนเรื่องงานประกอบและน้ำหนักของมันนั้นทำได้ดีสมชื่อแบรนด์ครับ น้ำหนักกำลังดีและจับถือได้ง่ายรวมถึงขนาดไม่ใหญ่เกินไป และแน่นอนว่างานประกอบเนียนเนี้ยบแน่นมากๆถือแล้วรู้สึกถึงความแน่นของเครื่องและงานประกอบที่ทำได้ดีเลย
หน้าจอของตัว Nokia 9 Pureview นั้นเป็นหน้าจอแบบ POLED มีขนาดที่ 5.99 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ (1440×2880 พิกเซล) ในอัตราส่วนจอที่ 18:9 ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ในด้านหน้าแบบเรียบ ซึ่งตัวขอบหน้าจอนั้นจะไม่ใช่สีดำแต่เป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่อง ด้านหลังจะออกฟ้าๆน้ำเงินครับและมีโลโก้มุมขวา
หน้าจอส่วนด้านบน นั้นจะเป็นส่วนของเซนเซอร์วัดแสงต่างๆ และตัวไฟแจ้งเตือนของตัวเครื่อง และ ลำโพงสนทนา และในมุมขวาบนนั้นจะเป็นกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และ โลโก้ Nokia ครับเป็นไม่กี่ยี่ห้อที่ยังมีโลโก้ด้านหน้ามา
ขอบล่างนั้นยังมีความหนาพอสมควรครับแน่นอนว่ามันเป็นดีไซน์ของปีที่แล้วไม่แปลกใจที่มันยังหนาอยู่และหลายๆคนอาจจะไม่ชอบกันเท่าไร เรื่องของปุ่มควรคุมนั้นจะเป็นแบบเดิมๆของ Android One ครับมาพร้อมปุ่มเดียวและปุ่ม Back แค่นั้นไม่สามารถใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้นะครับเป็นปกติของพวกระบบเพียวๆพวกนี้
ในส่วนของขอบล่างตัวเครื่องนั้นจะเห็นได้เลยว่าไม่มีรูหูฟังมาให้แล้ว และมีความโค้งเล็กน้อยทำให้จับถือได้ง่าย ด้านล่างนั้นจะเป็นลำโพงหลัก รู USB-C และ รูไมค์ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลยแหละ
ด้านบนนั้นจะเป็น ถาดซิมแบบ Dualsim ไม่สามารถเพิ่มเม็มได้นะครับในรุ่นนี้ และรูไมค์สำหรับอัดเสียงด้านบนครับ
ในด้านซ้ายมือนั้นต้องบอกว่าไม่มีปุ่มอะไรเลยครับในส่วนนี้จะเห็นได้ชัดว่าบอดี้นั้นจะปัดเงาสวยงามและมีการตัดขอบเงินสวยๆทำให้เหมือนเป็นโครมเมี่ยมตามขอบเครื่องในหลายๆส่วนสวยงามเหมือนกันครับเล่นกับแสงได้ดีเลย
ตัวปุ่มเองนั้นก็จะมีการเล่นกับขอบปุ่มทั้งหมดได้ดีและมีการตัดขอบเงินๆรอบๆปุ่มแบบเดียวกับตัวเครื่องทำให้เป็นดีไซน์แบบเดียวกันรวมถึง ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ปุ่มเปิดปิดเครื่องนั้น อยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด และวัสดุเดียวกันครับ
กล้องหลังของ Nokia 9 Pureview นั้นจะเป็นกล้องหลังที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ขาวดำ และ เซนเซอร์สี รวมกันทั้งหมด 5 ตัว ความละเอียด 12MP F1.8 ทั้งหมดใช้เลนส์ ZEISS ด้วยนั้นเองครับ และมีเซนเซอร์วัดระยะ TOF 3D และมีไฟแฟลช Twotone มาด้วยรวมถึง ไมค์อัดเสียงก็มาให้ในด้านนี้ครับรองรับการอัดเสียง OZO Audio ที่ดีกว่าเดิมในการบันทึกเสียงแบบ รอบทิศทาง แบบด้านหน้า และ แบบด้านหลัง
ในส่วนของด้านหลังนั้นจะเป็นวัสดุแบบกระจกทั้งหมดซึ่งใช้กระจก Gorilla Glass ด้านเป็นกระจกแบบโค้งมุมทั้ง 2 ข้าง ไม่ได้มีการเล่นเลเยอร์ของกระจกหรือเล่นกับแสงสีอะไรทั้งนั้นเป็นสีเดียวเรียบๆเงาๆปกติเลยนั้นเอง ตัวสีนั้นจะเปลี่ยนตามสภาพแสงเล็กน้อยจะออกน้ำเงิน ฟ้าบ้างครับถ้าเจอแสงภายนอกก็สวยดีเหมือนกัน ส่วนโลโก้วางแนวนอนและตัวกล้องนั้นจะฝังอยู่ใต้กระจกบอดี้ทั้งหมดเรียบๆไปไม่มีส่วนนูนเลยครับแต่เวลาวางอาจจะเป็นรอยได้ง่ายนิดนึง
SPEC
- Android ONE 9.0 Pie อัพเดท 2 ปี ความปลอดภัย 3 ปี
- Snapdragon 845
- RAM 6GB LPPDDR4X
- Storage 128 GB
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว QHD+ 2K pOLED Gorilla Glass 5
- ลำโพงตัวเดียวพร้อม Smartamp
- ไมค์อัดเสียงทั้งหมด 3 ตัว
- USB-C
- กล้องหลัง 5 ตัว ทุกตัวใช้เลนส์ระยะเดียวกันที่ 12MP F1.8 แยกเป็นเซนเซอร์ ขาวดำ 3 ตัว และ สี RGB 2 ตัว
- Video HDR 4K 30FPS
- กล้องหน้า 20MP f/1.8
- แบตเตอร์รี่ 3320 mAh รองรับ QC 3.0 และ ชาร์จไร้สาย Qi
- กันน้ำ กันฝุ่น IP67
- Bluetooth 5.0 / LTE CAT 16 4X4MIMO
- สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- Size 155 x 75 x 8 mm
- Weight 172 g
- Color Midnight Blue
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องตัวนี้มาพร้อมกับ Snapdragon แต่เป็นรุ่นปีที่แล้วแบบ 845 ครับแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้แรงโหดมากแต่ก็ยังใช้งานได้ดีเหมือนกันในตอนนี้ทำคะแนไปได้ 234787 และ ในส่วนของ GeekBench นั้นทำไปได้ที่ 2404 ในการประมวลผลแกนเดียว และ 8888 ในส่วนของหลายแกน และในด้านของตัวความจำเครื่องใช้งาน UFS 2.1 ครับและในด้านความปลอดภัยนั้นจะเป็นตัว Widevine L1 ปกติรองรับ HD สบายๆครับ
SYSTEM UI
หน้าตาตัวระบบนั้นยังคงใช้งาน Android One เช่นเดิมครับเรียบๆง่ายๆตามสไตล์เค้าแหละ แน่นอนว่าระบบนี้จะเด่นๆตรงที่ได้อัพเดทความปลอดภัยไวมากๆและนานถึง 3 ปีและรองรับอัพเดทระบบ 2 ปีครับ ตัวนี้มาพร้อมกับ Android 9 นั้นเองส่วนหน้าตาคงคุ้นเคยกันดีทั้งหน้าล็อค ไอคอนต่างๆเดิมๆครับพร้อมจุดแจ้งเตือน ทำได้ไวดีครับ
ในส่วนของการแจ้งเตือนต่างๆก็เป็นโทนสีขาวในส่วนของการตั้งค่าแบบด่วนและเมื่อลากลงมาสามารถปรับแสงหน้าจอได้และปรับแต่งได้ครับ การแบ่งหน้าจอนั้นก็รองรับเป็นเรื่องพื้นฐานของเครื่องรองรับได้ปกติ และตัวปุ่มควบคุมนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้นะครับจะเป็นแบบเดิมๆในภาพเลยอาจจะต้องปรับตัวกันนิดหน่อย
ในเรื่องของความจำนั้นตัวนี้ไม่สามารถเพิ่มได้ และมาให้แค่ 128GB และต้องบอกว่าเหลือใช้งานจริงๆประมาณ 110 ครับและถ้าสายถ่ายภาพนั้นจะกินความจุอย่างมากและได้มาไม่กี่วันกินไป 30GB แล้วโหดมากๆแอบน้อยไปหน่อยในจุดนี้ และในเรื่องของ RAM 6 GB ใช้งานไปได้ครึ่งๆ ครับส่วนเรื่องของแป้นพิมพ์คุ้นๆกันเดิมๆของ google keyboard เลยนั้นเอง
พวกฟีเจอร์นั้นต้องบอกว่ามาน้อยมากๆเนื่องจากมันเป็นเพียวเลยมีแค่ gesture เล็กน้อยในการใช้งาน วางสาย เงียบตอนยกเครื่อง กดปุ่มค้างเข้ากล้อง อะไรพวกนี้เป็นพื้นฐานของระบบ และหน้าจอ always on ก็มีให้ปรับ 4 แบบหลักๆขาวดำ และ โทนสีของหน้าจอก็สามารถปรับแต่งได้เล็กน้อยครับ ส่วนเสียงไม่มีตัวปรับแต่งได้เลยครับ
SCREEN
หน้าจอของทาง Nokia 9 Pureview นั้นเป็นหน้าจอแบบ P-OLED ซึ่งมีขนาด 5.99 นิ้วในความละเอียดที่ QHD+ และใช้งานหน้าจอที่รองรับการแสดงผลที่ HDR10 และยังมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ทำให้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการใช้งานทั้งเรื่องของความแข็งแรงและการแสดงผลแน่นอนว่าการที่รองรับ HDR10 นั้นก็ช่วยในเรื่องของการดูหนังหรือการดูคอนเทนต์ที่รองรับได้ดียิ่งขึ้นทั้งเรื่องของมิติภาพต่างๆ แต่เมื่อเรามาดูคุณภาพหน้าจอของรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับเรือธงในตอนนี้อาจจะทำให้มันค่อนข้างดรอปพอสมควรครับทั้งเรื่องของการสู้แสงเป็นหลักแต่จริงๆเรื่องของมิติสี คุณภาพนั้นไมไ่ด้แย่นะแต่สูแสงแอบจะไม่ได้โหดมากนักครับแต่ดีกว่าจอ LCD ทั่วไปอยู่ส่วนเรื่องของสีเดิมๆจะอมโทนเย็นไปเล็กน้อยต้องลองปรับในตัวเครื่องกันอีกทีครับสำหรับตัวนี้
ในเรื่องของหน้าจอในการมองมุมต่างๆนั้นทำได้ดีเช่นกันคือเรื่องของภาพนั้นไม่ได้เพี้ยนและสีนั้นไม่ได้ดรอปลงครับรวมถึงตัวหน้าจอก็รองรับการมองได้หลากหลายไม่เหมือนจอ P-OLED ในช่วงแรกๆที่มองเอียงๆนั้นสีจะเพี้ยนพอสมควรครับ ตัวหน้าจอก็รองรับในภาพรวมได้ดียกเว้นแค่การสู้แสงในที่กลางแจ้งที่น่าจะสู้ได้ดีกว่านี้นิดนึงจลงตัวมากๆ และหน้าจอตัวนี้ยังมีการแสดงผลที่รองรับหน้าจอแบบ Always-On ด้วยนั้นเองทำให้แสดงผลขาวดำได้ดี
[SR] รีวิว Nokia 9 Pureview กล้องหลัง ZEISS 5 ตัว มือถือสำหรับสายถ่ายภาพ !
Nokia เป็นค่ายที่เน้นเรื่องกล้องมาก่อน และใช้เลนส์ ZEISS มาเรื่อยๆ จนมาวันนี้ได้เปิดตัวมือถือกล้อง 5 ตัว เลนส์ ZEISS ในชื่อ Nokia 9 Pureview เป็นเจ้าแรกของโลกที่กล้องเยอะขนาดนี้ครับแน่นอนว่าการนำกล้องหลายๆตัวมาใช้ถือว่าน่าสนใจในแง่ของคุณภาพและประสิทธิภาพที่ได้ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี ส่วนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนามานานมากๆและการวางขายอะไรแอบช้าไปมากพอสมควรครับ แต่ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ และเป็น 1 ในหลายๆรุ่นที่อยากลองมากๆ เราจึงจะเน้นเรื่องกล้องเป็นหลักๆเลยในรีวิวครั้งนี้ รวมถึงการลองไฟล์ RAW DNG และ ดึงไฟล์ภาพดูว่าจะทำได้ดีขนาดไหน และ สอบปรับเล็กๆน้อยๆครับ รวมถึง มีไฟล์ฉบับเต็มๆไปให้โหลดไปลองดูคุณภาพและไปแต่งกัน
Nokia 9 Pureview นั้นถือว่าเป็นมือถือที่เปิดตัวมานานมากๆแล้วกว่าจะเข้าไทยนั้นต้องบอกว่ารอจนหลายๆคนไม่รอกันแล้ว แต่ด้วยความที่มันมาพร้อมกับกล้องหลัง 5 ตัว เลนส์ ZEISS สำหรับสายถ่ายภาพบางคนก็อาจจะรอสอยมาถ่ายรูปกันอยู่เหมือนกัน ด้วยจุดเด่นๆของมันนั้นคงหนีไม่พ้นกล้องหลังแน่ๆแหละที่มาพร้อมกับ 5 เลนส์ ระยะเดียวกันทั้งหมด 12MP F/1.8 เท่ากัน เป็นเซนเซอร์ สี 3 ตัว และ ขาวดำ 2 ตัว และ เซนเซอร์วัดระยะ TOF อีกตัวครับ ทำงานในลักษณะ Array Camera ทั้ง 5 กล้องจะถ่ายภาพพร้อมกัน ครับจึงมีไฟล์ที่ใหญ่พอสมควร ส่วนหน้าจอมาพร้อมกับ 5.99 นิ้ว P-OLED QHD+ (2880 x 1440) Gorilla Glass 5 ใช้ CPU Snapdragon 845 และ มาพร้อมแบต 3320 mAh และรองรับชาร์จไร้สายครับ กล้องหน้ามาพร้อมกับ 20MP และ ใช้ Android One
Nokia 9 Pureview นั้นเปิดราคาในไทย มาที่ ราคา 18,900 บาท ส่วนรุ่นนี้ มีแค่สีเดียวนะครับ
สเปค มาพร้อมกับ Snapdragon 845 / RAM 6 GB / STORAGE 128 GB
UNBOX
ตัวกล่องมาในการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นอื่นๆแต่มีขนาดอะไรแตกต่างกันเล็กน้อยครับ อุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาครบแต่ขาดพวกเคสฟิลม์ ซึ่งในการสั่งซื้อจริงๆเหมือนจะมีแถมมาให้จากทางค่ายนะครับเป็นของแถมแยกเสริมเข้ามาให้เอง
- ตัวเครื่อง Nokia 9 Pureview
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- สายแปลง Type-C ไปยัง 3.5มม.
- ที่ชาร์จ QC 3.0
- สาย Type-C
- หูฟัง InEar แบบ 3.5 มม.
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นเป็นจุดที่คนชอบก็ชอบเลยคนไม่ชอบก็เกลียดไปเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะการวางกล้องของมันที่แปลกและแตกต่างจนค่อนข้างประหลาดไปเลยดูผ่านๆนั้นรูจะค่อนข้างเยอะมากๆและการวางตำแหน่งวงกลมอาจจะไม่ได้ดูเป็นส่วนเดียวกันจริงๆถ้ามีสีดำครอบทับอีกรอบน่าจะสวยแบบตอน Nokia 1020 ก็น่าจะสวยเลยนะ ส่วนเรื่องงานประกอบและน้ำหนักของมันนั้นทำได้ดีสมชื่อแบรนด์ครับ น้ำหนักกำลังดีและจับถือได้ง่ายรวมถึงขนาดไม่ใหญ่เกินไป และแน่นอนว่างานประกอบเนียนเนี้ยบแน่นมากๆถือแล้วรู้สึกถึงความแน่นของเครื่องและงานประกอบที่ทำได้ดีเลย
หน้าจอของตัว Nokia 9 Pureview นั้นเป็นหน้าจอแบบ POLED มีขนาดที่ 5.99 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ (1440×2880 พิกเซล) ในอัตราส่วนจอที่ 18:9 ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ในด้านหน้าแบบเรียบ ซึ่งตัวขอบหน้าจอนั้นจะไม่ใช่สีดำแต่เป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่อง ด้านหลังจะออกฟ้าๆน้ำเงินครับและมีโลโก้มุมขวา
หน้าจอส่วนด้านบน นั้นจะเป็นส่วนของเซนเซอร์วัดแสงต่างๆ และตัวไฟแจ้งเตือนของตัวเครื่อง และ ลำโพงสนทนา และในมุมขวาบนนั้นจะเป็นกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และ โลโก้ Nokia ครับเป็นไม่กี่ยี่ห้อที่ยังมีโลโก้ด้านหน้ามา
ขอบล่างนั้นยังมีความหนาพอสมควรครับแน่นอนว่ามันเป็นดีไซน์ของปีที่แล้วไม่แปลกใจที่มันยังหนาอยู่และหลายๆคนอาจจะไม่ชอบกันเท่าไร เรื่องของปุ่มควรคุมนั้นจะเป็นแบบเดิมๆของ Android One ครับมาพร้อมปุ่มเดียวและปุ่ม Back แค่นั้นไม่สามารถใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้นะครับเป็นปกติของพวกระบบเพียวๆพวกนี้
ในส่วนของขอบล่างตัวเครื่องนั้นจะเห็นได้เลยว่าไม่มีรูหูฟังมาให้แล้ว และมีความโค้งเล็กน้อยทำให้จับถือได้ง่าย ด้านล่างนั้นจะเป็นลำโพงหลัก รู USB-C และ รูไมค์ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลยแหละ
ด้านบนนั้นจะเป็น ถาดซิมแบบ Dualsim ไม่สามารถเพิ่มเม็มได้นะครับในรุ่นนี้ และรูไมค์สำหรับอัดเสียงด้านบนครับ
ในด้านซ้ายมือนั้นต้องบอกว่าไม่มีปุ่มอะไรเลยครับในส่วนนี้จะเห็นได้ชัดว่าบอดี้นั้นจะปัดเงาสวยงามและมีการตัดขอบเงินสวยๆทำให้เหมือนเป็นโครมเมี่ยมตามขอบเครื่องในหลายๆส่วนสวยงามเหมือนกันครับเล่นกับแสงได้ดีเลย
ตัวปุ่มเองนั้นก็จะมีการเล่นกับขอบปุ่มทั้งหมดได้ดีและมีการตัดขอบเงินๆรอบๆปุ่มแบบเดียวกับตัวเครื่องทำให้เป็นดีไซน์แบบเดียวกันรวมถึง ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ปุ่มเปิดปิดเครื่องนั้น อยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด และวัสดุเดียวกันครับ
กล้องหลังของ Nokia 9 Pureview นั้นจะเป็นกล้องหลังที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ขาวดำ และ เซนเซอร์สี รวมกันทั้งหมด 5 ตัว ความละเอียด 12MP F1.8 ทั้งหมดใช้เลนส์ ZEISS ด้วยนั้นเองครับ และมีเซนเซอร์วัดระยะ TOF 3D และมีไฟแฟลช Twotone มาด้วยรวมถึง ไมค์อัดเสียงก็มาให้ในด้านนี้ครับรองรับการอัดเสียง OZO Audio ที่ดีกว่าเดิมในการบันทึกเสียงแบบ รอบทิศทาง แบบด้านหน้า และ แบบด้านหลัง
ในส่วนของด้านหลังนั้นจะเป็นวัสดุแบบกระจกทั้งหมดซึ่งใช้กระจก Gorilla Glass ด้านเป็นกระจกแบบโค้งมุมทั้ง 2 ข้าง ไม่ได้มีการเล่นเลเยอร์ของกระจกหรือเล่นกับแสงสีอะไรทั้งนั้นเป็นสีเดียวเรียบๆเงาๆปกติเลยนั้นเอง ตัวสีนั้นจะเปลี่ยนตามสภาพแสงเล็กน้อยจะออกน้ำเงิน ฟ้าบ้างครับถ้าเจอแสงภายนอกก็สวยดีเหมือนกัน ส่วนโลโก้วางแนวนอนและตัวกล้องนั้นจะฝังอยู่ใต้กระจกบอดี้ทั้งหมดเรียบๆไปไม่มีส่วนนูนเลยครับแต่เวลาวางอาจจะเป็นรอยได้ง่ายนิดนึง
SPEC
- Android ONE 9.0 Pie อัพเดท 2 ปี ความปลอดภัย 3 ปี
- Snapdragon 845
- RAM 6GB LPPDDR4X
- Storage 128 GB
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว QHD+ 2K pOLED Gorilla Glass 5
- ลำโพงตัวเดียวพร้อม Smartamp
- ไมค์อัดเสียงทั้งหมด 3 ตัว
- USB-C
- กล้องหลัง 5 ตัว ทุกตัวใช้เลนส์ระยะเดียวกันที่ 12MP F1.8 แยกเป็นเซนเซอร์ ขาวดำ 3 ตัว และ สี RGB 2 ตัว
- Video HDR 4K 30FPS
- กล้องหน้า 20MP f/1.8
- แบตเตอร์รี่ 3320 mAh รองรับ QC 3.0 และ ชาร์จไร้สาย Qi
- กันน้ำ กันฝุ่น IP67
- Bluetooth 5.0 / LTE CAT 16 4X4MIMO
- สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- Size 155 x 75 x 8 mm
- Weight 172 g
- Color Midnight Blue
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องตัวนี้มาพร้อมกับ Snapdragon แต่เป็นรุ่นปีที่แล้วแบบ 845 ครับแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้แรงโหดมากแต่ก็ยังใช้งานได้ดีเหมือนกันในตอนนี้ทำคะแนไปได้ 234787 และ ในส่วนของ GeekBench นั้นทำไปได้ที่ 2404 ในการประมวลผลแกนเดียว และ 8888 ในส่วนของหลายแกน และในด้านของตัวความจำเครื่องใช้งาน UFS 2.1 ครับและในด้านความปลอดภัยนั้นจะเป็นตัว Widevine L1 ปกติรองรับ HD สบายๆครับ
SYSTEM UI
หน้าตาตัวระบบนั้นยังคงใช้งาน Android One เช่นเดิมครับเรียบๆง่ายๆตามสไตล์เค้าแหละ แน่นอนว่าระบบนี้จะเด่นๆตรงที่ได้อัพเดทความปลอดภัยไวมากๆและนานถึง 3 ปีและรองรับอัพเดทระบบ 2 ปีครับ ตัวนี้มาพร้อมกับ Android 9 นั้นเองส่วนหน้าตาคงคุ้นเคยกันดีทั้งหน้าล็อค ไอคอนต่างๆเดิมๆครับพร้อมจุดแจ้งเตือน ทำได้ไวดีครับ
ในส่วนของการแจ้งเตือนต่างๆก็เป็นโทนสีขาวในส่วนของการตั้งค่าแบบด่วนและเมื่อลากลงมาสามารถปรับแสงหน้าจอได้และปรับแต่งได้ครับ การแบ่งหน้าจอนั้นก็รองรับเป็นเรื่องพื้นฐานของเครื่องรองรับได้ปกติ และตัวปุ่มควบคุมนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้นะครับจะเป็นแบบเดิมๆในภาพเลยอาจจะต้องปรับตัวกันนิดหน่อย
ในเรื่องของความจำนั้นตัวนี้ไม่สามารถเพิ่มได้ และมาให้แค่ 128GB และต้องบอกว่าเหลือใช้งานจริงๆประมาณ 110 ครับและถ้าสายถ่ายภาพนั้นจะกินความจุอย่างมากและได้มาไม่กี่วันกินไป 30GB แล้วโหดมากๆแอบน้อยไปหน่อยในจุดนี้ และในเรื่องของ RAM 6 GB ใช้งานไปได้ครึ่งๆ ครับส่วนเรื่องของแป้นพิมพ์คุ้นๆกันเดิมๆของ google keyboard เลยนั้นเอง
พวกฟีเจอร์นั้นต้องบอกว่ามาน้อยมากๆเนื่องจากมันเป็นเพียวเลยมีแค่ gesture เล็กน้อยในการใช้งาน วางสาย เงียบตอนยกเครื่อง กดปุ่มค้างเข้ากล้อง อะไรพวกนี้เป็นพื้นฐานของระบบ และหน้าจอ always on ก็มีให้ปรับ 4 แบบหลักๆขาวดำ และ โทนสีของหน้าจอก็สามารถปรับแต่งได้เล็กน้อยครับ ส่วนเสียงไม่มีตัวปรับแต่งได้เลยครับ
SCREEN
หน้าจอของทาง Nokia 9 Pureview นั้นเป็นหน้าจอแบบ P-OLED ซึ่งมีขนาด 5.99 นิ้วในความละเอียดที่ QHD+ และใช้งานหน้าจอที่รองรับการแสดงผลที่ HDR10 และยังมีการครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ทำให้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการใช้งานทั้งเรื่องของความแข็งแรงและการแสดงผลแน่นอนว่าการที่รองรับ HDR10 นั้นก็ช่วยในเรื่องของการดูหนังหรือการดูคอนเทนต์ที่รองรับได้ดียิ่งขึ้นทั้งเรื่องของมิติภาพต่างๆ แต่เมื่อเรามาดูคุณภาพหน้าจอของรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับเรือธงในตอนนี้อาจจะทำให้มันค่อนข้างดรอปพอสมควรครับทั้งเรื่องของการสู้แสงเป็นหลักแต่จริงๆเรื่องของมิติสี คุณภาพนั้นไมไ่ด้แย่นะแต่สูแสงแอบจะไม่ได้โหดมากนักครับแต่ดีกว่าจอ LCD ทั่วไปอยู่ส่วนเรื่องของสีเดิมๆจะอมโทนเย็นไปเล็กน้อยต้องลองปรับในตัวเครื่องกันอีกทีครับสำหรับตัวนี้
ในเรื่องของหน้าจอในการมองมุมต่างๆนั้นทำได้ดีเช่นกันคือเรื่องของภาพนั้นไม่ได้เพี้ยนและสีนั้นไม่ได้ดรอปลงครับรวมถึงตัวหน้าจอก็รองรับการมองได้หลากหลายไม่เหมือนจอ P-OLED ในช่วงแรกๆที่มองเอียงๆนั้นสีจะเพี้ยนพอสมควรครับ ตัวหน้าจอก็รองรับในภาพรวมได้ดียกเว้นแค่การสู้แสงในที่กลางแจ้งที่น่าจะสู้ได้ดีกว่านี้นิดนึงจลงตัวมากๆ และหน้าจอตัวนี้ยังมีการแสดงผลที่รองรับหน้าจอแบบ Always-On ด้วยนั้นเองทำให้แสดงผลขาวดำได้ดี
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้