By Suthee C. / 26/7/2562
สำหรับเหรียญราชอสริยาภรณ์ ที่ได้มีการกล่าวถึงในการประชุมสภาเมื่อวานนี้นั้น เป็นการระบุถึง เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร หรือ Member of “The Rama Medal for Gallantry in Action” of the Honourable Order of Rama.
ซึ่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่างเคยได้รับพระราชทานมาแล้วด้วยกันทั้ง 2 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระราชทานเมื่อปี 2533 โดยคาดว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์จากเมื่อครั้งสมรภูมิเขาพนมปะ
ในครั้งนั้นเป็นเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารเวียดนาม ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2524-2526 ที่กองทัพเวียดนามและเขมรเฮง สำรินสู้รบกัน ทำให้มีกองกำลังบางส่วนของกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ทางภาคตะวันออก โดยในช่วงเวลาประมาณเดือนเมษายน 2526 ในพื้นที่ของเขาพนมปะ อ.ตาพระยา ที่ถูกทหารเวียดนามเข้ายึดพื้นที่ มีกองพลทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 เป็นหน่วยหลักในการเข้าผลักดันข้าศึกให้ออกนอกพื้นที่ของประเทศไทย
โดยหนึ่งในทหารในครั้งนั้นมีชื่อของ ร้อยเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ยศในขณะนั้น) ได้ร่วมในภารกิจนั้นด้วย ก่อนที่จะมีร้อยโทอุดมเดช สีตบุตร (ยศในขณะนั้น) เข้าพื้นที่ปฎิบัติภารกิจเข้าสนับสนุนในครั้งนั้นด้วย
ซึ่งทำให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อุดมเดช ได้รับเหรียญกล้าหาญและเครื่องอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ในปี 2533 นั่นเอง โดยพล.อ.อุดมเดช ได้รับการขนานนามว่าเป็น “วีรบุรุษเขาพนมปะ”
ภาพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเครื่องแบบพร้อมประดับเหรียญรามรามาฯ บริเวณหน้าอกด้านซ้าย
ทางด้านของพ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หรือแต่เดิมชื่อว่า “เสรี เตมียเวส” (เปลี่ยนชื่อหลังจากเหตุการณ์ระเบิดห้องทำงาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม ปีพ.ศ. 2534) หลายคนรู้จักในนามของ “วีรบุรุษนาแก”
ด้วยบุคลิกที่เป็นคนตรงๆ กล้าได้กล้าเสีย กล้าลุย จึงได้ของลง “พื้นที่สีแดง” ในช่วงที่ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่ สภ.อ.นาแก และด้วยความเป็นสายลุย จึงทำให้ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า “วีรบุรุษนาแก” ซึ่งไม่ใช่เพียงเพราะสู้เก่งหรือปราบโจรเก่งเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการลงพื้นที่ แก้ไขปัญหาทุกข์สุขให้กับประชาชนในพื้นที่นั่นเอง
หลังจากนั้นก็ได้รับมอบหมายงานใหญ่ๆ สำคัญๆ อีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งหากคดีใดมีชื่อของ พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เข้าทำคดีก็การันตีได้ว่า คดีนั้นใหญ่แน่นอน เช่น คดีจับกุม “กำนันเป๊าะ” หนึ่งในผู้กว้างขวางในภาคตะวันออกจนเป็นคดีดังไปทั้งประเทศในขณะนั้นเลยทีเดียว
ด้วยผลงานเด่นๆ โดยเฉพาะที่ สภ.อ.นาแก จึงทำให้พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้รับพระราชทานเหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร มาประดับหน้าอกเช่นเดียวกัน
พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ประดับเหรียญรามรามา บริเวณอกด้านซ้าน
(ภาพจาก รร.เตรียมทหาร)
Cr.
https://news.mthai.com/general-news/747532.html
MTHAI
เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร
สำหรับเหรียญราชอสริยาภรณ์ ที่ได้มีการกล่าวถึงในการประชุมสภาเมื่อวานนี้นั้น เป็นการระบุถึง เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร หรือ Member of “The Rama Medal for Gallantry in Action” of the Honourable Order of Rama.
ซึ่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่างเคยได้รับพระราชทานมาแล้วด้วยกันทั้ง 2 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระราชทานเมื่อปี 2533 โดยคาดว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์จากเมื่อครั้งสมรภูมิเขาพนมปะ
ในครั้งนั้นเป็นเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารเวียดนาม ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2524-2526 ที่กองทัพเวียดนามและเขมรเฮง สำรินสู้รบกัน ทำให้มีกองกำลังบางส่วนของกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ทางภาคตะวันออก โดยในช่วงเวลาประมาณเดือนเมษายน 2526 ในพื้นที่ของเขาพนมปะ อ.ตาพระยา ที่ถูกทหารเวียดนามเข้ายึดพื้นที่ มีกองพลทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 เป็นหน่วยหลักในการเข้าผลักดันข้าศึกให้ออกนอกพื้นที่ของประเทศไทย
โดยหนึ่งในทหารในครั้งนั้นมีชื่อของ ร้อยเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ยศในขณะนั้น) ได้ร่วมในภารกิจนั้นด้วย ก่อนที่จะมีร้อยโทอุดมเดช สีตบุตร (ยศในขณะนั้น) เข้าพื้นที่ปฎิบัติภารกิจเข้าสนับสนุนในครั้งนั้นด้วย
ซึ่งทำให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อุดมเดช ได้รับเหรียญกล้าหาญและเครื่องอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ในปี 2533 นั่นเอง โดยพล.อ.อุดมเดช ได้รับการขนานนามว่าเป็น “วีรบุรุษเขาพนมปะ”
ภาพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเครื่องแบบพร้อมประดับเหรียญรามรามาฯ บริเวณหน้าอกด้านซ้าย
ทางด้านของพ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หรือแต่เดิมชื่อว่า “เสรี เตมียเวส” (เปลี่ยนชื่อหลังจากเหตุการณ์ระเบิดห้องทำงาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม ปีพ.ศ. 2534) หลายคนรู้จักในนามของ “วีรบุรุษนาแก”
ด้วยบุคลิกที่เป็นคนตรงๆ กล้าได้กล้าเสีย กล้าลุย จึงได้ของลง “พื้นที่สีแดง” ในช่วงที่ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่ สภ.อ.นาแก และด้วยความเป็นสายลุย จึงทำให้ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า “วีรบุรุษนาแก” ซึ่งไม่ใช่เพียงเพราะสู้เก่งหรือปราบโจรเก่งเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการลงพื้นที่ แก้ไขปัญหาทุกข์สุขให้กับประชาชนในพื้นที่นั่นเอง
หลังจากนั้นก็ได้รับมอบหมายงานใหญ่ๆ สำคัญๆ อีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งหากคดีใดมีชื่อของ พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เข้าทำคดีก็การันตีได้ว่า คดีนั้นใหญ่แน่นอน เช่น คดีจับกุม “กำนันเป๊าะ” หนึ่งในผู้กว้างขวางในภาคตะวันออกจนเป็นคดีดังไปทั้งประเทศในขณะนั้นเลยทีเดียว
ด้วยผลงานเด่นๆ โดยเฉพาะที่ สภ.อ.นาแก จึงทำให้พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้รับพระราชทานเหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร มาประดับหน้าอกเช่นเดียวกัน
พ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ประดับเหรียญรามรามา บริเวณอกด้านซ้าน
(ภาพจาก รร.เตรียมทหาร)
Cr.https://news.mthai.com/general-news/747532.html
MTHAI