ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายๆ ท่านคงจะได้ยินข่าวคราวการเปิดตัวของ ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ หรือ EV-Electric Vehicle ที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนการใช้พลังงานรูปแบบเดิม รวมถึงเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ

สำหรับในบ้านเรา เรื่องของยานยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในช่วงตั้งไข่ก็ว่าได้ เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่พอพูดถึงเทคโนโลยี Electric Vehicle ขึ้นมา ก็ทำให้เราต้องนึกย้อนกลับไปเล่าถึงจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาดสักหน่อย นั่นก็คือระบบ Hybrid ซึ่งเป็นระบบยานยนต์แบบลูกครึ่ง (น้ำมัน-ไฟฟ้า) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยความอืดไม่ทันใจ

แต่สำหรับ All-new Honda Accord เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่เลือกใช้ขุมพลังที่แรงเร้าใจอย่างระบบ Sport Hybrid i-MMD ระบบ Full Hybrid ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยสามารถปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมได้หลายรูปแบบ ทำให้ความคิดของเราที่เคยมีว่า ยนตรกรรมที่มาพร้อมพลังงานสะอาดและประหยัดจะต้องแลกมาด้วยความอืดนั้นเปลี่ยนไป

และเมื่อ 2 เสืออย่างความสปอร์ต และความประหยัดอยู่ในรถคันเดียวได้จริง เราก็เลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับระบบไฮบริดจาก All-new Honda Accord ยนตรกรรมพลังงานสะอาดที่จับต้องได้มากที่สุด ณ เวลานี้กันแบบให้แน่นๆ


ก่อนอื่นเลย เราขออธิบายความหมายของระบบ Hybrid ให้ครบถ้วนอีกครั้ง ก็ตามชื่อเลยคือเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 แบบคือทั้งใช้จากเชื้อเพลิงน้ำมันและกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่สะสมจากการขับขี่ โดยระบบการทำงานของเครื่องยนต์แบบไฮบริดจะแปรผันตามการขับขี่ และกำลังไฟที่มีในแบตเตอรี่ ข้อดีของระบบแบบนี้คือ ทำให้เราประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ที่สำคัญเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยล่ะ

สำหรับ All-new Honda Accord เมื่อถูกจับวางด้วยระบบ Sport Hybrid i-MMD ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน จึงให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง เร่งได้ดั่งใจสั่ง โดยมาพร้อมกับอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ความโดดเด่นของระบบ  Sport Hybrid i-MMD คือ สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 3 แบบ

EV Drive Mode (โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า)

มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะที่ลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วนั้น ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง

Hybrid Drive Mode (โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด)

เป็นระบบการขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะที่ลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็ว

Engine Drive Mode (โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์)

สำหรับโหมดนี้จะทำงานเมื่อมีการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่ ให้ประสิทธิภาพสูงในขณะที่แรงเสียดทานต่ำ เกิดจากการที่โดยชุดล็อกอัพคลัชท์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง โดยที่มอเตอร์ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

แต่ความสปอร์ตยังไม่หมดเท่านี้ เพราะยังมี Sport Mode โหมดการขับขี่ที่จะปลุกเร้าอารมณ์คนชอบความแรงเร้าใจด้วยการปรับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และเกียร์ เพื่อเพิ่มอัตราตอบสนองให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเสริมด้วยระบบ Active Sound Control (ASC) ที่จะทำให้เสียงของเครื่องยนต์นั้นมีความเร้าใจมากยิ่งขึ้น วิธีการใช้งานก็ง่ายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่ด้านล่างของคันเกียร์ แล้วสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นมาบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบนั่นเองฮะ เอาใจสายสปอร์ตที่ชอบความแรงสุดๆ


ส่วนในเรื่องของแบตเตอรี่ที่หลายคนเป็นกังวล สำหรับ All-new Honda Accord มั่นใจได้เพราะใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน มีน้ำหนักเบา ทนทานและสามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว นอกจากนี้ ทางฮอนด้ายังรับประกัน 5 ปี สำหรับไฮบริดทั้งระบบ และ 10 ปี สำหรับตัวแบตเตอรี่ไฮบริด แต่หากท่านใดสนใจจองหรือรับรถภายใน 31 ธันวาคม 2562 รับสิทธิ์รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มเป็น 10 ปีทันที