วันนี้อยากจะมาแชร์การโดนลิดรอนสิทธิที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก
ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ไม่คิดว่าบริษัทใหญ่ๆ จะมีการบังคับลูกค้า
โดยไม่ให้ทางเลือกเลย ยาวหน่อยแต่อยากแชร์เป็นข้อมูลครับ
เรื่องเริ่มจากมี Telesale จากบริษัท TRUE โทรเข้ามาเสนอโปรโมชั่นติดอินเตอร์เน็ตบ้านในราคาพิเศษ
โดยที่ในแพคเกจมีแถมอินเตอร์เน็ตซิมให้ใช้ด้วย ซึ่งทางบ้านกำลังอยากจะติดเน็ตใหม่พอดี จึงตอบตกลงและนัดวันติดตั้ง
โดยพนักงานแจ้งว่าวันติดตั้งจะมีแมสเซนเจอร์เอาซิมอินเตอร์เน็ตมาให้ให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนไว้ให้
พอถึงวันที่นัดติดตั้งอินเตอร์เน็ต มีแมสเซนเจอร์เข้ามารับเอกสารและนำซิมมาให้และมีเอกสารสมัครอินเตอร์เน็ตมาให้เซ็นด้วย
โดยเนื้อหาจะเกี่ยวกับแพคเกจที่เราสมัครสัญญาต่างๆ โดยเซลล์ได้กรอกข้อมูลทั้งหมดแล้วเหลือแค่เซ็นท้ายใบสมัคร
แต่ในใบสมัครมีการติ๊กถูก (เป็นการติ๊กถูกด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ปากกาติ๊กภายหลัง )
ที่ช่องอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่บริษัทเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ แต่ในช่องนี้มีพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุ
ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่าใช่การที่เราอนุญาตให้ทางบริษัทนำข้อมูลส่วนตัวของเราให้กับทางบริษัทประกันต่างๆ หรือเปล่า
(ถ้าใครที่สงสัยว่าพวกที่โทรขายประกันเอาเบอร์เรามาจากไหน แล้วรู้ข้อมูลของเราได้ไง พวกนี้ไงที่ขายข้อมูลเราาาา)
แต่พอถามพี่แมสว่าถ้าผมไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลให้ทำไง
พี่แกเลยบอกให้ติดต่อคอลเซนเตอร์เอาเพราะไม่มีเบอร์เซลล์โดยตรง พอสอบถามไปยังคอลเซนเตอร์
คอลเซนเตอร์แจ้งว่าให้คืนเอกสารให้พี่แมสไปก่อน เดี๋ยวทางคอลเซนเตอร์จะติดต่อทางเซลล์ให้
ซึ่งพี่แมสก็เอาซิมอินเตอร์เน็ตกลับคืนไปด้วย
แต่บ่ายวันนั้นทีมติดตั้งอินเตอร์เน็ตก็เข้ามาติดตั้งตามปกติ เท่ากับตอนนี้เรามีอินเตอร์เน็ตใช้
แต่ไม่ได้รับซิมอินเตอร์เน็ตตามโปรโมชั่น
หลังจากติดตั้งอินเตอร์เน็ตเสร็จก็มีทีม After service โทรมาสอบถามการติดตั้ง
ผมก็เล่าเหตุการณ์ให้ทุกคนที่โทรมาฟังว่าเกิดเหตุการแบบนี้ๆ และผมยังไม่ได้รับซิมอินเตอร์เน็ตนะ
ซึ่งแจ้งไปเรื่องก็เงียบหาย หรือไม่ก็มีโทรมาใหม่และต้องเล่าใหม่หมด แล้วเรื่องก็เงียบหายอยู่ดี
หลังจากติดอินเตอร์เน็ต 4 วันแล้วยังไม่ได้ซิมสักทีก็เลยเริ่มโทรตามบ้างแล้วว่ายังไม่ได้รับซิมนะ
มันผ่านมาหลายวันแล้ว ทางคอลเซนเตอร์ก็แจ้งว่าจะตามให้ แต่แจ้งว่าซิมอินเตอร์เน็ตนี้ฟรีนะไม่ได้คิดเงินค่าบริการใดใด
(สื่อประมานว่าให้ตูรอ อย่าเร่งจะจัดส่งให้ภายใน 7 วัน)
จึงแจ้งกลับว่าแต่เราตั้งใจสมัครเพราะมีซิมแถมให้นะ เพราะจริงๆมีโปรที่ถูกกว่านี้แต่ไม่มีซิมให้
คอลเซนเตอร์เลยเงียบไปและบอกจะตามให้
หลังจากนั้นสองวันได้มีทรูช็อปที่ดูแลเกี่ยวกับการจัดส่งซิมการ์ดโทรมาคุย
โดยพนักงานยังยืนยันว่าต้องเซ็นเอกสารใบสมัคร ซึ่งผมก็ตอบไปว่าผมยินดีเซ็นแต่ไม่ยินดีให้เปิดเผยข้อมูล
ทางพนักงานเลยแจ้งว่าขอเวลาไปอ่านไปสมัครก่อน เดี๋ยวจะติดต่อกลับ (ไม่อ่านใบสมัครก่อนโทรหาลูกค้าหรออ?)
หลังจากนั้นประมานชั่วโมงนึง มีพนักงานอีกคนโทรเข้ามาเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพนักงานคนแรก
โทรมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบสมัคร เราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเซ็นได้แต่ไม่ให้เปิดเผยข้อมูล
พนักงานคนนี้จึงแจ้งว่าขอเวลาอ่านใบสมัครก่อน จะติดต่อกลับภายใน15 นาที (ว๊อทททททท)
หลังจากนั้นประมาน 45 นาทีพนักงานคนเดิมโทรมาอธิบายว่าส่วนตรงนี้ได้ปรึกษากับทีมกฎหมายองบริษัทแล้วช่องตรงนี้เป็น
auto select มาจากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเอาออกได้ และไม่สามารถขีดค่อมหรือขีดคาดได้ (????????????)
อันนี้เป็นบทสนทนาที่จำได้คร่าวๆ
พนง : แต่ลูกค้าไม่ต้องห่วงนะคะ ข้อมูลตรงนี้เราจะใช้แค่ในบริษัทเพื่อเป็นการอนุญาตให้นำเสนอข้อมูล
ข่าวสาร โปรโมชั่นใหม่ๆของทางบริษัทแก่ลูกค้า โดยในอนาคตถ้าเกิดมีการโทรหาลูกค้าเพื่อขายประกันหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัท
ลูกค้าสามารถร้องสคบ. ได้เลย (เค้ากล้าพูดอยู่แล้ว เพราะยังไงลูกค้าก็ไม่มีหลักฐานว่าบริษัทประกันได้ข้อมูลมาจากบริษัท)
ผม : พอดีผมจำรายละเอียดช่องนั้นได้ไม่ชัดเจน คุณช่วยอ่านให้ฟังอีกรอบได้ไหม (เพราะจำได้คร่าวๆแค่ว่ามีการพูดถึงสุขภาพและอุบัติเหตุ)
พนง : เริ่มอ่านและเกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุจริงๆ
ผม : บริษัทคุณมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุหรอครับ?
พนง : อ้ำอึ้งแปปนึงแล้วบอกว่า อ่ออ อั้นนี้สำหรับบริษัท Outsource ค่ะสำหรับนำเสนอข้อมูลข่าวสาร(ไหนตอนแรกบอกใช้ข้อมูลแค่ในกลุ่มบริษัท??)
ผม : นั่นไงครับสิ่งที่ผมไม่ต้องการ ทำไมต้องบังคับและไม่มีตัวเลือกให้?
พนง : แต่ถ้ามีการโทรมาขายสินค้าแล้วลูกค้าไม่สะดวกหรือไม่พอใจลูกค้าสามารถแจ้งทางบริษัทให้บล็อกเบอร์ให้ได้นะคะ(??????)
ผม : แล้วทำไมผมต้องอนุญาตแล้วค่อยมานั่งบล็อกเบอร์ ในเมื่อจริงๆแล้วผมมีสิทธิที่จะไม่อนุญาตตั้งแต่แรก?
ผมซื้อผลิตภัณฑ์คุณ 1 ชิ้น ทำไมต้องบังคับให้เปิดเผยข้อมูลพวกนี้ด้วย?
พนง : เริ่มตอบไม่ได้จึงตอบว่ายังไงเดี๋ยวจะจัดส่งซิมอินเตอร์เน็ตให้ไปใช้ก่อนจะได้ไม่เสียเวลา ส่วนเรื่องสัญญาเดี๋ยวขอไปปรึกษาฝ่ายกฎหมายอีกรอบก่อน
ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นการแชร์ข้อมูลที่ผมได้เจอมา ไม่คิดเหมือนกันว่าบริษัทใหญ่ๆจะมีการบังคับให้เปิดเผยข้อมูลได้ขนาดนี้
บังคับแบบไม่ให้ทางเลือก บางทีเราอาจจะคิดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีลูกค้าเยอะแยะไม่น่าทำอะไรที่ลิดรอนสิทธิลูกค้าได้
แต่ถ้าไม่อ่านเอกสารดีดี คุณก็อาจจะโดนขายข้อมูลโดยไม่รู้ จริงๆมีหลายบริษัทที่มีช่องให้ติ๊กอนุญาตเช่นนี้
แต่ที่เคยเจอมาจะเป็นการให้ลูกค้าเลือกเองว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต
โดยข้อมูลที่โดนส่งต่อก็จะเป็นพวกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ แต่ถ้าหนักหน่อยก็จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการเงิน
ก็จะมีทั้งอาชีพ ฐานเงินเดือน ที่อาจจะโดนส่งต่อข้อมูลด้วยเช่นกัน
ปล.ลืมถ่ายรูปช่องเปิดเผยข้อมูลมา เดี๋ยวตอนเซ็นใบสมัครมีโอกาสถ่ายจะถ่ายมาแชร์อีกที
เดี๋ยวนี้สมัครอินเตอร์เน็ตบ้านกับ TRUE ต้องโดนบังคับให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับบริษัทประกันแล้วหรอครับ?
ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ไม่คิดว่าบริษัทใหญ่ๆ จะมีการบังคับลูกค้า
โดยไม่ให้ทางเลือกเลย ยาวหน่อยแต่อยากแชร์เป็นข้อมูลครับ
เรื่องเริ่มจากมี Telesale จากบริษัท TRUE โทรเข้ามาเสนอโปรโมชั่นติดอินเตอร์เน็ตบ้านในราคาพิเศษ
โดยที่ในแพคเกจมีแถมอินเตอร์เน็ตซิมให้ใช้ด้วย ซึ่งทางบ้านกำลังอยากจะติดเน็ตใหม่พอดี จึงตอบตกลงและนัดวันติดตั้ง
โดยพนักงานแจ้งว่าวันติดตั้งจะมีแมสเซนเจอร์เอาซิมอินเตอร์เน็ตมาให้ให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนไว้ให้
พอถึงวันที่นัดติดตั้งอินเตอร์เน็ต มีแมสเซนเจอร์เข้ามารับเอกสารและนำซิมมาให้และมีเอกสารสมัครอินเตอร์เน็ตมาให้เซ็นด้วย
โดยเนื้อหาจะเกี่ยวกับแพคเกจที่เราสมัครสัญญาต่างๆ โดยเซลล์ได้กรอกข้อมูลทั้งหมดแล้วเหลือแค่เซ็นท้ายใบสมัคร
แต่ในใบสมัครมีการติ๊กถูก (เป็นการติ๊กถูกด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ปากกาติ๊กภายหลัง )
ที่ช่องอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่บริษัทเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ แต่ในช่องนี้มีพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุ
ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่าใช่การที่เราอนุญาตให้ทางบริษัทนำข้อมูลส่วนตัวของเราให้กับทางบริษัทประกันต่างๆ หรือเปล่า
(ถ้าใครที่สงสัยว่าพวกที่โทรขายประกันเอาเบอร์เรามาจากไหน แล้วรู้ข้อมูลของเราได้ไง พวกนี้ไงที่ขายข้อมูลเราาาา)
แต่พอถามพี่แมสว่าถ้าผมไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลให้ทำไง
พี่แกเลยบอกให้ติดต่อคอลเซนเตอร์เอาเพราะไม่มีเบอร์เซลล์โดยตรง พอสอบถามไปยังคอลเซนเตอร์
คอลเซนเตอร์แจ้งว่าให้คืนเอกสารให้พี่แมสไปก่อน เดี๋ยวทางคอลเซนเตอร์จะติดต่อทางเซลล์ให้
ซึ่งพี่แมสก็เอาซิมอินเตอร์เน็ตกลับคืนไปด้วย
แต่บ่ายวันนั้นทีมติดตั้งอินเตอร์เน็ตก็เข้ามาติดตั้งตามปกติ เท่ากับตอนนี้เรามีอินเตอร์เน็ตใช้
แต่ไม่ได้รับซิมอินเตอร์เน็ตตามโปรโมชั่น
หลังจากติดตั้งอินเตอร์เน็ตเสร็จก็มีทีม After service โทรมาสอบถามการติดตั้ง
ผมก็เล่าเหตุการณ์ให้ทุกคนที่โทรมาฟังว่าเกิดเหตุการแบบนี้ๆ และผมยังไม่ได้รับซิมอินเตอร์เน็ตนะ
ซึ่งแจ้งไปเรื่องก็เงียบหาย หรือไม่ก็มีโทรมาใหม่และต้องเล่าใหม่หมด แล้วเรื่องก็เงียบหายอยู่ดี
หลังจากติดอินเตอร์เน็ต 4 วันแล้วยังไม่ได้ซิมสักทีก็เลยเริ่มโทรตามบ้างแล้วว่ายังไม่ได้รับซิมนะ
มันผ่านมาหลายวันแล้ว ทางคอลเซนเตอร์ก็แจ้งว่าจะตามให้ แต่แจ้งว่าซิมอินเตอร์เน็ตนี้ฟรีนะไม่ได้คิดเงินค่าบริการใดใด
(สื่อประมานว่าให้ตูรอ อย่าเร่งจะจัดส่งให้ภายใน 7 วัน)
จึงแจ้งกลับว่าแต่เราตั้งใจสมัครเพราะมีซิมแถมให้นะ เพราะจริงๆมีโปรที่ถูกกว่านี้แต่ไม่มีซิมให้
คอลเซนเตอร์เลยเงียบไปและบอกจะตามให้
หลังจากนั้นสองวันได้มีทรูช็อปที่ดูแลเกี่ยวกับการจัดส่งซิมการ์ดโทรมาคุย
โดยพนักงานยังยืนยันว่าต้องเซ็นเอกสารใบสมัคร ซึ่งผมก็ตอบไปว่าผมยินดีเซ็นแต่ไม่ยินดีให้เปิดเผยข้อมูล
ทางพนักงานเลยแจ้งว่าขอเวลาไปอ่านไปสมัครก่อน เดี๋ยวจะติดต่อกลับ (ไม่อ่านใบสมัครก่อนโทรหาลูกค้าหรออ?)
หลังจากนั้นประมานชั่วโมงนึง มีพนักงานอีกคนโทรเข้ามาเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพนักงานคนแรก
โทรมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบสมัคร เราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเซ็นได้แต่ไม่ให้เปิดเผยข้อมูล
พนักงานคนนี้จึงแจ้งว่าขอเวลาอ่านใบสมัครก่อน จะติดต่อกลับภายใน15 นาที (ว๊อทททททท)
หลังจากนั้นประมาน 45 นาทีพนักงานคนเดิมโทรมาอธิบายว่าส่วนตรงนี้ได้ปรึกษากับทีมกฎหมายองบริษัทแล้วช่องตรงนี้เป็น
auto select มาจากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเอาออกได้ และไม่สามารถขีดค่อมหรือขีดคาดได้ (????????????)
อันนี้เป็นบทสนทนาที่จำได้คร่าวๆ
พนง : แต่ลูกค้าไม่ต้องห่วงนะคะ ข้อมูลตรงนี้เราจะใช้แค่ในบริษัทเพื่อเป็นการอนุญาตให้นำเสนอข้อมูล
ข่าวสาร โปรโมชั่นใหม่ๆของทางบริษัทแก่ลูกค้า โดยในอนาคตถ้าเกิดมีการโทรหาลูกค้าเพื่อขายประกันหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัท
ลูกค้าสามารถร้องสคบ. ได้เลย (เค้ากล้าพูดอยู่แล้ว เพราะยังไงลูกค้าก็ไม่มีหลักฐานว่าบริษัทประกันได้ข้อมูลมาจากบริษัท)
ผม : พอดีผมจำรายละเอียดช่องนั้นได้ไม่ชัดเจน คุณช่วยอ่านให้ฟังอีกรอบได้ไหม (เพราะจำได้คร่าวๆแค่ว่ามีการพูดถึงสุขภาพและอุบัติเหตุ)
พนง : เริ่มอ่านและเกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุจริงๆ
ผม : บริษัทคุณมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุหรอครับ?
พนง : อ้ำอึ้งแปปนึงแล้วบอกว่า อ่ออ อั้นนี้สำหรับบริษัท Outsource ค่ะสำหรับนำเสนอข้อมูลข่าวสาร(ไหนตอนแรกบอกใช้ข้อมูลแค่ในกลุ่มบริษัท??)
ผม : นั่นไงครับสิ่งที่ผมไม่ต้องการ ทำไมต้องบังคับและไม่มีตัวเลือกให้?
พนง : แต่ถ้ามีการโทรมาขายสินค้าแล้วลูกค้าไม่สะดวกหรือไม่พอใจลูกค้าสามารถแจ้งทางบริษัทให้บล็อกเบอร์ให้ได้นะคะ(??????)
ผม : แล้วทำไมผมต้องอนุญาตแล้วค่อยมานั่งบล็อกเบอร์ ในเมื่อจริงๆแล้วผมมีสิทธิที่จะไม่อนุญาตตั้งแต่แรก?
ผมซื้อผลิตภัณฑ์คุณ 1 ชิ้น ทำไมต้องบังคับให้เปิดเผยข้อมูลพวกนี้ด้วย?
พนง : เริ่มตอบไม่ได้จึงตอบว่ายังไงเดี๋ยวจะจัดส่งซิมอินเตอร์เน็ตให้ไปใช้ก่อนจะได้ไม่เสียเวลา ส่วนเรื่องสัญญาเดี๋ยวขอไปปรึกษาฝ่ายกฎหมายอีกรอบก่อน
ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นการแชร์ข้อมูลที่ผมได้เจอมา ไม่คิดเหมือนกันว่าบริษัทใหญ่ๆจะมีการบังคับให้เปิดเผยข้อมูลได้ขนาดนี้
บังคับแบบไม่ให้ทางเลือก บางทีเราอาจจะคิดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีลูกค้าเยอะแยะไม่น่าทำอะไรที่ลิดรอนสิทธิลูกค้าได้
แต่ถ้าไม่อ่านเอกสารดีดี คุณก็อาจจะโดนขายข้อมูลโดยไม่รู้ จริงๆมีหลายบริษัทที่มีช่องให้ติ๊กอนุญาตเช่นนี้
แต่ที่เคยเจอมาจะเป็นการให้ลูกค้าเลือกเองว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต
โดยข้อมูลที่โดนส่งต่อก็จะเป็นพวกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ แต่ถ้าหนักหน่อยก็จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการเงิน
ก็จะมีทั้งอาชีพ ฐานเงินเดือน ที่อาจจะโดนส่งต่อข้อมูลด้วยเช่นกัน
ปล.ลืมถ่ายรูปช่องเปิดเผยข้อมูลมา เดี๋ยวตอนเซ็นใบสมัครมีโอกาสถ่ายจะถ่ายมาแชร์อีกที