ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/around/detail/9620000069818
รอยเตอร์ - ผู้นำคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเดินทางไปตรวจเยี่ยมเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่เพิ่งต่อเสร็จหมาดๆ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่านี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโสมแดงยังไม่หยุดที่จะพัฒนาระบบขีปนาวุธชนิดยิงจากเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile - SLBM)
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า ผู้นำคิม ได้ไปเยี่ยมชมฐานข้อมูลด้านการปฏิบัติการและยุทธวิธี รวมถึงระบบอาวุธภายในเรือดำน้ำลำใหม่ซึ่งถูกสร้างขึ้น “ภายใต้การควบคุมดูแลเป็นพิเศษของท่าน” เพื่อส่งไปปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกเร็วๆ นี้
“ศักยภาพด้านการปฏิบัติการของเรือดำน้ำถือเป็นหัวใจหลักในการป้องกันประเทศของเรา ซึ่งมีพรมแดนด้านตะวันออกและตะวันตกติดกับทะเล” สื่อโสมแดงอ้างถ้อยแถลงของผู้นำคิม
KCNA ไม่ได้อธิบายว่าเรือดำน้ำลำนี้ติดตั้งระบบอาวุธชนิดใดบ้าง และไม่ระบุว่าการไปตรวจเยี่ยมเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่
กองทัพโสมแดงมีกองเรือดำน้ำขนาดใหญ่ แต่เท่าที่ทราบกันมีเพียงเรือดำน้ำรุ่นทดลองชั้นซินโปอยู่ 1 ลำที่สามารถติดตั้งระบบขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) ได้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า เมื่อดูจากขนาดของเรือดำน้ำลำใหม่เชื่อว่าน่าจะถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งขีปนาวุธได้อย่างแน่นอน
“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรือดำน้ำขนาดมหึมา และใหญ่ยิ่งกว่าลำที่เกาหลีเหนือนำออกมาให้ทั่วโลกได้เห็นตั้งแต่ปี 2014” อันกิต ปันดา นักวิจัยอาวุโสจากสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน ระบุ
“สิ่งที่ผมมองว่ามีนัยสำคัญทางการเมืองก็คือ มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่พิธีสวนสนามกองทัพเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2018 ที่ คิม จองอึน ได้ไปตรวจเยี่ยมระบบทางทหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอาวุธนิวเคลียร์”
เขาย้ำว่านี่คือสัญญาณเตือนกลายๆ ว่ากำหนดเส้นตายปลายปีนี้ที่ คิม จองอึน ขอให้สหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนนโยบายต่อเกาหลีเหนือ “ควรจะได้รับการใส่ใจอย่างจริงจังที่สุด”
โครงการพัฒนาขีปนาวุธ SLBM ของเกาหลีเหนือรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ปี กระทั่งในปี 2016 ก็สามารถยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำได้สำเร็จ ติดตามมาด้วยการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ลูกแรกในเดือน ก.ค.ปี 2017
ผู้นำคิม ได้สั่งระงับโครงการทดสอบ ICBM และอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด หลังจากที่เกาหลีเหนือได้เริ่มเปิดเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปีที่แล้ว
กระแสข่าวเกี่ยวกับเรือดำน้ำเกาหลีเหนือมีขึ้นท่ามกลางความล่าช้าในการรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์ หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำ คิม ได้ตกลงกันที่หมู่บ้านปันมุนจอมชายแดนสองเกาหลีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่าจะเริ่มเปิดการเจรจาระดับคณะทำงานกันใหม่
ทรัมป์ ระบุว่าการพูดคุยน่าจะเกิดขึ้นได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ และล่าสุด จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ก็ได้เดินทางไปถึงเกาหลีใต้ในวันนี้ (23) เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มวิจัย 38 North ในสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ที่แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนืออาจจะกำลังสร้างเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่อู่ต่อเรือซินโป
“เท่าที่คาดคะเนจากสายตา มันน่าจะเป็นเรือดำน้ำที่ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ เรียกกันว่าชั้น Sinpo C ซึ่งเป็นรุ่นต่อเนื่องจากเรือดำน้ำติดขีปนาวุธรุ่นทดลองของเกาหลีเหนือ” ปันดากล่าว
ผู้นำโสมแดงตรวจเยี่ยม ‘เรือดำน้ำ’ ลำใหญ่มหึมา คาดติดตั้งจรวด SLBM
รอยเตอร์ - ผู้นำคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือเดินทางไปตรวจเยี่ยมเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่เพิ่งต่อเสร็จหมาดๆ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่านี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโสมแดงยังไม่หยุดที่จะพัฒนาระบบขีปนาวุธชนิดยิงจากเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile - SLBM)
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า ผู้นำคิม ได้ไปเยี่ยมชมฐานข้อมูลด้านการปฏิบัติการและยุทธวิธี รวมถึงระบบอาวุธภายในเรือดำน้ำลำใหม่ซึ่งถูกสร้างขึ้น “ภายใต้การควบคุมดูแลเป็นพิเศษของท่าน” เพื่อส่งไปปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกเร็วๆ นี้
“ศักยภาพด้านการปฏิบัติการของเรือดำน้ำถือเป็นหัวใจหลักในการป้องกันประเทศของเรา ซึ่งมีพรมแดนด้านตะวันออกและตะวันตกติดกับทะเล” สื่อโสมแดงอ้างถ้อยแถลงของผู้นำคิม
KCNA ไม่ได้อธิบายว่าเรือดำน้ำลำนี้ติดตั้งระบบอาวุธชนิดใดบ้าง และไม่ระบุว่าการไปตรวจเยี่ยมเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่
กองทัพโสมแดงมีกองเรือดำน้ำขนาดใหญ่ แต่เท่าที่ทราบกันมีเพียงเรือดำน้ำรุ่นทดลองชั้นซินโปอยู่ 1 ลำที่สามารถติดตั้งระบบขีปนาวุธทิ้งตัว (ballistic missile) ได้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า เมื่อดูจากขนาดของเรือดำน้ำลำใหม่เชื่อว่าน่าจะถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งขีปนาวุธได้อย่างแน่นอน
“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรือดำน้ำขนาดมหึมา และใหญ่ยิ่งกว่าลำที่เกาหลีเหนือนำออกมาให้ทั่วโลกได้เห็นตั้งแต่ปี 2014” อันกิต ปันดา นักวิจัยอาวุโสจากสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน ระบุ
“สิ่งที่ผมมองว่ามีนัยสำคัญทางการเมืองก็คือ มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่พิธีสวนสนามกองทัพเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2018 ที่ คิม จองอึน ได้ไปตรวจเยี่ยมระบบทางทหารที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอาวุธนิวเคลียร์”
เขาย้ำว่านี่คือสัญญาณเตือนกลายๆ ว่ากำหนดเส้นตายปลายปีนี้ที่ คิม จองอึน ขอให้สหรัฐฯ ปรับเปลี่ยนนโยบายต่อเกาหลีเหนือ “ควรจะได้รับการใส่ใจอย่างจริงจังที่สุด”
โครงการพัฒนาขีปนาวุธ SLBM ของเกาหลีเหนือรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ปี กระทั่งในปี 2016 ก็สามารถยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำได้สำเร็จ ติดตามมาด้วยการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ลูกแรกในเดือน ก.ค.ปี 2017
ผู้นำคิม ได้สั่งระงับโครงการทดสอบ ICBM และอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด หลังจากที่เกาหลีเหนือได้เริ่มเปิดเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปีที่แล้ว
กระแสข่าวเกี่ยวกับเรือดำน้ำเกาหลีเหนือมีขึ้นท่ามกลางความล่าช้าในการรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์ หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำ คิม ได้ตกลงกันที่หมู่บ้านปันมุนจอมชายแดนสองเกาหลีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่าจะเริ่มเปิดการเจรจาระดับคณะทำงานกันใหม่
ทรัมป์ ระบุว่าการพูดคุยน่าจะเกิดขึ้นได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ และล่าสุด จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ก็ได้เดินทางไปถึงเกาหลีใต้ในวันนี้ (23) เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว กลุ่มวิจัย 38 North ในสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ที่แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนืออาจจะกำลังสร้างเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่อู่ต่อเรือซินโป
“เท่าที่คาดคะเนจากสายตา มันน่าจะเป็นเรือดำน้ำที่ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ เรียกกันว่าชั้น Sinpo C ซึ่งเป็นรุ่นต่อเนื่องจากเรือดำน้ำติดขีปนาวุธรุ่นทดลองของเกาหลีเหนือ” ปันดากล่าว