เมื่อลองขับ Grab สักพัก พบว่าปัญหาเยอะกว่าที่คิดไว้

ขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมครับ ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้น โดยหัวข้อ คือ "ปัญหา" ดังนั้นผมจึงเน้นไปที่การพูดถึง "ปัญหา" โดยผมบอกไว้ในด้านบนแล้ว ย่อหน้าแรก ว่า เป็นการพบเจอจากสมาชิกที่ขับ Grab ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากประสบการณ์ของผมเพียงอย่างเดียวครับ

ผมเชื่อว่า ปัญหาที่จะได้รับการแก้ไข คือ ต้องมองเห็นปัญหา ถ้าซุกไว้ใต้พรม แล้วจะได้รับการแก้ไข? ถ้าปัญหาเกิด มีทางเดียว คือ รับสภาพห้ามบ่น รับำม่ได้ให้ออกจากตรงจุดนั้น ผมว่าสังคมเราจะล่มสลายแน่

ยังไงการขับ Grab ก็มีด้านดี มีประสบการณ์ที่ดี
เดี๋ยวจะขอทำอีกกระทู้ คู่ขนานกันไปละกันครับ

มีเวลาว่างอยู่พอควร เลยคิดจะหารายได้เสริม แต่ก็ไม่มีทุนและเวลาที่แน่นอน จึงเลือกมาขับ Grab ครับ
แล้วก็ได้ทำการศึกษาพอควร เข้ากลุ่ม Facebook เข้ากลุ่ม Line ทำให้พบเจอปัญหาที่สมาชิกขับ Grab แชร์ต่อกันมา
หลายเรื่องก็ไม่ได้เป็นที่รู้กันในหมู่คนทั่วไป เลยจะมาขอแชร์ให้รู้กัน

1. สถานะคนขับ Grab คือ Partner 
อย่างแรก การเป็นคนขับ Grab ไม่ได้มีสถานะเป็น ลูกจ้าง ของทางบริษัท ในทางหนึ่ง สถานะดูดี เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ แต่อีกมุมหนึ่ง คือ คุณไม่มีข้อผูกมัดกับทางธุรกิจ ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีการคุ้มครอง ไม่มีการเรียกร้อง หรือรับฟังเท่าที่ควร ทาง Grab สามารถที่จะตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบได้ โดยไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดใดได้เลย

2. ลูกค้าคือผู้ให้เงิน ดังนั้นลูกค้าจึงสำคัญกว่าเสมอ
ก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ ที่คนให้เงินย่อมสำคัญ ลูกค้าคือพระเจ้า เป็นคำที่ผมไม่ชอบแต่ต้องยอมรับว่า ในทางหนึ่งมันมีความจริง จากที่เจอเพื่อนสมาชิกบ่นถึง คือ ทางระบบฟังแต่ทางลูกค้าข้างเดียว ไม่รับฟังในมุมของ Partner เลยแม้แต่น้อย
ยกตัวอย่าง
ลูกค้า เรียกรถด้วยจำนวนคนที่มากจนไม่สามารถขึ้นรถได้ ลูกค้า Complain คนขับโดนตัดคะแนน
ลูกค้า ระบุจุดรับ หรือ จุดส่งผิดไปจากที่ต้องการจริง ถ้าคนขับจะไม่ทำตามลูกค้าบอก ลูกค้าประเมินคะแนนตัดคะแนนคนขับได้
ลูกค้า เรียกรถแล้วลูกค้ายกเลิก ระบบตัดคะแนนคนขับ

ซึ่งในความเป็นจริง ลูกค้าหลายราย หัวหมอ จนนำมาซึ่งปัญหา
เช่น
ลูกค้า 1 กลุ่ม เรียก Grab พร้อมกัน อย่างน้อย 2-3 เครื่อง มีคนรับทั้งหมด ก็รอจนคันแรกมาถึง แล้วยกเลิกคันที่เหลือ กรณีนี้ คันที่เหลือกำลังขับรถไปรับ ต้องเสียค่าน้ำมันฟรี และถูกตัดคะแนนคนขับด้วย 
ลูกค้าระบุจะไปสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ระบุพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อระบบคำนวนค่าเดินทาง จะคำนวนจากระยะทางที่ระบุไว้ ซึ่งไม่ตรงกับสถานที่จริง เช่น เรียกลงหน้าปากซอย แต่ให้ไปส่งในซอยลึกเข้าไปอีกหลายกิโลเมตร ถ้าคนขับจะไม่ไปส่งต่อ ในทางระบบถือว่าทำได้ แต่ถ้าลูกค้าประเมินคะแนน ก็โดนตัดคะแนนไป หรือ ถ้ายอมไปส่งตามที่ลูกค้าบอก ไม่สามารถเก็บค่าโดยสารเพิ่มได้ ถ้าเก็บเพิ่มเอง ลูกค้าอาจแจ้ง Call Center คนขับอาจถูกพักงานได้ และในทางจริง ถ้าจุดส่งจริงกับในระบบไม่ตรงกัน ระบบอาจแจ้งว่าส่งผู้โดยสารผิดจุด อาจถูกพักงานได้

3. ในทางกฎหมายการขับ Grab ยังไม่ถูกกฎหมาย
ถ้าหากมีปัญหากับทางตำรวจ ขึ้นมาทาง Grab ไม่มีมาตรการรองรับความเสียหายในส่วนนี้เลยแม้แต่น้อย คนขับจ่ายค่าปรับเอง ไม่สามารถเรียกร้องอะไรจาก Grab ได้เลย หรือแม้แต่ถูกวินมอเตอร์ไซต์ หรือ Taxi ทำร้าย ก็ต้องดำเนินการเอง ไม่มีการช่วยเหลือใดใด และในกรณีคนใช้บริการทำผิดกฎหมาย เช่น ขนสิ่งเสพติด คนขับก็จะโดนไปด้วย เพราะไม่มีการรองรับโดยกฎหมาย

4. รายได้จาก Grab ยังไงก็ได้อยู่ดี
หลายคนคงสงสัย หากจ่ายเงินสด บริษัทจะได้รายได้จากทางไหน คือ การขับ Grab สิ่งที่เจอ คือ ต้องเติมเงินเข้าไปในระบบ เรียกว่า Credit ถ้าหากมีการขับ ลูกค้าเรียก ระบบจะหักออกจากส่วนนี้ มากน้อยขึ้นอยู่กับประเภทการบริการ 

5. Grab เป็นระบบเหมาจ่าย คำนวนระยะทางจากระบบ ไม่ใช่มิเตอร์
สิ่งที่ Grab ต่างจาก Taxi คือ ราคาที่แจ้งแต่ต้น โดยราคาจะคำนวนจากระบบไม่ใช่ต้นทุนจริง
ยกตัวอย่าง
คนขับอยู่จุด A ลูกค้าเรียกจากจุด B ไปส่งที่จุด C ราคาจะคำนวนแค่ B->C เท่านั้น จาก A->B ไม่ถูกนำมาคิด ซึ่งหลายครั้งที่ระยะทางจาก A->B ไกลกว่า B->C เสียอีก
หรือ ระบบคำนวนว่าสามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้เพียง 2 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถ เพราะถนนเป็นทางรถเมล์ ช่องทางรถสาธารณะ ถ้าขับไปก็ถูกจับ หรือ ระบบคำนวนโดยอิงจากการเดินทางด้วย ทางด่วน แต่ลูกค้าขอไม่ขึ้น ค่าโดยสารก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ในบางครั้งถ้าไปด้วยทางด่วน 10 นาทีถึง แต่ถ้าวิ่งด้านล่างอาจใช้เวลา 40 นาทีก็เป็นได้ หลายครั้งที่คนขับต้องยอมจ่ายเอง และเรียกจากผู้โดยสารไม่ได้
รวมถึง ฝนตกรถติด ก็ตาม ในระบบมีอยู่ที่จะคิดจากสภาพการจราจร แต่ระบบก็ไม่อาจเทียบของจริง ระบบอาจขึ้นแค่ 15 นาที แต่ขับจริง 1.15 ชั่วโมง ก็เป็นไป ถ้าเป็น Taxi ค่าโดยสารก็ขึ้นตามระยะที่รถติด แต่ Grab ไม่ใช่ จึงเป็นสาเหตุว่า ผู้โดยสารหลายคนคิดว่า Grab ถูก

6. ปัญหาที่เกิดจากผู้โดยสาร คนขับรับเอง
ไม่ว่าจะเป็นการเมา อ้วก อาละวาด ทำสกปรก หรือแม้แต่การไม่ชำระค่าโดยสาร ทางระบบไม่สามารถจัดการอะไรให้ได้ ขนาดที่ข้อมูลลูกค้าชัดเจน ว่าไม่ชำระเงิน ระบบก็ไม่สามารถทวงได้ ต้องยอมรับสภาพกันไป สมมติผู้โดยสารลืมของไว้ในรถ คนขับขับกลับไปคืนให้ ก็ไม่สามารถเรียกค่าน้ำมัน ถ้าผู้โดยสารไม่ให้ได้ คือ ขับฟรีไป

ใครเจอปัญหา อะไรอื่นอีก ก็มาแชร์กันนะครับ
บางที ปัญหาที่เล็กๆ สะสม เข้า มันก็อาจใหญ่โตได้ บางครั้ง Grab อาจคิดว่ามีประชาชนหนุนหลังมากกว่า ก็อาจล้มได้ด้วยตัวเอง
ไม่จำเป็นที่วินหรือ Taxi จะต้องเรียกร้องอะไรเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่