เจอมากับตัวเลยครับ เหตุเกิดที่เอชพลานาด แคราย เพิ่งเจอคนแบบนี้ครั้งแรกตั้งแต่ดูหนังในโรงมา เป็นคนที่ดูหนังหนักมากตั้งแต่สมัคร M-Pass มา ที่ประจำคือที่นี่ ซึ่งผมไม่เคยพูดเตือนใครมาก่อนเลย อันไหนหย่วนได้ก็หย่วน ๆ ไป ซึ่งคนที่ผมเตือนเขานั่งหน้าผมเลย เริ่มหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งแต่ช่วงโฆษณาแล้ว แต่ก็หย่วน ๆ ให้ครับเพราะเห็นว่าช่วงโฆษณา แต่พอหนังเริ่ม เขาก็เริ่มเอาโทรศัพท์มาเปิดแชทบ่อยมากแสงนี่จ้าาไปหมด ผมโดนหนักสุด เพราะแถวผมมีผมที่นั่งหลังเขา แหละ 2 คน นับจากทางซ้าย 2 เบาะ แล้วก็นับจากทางขวาผมอีก 4 เบาะ 1 คน ทั้งโรงมีไม่ถึง 10 คนด้วยครับ ผมก็อดทนมาตลอดนะครับ จนเริ่มทนไม่ไหว ช่วงกลางเรื่องเพราะเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านนานมากแล้วแสงนี่สว่างจนผมแทบที่จะอ่านข้อความเขาได้เลย คือแสงสว่างเท่าภาพยนต์ไปเลย ผมสุดจะทนเลยเอนตัวไปข้างหน้าเพื่อบอกกับเขาเบา ๆ ว่า
ผม : ดูอะไรครับ ขอดูด้วยได้ไหม (ยอมรับว่ากวนตีนมากเพราะอดทนมาหลายรอบ เริ่มหมดความอดทน และคิดว่าคนแบบนี้ไม่สมควรพูดดี ๆ ด้วยแล้ว พร้อมบวกเลยครับตอนนั้น)
มัน : อะไร
ผม : ในโรงหนัง มีมารยาทบ้าง (ผมพูดห้วนๆ แบบนี้เลย ยอมรับว่าอาจจะไม่สุภาพนะครับ แต่ไม่มีหลุดคำหยาบแน่นอน)
มันเงียบ :
ผ่านไปซักพัก มันก็หยิบมาอีก ตอนนี้ผมรับรู้ได้ว่ามันหมั่นไส้ผมแน่ ๆ พอหนังจบมันลุกไปก่อนในขณะที่มันลุก มันหันมามองผม แต่ผมโฟกัสกับเบื้องหลังการถ่ายทำอยู่ ผมก็นั่งดูจนจบเบื้องหลัง ซึ่งผมสังเกตเห็นแล้วว่ามันไปรอผมตรงบันไดทางเดินออกจากโรงหนัง (ทางเดินที่เดินมาที่นั่งที่เป็นขั้น ๆ มี 2 ฝั่ง) ซึ่งผมก็เดินไปทางนั้นพอดี พอไปถึงใกล้ ๆ จุดที่มันยืนอยู่
มัน : ปากแบบนี้ระวังตีนนะ อย่าเสืกเรื่องคนอื่นให้มาก(กูเสืกอะไร) ควรพูด พี่ครับผมดูหนังอยู่ โทรศัพท์มันรบกวน //มันแก่กว่าผม (ผม 22 ) น่าจะรุ่นน้า รุ่นพี่ ไม่ก็แก่กว่าผม 5-10 ปี แต่ผมไม่สนครับคนแบบนี้ผมไม่เคารพ ต่อให้อายุจะมากกว่าขนาดไหน
ผม : คิดในใจทำไมกูต้องอ้อนวอนขนาดนั้นวะ เลยพูดออกไปว่า "แล้วผมพูดหยาบคายตรงไหน ก็นี่มันโรงหนังเขาก็งดใช้โทรศัพท์" (ตรงนี้ยอมรับครับว่าเวลาโมโหจะไม่สนอายุเลยว่าแก่กว่า เด็กกว่า สามารถหยาบใส่ได้หมด แต่ก็ไม่ได้หลุดหยาบไป ตอนนั้นพยายามให้สติอยู่กับตัวครับ ไม่เล่นตามเกมของมัน)
มันมากับเพื่อนรวมมัน เป็น 2 คน ผมมาคนเดียว ยอมรับครับว่าหุ่นมันกะผมต่างกันราวคนธรรมดา กับ คนเป็นเบาหวานระยะสุดท้ายครับแต่ผมทนไม่ได้กับคนแบบนี้จริง ๆ ผมเลยให้ฉายามันว่า "อ้วนน้ำอัดลม" น่าจะเหมาะกับมันมาก (ตรงนี้ขอโทษทุกคนไว้ล่วงหน้าเลยนะครับที่เอาเรื่องหุ่นมาเหยาะเย้ยมัน เพราะที่มันหาเรื่องผมผมก็คิดว่าเป็นเพราะผมเตี้ยกว่ามัน ตัวเล็กกว่ามัน มาคนเดีว ผมสูงประมาณ 163 น้ำหนัก 62 ไม่ผอมไม่อ้วนครับเพราะมีออกกำลังกายสายเวทมาบ้าง) ซึ่งพอออกมาถึงหน้าโรง
มัน : แพทเทิลเดิม ๆ เลย ระวังตีนไว้ จะเอาปะล่ะ รีบไปเลยนะ เริ่มขึ้นเสียง ตรงนี้อยู่หน้าโรงครับ เริ่มกร่างแหละเรียกร้องความสนใจอยากให้คนที่ออกจากโรงได้ยินประโยค "ปากอย่างนี้ระวังตีนไว้" (มันพูดคำนี้เยอะมากเหมือนจะให้คนอื่นได้ยินแบบว่า ผมปากดีที่ไปหาเรื่องมัน) ผมก็ยืนเถียงมันตรงหน้าโรงแหละครับซึ่งผมแทบจะไม่ได้พูดอะไรมากเลย มันพูดตัดประโยคผมทุกทีที่ผมพูด ผมเลยนิ่ง ทำตัวสุขุม แล้วมองมันตลอดคือไม่ไปไหนอ่ะ ไม่หลบสายตา กลัวมันหาว่าป๊อดและได้ใจ มาถึงจุดนี้คือผมไม่ยอม ไม่หย่วนอะไรแล้ว พร้อมสู้ เพราะผมคิดว่าผมทำในสิ่งที่ถูก และก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ผมก็ยืนสู้มันอยู่ตรงนั้นซักพัก พนักงานก็เหมือนจะเดินเข้ามา คนที่ออกมาจากโรงก็เริ่มมอง แล้วมันก็เอ่ยประโยคหาเรื่องมาครับ "จะเอาเลยไหม" แล้วมันก็ทำเหมือนจะพุ่งตัวมาหาผม แต่เพื่อนมันมากันไว้ แล้วก็เข้ามาคุยกับผมแทนมัน เพื่อนเขามาขอให้ผมไป
เพื่อนมัน : พูดทำนองว่า บางทีเขาก็ต้องหยิบโทรศัพท์มาติดต่องาน (อันนี้ค่อนข้างเลือนลาง เพราะจำไม่ได้อาจจะเพี้ยนไปจากความจริง คือในใจผมก็คิด แล้วทำไมไม่ย้ายไปที่ที่ไม่รบกวนคนอื่น หรืออกมาแชทข้างนอก แต่ไม่ได้พูดออกไปนะครับ) แล้วก็กล่อมให้ผมเดินไปจากมัน เขาพูดดีมากครับผมเลยยอมไป แล้วมันก็พูดไล่หลังมาว่า กูเจออะไรมาเยอะกว่า เดะจะโดนตีน ตอนนั้นผมคิดในใจ ถ้าแม่งกล้าขนาดปากพูด
เข้ามายำผมแล้วตั้งแต่ตรงบันไดแล้ว อันนี้ผมก็พอจะรู้แล้วว่าหมาเห่าหมาไม่กัดครับ เพราะเคยเห็นคลิปหาเรื่องกันที่แชร์บนโลกโซเชียลมาบ่อยมากค่อนข้างดูออกครับว่าใครดีแต่พูด
ขอโทษนะครับที่ค่อนข้างยาว อยากเล่าให้ละเอียด ไม่มีการเข้าข้างตัวเองแต่อย่างใด รู้นะครับว่าการกระทำผมไม่ได้ดีไปทั้งหมด เพราะ ณ ตอนนั้นมีอารมณ์เข้ามาร่วมด้วย จะขอบคุณมาก ๆ เลยถ้าอ่านจนจบ เพื่อน ๆ ในพันทิปมีความคิดเห็นอย่างไร หรือ อยากเล่าประสบการณ์แนว ๆ เดียวกัน มาพูดคุยกันครับ ไว้เป็นความรู้ในการรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตกันต่อไป
ปล.ทำไมไม่เดินออกมาติดต่อพนักงานให้ไปบอกเขาแทน 1.ไม่อยากรบกวนคนที่ผมต้องเดินผ่าน 2.พนักงานก็เป็นเด็ก ๆ นี่แหละครับคิดว่าคงไม่ต่างอะไรกัน
เตือนคนที่หยิบโทรศัพท์มาแชทในขณะรับชมภาพยนต์ในโรงภาพยนต์ ต้องเจอแบบนี้ ?
ผม : ดูอะไรครับ ขอดูด้วยได้ไหม (ยอมรับว่ากวนตีนมากเพราะอดทนมาหลายรอบ เริ่มหมดความอดทน และคิดว่าคนแบบนี้ไม่สมควรพูดดี ๆ ด้วยแล้ว พร้อมบวกเลยครับตอนนั้น)
มัน : อะไร
ผม : ในโรงหนัง มีมารยาทบ้าง (ผมพูดห้วนๆ แบบนี้เลย ยอมรับว่าอาจจะไม่สุภาพนะครับ แต่ไม่มีหลุดคำหยาบแน่นอน)
มันเงียบ :
ผ่านไปซักพัก มันก็หยิบมาอีก ตอนนี้ผมรับรู้ได้ว่ามันหมั่นไส้ผมแน่ ๆ พอหนังจบมันลุกไปก่อนในขณะที่มันลุก มันหันมามองผม แต่ผมโฟกัสกับเบื้องหลังการถ่ายทำอยู่ ผมก็นั่งดูจนจบเบื้องหลัง ซึ่งผมสังเกตเห็นแล้วว่ามันไปรอผมตรงบันไดทางเดินออกจากโรงหนัง (ทางเดินที่เดินมาที่นั่งที่เป็นขั้น ๆ มี 2 ฝั่ง) ซึ่งผมก็เดินไปทางนั้นพอดี พอไปถึงใกล้ ๆ จุดที่มันยืนอยู่
มัน : ปากแบบนี้ระวังตีนนะ อย่าเสืกเรื่องคนอื่นให้มาก(กูเสืกอะไร) ควรพูด พี่ครับผมดูหนังอยู่ โทรศัพท์มันรบกวน //มันแก่กว่าผม (ผม 22 ) น่าจะรุ่นน้า รุ่นพี่ ไม่ก็แก่กว่าผม 5-10 ปี แต่ผมไม่สนครับคนแบบนี้ผมไม่เคารพ ต่อให้อายุจะมากกว่าขนาดไหน
ผม : คิดในใจทำไมกูต้องอ้อนวอนขนาดนั้นวะ เลยพูดออกไปว่า "แล้วผมพูดหยาบคายตรงไหน ก็นี่มันโรงหนังเขาก็งดใช้โทรศัพท์" (ตรงนี้ยอมรับครับว่าเวลาโมโหจะไม่สนอายุเลยว่าแก่กว่า เด็กกว่า สามารถหยาบใส่ได้หมด แต่ก็ไม่ได้หลุดหยาบไป ตอนนั้นพยายามให้สติอยู่กับตัวครับ ไม่เล่นตามเกมของมัน)
มันมากับเพื่อนรวมมัน เป็น 2 คน ผมมาคนเดียว ยอมรับครับว่าหุ่นมันกะผมต่างกันราวคนธรรมดา กับ คนเป็นเบาหวานระยะสุดท้ายครับแต่ผมทนไม่ได้กับคนแบบนี้จริง ๆ ผมเลยให้ฉายามันว่า "อ้วนน้ำอัดลม" น่าจะเหมาะกับมันมาก (ตรงนี้ขอโทษทุกคนไว้ล่วงหน้าเลยนะครับที่เอาเรื่องหุ่นมาเหยาะเย้ยมัน เพราะที่มันหาเรื่องผมผมก็คิดว่าเป็นเพราะผมเตี้ยกว่ามัน ตัวเล็กกว่ามัน มาคนเดีว ผมสูงประมาณ 163 น้ำหนัก 62 ไม่ผอมไม่อ้วนครับเพราะมีออกกำลังกายสายเวทมาบ้าง) ซึ่งพอออกมาถึงหน้าโรง
มัน : แพทเทิลเดิม ๆ เลย ระวังตีนไว้ จะเอาปะล่ะ รีบไปเลยนะ เริ่มขึ้นเสียง ตรงนี้อยู่หน้าโรงครับ เริ่มกร่างแหละเรียกร้องความสนใจอยากให้คนที่ออกจากโรงได้ยินประโยค "ปากอย่างนี้ระวังตีนไว้" (มันพูดคำนี้เยอะมากเหมือนจะให้คนอื่นได้ยินแบบว่า ผมปากดีที่ไปหาเรื่องมัน) ผมก็ยืนเถียงมันตรงหน้าโรงแหละครับซึ่งผมแทบจะไม่ได้พูดอะไรมากเลย มันพูดตัดประโยคผมทุกทีที่ผมพูด ผมเลยนิ่ง ทำตัวสุขุม แล้วมองมันตลอดคือไม่ไปไหนอ่ะ ไม่หลบสายตา กลัวมันหาว่าป๊อดและได้ใจ มาถึงจุดนี้คือผมไม่ยอม ไม่หย่วนอะไรแล้ว พร้อมสู้ เพราะผมคิดว่าผมทำในสิ่งที่ถูก และก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ผมก็ยืนสู้มันอยู่ตรงนั้นซักพัก พนักงานก็เหมือนจะเดินเข้ามา คนที่ออกมาจากโรงก็เริ่มมอง แล้วมันก็เอ่ยประโยคหาเรื่องมาครับ "จะเอาเลยไหม" แล้วมันก็ทำเหมือนจะพุ่งตัวมาหาผม แต่เพื่อนมันมากันไว้ แล้วก็เข้ามาคุยกับผมแทนมัน เพื่อนเขามาขอให้ผมไป
เพื่อนมัน : พูดทำนองว่า บางทีเขาก็ต้องหยิบโทรศัพท์มาติดต่องาน (อันนี้ค่อนข้างเลือนลาง เพราะจำไม่ได้อาจจะเพี้ยนไปจากความจริง คือในใจผมก็คิด แล้วทำไมไม่ย้ายไปที่ที่ไม่รบกวนคนอื่น หรืออกมาแชทข้างนอก แต่ไม่ได้พูดออกไปนะครับ) แล้วก็กล่อมให้ผมเดินไปจากมัน เขาพูดดีมากครับผมเลยยอมไป แล้วมันก็พูดไล่หลังมาว่า กูเจออะไรมาเยอะกว่า เดะจะโดนตีน ตอนนั้นผมคิดในใจ ถ้าแม่งกล้าขนาดปากพูดเข้ามายำผมแล้วตั้งแต่ตรงบันไดแล้ว อันนี้ผมก็พอจะรู้แล้วว่าหมาเห่าหมาไม่กัดครับ เพราะเคยเห็นคลิปหาเรื่องกันที่แชร์บนโลกโซเชียลมาบ่อยมากค่อนข้างดูออกครับว่าใครดีแต่พูด
ขอโทษนะครับที่ค่อนข้างยาว อยากเล่าให้ละเอียด ไม่มีการเข้าข้างตัวเองแต่อย่างใด รู้นะครับว่าการกระทำผมไม่ได้ดีไปทั้งหมด เพราะ ณ ตอนนั้นมีอารมณ์เข้ามาร่วมด้วย จะขอบคุณมาก ๆ เลยถ้าอ่านจนจบ เพื่อน ๆ ในพันทิปมีความคิดเห็นอย่างไร หรือ อยากเล่าประสบการณ์แนว ๆ เดียวกัน มาพูดคุยกันครับ ไว้เป็นความรู้ในการรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตกันต่อไป
ปล.ทำไมไม่เดินออกมาติดต่อพนักงานให้ไปบอกเขาแทน 1.ไม่อยากรบกวนคนที่ผมต้องเดินผ่าน 2.พนักงานก็เป็นเด็ก ๆ นี่แหละครับคิดว่าคงไม่ต่างอะไรกัน