หลังจากที่เมื่อวานเราเที่ยวทั้ง ปราสาทนครวัด และปราสาทในเมืองนครธม วันนี้เราจึงขอ ชิลๆในเมืองกันบ้าง กะว่าจะหาคาเฟ่นั่งตอนเช้า และชมวัดในเมือง รวมถึงยังชั่งใจกับที่บ้านอยู่ว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ดีหรือไม่
ย้อนดูการเดินทางของเราได้ที่
Day1 >>>
https://ppantip.com/topic/39056555
Day2-1>>>
https://ppantip.com/topic/39061100
Day2-2>>>
https://ppantip.com/topic/39062130
10.00
ตื่นนอน เนื่องจากเมื่อวานใช้ร่างหนักมากทั้งเดิน ทั้งกิน วันนี้เลยพักยาวๆ แล้วจึงแบกร่างออกไปกินมื้อสายกันตามร้านที่รีวิวมา
11.00
จริงๆเรารีวิวมาหลายร้านมาก แต่เลือกร้านนี้เพราะมาง่าย อยู่ถนนหลังซอย pub street ร้านนี้เชื่อว่าหลายคนรู้จักเพระาดังอยู่ มีชื่อว่า
Blue pumpkin แต่... บอกแล้วว่าทริปเราไม่เคยมีไรราบรื่น มีรีวิวร้านนี้ต่ออีกล่ะ...
Blue pumpkin ร้านเบเกอรี่ และเค้กแนวฝรั่งเศส ร้านสีฟ้าน้ำเงิน ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญไม่เปิดแอร์ (แม้ว่าสภาพอากาศและบรรยากาศร้านเหมาะที่จะเปิดแอร์มากก็ตาม) ถามว่ารู้จักร้านนี้จากไหน ก็ดูรีวิวในยูทูปไปเรื่อย (มีในสปอยล์) เลยอยากมาลอง บวกกับรีวิวใน TripAdvisor ดูดีใช้ได้โดยเฉพาะไอศกรีม ยิ่งทำให้อยากชิมมมม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=6umDvPxkuq8
สิ่งที่เจอคือ
อาหารหน้าตาดี รสชาติอร่อยทุกเมนู อร่อยจริงๆ
Pork Char Siv NomPang 3.90us คล้ายๆหมูแดงย่างกับขนมปัง หอมมาก
Cabonara
Beef Lasagne 5.50us
Fish Amok 4.50us รสชาติกลมกล่อมดี อร่อย
Tom Yum Sea Food Fried Rice 4.50us
Ice Latte 2us x2
Water1.5L 2us
แต่ที่แพงสุดก็
ไอศกรีมที่เขาว่าเป็นของเด็ดของร้าน
เลือกสั่งไอศกรีมเมนูท๊อปเลย คือฟองดูว์ไอสกรีม 14ลูก ราคาตามบิล14.02us (ราคาในเมนู14.00us)
เรื่องราวเกิดตั้งแต่เราเดินไปขอชิมรสชาติหน้าตู้ไอสกรีม พนักงานหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆและ บอกว่า คนนึงชิมได้ไม่เดิน 1 รส ก็โอเค ชิมเสร็จแล้วก็เลือกรส แล้วก็เดินกลับมารอที่โต๊ะ มองๆไปที่พนักงานที่กำลังเตรียมไอศกรีมก็เห็นว่ากำลังหั่นผลไม้เสร็จแล้วก็ยกไอศกรีมที่ตักไว้แล้วในตู้แช่ออกมาเสิร์ฟโต๊ะเรา หน้าตาแบบนี้
สังเกตความละลายของไอศกรีมคือเริ่มไม่เป็นลูกแล้ว รสที่เลือกกองรวมกันแยกรสชาติไม่ได้ สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนเริ่มมองหน้ากันว่าไม่โอเค
กับการกินไอติมแบบนึ่ี้ จึงยกไอศกรีมเดินไปสอบถามพนักงาน คีย์เวิดที่เราพูดคือ เราได้รับ
Melted ice cream ซึ่งมันไม่โอเคนะ เพิ่งมาเสิร์ฟเอง
แต่สิ่งที่เราโดนตอกกลับมา คือ No, it is not Melted ice cream. Our ice cream is
"Soft ice cream" แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เรา
ณ ตอนนั้นสิ่งที่ทำได้คือ
1.ขอคืน ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่ได้อะไรคืน เนื่องจากไอสกรีมมันก็ละลายลงทุกวินาที
2.กินมันเข้าไปแล้วไปบ่นให้โลกรู้ถึงความไม่โอเคของคุณภาพและ บริการร้านนี้
เราเลยจำต้องเลือกวิธีที่สอง
สภาพไอสกรีมหลังไปเถียงกับพนง.แล้ว
เมื่อเราลองเปิดรีวิว TripAdvisor อีกสักที ก็เริ่มเจอโพสเรื่องความไม่โอเคของไอสกรีมแบบเรา ถือว่าเราไม่ได้โดนคนเดียวแล้วกัน พอเจอร้านนี้เลยเลิกกินตามรีวิวเลยเชียว ร้านไหนถูกชะตาเข้าเลยไม่สนใจรีวิวไรแล้ว บอกตรง!!!!
13.00
จากร้านอาหารเราเดินไปยังวัดเพียรพรหมรัตน์ ซึ่งเป็นวันสำคัญวัดนึงของเมืองเสียมเรียบ
วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1371 ตามตำนานหนึ่งที่เกี่ยวข้องของการสร้างวัดนี้คือเพื่ออุทิศให้แก่พระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพ ในทุกๆวัน หลวงพ่อจะพายเรือออกบิณฑบาต ข้ามโตนเลสาบจากเสียมเรียบ ไปเมืองลงแวก ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทั้งสองเมืองอยู่ห่างกันเกือบ 300 กมซึ่งการเดินทางด้วยเรือในสมัยนั้นอาจต้องใช้เวลาถึง 2 วัน แต่แล้วในวันหนึ่ง เรือก็ถูกฉลามเข้าชนจนขาดเป็นสองท่อน หลวงพ่อยึดท่อนหน้าของเรือได้ลอยเหนือโตนเลสาบอย่างรวดเร็วจนไปถึงเสียมเรียบจนเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านจึงสร้างวัดแห่งนี้ไว้ตรงที่เรือมาถึงเสียมเรียบ ขณะที่ส่วนท้ายเรือลอยไปยังเมืองบริบูรณ์ทางตอนใต้ของโตนเลสาบ
Ref:
http://nhoomthonburi.blogspot.com/2016/05/economical-traveler.html
มาวัดนี้ตั้งใจมาสักการะพระซึ่งเป็นตำนานหนึ่งของการสร้างวัดซึ่งอยู่หลังองค์พระประธานในโบสถ์ (เดินให้สุดนะ)
•หลังจากนั้นเราเดินดูรอบวัดและก็บังเอิญได้ยินภาษาไทยแว่วๆจึงเดินตามเสียงไปพบกับคุณครูกำลังสอนภาษาไทยนร.สองคนอยู่นั่นเองซักไซ้ไล่เรียงกันก็ได้ความว่าคุณครูท่านนี้เคยเดินทางมาเรียนภาษาไทย และเคยอาศัยอยู่ที่จันทบุรี ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่เสียมเรียบ ส่วนเด็กๆที่เมืองนี้นั้นส่วนใหญ่ก็สนใจเรียนภาษาที่สามกันทั้งนั้นอย่างน้องสองคนนี้ก็สนใจเรียนภาษาไทยซึ่งคนนึงต้องการมาศึกษาต่อที่ประเทศไทยจึงลองศึกษาด้วยตัวเองมาก่อนจากยูทูปส่วนอีกคนก็เรียนอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้วจึงใช้เวลาช่วงปิดเทอมเรียนภาษาไทยเพิ่มเติมซึ่งน้องทั้งสองคนก็พยายามพูดคุยภาษาไทยกันอย่างคล่องแคล่วน่าดีใจมากๆที่มีเพื่อนบ้านเราสนใจภาษาไทยเรา แต่อีกใจนึงก็สะท้อนแรงๆเลยว่าตอนนี้เพื่อนบ้านเรามีความสามารถมากกว่าเราอย่างยิ่งแล้ว
เนื่องจากเค้าสามารถพูดภาษาบ้านเราได้ ในขณะที่เราไม่ได้ภาษาบ้านเขาเลย
14.30
เนื่องจากจุดหมายของเราอีกสองที่ห่างจากที่นี่พอควร เราจึงเหมาตุ๊กๆ 6us ไปยัง วัดใหม่, พิพิธภัณฑ์อังกอร์ ซึงอยู่ห่างไปอีกพอสมควร
ที่แรกคือ วัดใหม่ หรือวัดทะเมย (Wat Thmei) เป็นวัดที่สร้างทับพื้นที่เดิมที่เป็นพื้นที่ทิ้งศพชาวแขมร์ที่ไม่ยอมเข้าเป็นสมาชิกของเขมรแดง จึงเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เรียกว่าเป็นทุ่งสังหารในเสียมเรียบ ในปี พ.ศ.2518 - 2522 รวมระยะเวลาเกือบ5 ปี ซึ่งในสมัยนั้นมีคนตายทั้งประเทศกว่า 3 ล้านคน
ตึกนี้ที่เคยเ็นที่คุมขังชาวแขมร์สมัยนั้น
ที่จัดแสดงโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะของผู้ที่เสียชีวิตเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงความโหดร้ายในอดีต
พระประธานในโบสถ์
จากนั้นเราก็มาต่อที่
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังกอร์ (Angkor National Museum)
เป็นพื้นที่จัดแสดงวัตถุโบราณที่พบในนครวัดนครธม ส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นทั้งที่เป็นพระพุทธรูปปางต่างๆทีทำจากวัสดุต่างกันซึ่งบ่งบอกถึงยุคสมัย และรูปปั้นที่เป็นเทพตามศาสนาพรามณ์ฮินดู คือ พระวิษณุ พระนารายณ์ และพระพรหม และโบราณวัตถุอื่นๆที่เกี่ยวข้อง (แต่ไม่ให้ถ่ายรูปนะ)
พื้นที่ในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 8 ส่วน คือ
ห้องจัดแสดงพิเศษ 1,000 Buddha Images
ห้องจัดแสดง A Khmer Civilization
ห้องจัดแสดง B The Religion and Beliefs
ห้องจัดแสดง C The Great Khmer Kings
ห้องจัดแสดง D Angkor Wat
ห้องจัดแสดง E Angkor Thom
ห้องจัดแสดง F The Story From Stone
ห้องจัดแสดง G The Ancient Costume
โดยการนำเสนอจะเรียงตามลำดับและวิวัฒนาการของประวัติศาสตร์กัมพูชา และก่อนเข้าสู่ห้องจัดแสดง จะได้รับการต้อนรับสู่ The Brieng Hall เพื่อรับชมวิดีโอแนะนำการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์โดยหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามภาษาต่างๆถึง 7 ภาษา คือ ภาษาเขมร จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย
หากอยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตามตำนานจากโบราณวัตถุสามารถมาที่นี่ เช่าวิทยุเสียงเดินฟังตามจุดต่างๆ มาที่นี่ก่อนไปชมจริงก็ดี แต่คหสต.หากจ้างไกด์ระหว่างเดินดูของจริงอยู่แล้ว จะไม่มาที่นี่ก็ไม่เสียหายอะไร โปรดักชั่นยังไม่ชวนฟินเท่าที่ควร Ref:
http://smilethaiecotour.net/Cambodiatravel/CD1.html
อีกที่นึงที่ดูแล้วน่าสนใจก็เห็นจะเป็น Angkor Panorama Museum 20us ราคาแรงไปหน่อย เป็นที่แสดงภาพวาดสีน้ำมัน360° แสดงแบบจำลองแผนผังปราสาทและภาพยนตร์ 3D อธิบายการสร้างนครวัดและชีวิตชาวแขมร์ แต่ยังไม่ค่อยเห็นใครรีวิวนัก
ที่มาhttps://cambodiatourism.co/where-to-go/angkor-panorama-museum.html
http://www.ninebooking.com/travel/เสียมเรียบ-หรือ-เสียมรา/
18.00 มื้อเย็น เรากะจะเลือกทานสตรีทฟู้ดใกล้ๆตลาดเก่า แต่ใจไม่กล้าพอ
เลยเข้าร้านอาหารง่ายๆเหมือนเดิม แต่ร้านนี้รสชาติสู้ร้านใกล้ที่พักไม่ได้เลย แถม ทำช้ามาก อาจเพราะแม่ครัวน้อย
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
Khmer Noodles Pork 2.50us หมูผัดกับซอสหวานๆเค็มๆ กินกับเส้นขนมจีนและน้ำจิ้มคล้ายๆอาหารเวียดนามเบาๆ
ต้มยำไก่ 3.00us เมนูต้มยำต้องมีทุกมื้อเลยจริงๆ
Pork Lok Lak 3.50us ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อ มีร้านนี้ที่ถามดูแล้วทำหมูให้ได้ ภาพไม่ตรงปกเมื่อเทียบกับลกหลักเนื้อเท่าไร รสชาติเหมือนหมูกระเทียม
ชอบที่ทุกเมนูเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ แยกจากกับข้าว ข้าวที่นี่นุ่มอร่อยดีมากเลยเชียว
มื้อนี้รวม 24.25us
หลังจากนั้นก็เดินเล่น night market ซึ่งเดินข้ามสะพานถึง คล้าย JJ
เดินเล่นรอบๆเมืองก็จะเจอทั้งโรงหนังเมเจอร์แบบบ้านเรา (ห้องน้ำที่นี่ สะอาดดีมาก แนะนำ)
เที่ยวเพลินจนลืมหารถกลับพรุ่งนี้ ต้องรีบหาด่วนๆ ร้านสีเขียวชื่อ Wing มั้ง ถ้าจำชื่อไม่ผิด อยู่หัวโค้งตรงข้าม เมเจอร์เลย หาไม่ยาก สุดท้ายก็ได้รถกลับราคาดี คนละ8Us มีให้เลือกหลายเวลา เลือกรอบช้าสุด รถจะมารับที่รร. 10.30
คืนนี้เท่านี้ เจอกันกระทู้หน้าสุดท้ายแล้วจ้า
[CR] เมื่ออยากนั่งรถไปเที่ยว Siem Reap ช่วงหน้าฝน ฉบับครอบครัว แนวชิลทั้งนครวัดนครธม,พิพิธภัณฑ์,คาเฟ่ งบ 5000 Day3
ย้อนดูการเดินทางของเราได้ที่
Day1 >>> https://ppantip.com/topic/39056555
Day2-1>>> https://ppantip.com/topic/39061100
Day2-2>>> https://ppantip.com/topic/39062130
10.00
ตื่นนอน เนื่องจากเมื่อวานใช้ร่างหนักมากทั้งเดิน ทั้งกิน วันนี้เลยพักยาวๆ แล้วจึงแบกร่างออกไปกินมื้อสายกันตามร้านที่รีวิวมา
11.00
จริงๆเรารีวิวมาหลายร้านมาก แต่เลือกร้านนี้เพราะมาง่าย อยู่ถนนหลังซอย pub street ร้านนี้เชื่อว่าหลายคนรู้จักเพระาดังอยู่ มีชื่อว่า Blue pumpkin แต่... บอกแล้วว่าทริปเราไม่เคยมีไรราบรื่น มีรีวิวร้านนี้ต่ออีกล่ะ...
Blue pumpkin ร้านเบเกอรี่ และเค้กแนวฝรั่งเศส ร้านสีฟ้าน้ำเงิน ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญไม่เปิดแอร์ (แม้ว่าสภาพอากาศและบรรยากาศร้านเหมาะที่จะเปิดแอร์มากก็ตาม) ถามว่ารู้จักร้านนี้จากไหน ก็ดูรีวิวในยูทูปไปเรื่อย (มีในสปอยล์) เลยอยากมาลอง บวกกับรีวิวใน TripAdvisor ดูดีใช้ได้โดยเฉพาะไอศกรีม ยิ่งทำให้อยากชิมมมม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิ่งที่เจอคือ
อาหารหน้าตาดี รสชาติอร่อยทุกเมนู อร่อยจริงๆ
Pork Char Siv NomPang 3.90us คล้ายๆหมูแดงย่างกับขนมปัง หอมมาก
Cabonara
Beef Lasagne 5.50us
Fish Amok 4.50us รสชาติกลมกล่อมดี อร่อย
Tom Yum Sea Food Fried Rice 4.50us
Ice Latte 2us x2
Water1.5L 2us
แต่ที่แพงสุดก็ ไอศกรีมที่เขาว่าเป็นของเด็ดของร้าน
เลือกสั่งไอศกรีมเมนูท๊อปเลย คือฟองดูว์ไอสกรีม 14ลูก ราคาตามบิล14.02us (ราคาในเมนู14.00us)
เรื่องราวเกิดตั้งแต่เราเดินไปขอชิมรสชาติหน้าตู้ไอสกรีม พนักงานหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆและ บอกว่า คนนึงชิมได้ไม่เดิน 1 รส ก็โอเค ชิมเสร็จแล้วก็เลือกรส แล้วก็เดินกลับมารอที่โต๊ะ มองๆไปที่พนักงานที่กำลังเตรียมไอศกรีมก็เห็นว่ากำลังหั่นผลไม้เสร็จแล้วก็ยกไอศกรีมที่ตักไว้แล้วในตู้แช่ออกมาเสิร์ฟโต๊ะเรา หน้าตาแบบนี้
สังเกตความละลายของไอศกรีมคือเริ่มไม่เป็นลูกแล้ว รสที่เลือกกองรวมกันแยกรสชาติไม่ได้ สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนเริ่มมองหน้ากันว่าไม่โอเค
กับการกินไอติมแบบนึ่ี้ จึงยกไอศกรีมเดินไปสอบถามพนักงาน คีย์เวิดที่เราพูดคือ เราได้รับ Melted ice cream ซึ่งมันไม่โอเคนะ เพิ่งมาเสิร์ฟเอง
แต่สิ่งที่เราโดนตอกกลับมา คือ No, it is not Melted ice cream. Our ice cream is "Soft ice cream" แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เรา
2.กินมันเข้าไปแล้วไปบ่นให้โลกรู้ถึงความไม่โอเคของคุณภาพและ บริการร้านนี้
เราเลยจำต้องเลือกวิธีที่สอง
สภาพไอสกรีมหลังไปเถียงกับพนง.แล้ว
เมื่อเราลองเปิดรีวิว TripAdvisor อีกสักที ก็เริ่มเจอโพสเรื่องความไม่โอเคของไอสกรีมแบบเรา ถือว่าเราไม่ได้โดนคนเดียวแล้วกัน พอเจอร้านนี้เลยเลิกกินตามรีวิวเลยเชียว ร้านไหนถูกชะตาเข้าเลยไม่สนใจรีวิวไรแล้ว บอกตรง!!!!
13.00
จากร้านอาหารเราเดินไปยังวัดเพียรพรหมรัตน์ ซึ่งเป็นวันสำคัญวัดนึงของเมืองเสียมเรียบ
วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1371 ตามตำนานหนึ่งที่เกี่ยวข้องของการสร้างวัดนี้คือเพื่ออุทิศให้แก่พระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพ ในทุกๆวัน หลวงพ่อจะพายเรือออกบิณฑบาต ข้ามโตนเลสาบจากเสียมเรียบ ไปเมืองลงแวก ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทั้งสองเมืองอยู่ห่างกันเกือบ 300 กมซึ่งการเดินทางด้วยเรือในสมัยนั้นอาจต้องใช้เวลาถึง 2 วัน แต่แล้วในวันหนึ่ง เรือก็ถูกฉลามเข้าชนจนขาดเป็นสองท่อน หลวงพ่อยึดท่อนหน้าของเรือได้ลอยเหนือโตนเลสาบอย่างรวดเร็วจนไปถึงเสียมเรียบจนเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านจึงสร้างวัดแห่งนี้ไว้ตรงที่เรือมาถึงเสียมเรียบ ขณะที่ส่วนท้ายเรือลอยไปยังเมืองบริบูรณ์ทางตอนใต้ของโตนเลสาบ
Ref:http://nhoomthonburi.blogspot.com/2016/05/economical-traveler.html
มาวัดนี้ตั้งใจมาสักการะพระซึ่งเป็นตำนานหนึ่งของการสร้างวัดซึ่งอยู่หลังองค์พระประธานในโบสถ์ (เดินให้สุดนะ)
•หลังจากนั้นเราเดินดูรอบวัดและก็บังเอิญได้ยินภาษาไทยแว่วๆจึงเดินตามเสียงไปพบกับคุณครูกำลังสอนภาษาไทยนร.สองคนอยู่นั่นเองซักไซ้ไล่เรียงกันก็ได้ความว่าคุณครูท่านนี้เคยเดินทางมาเรียนภาษาไทย และเคยอาศัยอยู่ที่จันทบุรี ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่เสียมเรียบ ส่วนเด็กๆที่เมืองนี้นั้นส่วนใหญ่ก็สนใจเรียนภาษาที่สามกันทั้งนั้นอย่างน้องสองคนนี้ก็สนใจเรียนภาษาไทยซึ่งคนนึงต้องการมาศึกษาต่อที่ประเทศไทยจึงลองศึกษาด้วยตัวเองมาก่อนจากยูทูปส่วนอีกคนก็เรียนอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้วจึงใช้เวลาช่วงปิดเทอมเรียนภาษาไทยเพิ่มเติมซึ่งน้องทั้งสองคนก็พยายามพูดคุยภาษาไทยกันอย่างคล่องแคล่วน่าดีใจมากๆที่มีเพื่อนบ้านเราสนใจภาษาไทยเรา แต่อีกใจนึงก็สะท้อนแรงๆเลยว่าตอนนี้เพื่อนบ้านเรามีความสามารถมากกว่าเราอย่างยิ่งแล้ว
เนื่องจากเค้าสามารถพูดภาษาบ้านเราได้ ในขณะที่เราไม่ได้ภาษาบ้านเขาเลย
14.30
เนื่องจากจุดหมายของเราอีกสองที่ห่างจากที่นี่พอควร เราจึงเหมาตุ๊กๆ 6us ไปยัง วัดใหม่, พิพิธภัณฑ์อังกอร์ ซึงอยู่ห่างไปอีกพอสมควร
ที่แรกคือ วัดใหม่ หรือวัดทะเมย (Wat Thmei) เป็นวัดที่สร้างทับพื้นที่เดิมที่เป็นพื้นที่ทิ้งศพชาวแขมร์ที่ไม่ยอมเข้าเป็นสมาชิกของเขมรแดง จึงเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เรียกว่าเป็นทุ่งสังหารในเสียมเรียบ ในปี พ.ศ.2518 - 2522 รวมระยะเวลาเกือบ5 ปี ซึ่งในสมัยนั้นมีคนตายทั้งประเทศกว่า 3 ล้านคน
ตึกนี้ที่เคยเ็นที่คุมขังชาวแขมร์สมัยนั้น
ที่จัดแสดงโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะของผู้ที่เสียชีวิตเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงความโหดร้ายในอดีต
พระประธานในโบสถ์
จากนั้นเราก็มาต่อที่
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังกอร์ (Angkor National Museum)
เป็นพื้นที่จัดแสดงวัตถุโบราณที่พบในนครวัดนครธม ส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นทั้งที่เป็นพระพุทธรูปปางต่างๆทีทำจากวัสดุต่างกันซึ่งบ่งบอกถึงยุคสมัย และรูปปั้นที่เป็นเทพตามศาสนาพรามณ์ฮินดู คือ พระวิษณุ พระนารายณ์ และพระพรหม และโบราณวัตถุอื่นๆที่เกี่ยวข้อง (แต่ไม่ให้ถ่ายรูปนะ)
พื้นที่ในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 8 ส่วน คือ
ห้องจัดแสดงพิเศษ 1,000 Buddha Images
ห้องจัดแสดง A Khmer Civilization
ห้องจัดแสดง B The Religion and Beliefs
ห้องจัดแสดง C The Great Khmer Kings
ห้องจัดแสดง D Angkor Wat
ห้องจัดแสดง E Angkor Thom
ห้องจัดแสดง F The Story From Stone
ห้องจัดแสดง G The Ancient Costume
โดยการนำเสนอจะเรียงตามลำดับและวิวัฒนาการของประวัติศาสตร์กัมพูชา และก่อนเข้าสู่ห้องจัดแสดง จะได้รับการต้อนรับสู่ The Brieng Hall เพื่อรับชมวิดีโอแนะนำการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์โดยหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามภาษาต่างๆถึง 7 ภาษา คือ ภาษาเขมร จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย
หากอยากศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตามตำนานจากโบราณวัตถุสามารถมาที่นี่ เช่าวิทยุเสียงเดินฟังตามจุดต่างๆ มาที่นี่ก่อนไปชมจริงก็ดี แต่คหสต.หากจ้างไกด์ระหว่างเดินดูของจริงอยู่แล้ว จะไม่มาที่นี่ก็ไม่เสียหายอะไร โปรดักชั่นยังไม่ชวนฟินเท่าที่ควร Ref:http://smilethaiecotour.net/Cambodiatravel/CD1.html
อีกที่นึงที่ดูแล้วน่าสนใจก็เห็นจะเป็น Angkor Panorama Museum 20us ราคาแรงไปหน่อย เป็นที่แสดงภาพวาดสีน้ำมัน360° แสดงแบบจำลองแผนผังปราสาทและภาพยนตร์ 3D อธิบายการสร้างนครวัดและชีวิตชาวแขมร์ แต่ยังไม่ค่อยเห็นใครรีวิวนัก
ที่มาhttps://cambodiatourism.co/where-to-go/angkor-panorama-museum.html
http://www.ninebooking.com/travel/เสียมเรียบ-หรือ-เสียมรา/
18.00 มื้อเย็น เรากะจะเลือกทานสตรีทฟู้ดใกล้ๆตลาดเก่า แต่ใจไม่กล้าพอ
เลยเข้าร้านอาหารง่ายๆเหมือนเดิม แต่ร้านนี้รสชาติสู้ร้านใกล้ที่พักไม่ได้เลย แถม ทำช้ามาก อาจเพราะแม่ครัวน้อย
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
Khmer Noodles Pork 2.50us หมูผัดกับซอสหวานๆเค็มๆ กินกับเส้นขนมจีนและน้ำจิ้มคล้ายๆอาหารเวียดนามเบาๆ
ต้มยำไก่ 3.00us เมนูต้มยำต้องมีทุกมื้อเลยจริงๆ
Pork Lok Lak 3.50us ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อ มีร้านนี้ที่ถามดูแล้วทำหมูให้ได้ ภาพไม่ตรงปกเมื่อเทียบกับลกหลักเนื้อเท่าไร รสชาติเหมือนหมูกระเทียม
ชอบที่ทุกเมนูเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ แยกจากกับข้าว ข้าวที่นี่นุ่มอร่อยดีมากเลยเชียว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้