อย่างแรกล่าสุดเลยนี่คือ...เราเป็นฝ่ายคุยกับเขาก่อนแต่ก็คุยเรื่องงานนะเรื่องการบ้าน แต่พอเราได้รู้จักกันและเริ่มสนิทกัน ใช่แต่ก่อนเราคุยกันทุกวันคือคุณนึกอะไรออกปะว่า แรกๆมันก็เป็นแค่เพื่อน เพื่อนกัน เพื่อนสนิท แต่พอมาหลังๆนี่เรารู้สึกเหมือนกับว่า มันไม่ใช่แค่เพื่อนมันเป็นทั้ง2คือเพื่อนกับแฟน แรกๆก็ ก็ดีนะ ก็คุยกันตลอด โทรหากันทางเฟสตลอด หรือไม่ก็เจอกันก็คุยกัน แต่ แต่เดี๋ยวนี้เราเลิกแล้ว เลิกก็เลิกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเราที่เรารายงานการบ้านให้เขาในตอนที่เขาไม่อยู่ เขาลาเราก็ลาให้ เขาสายเราก็เช็คชื่อให้ เขาเข้าแถวไม่ทันเราก็ติ๊กถูกให้ ติ๊กถูกคือมา วงกลมคือไม่มาหรือขาดสายลาป่วยทำนองนี้ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้คุยกันอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นเจอกันหรือในทางเฟส เขาเปลี่ยนไปเรารู้สึกอยู่ รู้สึกแบบว่า คุณนึกออกปะว่า แรกๆเขาก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ทุกวันนี้มันเหมือนกับว่าเขาเป็นคนละคนหรือเป็นอีกคนนึง คือสรุป เขาคนเดิมได้หายไปและได้ตายไปแล้ว มันก็เลยเหลือแต่เขาคนใหม่ซึ่งเขามีอีกด้านนึงมีอีกมุมนึงที่เราไม่เคยได้รู้จัก เขาคนเดิมคนเก่าคนที่เรารู้จักมันไม่ใช่เป็นคนปัจจุบัน เราเข้าใจอยู่นะในความแตกต่างที่แบบในลักษณะที่...ปุ๊ปปั๊ป รับโชคจนได้เห็นได้ชัด เห็นได้แบบโห....
จนมีช่วงนีงที่คืนนั้นเกิดเรื่อง คือเรื่องมันก็ยาวมาก มีคืนนั้นพ่อเราถามเราว่า เขาได้เคยช่วยหนูทำการบ้านไหม?
เราก็ตอบไปอย่างชัดเจนและไม่โกหก ว่า ไม่ ทีนี้ขอเล่าย่อๆนะ
แม่เราโทรหาเขาทางเฟส พอในขณะที่แม่เราถามเขา แม่เราก็ถามเขาว่า (ขอไม่ระบุชื่อเพื่อนเรานะ) แม่เราถามเขาว่า จริงหรอที่ว่า เขาได้ช่วยเราทำการบ้านไหม เขาเคยเคลียร์งานให้เราไหม เขาก็ตอบแม่เราว่า ไม่คับ เขาไม่เคยช่วยผมตามงานหรือช่วยผมทำการบ้านเลยคับ ซึ่ง...ฉันผิดหวังกับเพื่อนคนนี้มาก...!! และฉันว่าเขาโกหกทั้งหมดที่เขาพูดมา พอฉันได้ยินได้ฟังแล้วนี่มันคือแบบ....เพื่อนกันหรือแฟนกันทำไมต้องโกหกกันด้วยทำไมมีอะไรต้องมาปิดบังกันด้วยก็ไม่รู้เขาตอบโกหกเราและแม่เราไม่พอยังโกหกพ่อเราและอาจารย์ประจำชั้นด้วย ก็แทนที่ที่เขาจะตอบว่า อ้อ คับ เรามีอะไรๆเราก็ช่วยๆกันคับ เขาตามงานให้ผม เขาช่วยผมทำการบ้าน เขาเคยช่วยติวภาษาอังกฤษให้ผมคับ เขาช่วยผมเยอะมากๆเลยคับ
ฉันเลยอยากถามพวกคุณว่า พวกคุณคอดอะไรยังไงแบบนี้กับเพื่อนในสถานการณ์แบบนี้? แล้วพวกคุณรู้อะไรอีกไหมว่า พอหลังจากคืนวันนั้น เรากับเขาก็เลิกกันไป ไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน หรือทั้ง2 แรกๆเราคบกันมันก็ดีนะ
แต่หลังๆพอเลิกกันมา เดี๋ยวนี้เราเป็นได้แค่คนรู้จัก คืนนั้นฉันร้องไห้หนัก หนักมาก!! เพราะเขาไม่เคยขอโทษที่โกหกเราและครอบครัวเราและอาจารย์ประจำชั้น เขากลัวว่าตัวเขาเองจะโดนอาจารย์ด่าว่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ คือเพื่อนสนิทดีๆกันจริงๆเขาต้องปกป้องความรู้สึกของอีกฝ่ายนึงสิ แต่นี้คือ ผิด ผิดแล้วไง ก็ไม่แล้วไงหรอก ก็ทุกคนก็พากันหลงเชื่อคำโกหกของเพื่อนเราได้ลงคอ แล้วในคืนนั้นเองเนี่ย..เราก็เกือบจะโดนพ่อให้เราออกตากโรงเรียน สุดท้ายเราพูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ มันแปลกตรงนี้นี่แหละ สรุปนะ เราไม่ผิด เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดๆเสียหายมาสักหน่อยเราไม่ได้โกหกใครนี่ แค่เขาคนๆเดียวมันก็ทำให้ทุกๆอย่างวุ่นวายและเป็นเรื่องใหญ่ได้ในท้ายที่สุด และเราก็เกือบจะได้ออกจากการเรียน...
เคยเจอเพื่อนแบบนี้ไหม? แรกๆบอกไม่ทิ้งเรา จะช่วยเหลือเรา แต่หลังๆมาเป็นคนละคนเลย แถมทิ้งเราอีก ไม่พอก็ไม่ช่วยเรา
จนมีช่วงนีงที่คืนนั้นเกิดเรื่อง คือเรื่องมันก็ยาวมาก มีคืนนั้นพ่อเราถามเราว่า เขาได้เคยช่วยหนูทำการบ้านไหม?
เราก็ตอบไปอย่างชัดเจนและไม่โกหก ว่า ไม่ ทีนี้ขอเล่าย่อๆนะ
แม่เราโทรหาเขาทางเฟส พอในขณะที่แม่เราถามเขา แม่เราก็ถามเขาว่า (ขอไม่ระบุชื่อเพื่อนเรานะ) แม่เราถามเขาว่า จริงหรอที่ว่า เขาได้ช่วยเราทำการบ้านไหม เขาเคยเคลียร์งานให้เราไหม เขาก็ตอบแม่เราว่า ไม่คับ เขาไม่เคยช่วยผมตามงานหรือช่วยผมทำการบ้านเลยคับ ซึ่ง...ฉันผิดหวังกับเพื่อนคนนี้มาก...!! และฉันว่าเขาโกหกทั้งหมดที่เขาพูดมา พอฉันได้ยินได้ฟังแล้วนี่มันคือแบบ....เพื่อนกันหรือแฟนกันทำไมต้องโกหกกันด้วยทำไมมีอะไรต้องมาปิดบังกันด้วยก็ไม่รู้เขาตอบโกหกเราและแม่เราไม่พอยังโกหกพ่อเราและอาจารย์ประจำชั้นด้วย ก็แทนที่ที่เขาจะตอบว่า อ้อ คับ เรามีอะไรๆเราก็ช่วยๆกันคับ เขาตามงานให้ผม เขาช่วยผมทำการบ้าน เขาเคยช่วยติวภาษาอังกฤษให้ผมคับ เขาช่วยผมเยอะมากๆเลยคับ
ฉันเลยอยากถามพวกคุณว่า พวกคุณคอดอะไรยังไงแบบนี้กับเพื่อนในสถานการณ์แบบนี้? แล้วพวกคุณรู้อะไรอีกไหมว่า พอหลังจากคืนวันนั้น เรากับเขาก็เลิกกันไป ไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน หรือทั้ง2 แรกๆเราคบกันมันก็ดีนะ
แต่หลังๆพอเลิกกันมา เดี๋ยวนี้เราเป็นได้แค่คนรู้จัก คืนนั้นฉันร้องไห้หนัก หนักมาก!! เพราะเขาไม่เคยขอโทษที่โกหกเราและครอบครัวเราและอาจารย์ประจำชั้น เขากลัวว่าตัวเขาเองจะโดนอาจารย์ด่าว่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ คือเพื่อนสนิทดีๆกันจริงๆเขาต้องปกป้องความรู้สึกของอีกฝ่ายนึงสิ แต่นี้คือ ผิด ผิดแล้วไง ก็ไม่แล้วไงหรอก ก็ทุกคนก็พากันหลงเชื่อคำโกหกของเพื่อนเราได้ลงคอ แล้วในคืนนั้นเองเนี่ย..เราก็เกือบจะโดนพ่อให้เราออกตากโรงเรียน สุดท้ายเราพูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ มันแปลกตรงนี้นี่แหละ สรุปนะ เราไม่ผิด เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดๆเสียหายมาสักหน่อยเราไม่ได้โกหกใครนี่ แค่เขาคนๆเดียวมันก็ทำให้ทุกๆอย่างวุ่นวายและเป็นเรื่องใหญ่ได้ในท้ายที่สุด และเราก็เกือบจะได้ออกจากการเรียน...