ถ้าวันหนึ่งเราเกิดพบว่า ได้บริจาคเงินให้กับพระที่ไม่ดี หรือพวกอลัชชี เราจะทำอย่างไรหรือวางใจอย่างไรจึงจะไม่รู้สึกเป็นทุกข์ ไม่รู้สึกเสียดาย?
ก่อนอื่น ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า ไม่มีคำว่า "บังเอิญ" ในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น เงินที่เราบริจาคให้อลัชชีไปนั้น ย่อมไม่ใช่สิ่งสูญเปล่า หมายถึงไม่ใช่สิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
เพราะนั่นคือกฏแห่งกรรมของเราเอง
ในอดีตชาติ หรืออาจจะเป็นชาติที่แล้ว เราอาจจะเคยโกงเงิน หรือหลอกคนให้บริจาคเงิน และชาตินี้เรากำลังชดใช้สิ่งนั้นคืน
พระหรืออลัชชีที่โกงเงินเรา โกงคนอื่นก็เช่นเดียวกัน ในชาติใดชาติหนึ่งพวกเขาก็ต้องรับผลของกรรมนั้น บางทีอาจจะได้รับผลกรรมในชาตินี้เลย
ซึ่งการที่เราคิดได้แบบนี้ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับในกฏแห่งกรรม นั่นหมายถึงเราเป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งนี่ถือว่าเป็นผลบุญอย่างหนึ่ง และเป็นผลบุญที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าผลบุญจากการทำทานใดๆ เพราะสามารถละความหลงหรือละโมหะได้
หลักการนี้ สามารถใช้กับกับทุกเรื่อง ทุกกรณีนะครับ ที่จริงก็เป็นสิ่งที่ผมระลึกถึงอยู่เสมอในชีวิตประจำวัน
วิธีวางใจไม่ให้เป็นทุกข์ หากภายหลังพบว่าได้บริจาคเงินให้กับพระไม่ดีหรืออลัชชี
ก่อนอื่น ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า ไม่มีคำว่า "บังเอิญ" ในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น เงินที่เราบริจาคให้อลัชชีไปนั้น ย่อมไม่ใช่สิ่งสูญเปล่า หมายถึงไม่ใช่สิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
เพราะนั่นคือกฏแห่งกรรมของเราเอง
ในอดีตชาติ หรืออาจจะเป็นชาติที่แล้ว เราอาจจะเคยโกงเงิน หรือหลอกคนให้บริจาคเงิน และชาตินี้เรากำลังชดใช้สิ่งนั้นคืน
พระหรืออลัชชีที่โกงเงินเรา โกงคนอื่นก็เช่นเดียวกัน ในชาติใดชาติหนึ่งพวกเขาก็ต้องรับผลของกรรมนั้น บางทีอาจจะได้รับผลกรรมในชาตินี้เลย
ซึ่งการที่เราคิดได้แบบนี้ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับในกฏแห่งกรรม นั่นหมายถึงเราเป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งนี่ถือว่าเป็นผลบุญอย่างหนึ่ง และเป็นผลบุญที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าผลบุญจากการทำทานใดๆ เพราะสามารถละความหลงหรือละโมหะได้
หลักการนี้ สามารถใช้กับกับทุกเรื่อง ทุกกรณีนะครับ ที่จริงก็เป็นสิ่งที่ผมระลึกถึงอยู่เสมอในชีวิตประจำวัน