ผมขออนุญาตแชร์เรื่องราวดีๆ ที่ได้ไปปรึกษาและทำศัลฯ เสริมจมูกเสริมสร้างความมั่นใจนะครับ ส่วนตัวผมมองว่าเรื่องอยู่ที่ตัวตนเรามากกว่า ติดกับแค่จมูกที่มันไร้ดั้งไปหน่อยเวลาถ่ายรูป แสงน้อยๆ หรือกึ่งสว่างจมูกเราจะดูเบี้ยวเพราะดั้งน้อยครับแต่ปลายเชิดอยู่ ผมตัดสินใจติดตามเรื่องการเสริมมาแล้วไม่นานก็ได้เข้าปรึกษาคุณหมอเมื่อวันที่ 18/7/2019 ที่ผ่านมานี้เอง

ก่อนเข้าปรึกษาคุณหมอก็ทำบุญบ้าง ถ่ายรูปบ้างไว้ให้เทียบพื้นเพเดิมจมูกผมครับ 

หันข้างบางมุมมันก็ดูดีนะครับ แต่บางมุมก็ดูหักไปเลย ส่วนหน้าตรงไม่มีประเด็นครับ ผมชอบหน้าตรงตัวเองที่สุด.. 

ตัดภาพไปที่คลีนิคครับ ..วันที่ 18/7/2019 ผมมีวันหยุดเหลืออีก 1 วันสำหรับพักฟื้นคือ พรุ่งนี้ แต่ต้องไปทำงานวันที่ 20/7/2019 ก็ลังเลครับว่าจะทำดีไหม เพราะเหลือเวลาฟื้นตัวไม่นาน หากมาปรึกษาก็อยากจะตัดสินใจทำเลยเพราะอยากทำมานานแล้วด้วยครับ (ผมแนะนำว่าท่านใดที่จะมาทำ ควรศึกษาข้อมุลเรื่องนี้ให้ดีที่สุดก่อนนะครับ ทั้งการเตรียมตัว การรักษาดูแล สิ่งที่ควรเลี่ยง ค่าใช้จ่าย) ซึ่งตอนที่ผมมาถึงที่คลีนิคก็ประมาน 14.00น. แล้ว นั่งรอประมาน 15-20น. ก็เข้าพบคุณหมอเฉลิม ผมไม่ได้เตรียมสคริป รุปแบบที่ชอบ หรือความต้องการเราเท่าไหร่เลย เพียงเพราะเห็นผลงานท่านแล้วชอบแต่ก็ไม่ได้เอาให้ดูแต่แรก อยากได้จมูกที่เหมาะกับหน้าเรามากกว่าครับ จึงให้เค้าแนะนำให้

คุณหมอบอกว่า ทรงจมุกของผมน่าทำอยุ่ เค้าก็ให้เราถือกระจกพอส่องได้ทั้งหน้า และไม้จิ้มฟัน(ไม่รุ้ใช้ยังนะ5555+ แต่ผมไม่ถือ) แตะๆที่ดั้งเราบอกว่าจะเพิ่มตรงนี้เข้าหน่อย ให้ดูธรรมชาติ เมื่อดั้งสูงจึ้น ก็ต้องเพิ่มปลายให้พุ่งขึ้นเช่นกัน เคสเราสามารถเพิ่มได้แบบชนิดที่คนใกล้ตัวไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง / แบบที่เปลี่ยนไปในสายตาคนรุ้จักเดิม แต่ยังคงรักษาความธรรมชาติ / และก็รู้เลยว่าอินี่ทำมาแน่นอน... ก็มีหลายแบบให้เราเลือกอยุ่นะ แล้วแต่เราคุณหมอดูแลให้ได้หมด พอพูดจบคุณหมอก็เปิดรุปในคอมให้ดูเคสตัวอย่างที่เอามาเป็นแบบ สรุปผมเลือกแบบที่ว่าคนใกล้คัวก็รุ้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแต่ยังคงธรรมชาติ เพิ่มดั้งสุงขึ้นประมาน 4-5 มิลไปเลยย จากนั้นพุดคุยเสร็จคุณหมอก็ให้เรามาตัดสินใจครับว่าจะทำไหม ส่วนตัวคุณหมอไม่มีประเด็นอะไรมากกับพื้นเพเดิมของผม

ผมก็เดินออกจากห้องครับระหว่างนั้นก็สอบถามผู้ช่วยคุณหมอว่าถ้าทำนานไหม รักษาดูแลยังไง  รถจอดที่ไหน (จอดที่ตลาดบองมาเช่เลยจ้า) ผมก็ไปเลื่อนรถจากหน้าคลีนิคไปในตลาดตามที่เค้าแนะนำเพราะ 16.00น. ขึ้นไป ตำรวจจะมาล้อคล้อ ระหว่างทางเดินไปรถก็ลังเลใจครับ เทียบกับเวลาพักฟื้นที่เหลือ 1วัน

....ผ่านไป 15นาทีกลับมาก็แจ้งคุณหมอตกลงนัดคิวทำเดี้ยวนั้นเลย เพราะคุณหมอกำลังว่าง การที่เค้าว่างจะมีเวลาตัดแต่งให้เราเยอะขึ้นไม่ต้องเร่ง รีบร้อนเก็บคิวงาน ผมก็เอาวะมาถึงนี้ละ จัดแจงสอบถามค่าใช้จ่าย (หลังไมค์ได้ครับ) และโอนเงินเข้าบช. คุณหมอโดยตรงเลย ก็แจ้งยอดให้ทางเคาเตอร์ทราบเป็นอันรอคิวผ่าตัดครับ

ก่อนหน้านั้นเค้าจะให้เราเข้าห้องตรวจถ่ายรุปก่อนทำ 5 แบบ หน้าตรง 1รุป เอียง 45องศา (ซ้ายขวา) อย่างละ 1รุป และ หันข้าง (ซ้ายขวา) อย่างละ 1รุป รอคิวนานหน่อยเพราะว่ามีติดเคสด่วนพอดี จากประมาน 14.00น. ไปถึงประมาน 19.40น.  ก่อนเข้าห้องผ่าตัดต้องทำการล้างหน้าด้วยน้ำ 1รอบ ชฌลมด้วยยาค่าเชื้อ (สี+กลิ่นคล้ายเบตาดีน) 1รอบ และวักน้ำเปล่าล้างอีก 1รอบ เค้าจะให้หมวกคลุมผมกับผ้าขนหนูเช็ดหน้าผืนเล็กให้ 1ชุดครับ

ก่อนผ่าตัดมีผู้ช่วยแพทย์คนนึงเทคแคร์ผมดีมากเลย เดินมาถามผมเป็นระยะๆ อัพเดตคิวล่าสุดให้ทราบ แล้วก็ถามว่าตกลงแบบกับคุณหมอแน่แล้วใช่ไหม จะพบคุณหมออีกทีไหมจะได้บอกความต้องการเราถุกต้องตรงกัน ผมก็เลยเข้าไปขอพบคุณหมออีกรอบครับ เปิดแบบที่ดูรีวิวในเว็ปมาสองแบบให้คุณหมอดูว่าแบบไหนเหมาะกับเรา ผมชอบทรงฝรั่งดูอินเตอร์หน่อย ดั้งโด่ง ปลายพุ่งหน่อย หรือเป็นสันคมเข้ม ตามตัวอย่างสองแบบครับ

แบบที่ 1
https://fortune-clinic.com/reviews/c17-wat/

แบบที่ 2
https://fortune-clinic.com/reviews/c17-review-hit-man/

ทั้งสองเคสนี้คุณหมอเฉลิมดูแลทั้งคู่เลยเชื่อในผลงานครับ พอคุณหมอเห็นบอกว่าต้องเอาสูงกว่า 4-5มิลแล้วนะแบบนี้ ไปสัก 8มิล ไหวไหม .. ทั้งนี้ตามแต่เราต้องการนะ หมอไม่บังคับ 😁😁 ผมเลยเลือกสูงไว้ก่อนครับ แต่คุณหมอเค้าเฟริมมาแล้วว่าไม่ทะลุ ผมก็ตามนั้นเลย ตกลงกันที่ 8 มิล

*สภาพก่อนเข้าห้องยังของถ่ายสักรุปนึง
อันนี้ถ่ายเมื่อเย็นครับ นั่งว่างๆ

เอาละ... รอคุณหมอพักทานข้าวแปปนึงก่อน ตัดแต่งมาตั้งแต่บ่ายเดี้ยวไม่มีแรงสะก่อน ^^ ผมรอได้ครับ

จากนั้นก็เข้าห้องเตรียมผ่าตัดครับ ผมนี่หลับตาปี๋เลย เค้าจะให้เราเก็บผมให้หมด นอนลงบนเตียง มีหลอดไฟใหญ่ๆ 1ดวงข้างบน ห่มผ้าให้ ในห้องหนาวชะมัดเลย มือประสานกันได้แต่ต้องต่ำกว่าช่วงอก-ท้องลงไป (คงน่าจะไปทับผ้าแกน่ะครับ) จากนั้นเค้าก็เช็ดหน้าเราด้วยน้ำยา 2ครั้ง กลิ่นคล้ายแอลกอฮอล จากนั้นดคเาบอกว่าห้ามเราจับ แตะ ล้วง แคะ เกา บนหน้าเด็ดขาด จะคันหรืออะไรให้บอกผู้ช่วยแพทย์ จากนั้นไม่นานคุณหมออีกท่าน เดินเข้ามาช่วยดูแลฉีดยาชาให้  ครั้งแรกอาการคล้ายมดตะนอยกัดเลยครับ แต่ห้ามเอามือปัดและเราจะรุ้สึกว่าถุกเสียบด้วยด้ามเข็มยาชาคาอยุ่ แต่คุณหมอมือนิ่งมากตอนเอาออกยังไม่ค่อยเจ็บเลย เค้าบอกว่าเตรียมเข็มที่สองเจ็บนิดนึงนะคะ เเละก็เสียบเข้ามาครับ ครั้งนี้ก็คล้ายอาการมดตัวเล็กกว่าหน่อยกัดอยุ่เช่นกันส่วนความรุ้สึกมันเริ่มอื้ออึง ชาๆ แต่รุ้สึกว่ามีเข็มกำลังคาอยุ่ที่จมุกเรา 555+ ผมกลัวครับ กลัวมากไม่กล้าลืมตา เครียด มือเย็น แขนขาเกร็งไปหมด อาการความรุ้สึกจากการฉีดยา ระหว่างการทำนะครับ เราจะไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย แต่ถ้าตอนไหนเจ็บคุณหมอจะแจ้งเราให้ทราบก่อนตลอดครับ ที่รู้ๆ นะ มันต้องมีการตะไบ หรืออะไรแน่เลย เสียงเหมือนเอาแปรงสีฟันแปรงในจมุกเรา เพียงแต่เราไม่เจ้บเลย  เสียงแบบ แซ๊กกๆๆ แซ๊กๆ บางทีก็มีกด มีกระทุ้ง มีดัน มีบีบ เป็นธรรมดานะครับ แต่ผมเกร็งจนต้องขอมือผู้ช่วยแพทย์มาจับไว้ 5555+ (เค้าก็ให้ยืมมือมาจับนะครับ ส่วนตัวผมให้เกียรติเค้ามากกว่าที่จะคิดอะไรเกินเลย ในหน้าที่นั้นๆ อ่ะครับ คนบนเตียงทนมานสุด เกร็งสุด เครียดสุด)

เท่าที่หลับตาฟังนะครับ เคสผมฐานจมูกฝั่งซ้ายมันสุงกว่า จึงต้องตะไบออก ส่วนซิลิโคนที่ใส่มามันชอบเอียงซ้าย คุณหมอเล็งกันอยุ่นานเพื่อแก้ให้เสร็จทีเดียวครั้งนี้ครับ 

เอาล่ะ!!เสร็จแล้ว!?
รุ้สึกว่ามันทั้งบวม ทั้งแดง และก็มึนมากเลยตอนนี้ คุณหมอบอกกลับไหวไหม ขับรถได้แน่นะคะ? 555 ผมก็รับยากลับเลยครับ ตอนนั้นเสร็จก็อยุ่ที่ประมาน 22.00น.พอดี ค่าจอดรถที่ตลาด รวมแล้ว 160บาทจ้า