เราติดตาม บล็อกเกอร์ ท่านหนึ่งนานมาก เราก็รู้สึกว่าหลังๆงะ มันเป็นเป็นเชิงธุรกิจบ้าง เรื่องจริงบ้าง
แต่ที่เราเชื่อเพราะว่า บล็อกเกอร์ท่านนี้ก็ยังไปร้านเดิมอยู่ เราก็เชื่อใจมันต้องดีแน่เลย ประกอบกับปัญหาเราคล้ายกัน
เราเป็นคนที่มีวังวนกับการการยืด ทำสี มาตั้งแต่เรียนมัธยม เริ่มจากยืดก่อน ผมก็เสีย กระด้าง
ก็จะกลับไปยืดใหม่ วนไปโคนงอกก็ไปยืด จนล่าสุดเราไปกัดสีผมแล้วคือ ผมพังจนต้องตัด พังขนาดว่า รังนก เลย
โคนผมหยิกติดหนังศรีษะ แล้วทีนี้ ผมที่งอกใหม่หลังจากนี้ คือ ดื้อสุด จัดทรงยาก หนีบไม่ลง ต้องใช้ไฟแรง
ปัญหาผมแห้งก็กลับมา เลยเป็นที่มาให้เราหาทางทำให้ผมมันดี ก่อนไม่มีผมให้บำรุง
จนเรามาเจอการทำทรีทเม้นท์ตัวหนึ่งที่ร้านบอกว่าเทียบเท่ากับการยืดผม ทำให้ผมมีน้ำหนัก เงางาม ไม่ชี้ฟู
ด้วยความที่อยากออกจากวังวนการยืดผม ผมลีบแบน ปลายเป็นวุ้นก็ลอง ตัดสินใจ inbox ไปเพื่อนัดคิว
เริ่มการโทรถามโปรโมชั่น ให้ส่งภาพผมเข้าไป ทางเพจก็แจ้งราคาเรามา ก็รับได้ นัดวันกัน ผ่านไป
หลายวัน เพจยังไม่อ่านข้อความก็โทรไปใหม่ เริ่มต้นใหม่ เข้าใจว่า คนดูเพจอาจจะคนละคน เคเริ่มใหม่ นัดวันใหม่
พอวันที่เราไปทำ โอแม่เจ้า คือ นัดไว้ 10 โมง คือ คนแน่นร้านไม่มีที่ให้นั่งเลย นี้ขนาดมาตอนเปิดร้าน และเราก็คิดว่า
เราต้องได้ทำ สรุปว่า ให้เรารอก่อน เราก็คิดในใจ ให้เราโทรจองเพื่ออะไรว่ะ เราก็เดินเล่นหลายชั่วโมงมากเวอร์
นานแค่ไหนหรอ ก็ได้ทำตอน 4 โมงเย็นค่ะ ระหว่างที่เรารอตอนเช้า 10 โมง ก็ไม่เหลือหน้าคนเดิมๆที่มารอ
แต่คนก็ยังเต็มร้านเช่นเดิม ตอนแรกร้านก็โทรมาบอกว่า น้องๆเข้ามาเลยได้คิวแล้ว มาตอน บ่ายสอง คือ คนแน่นไม่มีแม้แต่ที่นั่งรอ
ถึงต้องกลับไปเดินเล่นใหม่ พอ4 โมงมาใหม่มารอ แต่ อารมณ์เก้าอี้ดนตรีงะ อีกคนไปสระ อีกคนก็มาไดร์
คือ บริการจัดการดีมาก ( ประชดนะ ) แล้วคือ ค่าทำก็ไม่ถูกนะ 5xxx สำหรับเรามองว่ามันน่าเกลียดมาก ทุเรศเลย
นัดก็ควรเป็นนัด ต้องซื่อสัตย์เรื่องเวลา ไหม
ยังไม่จบ ขั้นตอนการทำผม ก็ลดลงจากเดิม ( ใช้คำนี้เพราะเคยเห็นจะวีดีโอที่ บล็อกเกอร์ ถ่าย ) สระผมแล้วก็มาใส่ ทรีทเม้นท์ เลย
เราก็ถามว่า พี่ไม่ ดีท๊อกซ์ ผมกับหนังศรีษะหรอค่ะ เขาก็ตอบว่า จริงๆไม่ต้องก็ได้ค่ะ แค่สระอย่างเดียวก็พอ
แล้วปล่อยเราไว้มุมหนึ่งของร้านกับเครื่องอบอินฟาเรด ที่เม้งดังเหมือนจะพัง ร้อนมาก ไม่โดนแอร์ แถมเครื่องให้ความร้อนไปอีก
ทิ้งไว้จนต้อง เดินไปหาช่างว่า พี่หนูปวดหัว แสบตัว และหน้ามากเลยเครื่องร้อนมาก ขอบหน้าแดง แขนแสบไปหมด ช่างก็มาดู
อีห่าลืม เบาไฟตามสภาพผมลูกค้า ( ในจุดนั้นกูมาทำร้ายตัวเองทำไมว่ะ )
** บอกก่อนขั้นตอนนี้ เราไม่ได้ถึงตัวช่างที่เป็นช่างทำทรีทเม้นท์ นะ เพราะขั้นตอนสระไดร์ ลงทรีทเม้นท์ จะเป็นผู้ช่วย **
มาถึงตอนที่อยู่ช่างที่ดูแลเราจริงๆละ เขาก็โอเคกับการทำผมนะ มีความละเอียด ดีมาก ทำให้ อารมณ์ตอนนั้นอุ่นใจ
เหมือนว่า ดีนะที่อดทน มันก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น ช่างเขาก็ทำผมโอเคไม่รีบร้อนใส่ แค่ ร้านบริหารจัดการคิวไม่ดี
เขาต้องการรับลูกค้าเยอะๆ เข้าใจนะ แต่ มันก็ต้องคำนวณเวลาที่ทำ และเซอร์วิช ลูกค้าด้วย คือ ในราคานี้ที่เราทำมา นัด 10 โมง
ก็เริ่มตั้งแต่ทำ 10 โมง ช้าเร็วก็ไม่ถึง 30 นาที เขาไหว้แล้วไหว้อีก แต่ที่นี้เรียกว่าก็ดังในระดับหนึ่งละ แต่ความดังมันก็ดับนะ
ถ้าบริการแบบนี้ คือ รับ ลูกค้า walk in ด้วย ลูกค้านัดก็รับ เอาจริงๆสงสารช่างนะ ยืดทำไปบ่นไป ลูกค้าก็ลำคาน ยังรับลูกค้าทำนอกเหนือที่นัด
ไม่เช็คสภาพเครื่องอบผมอันนี้เคืองมาก แล้วตอนจบพูดว่ารีวิวให้พี่ด้วยนะ เนี่ยมารีวิวให้ละ คุณเจ้าของ
ขอร้องเลย ร้านทำผม อย่างทำนิสัยแบบนี้เลย นัดคือนัด ลูกค้าต้องการการดูแลจากช่าง ต้องการพูดคุยดูแลเรื่องผมงะ เอาจริงๆ
ไม่ได้มาเพื่อเล่นเก้าอี้ดนตรี แล้วสุดท้ายเรามานั่งรักษาหนังหัวลอก หน้าลอก แขนแสบแดง แล้วสระผม 2 ครั้ง
ก็สระผมไม่ได้เพราะ แสบมาต้องไปหมอ ผมก็ไม่ได้ตรงมีน้ำหนัก อะไร ฟู ไร้น้ำหนักเหมือนเดิม แต่หน้าเกลียดที่โคนผมตรงเงางาม กลางผมลงมาฟูมาก
คนเข้าใจว่าเราไปดัดผม แล้วลอนแตก
เราคิดว่ามันน่าจะมาจากร้านไม่ได้ดูแล เช็คสภาพผม ผสมทรีทเม้นท์ เพราะถ้าเช็คก่อนตามที่ช่างคุยในโทรศัพท์ มันจะเหมือนการลงสี ควรลงตรงไหนก่อนหลัง เพราะ ทรีทเม้นท์ ก็คือเคมี ทิ้งไว้บนหนังศรีษะนานๆไม่ดี
เราไม่ได้เรียกร้องอะไรเพราะมันเป็นความเต็มใจที่เราไปทำ จ่ายเงินและรอ เปรียบเทียบว่า ที่เรากินข้าว ร้านนั้นร้านที่ คนที่ชอบทำผมก็คงจะประมาณนี้แหละ
เราก็อยากรู้ว่า ร้านไหนโอเค สบายใจสุด เพราะไม่ใช่เรื่องกินที่เราว่าอร่อย ถูกแต่บริการไม่ดีก็ไม่เข้า เหมือนกันทำผมงะ มันก็ต้องดูหลายๆอย่าง ถูกหรือแพงบางครั้งก็ลองดู
เคยไปทำผมร้านดังแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดไหม
แต่ที่เราเชื่อเพราะว่า บล็อกเกอร์ท่านนี้ก็ยังไปร้านเดิมอยู่ เราก็เชื่อใจมันต้องดีแน่เลย ประกอบกับปัญหาเราคล้ายกัน
เราเป็นคนที่มีวังวนกับการการยืด ทำสี มาตั้งแต่เรียนมัธยม เริ่มจากยืดก่อน ผมก็เสีย กระด้าง
ก็จะกลับไปยืดใหม่ วนไปโคนงอกก็ไปยืด จนล่าสุดเราไปกัดสีผมแล้วคือ ผมพังจนต้องตัด พังขนาดว่า รังนก เลย
โคนผมหยิกติดหนังศรีษะ แล้วทีนี้ ผมที่งอกใหม่หลังจากนี้ คือ ดื้อสุด จัดทรงยาก หนีบไม่ลง ต้องใช้ไฟแรง
ปัญหาผมแห้งก็กลับมา เลยเป็นที่มาให้เราหาทางทำให้ผมมันดี ก่อนไม่มีผมให้บำรุง
จนเรามาเจอการทำทรีทเม้นท์ตัวหนึ่งที่ร้านบอกว่าเทียบเท่ากับการยืดผม ทำให้ผมมีน้ำหนัก เงางาม ไม่ชี้ฟู
ด้วยความที่อยากออกจากวังวนการยืดผม ผมลีบแบน ปลายเป็นวุ้นก็ลอง ตัดสินใจ inbox ไปเพื่อนัดคิว
เริ่มการโทรถามโปรโมชั่น ให้ส่งภาพผมเข้าไป ทางเพจก็แจ้งราคาเรามา ก็รับได้ นัดวันกัน ผ่านไป
หลายวัน เพจยังไม่อ่านข้อความก็โทรไปใหม่ เริ่มต้นใหม่ เข้าใจว่า คนดูเพจอาจจะคนละคน เคเริ่มใหม่ นัดวันใหม่
พอวันที่เราไปทำ โอแม่เจ้า คือ นัดไว้ 10 โมง คือ คนแน่นร้านไม่มีที่ให้นั่งเลย นี้ขนาดมาตอนเปิดร้าน และเราก็คิดว่า
เราต้องได้ทำ สรุปว่า ให้เรารอก่อน เราก็คิดในใจ ให้เราโทรจองเพื่ออะไรว่ะ เราก็เดินเล่นหลายชั่วโมงมากเวอร์
นานแค่ไหนหรอ ก็ได้ทำตอน 4 โมงเย็นค่ะ ระหว่างที่เรารอตอนเช้า 10 โมง ก็ไม่เหลือหน้าคนเดิมๆที่มารอ
แต่คนก็ยังเต็มร้านเช่นเดิม ตอนแรกร้านก็โทรมาบอกว่า น้องๆเข้ามาเลยได้คิวแล้ว มาตอน บ่ายสอง คือ คนแน่นไม่มีแม้แต่ที่นั่งรอ
ถึงต้องกลับไปเดินเล่นใหม่ พอ4 โมงมาใหม่มารอ แต่ อารมณ์เก้าอี้ดนตรีงะ อีกคนไปสระ อีกคนก็มาไดร์
คือ บริการจัดการดีมาก ( ประชดนะ ) แล้วคือ ค่าทำก็ไม่ถูกนะ 5xxx สำหรับเรามองว่ามันน่าเกลียดมาก ทุเรศเลย
นัดก็ควรเป็นนัด ต้องซื่อสัตย์เรื่องเวลา ไหม
ยังไม่จบ ขั้นตอนการทำผม ก็ลดลงจากเดิม ( ใช้คำนี้เพราะเคยเห็นจะวีดีโอที่ บล็อกเกอร์ ถ่าย ) สระผมแล้วก็มาใส่ ทรีทเม้นท์ เลย
เราก็ถามว่า พี่ไม่ ดีท๊อกซ์ ผมกับหนังศรีษะหรอค่ะ เขาก็ตอบว่า จริงๆไม่ต้องก็ได้ค่ะ แค่สระอย่างเดียวก็พอ
แล้วปล่อยเราไว้มุมหนึ่งของร้านกับเครื่องอบอินฟาเรด ที่เม้งดังเหมือนจะพัง ร้อนมาก ไม่โดนแอร์ แถมเครื่องให้ความร้อนไปอีก
ทิ้งไว้จนต้อง เดินไปหาช่างว่า พี่หนูปวดหัว แสบตัว และหน้ามากเลยเครื่องร้อนมาก ขอบหน้าแดง แขนแสบไปหมด ช่างก็มาดู
อีห่าลืม เบาไฟตามสภาพผมลูกค้า ( ในจุดนั้นกูมาทำร้ายตัวเองทำไมว่ะ )
** บอกก่อนขั้นตอนนี้ เราไม่ได้ถึงตัวช่างที่เป็นช่างทำทรีทเม้นท์ นะ เพราะขั้นตอนสระไดร์ ลงทรีทเม้นท์ จะเป็นผู้ช่วย **
มาถึงตอนที่อยู่ช่างที่ดูแลเราจริงๆละ เขาก็โอเคกับการทำผมนะ มีความละเอียด ดีมาก ทำให้ อารมณ์ตอนนั้นอุ่นใจ
เหมือนว่า ดีนะที่อดทน มันก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น ช่างเขาก็ทำผมโอเคไม่รีบร้อนใส่ แค่ ร้านบริหารจัดการคิวไม่ดี
เขาต้องการรับลูกค้าเยอะๆ เข้าใจนะ แต่ มันก็ต้องคำนวณเวลาที่ทำ และเซอร์วิช ลูกค้าด้วย คือ ในราคานี้ที่เราทำมา นัด 10 โมง
ก็เริ่มตั้งแต่ทำ 10 โมง ช้าเร็วก็ไม่ถึง 30 นาที เขาไหว้แล้วไหว้อีก แต่ที่นี้เรียกว่าก็ดังในระดับหนึ่งละ แต่ความดังมันก็ดับนะ
ถ้าบริการแบบนี้ คือ รับ ลูกค้า walk in ด้วย ลูกค้านัดก็รับ เอาจริงๆสงสารช่างนะ ยืดทำไปบ่นไป ลูกค้าก็ลำคาน ยังรับลูกค้าทำนอกเหนือที่นัด
ไม่เช็คสภาพเครื่องอบผมอันนี้เคืองมาก แล้วตอนจบพูดว่ารีวิวให้พี่ด้วยนะ เนี่ยมารีวิวให้ละ คุณเจ้าของ
ขอร้องเลย ร้านทำผม อย่างทำนิสัยแบบนี้เลย นัดคือนัด ลูกค้าต้องการการดูแลจากช่าง ต้องการพูดคุยดูแลเรื่องผมงะ เอาจริงๆ
ไม่ได้มาเพื่อเล่นเก้าอี้ดนตรี แล้วสุดท้ายเรามานั่งรักษาหนังหัวลอก หน้าลอก แขนแสบแดง แล้วสระผม 2 ครั้ง
ก็สระผมไม่ได้เพราะ แสบมาต้องไปหมอ ผมก็ไม่ได้ตรงมีน้ำหนัก อะไร ฟู ไร้น้ำหนักเหมือนเดิม แต่หน้าเกลียดที่โคนผมตรงเงางาม กลางผมลงมาฟูมาก
คนเข้าใจว่าเราไปดัดผม แล้วลอนแตก
เราคิดว่ามันน่าจะมาจากร้านไม่ได้ดูแล เช็คสภาพผม ผสมทรีทเม้นท์ เพราะถ้าเช็คก่อนตามที่ช่างคุยในโทรศัพท์ มันจะเหมือนการลงสี ควรลงตรงไหนก่อนหลัง เพราะ ทรีทเม้นท์ ก็คือเคมี ทิ้งไว้บนหนังศรีษะนานๆไม่ดี
เราไม่ได้เรียกร้องอะไรเพราะมันเป็นความเต็มใจที่เราไปทำ จ่ายเงินและรอ เปรียบเทียบว่า ที่เรากินข้าว ร้านนั้นร้านที่ คนที่ชอบทำผมก็คงจะประมาณนี้แหละ
เราก็อยากรู้ว่า ร้านไหนโอเค สบายใจสุด เพราะไม่ใช่เรื่องกินที่เราว่าอร่อย ถูกแต่บริการไม่ดีก็ไม่เข้า เหมือนกันทำผมงะ มันก็ต้องดูหลายๆอย่าง ถูกหรือแพงบางครั้งก็ลองดู