Singapore 3 Days 2 Nights

สวัสดีค่ะเพื่อนๆขาเที่ยวทุกคนหรือไม่ได้เป็นขาเที่ยวแต่อยากลองเริ่มเที่ยวต่างประเทศเข้ามาอ่านก็ได้นะคะ อิอิ เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวสิงคโปร์มาตั้งนานแล้วแต่ไม่มีเวลาเขียนรีวิวซะที วันนี้ถือโอกาสวันหยุดยาวที่หลายๆคนใช้เวลาไปเที่ยวกันมานั่งพักผ่อนเขียนรีวิวยาวๆกันไปเล้ย

ขอบอกก่อนว่าพวกเราไม่มีเวลาเตรียมตัวกันมากนักเนื่องจากเป็นงานด่วนงานร้อน จึงขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า Singapore NO Plan แล้วกันค่ะ ส่วนจะ No plan ยังไงขนาดไหน ต้องตามไปดูกันในกระทู้เนาะ อีกอย่างการถ่ายรูปก็ถือเป็นการลองกล้อง Sumsung Galexy S10+ ที่เพิ่งถอยมาใหม่ไปด้วยในตัว บางรูปก็ถ่ายด้วย iPhone ก็มีนะคะสลับกันไป Intro ซะนาน ไปชมรีวิวกันเลยค่า

>>>>DAY1<<<<

เนื่องจากแฟนเราต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เราจึงถือโอกาสเดินทางข้ามไปยังประเทศสิงคโปร์ด้วยรสบัส KKKL Express ค่ะ (ภาพด้านบนขออนุญาตยืมจาก Google) จองจากแอป Klook ราคา 469 บาท เราออกจากกัวลาลัมเปอร์ ที่สถานีขนส่ง Terminal Bersepadu Selatan เวลา 10.30 น.ของมาเลเซีย เวลาที่นั่นและสิงคโปร์เท่ากันค่ะคือเร็วกว่าไทย 1 ชม. ในแอปบอกว่าใช้เวลาเดินทาง 4 ชม.ครึ่ง แต่เอาจริงๆรวมแวะพักทานข้าว + ตม.มาเลเซีย + ตม.สิงคโปร์ ปาเข้าไป 7 ชม. ขุ่นพระ! โดยเฉพาะ ตม.สิงคโปร์ผ่านยากมากค่ะ ถ้าเป็น ผญ.มาคนเดียวนี่มีสิทธิ์ไม่ผ่านเลย เราเห็นผู้หญิงจีนก่อนหน้าเราก็ไม่ผ่านมีปัญหาติดอยู่นานมากๆ แนะนำคือต้องเตรียมบุ๊คกิ้งโรงแรมกับตั๋วกลับให้เขาดูให้เรียบร้อย ไม่ทราบว่า ตม.สนามบินผ่านยากแบบนี้ไหม แต่ที่นี่ถามค่อนข้างเยอะและต้องแสดงหลักฐานเยอะมากค่ะว่าเรามาเที่ยวจริงๆ

เราเลือกจุด Drop Off ที่ Kantong V Mall ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่ามันคือตรงไหนแค่ดูใน Google Map แล้วเห็นว่ามันใกล้ที่พักของเราที่สุด มาถึงคนขับก็จอดให้เราลงกลางถนนกันเลยค่ะ ทุกคนก็ลงกันแบบงงๆ ประกอบกับกระเป๋าที่หนักมากๆเราก็ลากกระเป๋ากันอย่างทุลักทุเล จะไปขึ้นรถเมล์ แต่นึกขึ้นได้ว่าเรายังไม่มีบัตรขึ้นรถและจ่ายเงินสดเขาก็ไม่ทอนเงินด้วยเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนเรียก Grab Car ค่ะ

โรงแรมที่เราจองคือ Hotel81 Rochor ค่า Grab ประมาณ 8-10 SGD พอมาถึงโรงแรมก็พบว่าห้องเล็กมากๆเป็นห้องถูกสุดเลย จองผ่าน App Agoda 2 คืนรวมประมาณ 3,600 บาท ที่นี่โรงแรมค่อนข้างแพงนะคะ ถ้ามากับเพื่อนสายลุยๆก็แนะนำ Hostel ราคาดีหน่อย แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวลงทุนโรงแรมไปเลยค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาให้เพราะเหนื่อยมาก หิวมากๆๆจากการเดินทางเลยรีบเก็บของและออกไปหาอะไรทานกันค่ะ ย่านที่เราอยู่ใกล้กับย่าน Bugis ซึ่งเป็นย่านที่ของกินเยอะมากๆค่ะ เราเลยเดินออกจากโรงแรมไปหาอะไรกินก่อน หิว หิว หิว

เป้าหมายคือร้านแรกที่เราเห็น และแล้วเราก็เจอร้านนี้คือดูจากสภาพร้านแล้วโอเคสุดและไม่ได้อ่านป้ายไรเลยรู้แต่ว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเราก็เดินตรงดิ่งเข้าไป พอเห็นเมนูก็พบว่านางเป็น Thai Boat Noodlesหรือก๋วยเตี๋ยวเรือบ้านเรานั่นเอง ในใจก็คิดว่าจะเปลี่ยนร้านดีไหมแต่ก็ เอาน่ะ ลองดูสิ ก๋วยเตี๋ยวเรือสไตล์สิงคโปร์จะเป็นยังไง 

อันนี้ ของแฟน บะหมี่เนื้อน่องลายน้ำตกราคา 7 SGD

ของเราเองจ้า บะหมี่หมูน้ำตก Signature ราคา 6 SGD

ตอนพนักงานมาเสิร์ฟแอบตกใจ คือชามใหญ่มากๆๆๆ สงสัยคนสิงคโปร์คงจะขัดใจที่ก๋วยเตี๋ยวบ้านเราชามเล็กทานไม่อิ่มเลยมาทำชามใหญ่ๆเองซะนี่ 

หลังจากอิ่มท้องแล้วเราก็เดินเล่นกันไปร้าน Bugis ค่ะ เดินไปเรื่อยๆ เจอ Albert Centre ที่เป็นเหมือนศูนย์อาหาร ร้านอาหารเยอะมากๆ อยากลองแต่ติดที่เราอิ่มกับก๋วยเตี๋ยวเรือชามใหญ่กันมาแล้ว 

เดินต่อไปก็ข้ามถนนเข้าไปใน Bugis Street เป็นเหมือนคล้ายๆตลาดนัดถนนคนเดินบ้านเรา มีขายเสื้อผ้า Street Food ผลไม้

เป้าหมายของเราตอนนี้คือซื้อบัตรที่ใช้สำหรับเดินทางด้วยรถไฟฟ้าค่ะ ที่นี่ระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินของเขาดีมากๆสะอาดตา มีห้องน้ำทุกสถานีด้วยค่ะ เราลงมาที่สถานี Bugis สายสีเขียวหรือ East West Line เพื่อซื้อบัตร Singapore Tourist Card ไว้ใช้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถเมล์ ขนส่งสาธารณะทั้งหมดของสิงคโปร์ยกเว้นพวก Express จะไม่รวมในบัตรนี้นะคะ จะมีแบบ 1 Day 2 Day แต่เราซื้อแบบ 3 Day Pass ราคาบัตรใบละ 30 SGD เป็นค่ามัดจำบัตร 10 SGD ซึ่งเราจะได้คืนในตอนคืนบัตรที่สนามบินค่ะ แต่ต้องคืนภายใน 5 วันหลังจากซื้อบัตรนะคะ ถ้าเกินกว่านั้นระบบจะตัดอัตโรมัติและไม่คืนเงินมัดจำค่ะ

หน้าตาของ Singapore Tourist Pass จ้า

เอาล่ะค่ะได้บัตรกันแล้ว ไปลุยกันเล้ยยยยย สถานีแรกที่เราเลือกไปคือ Bay Front ค่ะ ขอไปเดินห้างเล่นๆซะหน่อย

พอถึงที่นี่มีทางเชื่อมเดินเข้าห้างเลยค่ะ ห้าง Marina Bay Sand ภายในจะเป็น Shops brand name ต่างๆจากทั่วโลกมารวมไว้ที่นี่ค่ะ มีร้านอาหารระดับ 5 ดาวคือแบบ ไฮโซมากๆ

มีน้ำวนๆให้ดูเล่นตรงกลางห้างด้วย เป็นเหมือนการโชว์ระบบเครื่องยนต์ในการจัดการน้ำของประเทศเขาไปในตัวค่ะ

เนื่องจากเรายังอิ่มกันอยู่เลยเดินเล่นกันออกไปนอกห้าง เจอกับShop เจ้าหลุยส์ วิตอง ขอถ่ายรูปก็พอแต่ไม่กล้าเข้านะ 555

ลงไปด้านล่างจะเห็นว่ามีเหมือนสะพานให้เราถ่ายรูปกับวิวฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นตึกสถาบันการเงินและโรงแรมใหญ่ๆต่างๆ พอค่ำแล้วเขาเปิดไฟสวยมากๆ 

พอมาถึงที่นี่เราสังเกตุแล้วว่าในน้ำเขามีเหมือนเครื่องยนต์อะไรลอยเป็นแพเต็มไปหมด 

ตอนนั้นเวลาประมาณทุ่มครึ่งก็มีครอบครัวชาวจีนเข้ามาถามพวกเราว่า รู้ไหมว่า Water Show ที่นี่จะเริ่มกี่โมง เราก็ตอบไปว่าไม่ทราบ แต่ในใจก็คิดว่า มีด้วยหรอ Water Show อะไรพวกนี้ แต่ก็เคยได้ยินมาว่าจะคล้ายๆของฮ่องกงรึเปล่านะ เลยหาข้อมูลใน Google ดูไปพลางๆสักพักคนเริ่มเยอะค่ะ เหมือนมารอดูอะไรบางอย่างจริงๆ เห็นใน Google บอกว่าจะเริ่ม 2 ทุ่ม เราก็เลยรอดูจากฝั่ง Marina Bay Sand นี่แหละ ในรีวิวบอกว่าไปดูฝั่งตรงข้ามที่มี Merlion จะสวยกว่า แต่เราขี้เกียจเดินทางแล้วเลย รอดูมันฝั่งนี้แหละ

ได้เวลา 2 ทุ่มแล้ว Show ก็เริ่มขึ้นค่ะ แสงสีสวยตระการตามากๆ ก็เลยเก็บภาพมากฝากทุกๆคนกันค่า

ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 20 นาทีโชว์ก็จบลงอย่างน่าประทับใจเลยค่ะ สรุปคือเรากับแฟนก็ได้ไปดูโชว์นี้โดยบังเอิญ ต้องขอบคุณครอบครัวชาวจีนครอบครัวนั้นมากๆเลยค่ะที่ทำให้เราได้รู้และรอดูโชว์นี้ 555

พอดูโชว์จบทุกคนก็ทยอยออกจากสะพานกันค่ะ แต่ขอเตือนเลยค่ะว่าถ้าไม่รีบให้เดินห้างเล่นๆไปก่อนสัก ครึ่งชม.หรือ 1 ชม.ไปเลยเพราะว่าทัวร์ลงเยอะมาก พอดูเสร็จคนก็ทยอยออกพร้อมกัน วุ่นวายมากและคิดว่ารถไฟฟ้าคงจะแน่นเหมือนปลากระป๋องเช่นกัน เดินเล่นไปก่อนละค่อยกลับดีกว่า

ได้เวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆแล้วเราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่สถานี Bugis ค่ะ ใจคืออยากหาไรกินเพิ่มอีกหน่อยแต่มันค่อนข้างดึกแล้วเกือบ 4 ทุ่มแต่ละร้านของก็เริ่มหมด สุดท้ายเลยได้แต่กลับโรงแรมไปนอนพักผ่อน เตรียมลุยต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ

ในวันที่ 2 นี้เราก็ไม่ได้วางแผนล่วงหน้ากันเลยนะคะ ที่กะจะไปดูแน่ๆเลยคือเจ้าสิงโต Merlion และหาข้าวมันไก่ฟินๆกินค่ะ ขนาดไม่ได้วางแผนอะไรเลยโปรแกรมเที่ยวกลับแน่นมากๆ ว่าแล้วก็พากันเปิด Google เตรียมตัวลุยต่อพรุ่งนี้ วันที่ 2 และวันที่ 3 จะเป็นไงนั้นไว้มาเล่าให้ฟังค่า

ปิดท้ายไปด้วยแสง สี เสียงริม Marina Bay Sand เป็นตอนที่เราชอบและว้าวมากที่สุด ราตรีสวัสดิ์ค่า