ด้วยความทริปนี้เราไม่ได้จะไปแต่แรก แต่ได้ไปแทนน้องชายที่ติดโควิทกะทันหัน จึงมีการจองตั๋วเครื่องบินใหม่แบบกระชั้นชิดมาก (ตั๋วที่น้องชายเราจองสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ไป-กลับ ประมาณ 8,5xx฿ แต่เราได้ตั๋วมา ขาไป VietJet บินตรง ราคา 3,9xx฿ ขากลับ Scoot เปลี่ยนเครื่องที่หาดใหญ่ Airasia บินกลับ กทม. ราคารวม 6,7xx฿ เราไปวันที่ 7 มิ.ย.65 เพิ่งได้จองตั๋วคืนวันที่ 5 มิ.ย.65 ราคานี้ยังไม่รวมโหลดกระเป๋านะ กระเป๋าเราฝากโหลดไปกับน้องสาว)
จากสถานการณ์โควิทยังไม่หายไป ก่อนจะไปสิงคโปร์สิ่งที่ต้องทำอย่างคือกรอกแบบฟอร์มคนเข้าเมืองของสิงคโปร์เค้าด้วย
https://safetravel.ica.gov.sg/arriving/general-travel/fully-vaccinated
https://www.ica.gov.sg
มี 2 เว็บต้องเข้าไปกรอกและแนะนำให้ปริ๊นใส่กระดาษไปด้วย เพื่อสายการบินและ ตม.เรียนดู
📌เอกสารที่เราเตรียมไป📌
แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองสิงค์โปร์ที่ให้กรอก
เอกสารการฉีดวัคซีน
ตั๋วขาไป-กลับ
แพลนเที่ยว
7/6/2565 Day 1 วันเดินทาง
ด้วยความไม่ได้ออกนอกประเทศนาน แอบตื่นเต้นเบาๆเหมือนกันนะ แนะนำให้ไปถึงสนามบินก่อนสัก 2-3 ชม.
เราบินประมาณ 9.45 น. เราไปถึงสนามบินตั้งแต่ 6.30 น. เริ่มเช็คอิน 6.50 น.

เช็คอินเสร็จก็ผ่านด่านตรวจไปเล่นสวยๆ เดินหาเกต (เกตอิฉันอยู่ไกลมากจร้า เดินไปยาวๆเลยค่ะ)
ทริปนี้มีความปัง(พินาจ)ตั้งแต่เริ่มบินเลยจร้า ในเวลาแจ้งว่าเครื่องต้องออก 9.45 น. เครื่องเราได้ออกจริงๆ ประมาณ 10.00 น. เพราะพนักงานโหลดกระเป๋าไม่ทัน (ชีวิต Delay ตั้งแต่เริ่มเลย)
เราไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 14.00น. เลทไป 50 นาทีได้


ไปถึงก็ลงเครื่องต่อแถวเข้า ตม.

ด้วยความเราบินคนเดียว เจอ ตม. ผญ.ถามยับเลยจร้า
คำถามที่โดน มาคนเดียวหลอ? ทำไมบินมาคนเดียว? มาทำอะไรที่สิงคโปร์? มีแพลนไปไหนบ้าง? กลับวันไหน? มีตั๋วขากลับยัง? มีเอกสารตรวจคนเข้าเมืองไหม? ด้วยความที่เราก็ไม่คอยเก่งภาษามาก แค่พอสื่อสารได้ก็พยายามตอบ พยายามอธิบายนางไปและยื่นเอกสารทั้งหมดที่มีให้นาง นางก็ดูๆ และให้ผ่านไปได้🎉 (ในใจคือ จะถามอะไรเยอะแยะคร้าาา อิฉันแค่มาเที่ยว อิฉันไม่ได้จะมาโดดเด้อ)
ผ่าน ตม.ไปได้ คนมีกระเป๋าโหลดก็ไปรอรับที่สายพานเลย เราไปเจอน้องสาวที่ไปด้วย น้องไปรับซิมที่จองไว้และซื้อบัตรรถไฟฟ้าให้แล้ว (บัตรรถไฟฟ้าจ่าย 12$ แบ่งเป็นค่าบัตร 5$ เงินในบัตร 7$ )

บัตรที่ซื้อจากตามสถานีลายจะน่ารักกว่าที่ซื้อจากสนามบิน

น้องชวนไปดูเสาน้ำตกยักษ์กลางสนามบิน ตรงนี้อยู่ที่ ห้าง Jewel Changi Airport อยู่ติดอาคาร Terminal 1 (ตม.อยู่ Terminal 3 จะไป Terminal 1 สามารถเดินหรือขึ้นรถรางไปได้นะ)


พวกเราไปถึงก็เดินดูและถ่ายรูปนิดหน่อย เก็บไว้เดี๋ยวมาเดินอีกที่วันกลับ แหล่งช็อปปิ้งเยอะมาก
ด้วยความเรามาถึงเลทข้าวกลางวันไม่ได้กินจร้า ซื้อขนมปังกินไปเบาๆ

รสชาติได้ รู้สึกราคาแรงเบาๆ
กินเสร็จไปเดินหารถไฟฟ้าต่อเข้าเมือง ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าต่อเข้าเมืองอยู่ที่ชั้นใต้ติดอาคาร Terminal 3

ก่อนเข้าไปสถานีพวกเราแวะเติมเงินในบัตรรถไฟฟ้าเพิ่มอีกคนละ 20$ (มาประมาณ 4 วัน เติม 20$กำลังพอดีนะ บัตรรถไฟฟ้าของสิงคโปร์สามารถใช้แตะขึ้นรถเมล์และซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้นะ)
เรานั้งรถไฟฟ้าจากสนาบินไปที่พักใช้เวลาประมาณ 50 นาที ที่พักเราชื่อ Summer View Hotel อยู่ Rochor MRT Station

เราจองห้องแบบนอน 3 คน ไม่มีหน้าต่างค้าง 3 คืน ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,xxx฿ ห้องไม่ได้กว้างมาก มี 1ห้องนอน 1 ห้องน้ำมีไดล์เป่าผมให้ มีผ้าขนหนูให้ มี 1 ตู้เย็น มีน้ำเปล่าให้ตามจำนวนแขกที่พัก

เตียงไม่ได้นุ่มมาก ห้องสะอาดดี มีบริการเปลี่ยนผ้าขนหนู เก็บที่นอน เก็บขยะและทำความสะอาดระหว่างที่เข้าพัก
หลังจากเก็บของเสร็จ พวกเราก็ออกไปเที่ยวไปหาของกิน
แพลนเดิม เราต้องไป National Museum of Singapore, Chainatowm กินร้าน Tiong Bahru Bakery
แต่ด้วยความที่เครื่องบินมัน Delay แพลนเลยเปลี่ยน
สถานที่แรกที่เราไปคือ Marina Bay ในตัวตึกจะมีโรงแรมและแหล่งช็อปปิ้งแบรนด์เนม และตรงกลางมีสระน้ำให้พายเรือด้วย

ด้านนอกตัวตึกออกไปจะเจอสระน้ำขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเมืองจะตึกเมืองสูงๆ ด้านขวามือเป็น ArtScience Museum ฝั่งตรงข้ามสระน้ำเป็น Merlion


เราเดินจาก Marina Bay ไป Merlion ระยะทาง 1.3 Kg ทางเดินดี สะอาดมาก เดินได้วิวสวย

จุดที่ต้องมาเช็คอินเลย เจ้าสิงโตพ่นน้ำ ไม่มาถือว่ามาไม่ถึง ประวัติไปอ่านที่
https://travel.mthai.com/travel_tips/63353.html
ถ่ายรูปเสร็จ พวกเรานั้งรถเมล์ สาย 97 ไปร้าน Shake Shake สาขา ตึกซันเทค เป็นร้านขายพวกแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดัง

รถเมล์ 2 ชั้น สะอาด แถมไม่แอร์อัดเลย คนไม่เยอะมาก รถเมล์มาตรงเวลา

เมนูมีให้เลือกเป็นไก่กับเนื้อ ไม่มีหมูขาย ราคาเบอร์เกอร์เริ่มต้นที่ 9.7$
เราไม่กินเนื้อเลยสั่งไก่มา ส่วนน้องๆสั่งเป็นเนื้อมาจร้าาา รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย
หลังจากกินเสร็จ ด้วยความที่ยังไม่ดึกมาก พวกเราจึงเดินไปต่อกันที่ Fountain of Wealth หรือ น้ำพุแห่งโชคลาภหรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain of Wealth) ที่กลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้(Suntec city)ของประเทศสิงคโปร์ เป็นกลุ่มอาคารที่ว่ากันว่าออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ จนเชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้มดีที่สุดในโลก และที่ตรงกลางของกลุ่มอาคารนี้เอง ที่เป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุแห่งโชคลาภ(Fountain of Wealth) ซึ่งก็เชื่อกันว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานด้านบวกตามหลักฮวงจุ้ย ที่ดึงดูดผู้คนที่มีความศรัทธาทางศาสตร์นี้ให้เดินทางมารับพลังกันถ้วนๆหน้า อ่านต่อ
https://www.talontiew.com/fountain-of-wealth-suntec-city/
สายมูอย่างเราต้องไปสิ อิอิ

สวยอลัง เค้ามีให้ถ่านรูปข้างล่างได้นะ แต่ต้องเช็คเวลาเป็นรอบๆไปอ่ะ
เสร็จจากตรงนี้เราเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พักตรงสถานี Chinatown ตอนเดินผ่านนึกว่าอยู่เมืองเก่าภูเก็ต


คืนแรกถึงที่พักคือหลับเป็นตาย สถิติเดินวันนี้ 19,000 ก้าว เดือนเยอะสุดในรอบเดือน
[CR] ทริปด่วน ทริปไฟไหม้ สิงคโปร์จ๋า เพ็ชรมาแล้วววว🇸🇬🇸🇬🇸🇬 2022
จากสถานการณ์โควิทยังไม่หายไป ก่อนจะไปสิงคโปร์สิ่งที่ต้องทำอย่างคือกรอกแบบฟอร์มคนเข้าเมืองของสิงคโปร์เค้าด้วย
https://safetravel.ica.gov.sg/arriving/general-travel/fully-vaccinated
https://www.ica.gov.sg
มี 2 เว็บต้องเข้าไปกรอกและแนะนำให้ปริ๊นใส่กระดาษไปด้วย เพื่อสายการบินและ ตม.เรียนดู
📌เอกสารที่เราเตรียมไป📌
แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองสิงค์โปร์ที่ให้กรอก
เอกสารการฉีดวัคซีน
ตั๋วขาไป-กลับ
แพลนเที่ยว
7/6/2565 Day 1 วันเดินทาง
ด้วยความไม่ได้ออกนอกประเทศนาน แอบตื่นเต้นเบาๆเหมือนกันนะ แนะนำให้ไปถึงสนามบินก่อนสัก 2-3 ชม.
เราบินประมาณ 9.45 น. เราไปถึงสนามบินตั้งแต่ 6.30 น. เริ่มเช็คอิน 6.50 น.
เช็คอินเสร็จก็ผ่านด่านตรวจไปเล่นสวยๆ เดินหาเกต (เกตอิฉันอยู่ไกลมากจร้า เดินไปยาวๆเลยค่ะ)
ทริปนี้มีความปัง(พินาจ)ตั้งแต่เริ่มบินเลยจร้า ในเวลาแจ้งว่าเครื่องต้องออก 9.45 น. เครื่องเราได้ออกจริงๆ ประมาณ 10.00 น. เพราะพนักงานโหลดกระเป๋าไม่ทัน (ชีวิต Delay ตั้งแต่เริ่มเลย)
เราไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 14.00น. เลทไป 50 นาทีได้
ไปถึงก็ลงเครื่องต่อแถวเข้า ตม.
ด้วยความเราบินคนเดียว เจอ ตม. ผญ.ถามยับเลยจร้า
คำถามที่โดน มาคนเดียวหลอ? ทำไมบินมาคนเดียว? มาทำอะไรที่สิงคโปร์? มีแพลนไปไหนบ้าง? กลับวันไหน? มีตั๋วขากลับยัง? มีเอกสารตรวจคนเข้าเมืองไหม? ด้วยความที่เราก็ไม่คอยเก่งภาษามาก แค่พอสื่อสารได้ก็พยายามตอบ พยายามอธิบายนางไปและยื่นเอกสารทั้งหมดที่มีให้นาง นางก็ดูๆ และให้ผ่านไปได้🎉 (ในใจคือ จะถามอะไรเยอะแยะคร้าาา อิฉันแค่มาเที่ยว อิฉันไม่ได้จะมาโดดเด้อ)
ผ่าน ตม.ไปได้ คนมีกระเป๋าโหลดก็ไปรอรับที่สายพานเลย เราไปเจอน้องสาวที่ไปด้วย น้องไปรับซิมที่จองไว้และซื้อบัตรรถไฟฟ้าให้แล้ว (บัตรรถไฟฟ้าจ่าย 12$ แบ่งเป็นค่าบัตร 5$ เงินในบัตร 7$ )
บัตรที่ซื้อจากตามสถานีลายจะน่ารักกว่าที่ซื้อจากสนามบิน
น้องชวนไปดูเสาน้ำตกยักษ์กลางสนามบิน ตรงนี้อยู่ที่ ห้าง Jewel Changi Airport อยู่ติดอาคาร Terminal 1 (ตม.อยู่ Terminal 3 จะไป Terminal 1 สามารถเดินหรือขึ้นรถรางไปได้นะ)
พวกเราไปถึงก็เดินดูและถ่ายรูปนิดหน่อย เก็บไว้เดี๋ยวมาเดินอีกที่วันกลับ แหล่งช็อปปิ้งเยอะมาก
ด้วยความเรามาถึงเลทข้าวกลางวันไม่ได้กินจร้า ซื้อขนมปังกินไปเบาๆ
รสชาติได้ รู้สึกราคาแรงเบาๆ
กินเสร็จไปเดินหารถไฟฟ้าต่อเข้าเมือง ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าต่อเข้าเมืองอยู่ที่ชั้นใต้ติดอาคาร Terminal 3
ก่อนเข้าไปสถานีพวกเราแวะเติมเงินในบัตรรถไฟฟ้าเพิ่มอีกคนละ 20$ (มาประมาณ 4 วัน เติม 20$กำลังพอดีนะ บัตรรถไฟฟ้าของสิงคโปร์สามารถใช้แตะขึ้นรถเมล์และซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้นะ)
เรานั้งรถไฟฟ้าจากสนาบินไปที่พักใช้เวลาประมาณ 50 นาที ที่พักเราชื่อ Summer View Hotel อยู่ Rochor MRT Station
เราจองห้องแบบนอน 3 คน ไม่มีหน้าต่างค้าง 3 คืน ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,xxx฿ ห้องไม่ได้กว้างมาก มี 1ห้องนอน 1 ห้องน้ำมีไดล์เป่าผมให้ มีผ้าขนหนูให้ มี 1 ตู้เย็น มีน้ำเปล่าให้ตามจำนวนแขกที่พัก
เตียงไม่ได้นุ่มมาก ห้องสะอาดดี มีบริการเปลี่ยนผ้าขนหนู เก็บที่นอน เก็บขยะและทำความสะอาดระหว่างที่เข้าพัก
หลังจากเก็บของเสร็จ พวกเราก็ออกไปเที่ยวไปหาของกิน
แพลนเดิม เราต้องไป National Museum of Singapore, Chainatowm กินร้าน Tiong Bahru Bakery
แต่ด้วยความที่เครื่องบินมัน Delay แพลนเลยเปลี่ยน
สถานที่แรกที่เราไปคือ Marina Bay ในตัวตึกจะมีโรงแรมและแหล่งช็อปปิ้งแบรนด์เนม และตรงกลางมีสระน้ำให้พายเรือด้วย
ด้านนอกตัวตึกออกไปจะเจอสระน้ำขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเมืองจะตึกเมืองสูงๆ ด้านขวามือเป็น ArtScience Museum ฝั่งตรงข้ามสระน้ำเป็น Merlion
เราเดินจาก Marina Bay ไป Merlion ระยะทาง 1.3 Kg ทางเดินดี สะอาดมาก เดินได้วิวสวย
จุดที่ต้องมาเช็คอินเลย เจ้าสิงโตพ่นน้ำ ไม่มาถือว่ามาไม่ถึง ประวัติไปอ่านที่https://travel.mthai.com/travel_tips/63353.html
ถ่ายรูปเสร็จ พวกเรานั้งรถเมล์ สาย 97 ไปร้าน Shake Shake สาขา ตึกซันเทค เป็นร้านขายพวกแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดัง
รถเมล์ 2 ชั้น สะอาด แถมไม่แอร์อัดเลย คนไม่เยอะมาก รถเมล์มาตรงเวลา
เมนูมีให้เลือกเป็นไก่กับเนื้อ ไม่มีหมูขาย ราคาเบอร์เกอร์เริ่มต้นที่ 9.7$
เราไม่กินเนื้อเลยสั่งไก่มา ส่วนน้องๆสั่งเป็นเนื้อมาจร้าาา รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย
หลังจากกินเสร็จ ด้วยความที่ยังไม่ดึกมาก พวกเราจึงเดินไปต่อกันที่ Fountain of Wealth หรือ น้ำพุแห่งโชคลาภหรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain of Wealth) ที่กลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้(Suntec city)ของประเทศสิงคโปร์ เป็นกลุ่มอาคารที่ว่ากันว่าออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ จนเชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้มดีที่สุดในโลก และที่ตรงกลางของกลุ่มอาคารนี้เอง ที่เป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุแห่งโชคลาภ(Fountain of Wealth) ซึ่งก็เชื่อกันว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานด้านบวกตามหลักฮวงจุ้ย ที่ดึงดูดผู้คนที่มีความศรัทธาทางศาสตร์นี้ให้เดินทางมารับพลังกันถ้วนๆหน้า อ่านต่อ https://www.talontiew.com/fountain-of-wealth-suntec-city/
สายมูอย่างเราต้องไปสิ อิอิ
สวยอลัง เค้ามีให้ถ่านรูปข้างล่างได้นะ แต่ต้องเช็คเวลาเป็นรอบๆไปอ่ะ
เสร็จจากตรงนี้เราเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พักตรงสถานี Chinatown ตอนเดินผ่านนึกว่าอยู่เมืองเก่าภูเก็ต
คืนแรกถึงที่พักคือหลับเป็นตาย สถิติเดินวันนี้ 19,000 ก้าว เดือนเยอะสุดในรอบเดือน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้