เราอายุ39ค่ะ ปกติกินยาลดความดันมาตลอด7ปี พอมาพักหลังตรวจเลือดเจอไขมันในเลือด 213 หมอก็สั่งยาลดไขมันให้กิน จนเราเกือบเดินไม่ได้

เรื่องมีอยู่ว่า

เราไปตรวจเลือดตามหมอนัดทุก3เดือนเลยค่ะ แต่หมอบอกว่าต้องกินยาลดไขมันนะ เดี๋ยวไขมันไม่ลด อ่ะ เราก็เริ่มกิน วันละครึ่งเม็ด

ยานี้จ้า




หลังจากกินได้1อาทิตย์ก็มีอาการข้างเคียง เริ่มจาก เท้าบวม บวมขึ้นมาทั้งขา ตัวก็เริ่มบวม แต่เราอ้วน เลยมองไม่ค่อยออก ปวดตามข้อนิ้ว ทั้งนิ้วมือนิ้วเท้า ปวดข้อเท้า ปวดหัวเข่า เริ่มเดินไม่ค่อยไหวล่ะ

ยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งเป็นมากขึ้น

ทุกเย็นขาเราจะบวมมาก เดินขึ้นลงบันไดยิ่งทรมาน แต่พอเช้ามาจะไม่ค่อยบวม เท้าจะยุบลงกว่าตอนเย็นมาก เราก็ทนแบบนี้อยู่ 3อาทิตย์ จนไม่ไหว ต้องไปหาหมอตอนกลางคืน เข้าแผนกฉุกเฉิน

หมอฉุกเฉินสงสัยว่าเราอาจเป็นรูมาตอยด์ นัดมาตรวจอีกทีพรุ่งนี้เช้า เราก็ได้ยาแก้ปวดกลับบ้านไป2แผง ก็เอาน่ะ พรุ่งนี้แล้ว จะได้รู้กันไป กลับมาบ้านเราก็รีบเข้ากูเกิ้ลอ่านว่ารูมาตอยด์คืออะไร อ่านแล้วจิตตกมาก โรคนี้น่ากลัวจริงๆ

เช้ามารีบไปหาหมอตามนัด เจอคุณหมออายุรกรรมเก่งมากๆ ซักประวัติและอาการละเอียดยิบ แล้วนั่งวิเคราะห์ช่วงเวลาที่เราเริ่มกินยาลดไขมัน พร้อมทั้งมาจับขาเรา จับดูตามข้อ ทั้งข้อขา และนิ้วมือ แล้วคุณหมอก็บอกว่า อาการปวดบวมของเราเราน่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาลดไขมัน+ยาความดันด้วย

อุแม่เจ้า!

หมอสั่งหยุดยาลดไขมัน เปลี่ยนยาความดันให้เราใหม่ เปลี่ยนได้ไม่ถึง2วันอาการเราดีขึ้นมากๆ ความปวดบวมลดลงอย่างรวดเร็ว

เดี๋ยวรอดูอาการอีกสักระยะ ถ้าเป็นอย่างไรจะมาอัพเดตใหม่นะคะ