[CR] แชร์ประสบการณ์รักษาหลุมสิวด้วย Deka 5 ครั้ง

สวัสดีค่า วันนี้ฤกษ์งามยามดีเราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การรักษาหลุมสิวที่อยู่บนหน้าของเรามาเป็นสิบๆ ปี ซึ่งตอนนี้จขก. อายุ 29 ปี โดยเริ่มจากการเป็นสิวจำนวนมากเป็นระยะเวลา 3 - 4  ปี (ยังเป็นสิวบ้างจนถึงปัจจุบัน) และใช้เวลารักษาหลุมสิวอย่างจริงจังเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ปัจจุบันผิวหน้าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนทำมากๆๆ แต่ก็ยังมีร่องรอยอยู่บ้างนะคะ ไม่หายสนิท แต่ก็ถือว่าใช้ชีวิตได้ดีกว่าก่อนทำที่เมื่อก่อนร้องไห้หนักมาก ไม่กล้าเอาหน้าไปสู้ใครเลย ถ่ายรูปใช้แอปฯ แอปฯยังเอาไม่อยู่เลยค่ะTT

ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปของการเกิดหลุมก่อนนะคะ (ถ้าใครอยากดูวิธีรักษาข้ามสปอยด์ได้เลยจ้า)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เราเริ่มเป็นหลุมสิวตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 17-18  ปี และสะสมมาเรื่อยๆ เราพยายามหาวิธีรักษาหลุมสิวแบบด้วยตนเองก่อนเพราะยังไม่มีงบประมาณไม่มาก แต่ก็เหมือนไม่ได้ผล จนกระทั่งเราไปเจอกระทู้ในพันทิปเมื่อประมาณ 5 - 6 ปีที่แล้วที่แชร์การรักษาหลุมสิวด้วย e-matrix กับคุณหมอรัมภา ที่คลีนิกรัมภาดา เราเองก็สนใจมากแต่ตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานเลยไม่มีเงินเลย เพราะค่าเลเซอร์แพงมาก เราเก็บไว้ในใจมาโดยตลอดว่าสักวันถ้าทำงานจะเก็บเงินรักษากับหมอท่านนี้ให้จงได้ 555 (มีความแน่วแน่)  จนกระทั่งมาถึงช่วงที่เราทนไม่ไหวความหน้าปรุของตัวเราเอง คือเราถ่ายรูปรับปริญญา ตอนจบ ป.ตรี เราจ้างช่างถ่ายรูป และแน่นอนกล้องชัดมากกกกกกก ซึ่งก่อนหน้านี้เราใช้แอปถ่ายหน้าเรามาตลอด เพราะอย่างน้อยก็พอหลอกตัวเองได้ว่ายังเป็นไม่มาก แต่พอได้รูปจากช่างกล้อง ต้องบอกก่อนนะคะว่าในไฟล์รูปที่ได้จะมีทั้งแบบแต่งรูปแล้ว และแบบไม่แต่ง ซึ่งไอแบบไม่แต่งนี่แหละค่ะที่ทำให้เราต้องรีบไปเลเซอร์โดยด้วย เพราะดูรูปแล้วเราร้องไห้เลย คือหน้าเป็นหลุมชัดมาก ไม่สวยเลย ช่วงนั้นก็อ้วนด้วย ทั้งอ้วนทั้งหน้าปรุ เราอายช่างกล้องมากๆค่ะ และสงสารที่ต้องรีทัชหน้าเราให้เรียบคงเหนื่อยน่าดู - - 

ภาพหน้าก่อนทำเลเซอร์แบบชัดๆเราไม่ได้ถ่ายไว้เลย เพราะไม่อยากถ่ายเก็บไว้ ใช้แอปตลอด (แต่ถ้าขอทางคลีนิคที่เขาถ่ายก่อนเริ่มเลเซอร์ได้จะเอามาแปะให้ดูเปรียบเทียบนะคะ) เอาเป็นภาพตอนช่างกล้องถ่ายให้ก็พอจะมองออก ขนาดแต่งหน้าโดยช่างแต่งหน้าก็เอาไม่อยู่จ้า


ภาพในสปอยอาจน่ากลัวหน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เราเริ่มทำงานเก็บเงิน จนกลางปี 60 เรามีเงินพอที่จะทำเลเซอร์ เลยเสิร์จหาคลีนิกรัมภาดา ความตั้งใจแรกคืออยากทำ e-matrix แต่ไปเห็นวิธีรักษาหลุมสิวอีกวิธีชื่อว่า deka ซึ่งเราก็ค้นหาข้อมูล แต่ได้ข้อมูลที่น้อยมากเหมือนมีที่นี่ที่เดียว เลยปรึกษากับทางคลีนิกว่ามันต่างกันยังไง จึงได้ข้อมูลว่า

ตัว Deka เป็นเทคโนโลยีจากประเทศอิตาลีและเป็นแบรนด์ Co2 Laser ที่ดีที่สุดของการรักษาหลุมสิว ณ ปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีหลักคือ Fractional RF + Fractional Co2  ซึ่งต่างจาก e-matricx ที่ใช้เพียง Fractional RF ซึ่งทำให้สามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกระดับความลึก และสามารถเห็นผลได้ชัดเจนตั้ง 1-3 ครั้งแรก เราก็จัดไป ถ้ามันจะทำให้หน้าเราดีขึ้นได้เร็วกว่าเดิม เรานัดคุณหมอ และเข้าไปปรึกษา

ซึ่งเราประทับใจแรกคือคลีนิคสะอาด และพนักงานบริการดีมากคะ ถ้าได้นัดคุณหมอก่อน ไปถึงก็ได้พบคุณหมอเลยไม่ต้องรอคิว เราตื่นเต้นมาก เพราะกำลังจะได้เจอกันไอดอลที่เราอยากให้เขารักษาหน้าเรามาตลอด 5 ปี ฮ่าๆๆ (อย่าเพิ่งหาว่าเราโอเวอร์เลยนะคะ เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะเราอยากมีใบหน้าเนียนใสแบบคนอื่นเขาบ้าง) คุณหมอใจดีมากค่ะ คุณหมอรัมภาให้คำแนะนำที่ดีมากคือ ดูสภาพผิวเรา และแนะนำให้เรางดครีมต่างๆ ให้ทานน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายเรา คุณหมอเขาคำนวณให้ว่าเราควรทานน้ำให้ได้วันละกี่ลิตร์ เพราะการบำรุงจากภายในก็มีสวนสำคัญเช่นกัน คณหมอให้ทำ subsition (คือการตัดพังผืดใต้ผิวหนังที่เป็นหลุมสิว) 2 ครั้ง ร่วมกับการทำ daka เราซื้อเป็นคอร์สเฉพาะแก้ม (3 ครั้ง )  ก่อนทำเลเซอร์คุณหมอจะดูสภาพผิวเราก่อนนะคะว่าพร้อมทำไหม ถ้าเป็นสิวอยู่จะยังไม่ให้ทำเลย เพราะอาจเกิดอักเสบของสิวได้ รักษาสิวให้หายก่อนจึงเริ่มทำเลเซอร์ได้ค่ะ

แต่คุณหมอจะบอกว่าคงไม่หาย 100% เราก็ทำใจยอมรับขอแค่ดีขึ้นบ้างก็ยังดี 

ขั้นตอนในครั้งที่ 1 และ 2 : subsition ร่วมกับ Deka

การทำเลเซอร์แต่ละครั้งใช้เวลาห่างกัน 1- 2 เดือน

1. คุณหมอจะให้เคลียร์หน้าก่อน คือกดสิว และทำความสะอาดใบหน้า ซึ่งตอนกดสิวคนอื่นว่าเจ็บแต่สำหรับเรามันส์มากค่ะ แบบกดมันออกมาให้หมด เอาออกให้หมดเลยค่าหนูยอมมมเจ็บ
แล้วพยาบาลจะถ่ายภาพสภาพหน้าเราก่อนทำเลเซอร์ทุกครั้งเพื่อไว้เปรียบเทียบ

2. จากนั้นพยาบาลก็จะทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง และเช็คยาชาออก ตอนนี้เรานอนหลับพักผ่อน ทำใจให้สงบและท่องไว้ว่า เราจะสวยแล้วว ^^

3. เริ่ม subsition นี้เป็นครั้งแรกเรา ซึ่งทำโดยคุณหมออีกท่าน คุณหมอจะฉีดยาชาเพื่อใม่ให้เจ็บมากอีกข้างละเข็ม แต่เรารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาทรมานของเรา เพราะเรารู้สึกถึงใบมีดทีจิ้มเข้าไปในผิวหนังและเหมือนได้ยินเสียงเหมือนอะไรมันขาดตอนหมอกรีด แต่ไม่เจ็บนะคะ แต่รู้สึกแปลบๆ เราค่อนข้างอยากให้จบไวๆ
แต่การ subsition ครั้งที่ 2 ของเราได้ทำกับคุณหมอรัมภา ซึ่งน่าแปลกที่ครั้งนี้เราไม่ได้รู้สึกทรมาณเหมือนครั้งแรก อาจเป็นเพราะครั้งนี้คุณหมอเพิ่มยาชามากกว่าครั้งแรก และมือเบามาก เราไม่ได้รู้สึกเหมือนโดนจิ้มเหมือนครั้งแรก พอคุณหมอบอกเสร็จแล้ว เรางงเลยว่าไม่รู้สึกอะไรเลย 

4. พยาบาล แปะยาชาให้อีก 30 นาที เตรียมหน้าเพื่อเลเซอร์ 

5. และก็ถึงช่วงเวลาที่เรารอคอย คือทำเลเซอร์ ต้องบอกเลยว่า ไม่เจ็บเลย รู้สึกแค่จี๊ดๆ และได้กลิ่นไหม้ของขนอ่อน ซึ่งคุณหมอค่อนข้างยิงละเอียด และท่องไว้ว่า ฉันจะสวยๆๆ 

5. หลังจากเลเซอร์เสร็จพยาบาลจะนำประคบเย็นมาประคบหน้า เราจะรู้สึกวูบ ร้อนๆที่หน้านิดนึง ไม่เจ็บ ไม่ทรมาณ และมีรอยแดงของเลเซอร์ หลังทำ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังทำเลเซอร์ของเราช่วงวันที่1 - 5 สะเก็ดจะเข้มขึ้น วันที่ 6 - 12 สะเก็ตจะค่อยหลุดจนหมด เกือบ 2 อาทิตย์หน้าถึงจะไม่มีสะเก็ต และไม่แต่งหน้า เหมือนถือโอกาสพักหน้าไปในตัว อย่าไปแกะสะเก็ตเด็ดขาดนะคะ ให้มันหลุดเองจะดีกว่า เพราะถ้าแกะเองอาจเกิดหลุมใหม่ก็ได้นะคะ

หลังจากจบคอร์ส มีแต่คนทักว่าหน้าเราดีขึ้นนอกจากหลุมสิวตื่นขึ้นแล้ว หน้ายังดูขาวใสขึ้นด้วย เพื่อนและน้องที่เป็นหลุมสิวพอเห็นก็ตัดสินใจไปเลเซอร์ตามเราเช่นกัน และดีขึ้นเช่นเดียวกัน รู้สึกดีใจเหมือนได้บอกบุญ ^^

สิ่งสำคัญทีอยากเตือนเพื่อนๆทุกคนคือ พยายามอย่าให้สิวขึ้นอีก เพราะมันจะเป็นวัฏจักร ฮือๆ เรามีสิวขึ้นที่เนื่องมาจากฮอร์โมนช่วงประจำเดือนอยู่บ้าง จึงมีรอยแดงและหลุมสิวเกิดขึ้นบ้างประปราย 


การทำเลเซอร์เราไม่สามารถบอกได้ว่าทำกี่ครั้งถึงหาย แล้วแต่เคสของแต่ละคนไปนะคะ ตัวเราเองเป็นหลุมหลายชนิด แบบทั้งรักษาหายง่าย รักษายาก หลุมลึก หลุมกว้าง หลุมจิก และมีแบบทั้งหลุมใหม่ และเก่า ปะปนกันไป เรายังอยากรักษาให้มันดีขึ้นกว่านี้อีก จึงมีการทำครั้งที่ 4 และ 5 เกิดขึ้น การทำครั้งนี้เราจะดูไปตาม โปรที่ทางคลีนิคจัด ลดราคาเราก็จะไปทำ เหมือนไปเก็บแต้ม ฮ่าๆๆ 


ช่วงเวลาที่เราไปเลเซอร์
เลเซอร์ ครั้งที่ 1 วันที่ 1 ก.ย.61
เลเซอร์ ครั้งที่ 2 วันที่  6 ต.ค. 61
เลเซอร์ ครั้งที่ 3 วันที่ 10 พ.ย. 61
เลเซอร์ ครั้งที่ 4 วันที่ 23 มี.ค. 62
เลเซอร์ ครั้งที่ 5 วันที่ 8 มิ.ย 62

****ภาพเปรียบเทียบ****

 


จะเห็นว่า อาจยังไม่หาย 100% นะคะ ยังมีร่องรอยของหลุมอยู่บ้าง เพราะบางหลุมก็ลึกและต้องใช้เวลารักษาต่อไป ถึงอย่างไรเราก็รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆๆเลยค่ะ และหวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะช่วยเป็นแนวทางการรักษาอีกวิธีหนึ่งเพื่อใช้ในการตัดสินใจของคนที่เป็นหลุมเหมือนกันนะค่า ^^

สรุป
1. รักษาหลุมสิวด้วยวิธี Deka
2. ที่คลินิครัมภาดา (ใครอยากสอบถามเพิ่มเติมเข้าไปที่ fb: Rampada International Skin Clinic หรือLine : Rampada Skin Clinic)
3. ค่าใช้จ่ายเท่าไร : ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งค่อนข้างสูงอยู่นะคะสำหรับเราหมดเป็นหมื่นๆ แต่ทางคลีนิคจะมีโปรออกมาเรื่อยๆ ถ้าใครสนใจสอบถามกับทางคลีนิคได้เลยจ้า
4. ทำกี่ครั้ง : ทำทั้งหมด 5 ครั้ง โดยทำเฉพาะแก้ม 4 ครั้ง และทั้งหน้า 1 ครั้ง
5. ระยะเวลาที่ทำ : ของเราใช้เวลา ประมาณ ปีกว่า  (ทำเมื่อเงินพร้อม ฮ่าๆๆ)
6. ทำต่อไหม : ทำต่อแน่จ้า ค่อยๆเก็บแต้มไปเรื่อยๆ 








ชื่อสินค้า:   deka
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่